รีเซต

ผลการค้นหา “slam” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
Gym EZ EP.17 : Slam Ball VIPR Workout
ดู

Gym EZ EP.17 : Slam Ball VIPR Workout

Gym EZ # 017: Slam Ball VIPR Workout 23 Dec

"Bodyslam" นัดรวมพล คอนเสิร์ตใหญ่ ที่ EVERYBODY จะ SLAM ด้วยกันอีกครั้ง
อ่าน

"Bodyslam" นัดรวมพล คอนเสิร์ตใหญ่ ที่ EVERYBODY จะ SLAM ด้วยกันอีกครั้ง

สร้างปรากฏการณ์เรียกเสียงฮือฮาให้กับแฟนเพลงชาวร็อกอย่างมาก เมื่อวงร็อกระดับแถวหน้าของเมืองไทย "Bodyslam" ประกาศจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสำคัญ พร้อมเรียกแฟน ๆ กลับมารวมกันอีกครั้งกับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 4 ปี ด้วยชื่อคอนเสิร์ตที่มีความหมายพร้อมการเดินทางครั้งใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในคอนเสิร์ต "THE CONCERT APPLICATION PRESENTS EVERYBODYSLAM 2024 THE SUNNY SIDE UP LIVE @IMPACT ARENA" จัดโดย GAYRAY หน่วยงานภายใต้ GMM SHOW ผู้จัดงานคอนเสิร์ตและเฟสติวัลที่ดีที่สุดของประเทศ ในวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2567 และ วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2567 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี กว่า 16 ปี จากคอนเสิร์ตใหญ่ที่อิมแพ็คอารีน่าครั้งแรก สู่คอนเสิร์ตครั้งใหม่ ที่จะชวน EVERYBODY มา SLAM ด้วยกันอีกครั้ง การกลับมาในครั้งนี้สมการรอคอยของแฟนเพลง เพราะไม่ว่าจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ จะได้ดูศิลปินวงโปรด "Bodyslam" อย่างใกล้ชิดร่วมสัมผัสโปรดักชั่น และเวทีที่ออกแบบใหม่ขนาดยาวมากเป็นพิเศษในมุมที่ไม่เคยเห็น เพื่อเปิดประสบการณ์โชว์แบบ 360 องศา เปลี่ยนอิมแพ็ค อารีน่า ทุกที่นั่ง ทุกที่ยืน ให้เป็นบรรยากาศใหม่ ภาพและเสียงแบบไม่คาดคิด รับประกัน ความมัน ความเดือด ความโดด ความตื่นเต้น เต็มอิ่มตลอด 3 ชั่วโมงเต็ม อัดแน่นด้วยเพลงฮิต เพลงดัง เพลงฟังไม่เคยเบื่อ ร้องตามไม่เคยเหนื่อย ที่จะขนมาเล่นให้ฟังกันแบบสด ๆ อย่าพลาด! มาร่วมเป็นส่วนสำคัญของปรากฏการณ์นี้ มาแสลมพร้อมกันอีกครั้ง!ไม่มีทุกคน ไม่มี "Bodyslam" กับ "THE CONCERT APPLICATION PRESENTS EVERYBODYSLAM 2024 THE SUNNY SIDE UP LIVE @IMPACT ARENA" คอนเสิร์ตใหญ่ 2 รอบการแสดงในวันเสาร์ที่ 22 และอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2567 บัตรนั่งราคา : 5,000 (ได้รับของที่ระลึก) / 3,500 / 2,500 / 2,000 / 1,500 และบัตรยืน 2,000 บาท ขายบัตร 3 พฤษภาคม 2567 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป ที่ The Concert Application หรือทางเว็ปไซต์ www.theconcert.com และสามารถติดตามความเคลื่อนไหว พร้อมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/bodyslamband / https://www.facebook.com/gmmshow

รีวิวหนัง The First Slam Dunk การกลับมาของอนิเมะกีฬาบาสในตำนาน ซาบซึ้งประทับใจ ดุเดือด ลุ้นแทบทุกวินาที
อ่าน

รีวิวหนัง The First Slam Dunk การกลับมาของอนิเมะกีฬาบาสในตำนาน ซาบซึ้งประทับใจ ดุเดือด ลุ้นแทบทุกวินาที

Slam Dunk น่าจะเป็นอนิเมะที่หลายคนเคยดู อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาหรือเคยได้ยิน เพราะเป็นอนิเมะกีฬายอดฮิตประจำยุค 90's ที่หลายคนต่างยกย่องว่าสนุกและดีงาม การกลับมาของหนังเรื่อง The First Slam Dunk ก็น่าจะสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับแฟน ๆ สแลมดังก์ได้อย่างดี จริง ๆ ขอสารภาพตามตรงว่าไม่เคยดูอนิเมะหรืออ่านมังงะเลย แต่ส่วนตัวค่อนข้างมีความน่าสนใจในหนังเรื่องนี้เพราะหลายคนยกให้เป็นอนิเมะที่ดีที่สุดแห่งปี 2022 อีกทั้งล่าสุดหนังก็ไปคว้ารางวัล Japan Academy Film Prize ครั้งที่ 46 ประจำปี 2023 ในสาขาแอนิเมชันยอดเยี่ยมอีกด้วยแม้ว่าเราจะไม่ค่อยดูหรืออ่านเกี่ยวกับสแลมดังก์เลย แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เพราะหนังปูทางให้กับคนดูทั่วไปได้สนุกและเข้าใจได้ไม่ยาก โดยเรื่องราวในหนังจะเป็นเรื่องราวการแข่งขันระหว่างทีมโชโฮคุกับเทคนิกซังโน เล่าตัดสลับกับเรื่องราวในอดีตของตัวละคร เรียวตะ ซึ่งสิ่งที่ทำให้หนังสามารถจับคนดูให้ติดตามไปตลอดทั้งเรื่องคือการเลือกเล่าปมปัญหาของเรียวตะในห้วงวัยเด็กและมัธยม ความสูญเสีย การก้าวผ่าน ความเป็นครอบครัว ทั้งหมดล้วนนำไปสู่ปมในใจที่กลายเป็นความขัดแย้งของตัวละครในหนังได้อย่างดี สามารถทำให้คนดูรู้สึกและเข้าใจสภาวะอารมณ์ของตัวละคร สามารถส่งไปสู่พาร์ทการแข่งขันให้มีมิติและน้ำหนักที่เข้มข้นมากขึ้นแม้ข้อเสียที่ชัดเจนของหนังคือวิธีการเล่าตัดสลับไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบันอาจกระชากอารมณ์พล็อตหลักที่เป็นการแข่งขันไปนิด แต่ภาพรวมของหนังก็ออกมาดีมาก งานภาพที่คราฟ ใช้ความเป็น 3D ได้กลมกล่อม กลืนไปกับหนัง ส่วนซีนการแข่งขันก็สามารถทำให้ทุกนาทีของหนังออกมาสนุก บิวต์อารมณ์ความระทึก ความกดดันได้ชวนลุ้นมาก ๆ ยิ่งช่วงท้ายหนังบีบคั้นคนดูให้ลุ้นจนแทบจะหยุดหายใจในทุกวินาที ยอมรับในการดีไซน์ซีนเล่นบาสที่ทำออกมาได้น่าจดจำอย่างยิ่งที่กลายเป็นซีนหนังที่ไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน"The First Slam Dunk" ก็ถือเป็นหนังอนิเมะญี่ปุ่นที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม สำหรับคนดูหน้าใหม่อย่างเราก็สนุกกับมันได้ไม่ยากและทำให้อยากไปตามดูอนิเมะต่อ ส่วนแฟน ๆ เองก็น่าจะไม่ผิดหวังกับหนังเรื่องนี้แน่นอน เพราะเต็มไปด้วยหัวจิตหัวใจ ความอิ่มเอมที่หนังมอบให้ได้อย่างจัดเต็ม สำหรับเราให้คะแนนหนังเรื่องนี้ที่ 8.5 เต็ม 10 ครับ***ที่กล่าวมาเป็นความคิดเห็นของผู้เขียน รสนิยมและความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยังไงก็ไปลองดูและพิสูจน์กันได้ครับภาพยนตร์: The First Slam Dunk (2022)ประเภทหนัง: ดราม่า, กีฬาผู้กำกับ: Takehiko Inoueผู้เขียนบท: Takehiko Inoueคะแนนจากผู้เขียน: 8.5/10ขอบคุณเครดิตภาพจากFacebook: @movie_slamdunk - ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4Facebook: Major Group - ภาพปกจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รีวิว The First Slam Dunk (เดอะ เฟิสต์ สแลมดังก์) การนำศึกสุดท้ายมาเล่าใหม่ผ่านมุมมองใหม่ พร้อมงานภาพที่อัพเกรด ครบรสทุกอารมณ์ดีงามไม่ควรพลาด!
อ่าน

รีวิว The First Slam Dunk (เดอะ เฟิสต์ สแลมดังก์) การนำศึกสุดท้ายมาเล่าใหม่ผ่านมุมมองใหม่ พร้อมงานภาพที่อัพเกรด ครบรสทุกอารมณ์ดีงามไม่ควรพลาด!

รีวิว The First Slam Dunk (เดอะ เฟิสต์ สแลมดังก์) การนำศึกสุดท้ายมาเล่าใหม่ผ่านมุมมองใหม่ พร้อมงานภาพที่อัพเกรด ครบรสทุกอารมณ์ดีงามไม่ควรพลาด! บทความรีวิวนี้ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ The First Slam Dunk (เดอะ เฟิสต์ สแลมดังก์)ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานเดอะมูฟวี่ภาคพิเศษจากอนิเมะ Slam Dunk ที่จะนำเสนอการแข่งขันนัดสุดท้ายที่ไม่เคยถูกนำมาทำเป็นอนิเมะแต่มีอยู่ในฉบับมังงะ นั่นคือการแข่งขันระดับประเทศระหว่างทีมโชโฮคุ ปะทะกับ เทคนิคซังโน ทว่าในฉบับเดอะมูฟวี่นี้เขาจะไม่เล่าเรื่องผ่านมุมมองของ ซากุรางิ เหมือนในฉบับมังงะและอนิเมะ แต่จะเป็นการเล่าผ่านมุมมองของ มิยางิ เรียวตะ ผู้เล่นตัวเล็กในตำแหน่งพอยต์การ์ดของทีมโรงเรียนโชโฮคุ โดยจะมีการเปิดเผยถึงอดีตว่าแท้จริงแล้วเรียวตะมีพี่ชายอยู่หนึ่งคนที่แก่กว่า 3 ปี ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว พี่ชายของเขาก็เป็นนักบาสเกตบอลอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงในระดับท้องถิ่น เรียวตะจึงพยายามจะก้าวข้ามผ่านคำสบประมาทมากมายที่คนกล่าวว่าเขาไม่มีความสามารถเท่าพี่ชายด้วยการทุ่มทุกอย่างที่มีเพื่อเอาชนะทีมเทคนิคซังโน สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง The First Slam Dunk (เดอะ เฟิสต์ สแลมดังก์) วันนี้ในโรงภาพยนตร์ตัวอย่าง The First Slam Dunk (เดอะ เฟิสต์ สแลมดังก์)รีวิว The First Slam Dunk (เดอะ เฟิสต์ สแลมดังก์)ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวผมไม่เคยดูทั้งอนิเมะและไม่เคยอ่านมังงะของ Slam Dunk มาก่อน แต่ผมก็เคยเห็นผ่านๆ ตามาบ้าง และพอจะรู้ว่าพระเอกคือซากุรางิ ซึ่งบอกตามตรงว่าต่อให้ไม่เคยดูมาก่อนก็สามารถดูรู้เรื่องแน่นอน เพราะมันจบในเรื่องพอสมควร แค่อาจจะไม่อินเท่าคนเคยดูเพราะเราจะไม่รู้จักตัวละครทุกตัว โดยในภาคนี้เขาจะเล่าเรื่องราวการแข่งเพียงนัดเดียวตั้งแต่ต้น ตัดสลับไปกับฉากเล่าย้อนอดีตและปมในใจของเรียวตะ ความรู้สึกหลังดูจบคือค่อนข้างชอบพอสมควร เพราะเขาทำออกมาได้ครบรสมากๆ ยกให้เป็นหนึ่งในการ์ตูนกีฬาที่ไม่ควรพลาดจริงๆ เปิดหัวด้วยการแข่งอันดุเดือดที่ช่วงแรกสูสีกัน แต่พอหลังๆ จู่ๆ เกมก็เริ่มพลิกกลับจนทำให้ทีมพระเอกต้องตามหลังถึง 20 แต้ม จากนั้นเขาก็ย้อนไปถึงอดีตอันขมขื่นของเรียวตะ เด็กหนุ่มตัวเล็กฝันไกลที่อยู่ใต้เงาของพี่ชายมาตลอด ความเศร้าก็คือตัวเรียวตะเองที่อยู่ใต้เงาของพี่ชายก็ไม่ได้คิดอยากจะเอาชนะอยู่แล้ว เพราะเขารักพี่ชายตัวเองมาก เพียงแต่เขาต้องการพิสูจน์ตัวเองและลบคำสบประมาทของคนรอบข้าง ในอีกแง่หนึ่งคือเรียวตะก็มีที่พึ่งเพียงอย่างเดียวคือบาสเกตบอล เพราะมันเป็นความทรงจำเดียวที่เขามีร่วมกับพี่ชาย และเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาทำได้ดี เป็นสิ่งที่เดียวที่ทำให้เขายังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ มันอาจดูน่าเศร้าแต่มันก็กินใจมากๆ เช่นเดียวกัน แถมประเด็นเรื่องนี้มันเหมาะกับตัวละครเรียวตะมากๆ เพราะเขาเป็นเด็กตัวเล็กคนเดียวในทีม ทำให้โดนสบประมาทมากที่สุดว่าเด็กตัวเล็กแค่นี้จะเล่นบาสได้หรอ? ผมจึงมองว่าผู้สร้างฉลาดมากที่เลือกถ่ายทอดมุมมองผ่านตัวละครนี้ เพราะถ้าหากยังคงโฟกัสไปที่ตัวซากุรางิอีกมันอาจไม่ครบรสและกลมกล่อมแบบนี้นอกจากจะถ่ายทอดเรื่องความฝันของนักกีฬาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว ฉากการแข่งขันก็ทำได้โคตรดีและตราตรึงไม่แพ้กัน ฉากการแข่งคือสนุกมากๆ โดยเฉพาะช่วงจังหวะสุดท้ายก่อนจบเกมที่เขาทำเป็นภาพสโล อันนั้นทำออกมาดีมากแบบติดตาเลย งานภาพที่ออกมาก็คือดีจริง ช่วงแรกอาจจะรู้สึกแปลกๆ เพราะมีการปั้นโมเดลตัวละครเป็น 3D มาผสมกับภาพ 2D แต่พอได้ดูไปเรื่อยๆ ก็จะซึมซับและชินไปเอง สรุปโดยรวมเลยคือ The First Slam Dunk (เดอะ เฟิสต์ สแลมดังก์) เป็นอีกหนึ่งหนังอนิเมะแนวกีฬาอีกเรื่องที่อยากให้ทุกคนได้ลอง โดยเฉพาะใครที่เป็นแฟนๆ ของการ์ตูนเรื่องนี้อยู่แล้ว รับรองเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน อย่างไรก็ตาม รีวิวนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น ผมชอบไม่ได้แปลว่าทุกคนจะชอบเหมือนกัน ทางที่ดีที่สุดคือทุกคนต้องไปพิสูจน์และตัดสินมันด้วยตาของตัวเองสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับชื่อเรื่อง: The First Slam Dunk (เดอะ เฟิสต์ สแลมดังก์)ประเภท: อนิเมะ, กีฬา, ดราม่าความยาว: 124 นาที ระบบเสียง: บรรยายไทยช่องทางการรับชม: วันนี้ในโรงภาพยนตร์ช่องทางอื่นๆ ในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว CUBE (กล่องเกมมรณะ) หนังเล่นเกมเอาชีวิตรอดจากญี่ปุ่นที่เหมือนจะดีแต่ไปไม่รอด มีพากย์ไทย ดูได้ทาง Netflixรีวิว We Have a Ghost (บ้านนี้มีผีป่วน) เมื่อย้ายไปอยู่บ้านผีสิงเลยจับผีมาเป็นเน็ตไอดอลซะเลย หนังผีสายฮาสูตรสำเร็จที่ทุกคนไม่ควรพลาด!รีวิว Unlocked (แค่ทำโทรศัพท์มือถือหาย ทำไมต้องกลายเป็นศพ) หนังสืบสวนน้ำดีจากเกาหลี พล็อตเรื่องร่วมสมัยกับการนิยามภัยร้ายในยุค 5Gรีวิว Demon Slayer: To the Swordsmith Village (ดาบพิฆาตอสูร สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ) การเปิดฉากสู่ซีซัน 3 ที่ยังคงดีงามเหมือนเคยรีวิว Crash Course in Romance (โรแมนซ์ฉบับเร่งรัด) ซีรีส์รอมคอมเกาหลีฟีลกู๊ดสูตรสำเร็จ ครบรสทุกอารมณ์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!ภาพทั้งหมดจาก Facebook: Major Group​​​​ภาพปก: ภาพที่ 1 ภาพประกอบ: ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 วิดีโอ: THE FIRST SLAM DUNK - Official Trailer [พากย์ไทย] จาก Youtube: Major Group คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน

เรื่องราวบนกระดานดำ : 10 วันหลังตอนจบของ "Slam Dunk" ที่หลายคนอาจยังไม่รู้
อ่าน

เรื่องราวบนกระดานดำ : 10 วันหลังตอนจบของ "Slam Dunk" ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

ถ้าวันที่บนปฏิทินของปี 2020 เคลื่อนไปบรรจบ 1 ตุลาคม เมื่อไร นั่นหมายความว่าก็จะครบ 30 ปีพอดิบพอดีนับตั้งแต่ Slam Dunk ผลงานมังงะบาสเกตบอลอันเลื่องชื่อของอาจารย์ ทาเคฮิโกะ อิโนะอุเอะ ตีพิมพ์ตอนแรกลงในนิตยสาร Weekly Shōnen Jump ฉบับวันที่ 1 ตุลาคม 1990 ถึงแม้จะผ่านมากว่า 3 ทศวรรษ แต่ก็ต้องยอมรับว่าจนถึงทุกวันนี้ Slam Dunk ก็ยังคงเป็นมังงะบาสเกตบอลที่ประสบความสำเร็จที่สุด ... ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นมังงะแนวกีฬาที่ประสบความสำเร็จสูงสุดน่าจะถูกกว่า เพราะด้วยยอดขายรวมทั่วโลกกว่า 126 ล้านเล่ม มากกว่ามังงะกีฬาเรื่องไหนในประวัติศาสตร์ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในทุกวันนี้ Slam Dunk ยังคงวนเวียนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเหล่าแฟนบอยเสมอ ไม่ว่าจะในรูปแบบสินค้าหรือบทสนทนา หนึ่งในบทสนทนาที่ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นอย่างสม่ำเสมอก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ "ตอนจบ" ที่สำหรับบางคนอาจจะคิดว่ามันสวยงาม เหมาะสม และคลาสสิคแล้ว แต่สำหรับอีกหลายคนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันช่างค้างคาในอารมณ์เสียเหลือเกิน อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ตอนจบในมังงะเล่มที่ 31 นั้นยังไม่ใช่ฉากสุดท้ายของเรื่องจริงๆ เพราะมันยังมีเรื่องราว 10 วันหลังจากนั้นของเหล่าตัวละครต่างๆ ในเรื่องที่ถูกบอกเล่าผ่านลายเส้นของอาจารย์ อิโนะอุเอะ เอง ไม่ใช่งานแฟนเมดที่ไหน เพียงแต่เรื่องราวนี้ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบฝีชอล์กบนกระดานดำ เรื่องราวดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร? ชีวิต 10 วันหลังจากตอนจบของ ซากุรางิ และเพื่อนๆ เกิดอะไรขึ้นบ้าง? ติดตามได้ที่ Main Stand เจ้าพ่อแห่งความค้างคา ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทาเคฮิโกะ อิโนะอุเอะ คือหนึ่งในปรมาจารย์แห่งวงการมังงะญี่ปุ่น เป็นนักเขียนรุ่นใหญ่ผู้มีผลงานที่กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า "ประสบความสำเร็จ" อย่างน้อย 3 เรื่อง แน่นอนว่าอันดับหนึ่งคือ Slam Dunk แต่อีก 2 เรื่องของเขาอย่าง Real และ Vagabond ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากันเท่าไรนัก Photo :yattatachi.com ถึงกระนั้น ในอีกมุมหนึ่งเขาก็ถือเป็น "เจ้าพ่อแห่งความค้างคา" คนหนึ่งของวงการเหมือนกัน เนื่องจากผลงานเด่นของเขาทั้ง 3 เรื่องยังคงค้างคาอยู่ในใจผู้อ่านทั่วโลก แม้จะผ่านเวลามาอย่างยาวนาน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจกับ Slam Dunk ในปี 1996 อาจารย์อิโนะอุเอะ ก็ได้ทิ้งทวนด้วยการวาดผลงานมังงะแนวบาสเกตบอลขนาดสั้นเรื่อง Buzzer Beater ที่มีความยาวเพียง 4 เล่มจบ โดยที่ในตอนนั้นเขายังไม่มีแผนการอื่นสำหรับอนาคต "หลังจาก Slam Dunk จบ ผมรู้สึกเหมือนว่าอาชีพนักเขียนการ์ตูนของผมได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ผมเว้นการวาดการ์ตูนไประยะหนึ่ง จนกระทั่งกองบรรณาธิการได้เอานวนิยายเรื่อง มิยาโมโต้ มุซาชิ มาให้ผมอ่าน ยิ่งอ่านไปผมก็ยิ่งรู้สึกอยากถ่ายทอดตัวละครในเรื่องออกมาเป็นภาพวาด นั่นแหละ Vagavond จึงได้ถือกำเนิด" อิโนะอุเอะ เล่าย้อนถึงความหลัง Vagabond คือผลงานมังงะแนวอิงประวัติศาสตร์ย้อนยุค ว่าด้วยเรื่องราวของ มิยาโมโต้ มุซาชิ ซามูไรพเนเจรกับการต่อสู้และโชคชะตามากมายที่เขาต้องพบเจอ ตีพิมพ์ครั้งแรกลงในนิตยสาร Weekly Morning ฉบับเดือนกันยายน ปี 1998 "เรื่องที่ผมวาดไม่ใช่นวนิยายหรือแฟนตาซี แต่ผมวาดมันออกมาเหมือนสารคดี สิ่งสำคัญที่สุดคือการให้คนอ่านเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง" ถ้าไม่รู้มาก่อนว่า Slam Dunk กับ Vagabond คือผลงานของผู้เขียนคนเดียวกัน ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดา เพราะมังงะสองเรื่องนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งเนื้อเรื่อง รูปภาพ รวมถึงวิธีการนำเสนอ โดยในเรื่อง Vagabond อาจารย์อิโนะอุเอะ เลือกที่จะถ่ายทอดวิถีซามูไรออกมาโดยการใช้สีน้ำตวัดพู่กัน ส่งผลให้งานภาพของเขาที่ปกติก็ได้รับคำชื่นชมในเรื่องความสวยงามอยู่แล้ว ยิ่ง "วิจิตรตระการตา" ขึ้นไปอีกขั้น นอกจากนั้นการที่ Vagabond สอดแทรกเรื่องปรัชญาชีวิตลงไปในมังงะแทบทุกเล่ม ทำให้ผลงานเรื่องนี้ของอาจารย์อิโนะอุเอะได้รับการยกย่องจากสื่อหลายสำนักว่า "Vagabond ได้ก้าวข้ามขอบเขตมังงะสู่การเป็นงานศิลปะไปแล้ว" Photo :www.reddit.com อย่างไรก็ตามการที่อาจารย์อิโนะอุเอะพยายามใส่ความตั้งใจกับมังงะเรื่อง Vagabond เป็นอย่างมาก ตั้งใจอย่างที่สุดให้มันออกมาเป็นผลงานชั้นเลิศ ได้กลายเป็นดาบสองคมที่บั่นทอนทั้งสภาพจิตใจและร่างกายของเขาไม่ใช่น้อย บ่อยครั้งที่อาจารย์อิโนะอุเอะคิดงานไม่ออก ไอเดียตีบตัน ไหนจะมีเดดไลน์วันส่งต้นฉบับที่กระชั้นเข้ามาทุกชั่วโมงอีก ยิ่งไปกว่านั้นงานประเภท Vagabond ไม่ใช่งานประเภทที่จะเร่งปิดต้นฉบับได้ ทุกลายเส้น ทุกบทสนทนา ต้องไหลออกมาเองตามธรรมชาติ เพราะมันจะต้อง "ดูจริง" ที่สุดในสายตาคนอ่าน ด้วยเหตุนี้เอง อาจารย์อิโนะอุเอะจึงเริ่มเขียนมังงะเรื่องยาวขึ้นมาอีกเรื่องคู่ขนานกันไป เพื่อเป็นการผ่อนคลายตัวเอง ได้พาตัวเองออกมาจากโลกซามูไรและปรัชญาอันแสนเคร่งเครียดบ้าง โดยผลงานเรื่องใหม่นี้คือ Real เป็นการย้อนคืนสู่จุดเริ่มต้น กลับไปหาแนวบาสเกตบอลที่ตัวเองถนัด "ผมอยากจะสื่อออกไปว่าเมื่อหลายสิ่งในชีวิตมันไม่เป็นตามที่หวังแต่มันก็ไม่ใช่จุดจบ เราต้องก้าวต่อไป มันยังมีสิ่งอื่นอีกมากมายในชีวิต นักกีฬาพิการคือตัวอย่างหนึ่ง นี่คือเรื่องราวที่จะทำให้เห็นว่าชีวิตยังอีกยาวไกล มันจะยังมีสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข แม้ว่าบางครั้งอาจจะต้องร้องไห้ หรือเต็มไปด้วยอุปสรรคก็ตาม" "มีความเปลี่ยนแปลงภายในตัวของผม ย้อนกลับไปตอน Slam Dunk ผมวาดเพราะรู้สึกว่ามันคือความเท่ และเล่าเพียงแง่มุมที่เป็นบวก แต่ตอนนี้ผมสามารถวาดและเล่าเรื่องราวด้านมืดของมนุษย์ได้ดีขึ้น ผมจึงอยากถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ออกมา" ความในใจของผู้เขียนต่อมังงะเรื่อง Real ถึงแม้จะมีผลงานอื่นมาช่วยให้ผ่อนคลายขึ้น แต่ในทางกลับกันก็เป็นการเพิ่มภาระงานให้ตัวเองมากขึ้นไปในตัว สุดท้ายอาจารย์อิโนะอุเอะก็ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่มันค่อนข้างเกินตัวไปพอสมควร มันค่อยๆ กัดกร่อนตัวเขาทีละนิด ทั้งในแง่สุขภาพกายและใจ จากที่เคยตีพิมพ์อย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงยุค 2010s ทั้ง Vagabond และ Real ก็ประสบปัญหาตีพิมพ์ล่าช้าอย่างเห็นได้ชัด อาจารย์อิโนะอุเอะเริ่มหันออกมาทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่นก่อตั้งกองทุน Slam Dunk เพื่อเฟ้นหานักกีฬาฝีมือดีไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และนำความรู้กลับมาพัฒนาวงการบาสประเทศญี่ปุ่น หรือการตระเวนไปตามวัดต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมฝาผนัง โดยทิ้งการวาดมังงะไว้เบื้องหลัง จนกระทั่งเข้าสู่ปี 2014 ผลงานของอาจารย์อิโนะอุเอะทั้ง Vagabond และ Real ก็หยุดตีพิมพ์ไป "ผมรู้สึกว่าไม่อาจจะทนเขียนต่อไปได้แล้ว" อาจารย์อิโนะอุเอะ เผยออกมาในช่วงปี 2014 เขายอมรับว่าว่าตัวเองหมดไฟ และรู้สึกกดดันเป็นอย่างมากที่ผู้คนเอาแต่ตั้งคำถามถึงการ์ตูนตอนใหม่ของเขาว่าเมื่อไรจะตีพิมพ์ Photo :www.gamekyo.com "กับ Real คุณสามารถพูดได้ว่ามันเป็นเรื่องของการผสมผสานเรื่องราวต่างๆ ลงไป ผมนำวัตถุดิบที่อยู่ตรงหน้ารวมเข้าด้วยกัน เหมือนการทำอาหาร แต่สำหรับ Vagabond ผมรู้สึกเหมือนกำลังทำอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่มังงะ มันเล่าเรื่องที่เป็นส่วนตัวมากกว่า ไม่มีสูตรตายตัว เหมือนเราวิ่งไปรอบๆ ภูเขาหรือว่ายน้ำในแม่น้ำโดยไร้กฎเกณฑ์ ผมต้องดึงทุกอย่างที่มีในตัวเองออกมาใช้ มันจึงเป็นงานที่เหนื่อยมาก" หลังจากปี 2014 เป็นต้นมาทั้ง Vagabond และ Real ก็ไม่เคยมีมังงะฉบับรวมเล่มตีพิมพ์ออกมาอีกเลย จนมังงะทั้ง 2 เรื่องขึ้นแท่นเป็น "มังงะที่อาจไม่ได้อ่านตอนจบในชาตินี้" เป็นที่เรียบร้อย จนเวลาล่วงเลยไป 5 ปี เข้าสู่ปี 2019 อาจารย์อิโนะอุเอะก็ได้ออกมาประกาศว่าจะกลับมาเขียน Real อีกครั้ง โดยจะเริ่มตีพิมพ์ลงนิตยสาร Young Jump ฉบับวันที่ 23 พฤษภาคม 2019 เป็นต้นไป ส่วน Vagabond นั้นยังไร้วี่แวว Photo :comicvine.gamespot.com "ในความเป็นจริง สิ่งที่ผมต้องการทำคือจดจำความสนุกในการวาดมังงะได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ถูกรบกวนจากอิทธิพลภายนอก ผมจะกลับมาวาดเมื่อผมอยากจะวาดมันอีกครั้ง" อาจารย์อิโนะอุเอะ กล่าวถึง Vagabond ถึงแม้จะช้า แต่สักวันหนึ่งถ้าทุกอย่างเป็นใจทุกคนก็อาจจะได้อ่านตอนจบของ Real และ Vagabond ซึ่งอาจเป็นบทสรุปแสนสวยงาม ที่ทำให้ความค้างคาใจในวันนี้จางหายไปสำเร็จ ตรงกันข้ามกับผลงานอับดับหนึ่งของเขาอย่าง Slam Dunk ที่ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าตอนจบของมันได้ผ่านไปแล้ว แม้ว่าสำหรับบางคนมันจะค้างคาแค่ไหนก็ตาม จบเหมือนไม่จบ Slam Dunk จบลงด้วยการที่ทีมตัวเอกอย่าง โรงเรียนโชโฮคุ สามารถล้มยักษ์ สร้างปรากฏการณ์พลิกล็อคถล่มทลายด้วยการเอาชนะทีมราชาบาสเกตบอลมัธยมปลายอย่าง เทคโนโลยีซังโน ได้สำเร็จ ก่อนที่ในรอบต่อไปจะพ่ายแพ้ให้กับ โรงเรียนไอวะ อย่างหมดรูป ด้วยเหตุผลที่ว่าโรงเรียนโชโฮคุได้ทุ่มทุกอย่างเพื่อเอาชนะเทคโนฯ ซังโนไปจนหมดสิ้นแล้ว ซึ่งต้องแลกมาด้วยอาการบาดเจ็บหนักของ ซากุรางิ ฮานามิจิ พระเอกในเรื่อง Photo :www.latercera.com หลังจากนั้นก็มีฉากโบนัสเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยเช่น ซากุรางิ ทำกายภาพบำบัด, รุคาว่า คาเอเดะ ไปล่าฝันที่สหรัฐอเมริกา, มิยางิ เรียวตะ กลายเป็นกัปตันทีมโชโฮคุคนใหม่ ซึ่งถึงจะขัดใจหลายคน แต่มันก็เป็นตอนจบที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่มีค้างคา ... ถ้าบังเอิญว่าอาจารย์อิโนะอุเอะไม่ได้ปูทางไว้เหมือนอยากจะไปต่อล่ะก็นะ การอยากไปต่อที่ว่า คือการแนะนำตัวละคร ฮิโรชิ โมริชิเกะ นักเรียนปี 1 จากโรงเรียนเมโฮ ผู้มาพร้อมความสูง 199 เซนติเมตร สูงที่สุดในบรรดานักบาส ม.ปลายญี่ปุ่น และ ฮัตสึชิ สึชิยะ เอซจากโรงเรียนไดเอ ที่ดูฝีมือร้ายกาจไม่แพ้กัน นี่คือ 2 ตัวละครที่ถูกปูทางมาเหมือนจะเป็นศัตรูด่านต่อไปหลังจากที่ทีมโชโฮคุโค่นเทคโนฯ ซังโนได้สำเร็จ แต่ทุกอย่างก็ผิดคาดเมื่อเรื่องราวทั้งหมดกลับจบลงอย่างกะทันหัน เพราะโชโฮคุดันแพ้ต่อไอวะไปในหนึ่งหน้ากระดาษ ถึงแม้จะไม่มีบทสัมภาษณ์จากปากอาจารย์อิโนะอุเอะอย่างเป็นทางการ แต่จากการหาข้อมูลก็พบว่าสื่อหลายสำนักรวมถึงคอมเม้นท์ต่างๆ ในเว็บบอร์ดทั้งไทยและเทศต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เหตุผลที่แท้จริงของตอนจบ Slam Dunk นั้น มาจากความไม่ลงรอยกันของตัวอาจารย์กับกองบรรณาธิการ ในตอนแรกความตั้งใจของอาจารย์อิโนะอุเอะคืออยากให้ โชโฮคุ แพ้ต่อ เทคโนฯ ซังโน ก่อนที่จะกลับไปรวมพลัง รวมสมาชิกมาใหม่เพื่อเอาชนะในปีหน้า แต่ทางกองบรรณาธิการต้องการให้ชนะตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรกเลย ... ด้วยความคิดที่สวนทางกัน ทำให้สุดท้ายตอนจบของ Slam Dunk จึงออกมาในรูปแบบนี้ Photo :manga2d.com ฉากสุดท้ายของเรื่องในฉบับรวมเล่มที่ 31 คือฉากที่ ซากุรางิ กำลังนั่งอยู่ริมชายหาดพลางอ่านจดหมายของ อาคางิ ฮารุโกะ ฉากนี้ถูกตีพิมพ์ออกมาในเดือนมิถุนายนปี 1996 และเป็นตอนจบที่คนทั่วไปรับรู้กันในวงกว้าง อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในปี 2004 หรือ 8 ปีหลังจากนั้น อาจารย์อิโนะอุเอะได้กลับมาวาดเรื่องราวของ ซากุรางิ และผองเพื่อนอีกครั้ง โดยเล่าถึงเหตุการณ์ 10 วันหลังจากตอนจบแรก เพียงแต่คราวนี้อุปกรณ์ในมืออาจารย์เปลี่ยนไป ... จากปากกากลายเป็นชอล์ก ปัจฉิมบนกระดานดำ เรื่องราว 10 วันหลังจากตอนจบในเล่ม 31 ถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบนิทรรศการที่มีชื่อว่า "Slam Dunk 10 Days After" ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคม ปี 2004 โดยนิทรรศการนี้ทางอาจารย์อิโนะอุเอะได้จับจองพื้นที่ของโรงเรียนมัธยมปลายมิซากิ ในจังหวัดคานางาวะ ก่อนที่จะบรรจงใช้ชอล์กวาดเรื่องราวของเหล่าตัวละครลงไปบนกระดานดำจำนวน 23 แผ่น ที่ติดอยู่ตามห้องเรียน ตามชื่อ Slam Dunk 10 Days After เรื่องราวบนกระดานดำทั้ง 23 แผ่นได้บอกเล่าเรื่องราว 10 วันหลังจากตอนจบในฉบับรวมเล่ม ครอบคลุมตัวละครแทบทุกตัวที่หลายคนคิดถึง โดยแต่ละตัวก็จะมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะเป็นเพียงสั้นๆ ไม่กี่ช่อง แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้แฟนมังงะเรื่องนี้รู้สึกยิ้มตาม มีความสุข และรับรู้ว่าชีวิตของพวกเขาไม่ได้จบลงแค่ในเล่ม 31 แต่ยังคงโลดแล่นไปตามวิถีชีวิต ตัวอย่างเช่นเรื่องราวของซากุรางิ ที่ถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงเปิดเทอมแล้วเขาก็ยังไม่มาเรียน เพราะยังต้องทำกายภาพบำบัด เขาจึงเขียนจดหมายคุยกับ ฮารุโกะ โดยฝ่ายหญิงได้นำมาอ่านในห้องเรียน ถึงแม้จะโดนเพื่อนแซว แต่เธอก็ยิ้มพลางคิดในใจว่า "เราทุกคนรอเธออยู่นะ ซากุรางิคุง!" ส่วนเรื่องราวของตัวละครเอกอีกตัวอย่าง รุคาว่า ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่เขาขี่จักรยานพร้อมเปิดฟังเทปสอนภาษาอังกฤษไปด้วย สื่อความหมายถึงการเตรียมตัวไปสหรัฐอเมริกาได้อย่างดี นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวของ มิตสึอิ ฮิซาชิ ที่พยายามฝึกซ้อมบาสอย่างหนักเพื่อหวังใช้เป็นโควต้าเข้ามหาวิทยาลัย, การวิ่งเพื่อลดความอ้วนของอาจารย์ มิตวึโยชิ อันไซ, อาคางิ ทาเคโนริ ที่คิดถึงการเล่นบาสเกตบอลจับใจ, การฝึกซ้อมอย่างหนักของเหล่ารุกกี้ปี 1 แห่งโชโฮคุ, และอีกมากมาย ซึ่งหลังจากนั้น ก็ได้มีการตีพิมพ์เรื่องราวบนแผ่นกระดานดำอีกครั้งในนิตยสาร Switch ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2005 ส่วนถ้าใครอยากหามาอ่านตอนนี้ ก็เพียงแค่พิมพ์ Slam Dunk 10 Days After ลงไปใน Google ได้เลย ถึงแม้ Slam Dunk 10 Days After จะเป็นแค่เรื่องราว 10 วันหลังจากนั้น ทำให้เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าท้ายที่สุด รุคาว่า จะประสบความสำเร็จที่สหรัฐอเมริกาไหม?, ซากุรางิ จะกายภาพกลับมาแล้วเป็นผู้นำรุ่นต่อไปของโชโฮคุได้ดีแค่ไหน, ชีวิตนักบาสในรั้วมหาวิทยาลัยของ มิตสึอิ กับ อาคางิ จะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว และคงเป็นเจตนารมณ์ที่อาจารย์อิโนะอุเอะอยากบอกทุกคนว่า "Slam Dunk ได้จบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว" แต่สุดท้ายตอนจบของ Slam Dunk จะเป็นอย่างไรก็อาจไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย ตราบใดที่มังงะเรื่องนี้ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของผู้อ่านอย่างไม่เลือนหาย มังงะเรื่องนี้ยังคงมีชีวิตเสมอ เพราะ 30 ปีที่ผ่านมาคือข้อพิสูจน์เป็นอย่างดีแล้วนั่นเอง แหล่งอ้างอิง https://slamdunk.fandom.com/wiki/Main_Pagehttps://en.wikipedia.org/wiki/Slam_Dunk_(manga)https://www.shonenjump.com/j/2018/05/21/201805021_slamdunk001.htmlhttps://www.oricon.co.jp/rank/obc/w/2018-07-16/https://www.animenewsnetwork.com/news/2019-05-08/takehiko-inoue-resumes-real-sports-manga-on-may-23/.146398 ------------------------------------------------- ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เร็วแรงทะลุนรก : นักแสดง Fast Furious ที่ขับเกิน 300 กม./ชม. ในชีวิตจริงเนย์มาร์ยังหัวหมุน : มาซาคาสุ โอคาเบะ นักเตะธรรมดาที่มีทักษะการ "เลี้ยงบอล" ระดับโลก ------------------------------------------------- ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ คลิกที่นี่

ที่สุดในความทรงจำ BODY SLAM FEST วิชาตัวเบา LIVE in ราชมังคลากีฬาสถาน
อ่าน

ที่สุดในความทรงจำ BODY SLAM FEST วิชาตัวเบา LIVE in ราชมังคลากีฬาสถาน

ที่สุดในความทรงจำ  BODY SLAM FEST  วิชาตัวเบา LIVE in ราชมังคลากีฬาสถานเมื่อต้นปี 2019 เราได้มีโอกาสไปร่วมงานคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่คอนเสิร์ตแรกของปี ในชื่อ BODY SLAM วงที่ต้องบอกว่าเป็นตำนาน และที่รักของคนไทยจำนวนมาก งานนี้ตอนรู้ว่าจัดที่ราชมัง ฯ ก็รู้เลยว่าโหดแน่ ทั้งอากาศ การจราจร ที่จอดรถ ผู้คน เราเลยต้องมีการเตรียมตัวกันซักหน่อย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเพื่อนร่วมทีม ทั้งเรื่องการวางแผนหาที่จอดรถ เวลานัดหมายที่จะต้องไปซื้อของที่ระลึกให้ทัน และการเดินทางกลับในแบบที่จะต้องไม่ติดตายอยู่หน้าราชมัง ฯ วางแผนกันเสร็จ ก็เตรียมออกลุย พร้อมรับมือ ทำเพื่อไปดูคอนฯ พี่ตูนครั้งแรกในชีวิต บอกเลยว่าการไปดูครั้งนี้ ลำบากตั้งแต่ซื้อบัตร (ฮ่าๆๆๆๆ ) เพื่อนๆ ต้องกระจายกำลังกันไปต่อคิว เพื่อซื้อบัตรหน้าเคาท์เตอร์ คือคุณคิวมหาศาลมาก มีคนต้องการไปเจอพี่ตูนมากมายจริงๆ การต่อแถวในวันนั้น ค่อนข้างสิ้นหวัง แต่เพื่อพี่ตูนเราจะไม่ยอมแพ้ กลุ่มเพื่อนทั้ง 2 สาย หาลู่ทางในการจะได้บัตรอย่างเต็มที่ สาย 1 ต้องลองจองผ่านออนไลน์ไปด้วย อีกสายก็ต้องรอเช็คจากเคาท์เตอร์หน้างาน ตื่นเต้น และลุ้นกันมาก ไลน์เด้งรัวๆ ตลอดเวลา ไปต่อแถวกันตั้งแต่เช้า จนในที่สุด เราก็ทำสำเร็จค่ะ ต้องปรบมือให้กับทีมล่าบัตรทั้ง 2 ทีมจริงๆ แค่ซื้อบัตรยังตื่นเต้นขนาดนี้ วันงานจะขนาดไหนกันเนี่ยวันงานเราไปแต่เช้าเพื่อเอารถไปจอดแถวซอยรามคำแหง ซึ่งเป็นที่จอดของรุ่นพี่เพื่อนที่รู้จักกัน หลังจากนั้นก็เดินเข้ามาที่งาน ใช้เวลา 1 เหงื่อ ช่วงเวลาที่เรามาถึง พระอาทิตย์ลงหัวพอดีเลยจ้า แดดร้อนมาก อากาศร้อนอบอ้าว แต่ทุกคนที่มาก็สู้กันสุดใจ ท้าทายอากาศที่ร้อนจัด พัดก็แล้ว พัดลมก็แล้ว น้ำเย็นก็แล้ว ก็ยังร้อนอยู่ดี (ฮ่าๆๆๆ) ช่วงระหว่างรอถึงเวลารวมตัวเพื่อนๆ ให้ครบทุกคน เราก็เดินทางของกิน ด้วยความหิวโหย โมเมนต์ตอนนั้น อยากให้ในงานมีสปอนเซอร์เป็นบูธน้ำและอาหารล้วน แบบข้าวมันไก่ประตูน้ำ ก๊วยเตี๋ยวเรือท่าสยาม กุ้ยช่ายตลาดพลู ผัดไทประตูผี อะไรแบบนี้ (ยิ้มอ่อน) แต่ในความเป็นจริงก็คือ มีแค่บูธมาม่า ที่คนต่อคิวรอยาวเหยียดค่ะคุณ แต่ไม่เป็นไร เพื่อพี่ตูน และ BODY SLAM เราต้องรอด สิ่งที่ทำให้ได้ไปต่อก็คือ คุณต้องเดินออกมาหาของกินด้านนอกงานก่อนค่ะ กินให้อิ่มจะได้ไม่หมดแรงตอนดูคอนเสริ์ตหลังจากลืมเรื่องอาหารเพราะกินจนอิ่มแล้ว เราก็เดินถ่ายรูปเล่นไว้หน่อยเป็นที่ระลึก ที่นั่งในวันนี้ ไม่ได้ระบุในบัตร เพราะฉะนั้นเพื่อทำเลที่ดีเยี่ยม เพื่อน 1 กลุ่มของเราลงทุนไปนั่งจองที่นั่งมุม center สุดๆ ไว้ให้ ทุกคนสู้ เพื่อจะได้มีโมเมนต์ที่ดีที่สุดร่วมกัน กับ BODY SLAM จนถึงเวลาที่เรารอคอย หลังจากดื่มน้ำไปเยอะ ก็มีความลังเลว่าห้องน้ำจะพอหรือเปล่า แต่บอกเลยว่า ห้องน้ำเคลื่อนที่เขามีบริการแทบทุกจุด มองไปทางไหนก็เจอ ไม่ต้องกังวลใจเลย ที่สำคัญ ห้องน้ำเคลื่อนที่ที่เราเห็น ติดแอร์เย็นฉ่ำ สะอาดสะอ้าน เป็นที่พอใจของสาวๆ มากๆ และแล้วช่วงเวลาสำคัญก็มาถึง ต้องยกความดีความชอบให้กับที่นั่งด้วย มันตรงกลางมากจริงๆ แม้จะอยู่บนดอยสูงเฉียดฟ้า แต่เราก็ได้มุมที่น่าประทับใจมากๆ มุมหนึ่งเลยความประทับใจมากๆ ต่อคอนเสิร์ต BODY SLAM FEST วิชาตัวเบา ในครั้งนี้คือ ทุกโมเมนต์ที่เกิดขึ้นระหว่างที่นั่งดู BODY SLAM เหมือนถูกสะกด เราอินไปกับเพลง ตั้งใจฟัง และก็ถูกดึงเข้าไปในช่วงจังหวะบางโมเมนต์ในชีวิต ที่เหมือนกับเราผ่านอะไรมาบ้าง ตลอดเส้นทางจนถึงวันนี้ โลกสอนอะไรเราบ้าง เราให้อะไรกับโลกบ้าง พี่ตูนทำให้เรารู้สึกอิ่มเอม อุ่นใจ และมีพลังที่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างบอกไม่ถูก เรื่อง production ไม่ต้องพูดถึง ทุกอย่างสุดยอดมาก ไม่ต้องมีอะไรเยอะไป ทุกอย่างกำลังดี ลงตัว เรียบง่ายแต่งดงาม น่าจดจำมากๆในฐานะคนที่เคยไปดูคอนเสิร์ต BODY SLAM เป็นครั้งแรก ต้องยอมรับเลยว่า ประทับใจมากจริงๆ ชอบโมเมนต์หนึ่งที่พี่ตูน บอกให้ทุกคนอยู่กับเขา วางมือถือซะ ชอบมาก เหมือนเตือนสติ ให้เราโฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มีความสุขกับมันให้เต็มที่ ยอมรับเลยว่าลืมทุกอย่างก่อนเริ่มงานไปหมดเลย ลืมอากาศร้อน ลืมเรื่องการเดินไปจอดรถไกลๆ ลืมเรื่องหิว เชื่อแล้วว่า คนที่ให้อะไรกับโลก เขาทำได้จริงๆ เขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เขาทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน มันเป็นแบบนี้นี่เอง รักและนับถือ พี่ตูนและ BODY SLAM เพิ่มขึ้นมาเป็น 101 % ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆ ก็รักวงนี้ ถ้ามีโอกาส จะขอไปดูคอนเสิร์ต BODY SLAM อีกครั้ง

เลือดแทบพุ่ง!!! มาร์ช ชวนหนุ่มๆ เปลื้องผ้าถ่ายเซ็กซี่  ใน Slam Dance ทุ่มฝันสนั่นฟลอร์
อ่าน

เลือดแทบพุ่ง!!! มาร์ช ชวนหนุ่มๆ เปลื้องผ้าถ่ายเซ็กซี่ ใน Slam Dance ทุ่มฝันสนั่นฟลอร์

“Slam Dance ทุ่มฝันสนั่นฟลอร์” กำลังสนุกเลย ถึงจะผ่านฉากชิงเหรียญทองจากกีฬาเฟรชชี่มาได้แล้ว แต่ด้วยปัญหาทางการเงินของวิทยาลัย ทำให้ผอ.ยืนยันที่จะปิด2สาขาทั้งDancesport และมวยปล้ำ ร้อนถึงหนุ่มๆสาขามวยปล้ำ นำทีมโดย “สิงห์”(มาร์ชจุฑาวุฒิ)ที่ต้องเร่งหาเงินเพื่อใช้ในการคัดตัวทีมชาติด้วยการถ่ายแบบเซ็กซี่งานนี้ไม่ได้มีแค่ “สิงห์”คนเดียวที่โชว์เรือนร่างขาวๆล่ำๆซิกแพ็คแน่นๆ จนเลือดกำเดาแทบทะลัก แต่ยังมีหนุ่มๆ ในสาขาอีกหลายคนจะแซ่บซี้ดขนาดไหน ต้องเกาะหน้าจอรอชม ติดตามชม “Slam Dance ทุ่มฝันสนั่นฟลอร์” ในวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคมนี้ เวลา 22.00 น.  ทางช่อง ONE 31 และ 23.00 น. ทาง LINE TV และอัพเดททุกความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/gmmtvofficial IG Youtube Twitter : gmmtv ชมทีวีออนไลน์ช่อง One HD แบบสดๆ ได้ที่นี่ อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร ติดตาม Dara.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ และ แอพพลิเคชั่น  TrueID Application Add friend ที่ ID : @TrueID

มาร์ช-ใบเฟิร์น ระเบิดศึกชิงความเป็นหนึ่ง!!!  ใน SLAM DANCE ทุ่มฝันสนั่นฟลอร์
อ่าน

มาร์ช-ใบเฟิร์น ระเบิดศึกชิงความเป็นหนึ่ง!!! ใน SLAM DANCE ทุ่มฝันสนั่นฟลอร์

“จีเอ็มเอ็มทีวี”เจ้าแห่งซีรี่ส์วัยรุ่น พร้อมส่งซีรี่ส์เรื่องใหม่ล่าสุด“SLAM DANCE ทุ่มฝันสนั่นฟลอร์”คว้าพระเอกวัยรุ่นสุดฮอต “มาร์ช-จุฑาวุฒิ”จับคู่นางเอกวัยรุ่นมาแรง “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” เป็นครั้งแรก พร้อมขนทีมนักแสดงวัยรุ่น“ปลื้ม-ปุริม,น้ำตาล-ทิพนารี, จูเนียร์-กรวิชญ์, พรีน-รวิสรารัตน์,เฟียต-พัทธดนย์, แจน-พลอยชมพู, อู๋จุน-กร, กาย-ศิวกร, ซิง-หฤษฎ์ ฯลฯ”ร่วมสร้างสีสันอีกเพียบ โดยผู้กำกับไฟแรง“บอย-สุรชาญ มั่นคงวงศ์ศิริ” และควบคุมการผลิตโดย“มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล”การันตีดราม่าเข้มข้นเกินร้อยกับเรื่องราวสุดมันของเหล่านักกีฬา“สาขากีฬามวยปล้ำ”และ“สาขากีฬา DanceSport”ที่ต้องมาฟาดฟันกันทั้งในและนอกสนามเรียกว่าเกมนี้ห้ามแพ้แม้ต้องเล่นสกปรก!!! ติดตามชมซีรี่ส์เรื่องใหม่ “SLAM DANCE ทุ่มฝันสนั่นฟลอร์”ทุกวันเสาร์ เวลา 22.00 น. ทางช่อง ONE 31และ 23.00 น. ทาง LINETV เริ่ม 13พฤษภาคมนี้ และอัพเดททุกความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook IG Youtube Twitter : gmmtv ชมทีวีออนไลน์ช่อง One HD แบบสดๆ ได้ที่นี่ อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร ติดตาม Dara.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ และ แอพพลิเคชั่น  TrueID Application Add friend ที่ ID : @TrueID