TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “minecraft” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
มาเก็บ Advancement ด้วยกัน !! | Minecraft 1.21
เมื่อมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาในเกม มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องมีความท้าทายใหม่เพิ่มขึ้นมาด้วย ระบบ Advancement ของเกมมายคราฟเป็นระบบที่จะคอยติดตามความคืบหน้าของผู้เล่นที่เข้าเล่นเกมในแต่ละครั้ง โดยเมื่อผู้เล่นทำกิจกรรมใดสำเร็จก็จะมีการแจ้งเตือนเหล่านี้ขึ้น ความคืบหน้าที่กล่าวมานั้น อาจจะเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ผู้เล่นทุกคนต้องทำแน่นอนในการเอาตัวรอดอย่างการสร้าง Creafting Table แล้วได้หน้าต่างแจ้งเตือนคำว่า Minecraft ไปจนถึงสิ่งที่ยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้อย่างการติดเอฟเฟกต์ทุกอย่างในเกมในเวลาเดียวกัน ( Advancement How did we get here ?) สำหรับผู้เล่นภาค Bedrock ที่กำลังมองหาไอคอน Advancement หรืออะไรทำนองนั้นอยู่ ผมอยากจะบอกว่ามันไม่มีหรอกครับ เพราะระบบ Advencement ของภาค Bedrock จะถูกแทนที่มาด้วยระบบ Achievements ที่ดูเหมือนและดูแตกต่างจากระบบของภาค Java ในระบบเดียว เดี๋ยวผมจะมาเขียนถึงระบบนี้ในบทความหน้า ในบทความนี้ พวกเรามาให้ความสนใจกับระบบ Advancement อย่างเดียวดีกว่าครับ หน้าต่าง Advancement สามารถถูกตรวจสอบได้ทุกครั้งที่ผู้เล่นอยู่ในตัวเกม ซึ่งมีหน้าต่างย่อยอีกห้าอัน ได้แก่ Minecraft: The heart and story of the game Nether: Bring summer clothes The End: Or the beginning? Adventure: Adventure, exploration, and combat Husbandry: The world is full of friends and food ทั้งห้าหน้าต่างย่อยเหล่านี้ก็จะมี Advancement ทั้งง่ายและยากให้ผู้เล่นไปลองทำกันดู โดยแบ่งได้อีกเป็นสามประเภทหลักคือ Advancement ซึ่งแน่นอนว่าทำได้ง่ายที่สุดแล้ว มันอาจจะเป็นการทำความคืบหน้าเล็ก ๆ อย่างการสร้างที่ขุดแบบไม้ การเผาเหล็ก เป็นต้น Goals จะเริ่มเป็นภารกิจที่ยากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินเอื้อม เพราะบางทีผู้เล่นก็ต้องทำสิ่งเหล่านี้เพื่อให้เกมที่เล่นดำเนินไปอย่างง่ายดายและสะดวกสบายอยู่แล้ว ท้ายที่สุดคือ Challenge ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้เล่นทั่วไปคนไหนอยากทำกันหรอก ก็จะมีแค่ผู้เล่นจำนวนหนึ่งนี่แหละครับที่จะทำตาม ที่ผมเกริ่นมาเสียยาวเหยียดก็เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้จักกับระบบ Advancement คร่าว ๆ ต่อจากนี้จะเป็นการพูดถึง Advancement ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในการอัปเดตครั้งล่าสุดนะครับ เรียงลำดับตามประเภทที่ถูกแบ่งไว้ ผมอาจจะมีการเขียนรายละเอียดสลับกับชื่อของ Advancement นั้น ๆ ฉะนั้นหากผู้อ่านอยากรู้ชื่อของตัว Advancement ก็ให้ดูที่อักษรตัวหนาเอานะครับ เอาล่ะ เมื่อพร้อมแล้วก็อ่านต่อได้เลย ในกลุ่ม Advancement ปกติจะมีเพิ่มห้าอย่าง แต่ละอย่างก็ง่าย ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพียงแค่การก้าวเท้าเข้าไปใน Trial Chamber (Minecraft: Trial(s) Edition), การใช้ขวานขูดเอาสนิมออกจาก Copper bulb (Lighten Up)ซึ่งเป็นบล็อกให้แสงสว่างตัวใหม่, การให้เครื่อง Craft อัตโนมัติอย่างเจ้า Crafter ทำการสร้าง Crafter อีกตัว (Crafters Crafting Crafters) ส่วนตัวผมชอบชื่อของหน้าต่างความคืบหน้านี้ที่สุดในบรรดา Advancement ตัวใหม่ทุกอันแล้วครับ ชื่อของมันดูกวนดี ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ กลุ่ม Advancement ปกติก็มีอะไรที่ผู้เล่นจำเป็นต้องดิ้นรนเพื่อจะได้มาเช่นกัน อย่างการใช้ Trial Key มาเปิดหีบสมบัติ (Under Lock and Key) ที่ผู้เล่นจำเป็นต้องพิชิตศัตรูมาได้อย่างน้อยด่านนึงก่อนจะได้มาซึ่งกุญแจดอกที่ว่า แล้วก็ยังจะมี Who Needs Rockets? ที่ผู้เล่นจะต้องเอาไอเทมใหม่ "Wind Charge" มาทำให้ตัวเองลอยสูงจากพื้นเป็นระยะ 8 เมตร ที่ผมคิดว่ามันยากก็เพราะไอเทมนี้ต้องไปเอามาจากมินิบอส Breeze นั่นเองครับ ในกลุ่ม Advancement ปกติที่ว่ามีตัวยากแล้ว กลุ่มของ Goals ก็เพิ่มความยากเข้ามาอีก แถมในการอัปเดตครั้งนี้ก็มีเพิ่มมาเพียงอย่างเดียวด้วยนั่นคือ Revaulting โดยที่ผู้เล่นจะต้องนำเอากุญแจ Ominous Trial Key มาไขที่หีบสมบัติเฉพาะตัวของมันเอง "Ominous Vault" และจากที่ผมเขียนบทความเรื่องไอเทมกุญแจนี้มาแล้ว ก็ทำให้รู้ว่าการเอามันมาไม่ง่ายเลยล่ะ เพราะฉะนั้นผู้เล่นที่อยากจะทำความคืบหน้าอันนี้ให้ได้ จะต้องมีการเตรียมตัวมาพอสมควร จะเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปใน Trial Chamber ไม่ได้แล้ว มากไปกว่านั้น ในกลุ่ม Challenge ผู้เล่นจะต้องทำภารกิจที่บอกได้เลยว่าเฉพาะเจาะจงสุด ๆ ผมคนนึงแล้วแหละที่จะขอผ่าน ไม่ทำภารกิจอะไรแบบนี้หรอกครับ แต่สำหรับเพื่อนผมบางคน ภารกิจที่ถูกให้มานี้เป็นอะไรที่ดึงดูดใจเหลือเกิน หากทำสำเร็จก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีไม่น้อย และผมก็เชื่อว่าผู้อ่านบางส่วนก็คงคิดเหมือนกับเพื่อนของผม ฉะนั้นพวกเรามาดูกันครับว่าการจะได้มาซึ่งกลุ่ม Challenge ต้องทำอะไรบ้าง ในกลุ่มนี้ถูกเพิ่มมาอยู่สองตัว คือ การใช้ลูกศรที่ชุบเอฟเฟกต์ Wind Charge สอย Breeze ให้ร่วงอย่างน้อยหนึ่งตัว (Blowback) แล้วก็การใช้อาวุธใหม่อย่าง Maze โจมตีอะไรก็ได้ให้ค่าหัวใจลดไป 50 แต้มภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ซึ่งนั่นคงจะต้องรวมถึงการที่ผู้เล่นกระโดดลงมาจากพื้นที่สูง ๆ แล้วเล็งเป้าหมายที่จะโจมตีให้แม่นอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอยกให้ Advancement ตัวนี้เป็นภารกิจที่ยากที่สุดในตัวที่มีการอัปเดตมาใหม่ไปเลย ทั้งหมดนี้ผมทำผ่านไปแล้วเกินห้าอย่าง อยากรู้จักครับว่าผู้อ่านมีใครทำ Advancement จนครบหมดนี่บ้าง ถ้ามีก็ลองมาพูดคุยกันได้ใต้บทความนะครับ ผมอยากจะรู้ว่าพวกคุณมีการเตรียมตัวอย่างไร เผื่อว่าผมจะลองทำตามให้ได้มาซึ่ง Advancement เหล่านี้ หรือหากใครอยากแชร์ประสบการณ์การเก็บ Advancement ของตัวเองก็ย่อมได้ ไว้พบกันใหม่ในบทความต่อไป ขอบคุณครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 6 ธ.ค. 67
อ่าน
หนังสือคาถาดี ๆ ที่มากับ Minecraft 1.21
The Mace อาวุธชนิดใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในเกมมายคราฟเวอร์ชัน 1.21 ถูกเรียกว่าเป็นอาวุธชนิดใหม่ในรอบหลายต่อหลายปีหลังจากที่ทีมพัฒนาเกมมายคราฟไม่ได้เพิ่มอะไรทำนองนี้มานาน ในเมื่อมันเป็นอาวุธใหม่ในรอบหลายปีนี่เอง ทำให้มันได้รับความสนใจมากจากเหล่าแฟนเกมหรือแม้แต่ทีมพัฒนาเกมเอง ไม่แปลกเลยที่จะมีไอเทมอื่น ๆ ตามมาเสริมความสำคัญของมันเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่นไอเทม Breeze rod และ Heavy core ที่เป็นองค์ประกอบในการสร้างอาวุธนี้ ผมพอจะเข้าใจการมาของ Breeze Rod อยู่ เพราะว่ามันเป็นไอเทมที่ได้จาก Hostile mob ตัวใหม่ ถ้าไม่มีการเพิ่มอาวุธนี้มา ไอเทมนี้ก็ยังคงต้องอยู่ต่อไป แต่ Heavy core น่ะสิครับ เหมือนกับว่ามันถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อใช้สร้างอาวุธนี้ล้วน ๆ เลย จะเอาไปสร้างอย่างอื่นก็ไม่ได้ด้วยนะ นอกจากใช้เพิ่มเสียงให้กับบล็อกกล่องดนตรี ไหนจะมีการเพิ่มคาถาสำหรับเสริมความแกร่งให้ไอเทมนี้โดยเฉพาะถึงสามชนิดอีก ถ้าไม่เรียกว่าถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อ The mace ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วครับ เพราะผมจะลองเอาไปเพิ่มให้ดาบของผมก็เพิ่มไม่ได้ สงสัยจะต้องออกเดินทางไปหาอุปกรณ์มาสร้างอาวุธชิ้นใหม่แล้วล่ะมั้ง เอาล่ะผมเกริ่นมาพอสมควรแล้ว ทีนี้พวกเรามาดูพวกคาถาที่ว่ากันดีไหมครับ โดยผมจะเรียงจากอันที่หาง่ายที่สุดไปอันที่หายากที่สุดนะครับ เริ่มกันด้วยคาถาที่ผู้เล่นมีโอกาสพบเจอได้มากที่สุด "Density" เป็นคาถาที่ช่วยเพิ่มค่าความเสียหายจากอาวุธ กล่าวคือ นอกจากคค่าความเสียหายจะเพิ่มขึ้นตามความสูงที่ผู้ถืออาวุธกระโดดลงมาที่ตัวเป้าหมายแล้ว คาถานี้ยังช่วยเพิ่มค่าที่ว่านี้ให้มากขึ้นไปอีก โดยจะเพิ่มขึ้น 0.5 แต้มต่อเลเวลของคาถาที่มี (มีทั้งหมด 5 เลเวล) เมื่อได้คาถาถึงเลเวลที่ 5 ผู้เล่นก็สามารถทำให้ศัตรูสูญเสียหลอดเลือดไปเพิ่มถึงหนึ่งดวงกว่าเลยนะครับ นั่นนับเป็น 12.5 เปอร์เซ็นต์ของหลอดเลือดทั้งหมดเลย แต่ก็แน่นอนว่ามันไม่ได้ง่ายถึงขนาดนั้น เพราะค่าที่ผมกล่าวมาคือผู้เล่นทั่วไปที่ไม่สวมชุดเกราะใด ๆ หากจะโจมตีผู้เล่นที่สวมเกราะล่ะก็ ต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้ถืออาวุธครับ ว่าจะโจมตีได้แรงแค่ไหน เช่นเดียวกับคาถาอื่น ๆ ในเกม เพื่อไม่ให้ผู้เล่นดูโกงมากจนเกินไป เจ้าคาถา Density ถูกกำหนดให้มีความไม่เข้ากันกับคาถาบางตัว เช่น Breach, Sharpness, Smite และ Bane of Arthropods ฉะนั้นผู้เล่นจำเป็นต้องวางแผนการเสริมคาถาให้อาวุธกันดี ๆ นะครับ ที่ผมบอกว่ามีโอกาสพบคาถานี้ได้มากที่สุด ก็เพราะผู้เล่นสามารถพบคาถานี้ได้ทั้งภายใน enchanting table และจากหนังสือคาถาที่มีโอกาสได้มาจากการตกปลา, การแลกเปลี่ยนสิ่งของกับ villager หรือว่าจะเพิ่มโอกาสการพบหนังสือคาถาด้วยการไปเอามันโดยตรงจากใน trial chamber ก็ได้ต่อมา "Breach" เป็นคาถาลดความแข็งแรงของชุดเกราะศัตรู มีทั้งหมด 4 เลเวล แต่ละเลเวลจะลดความแข็งแรงของชุดเกราะไปถึง 15 เปอร์เซ็นต์ นั่นเท่ากับว่าถ้าผู้เล่นมีคาถาเลเวลสูงสุดนี้ในมือ ก็จะสามารถโจมตีผู้เล่นคนอื่นได้โดยไม่ต้องเกรงใจชุดเกราะที่พวกเขาใส่มาเลยก็ได้ เท่าที่ผมอ่านค่าการโจมตีมา ดูเหมือนว่า The Maze ที่ติดคาถานี้แบบเลเวลสูงสุดไปผสมกับเอฟเฟกต์เสริมความแกร่ง จะเป็นรองเพียงแค่อาวุธดาบ Netherite ผสมเอฟเฟกต์เสริมแกร่งเลยนะครับ โดยที่อาวุธทั้งสองนี้สามารถลดหลอดเลือดศัตรูสวมเกราะ Netherite ทั้งตัวได้ด้วยการโจมตีที่รุนแรงที่สุดเพียง 4 กับ 3 Critical hit ตามลำดับ หากถามผม ผมว่าก็น่ากลัวใช่เล่นครับ คาถานี้อาจจะดูแข็งแกร่งกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็จริง ทว่ามันกลับไม่ค่อยมีประโยชน์ในกรณีที่คุณเป็นผู้เล่นคนเดียวสักเท่าไหร่ ลองคิดดูสิครับว่ามี Hostile Mob ตัวไหนใส่ชุดเกราะกันบ้าง ถ้าไม่ใช่พวก Piglin ก็แทบไม่มีตัวไหนใส่เกราะให้ผู้เล่นเห็นเลยจริงไหมครับ นั่นแหละคือจุดอ่อนของคาถานี้ อย่าลืมว่ามันก็ไม่ถูกกับคาถา Density, Sharpness, Smite และ Bane of Arthropods ด้วยนะครับ ฉะนั้นผู้เล่นจะเพิ่มความคมของ The maze ไว้เผื่อต่อสู้กับศัตรูที่ไม่ใช่ผู้เล่นด้วยกันก็ไม่ได้เสียด้วย และเช่นเดียวกันกับคาถา Density ผู้เล่นสามารถพบคาถานี้ได้ทั้งภายใน enchanting table และจากหนังสือคาถาที่มีโอกาสได้มาจากการตกปลา, การแลกเปลี่ยนสิ่งของกับ villager หรือจากใน trial chamber ก็ได้ครับ แต่คาถาต่อมานี่สิ หายากกว่าสองคาถาแรกสุดไปเลย เนื่องจากผู้เล่นพบมันได้เฉพาะจากหนังสือคาถาใน Trial chamber เท่านั้น ด้วยความหายากนี้เอง "Wind burst" จึงกลายเป็นคาถาที่สร้างผลกระทบในการต่อสู้มากที่สุดในบรรดาสามคาถาใหม่ ความสามารถของมันก็คือการปล่อยลมซึ่งจะทำให้ผู้เล่นที่ถืออาวุธอยู่ลอยขึ้นสูง 7 บล็อก (หากเป็นคาถาเลเวล 3 ซึ่งเป็นเลเวลสูงสุด จะทำให้ผู้เล่นขึ้นไปสูงถึง 21 บล็อก) ซึ่งนั่นจะช่วยให้การโจมตีครั้งต่อไปของผู้เล่นแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะอย่างไรก็ตาม The mace ก็จะมีพลังโจมตีเพิ่มตามความสูงที่ผู้เล่นตกลงมาอยู่แล้ว ข้อเสียเดียวของมัน หากไม่นับความหายาก คือถ้าผู้เล่นตีไม่โดนศัตรู ก็จะได้รับค่าความเสียหายจากการตกจากที่สูงไปด้วย ฉะนั้นจะต้องฝึกเล็งเป้าหมายดี ๆ นะครับ ไม่งั้นเมื่อพลาดทีนึง เรานี่แหละจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ คาถาทั้งสามอย่างนี้มีข้อดีข้อเสียในตัวมันเองอยู่แล้ว การเลือกคาถาที่เหมาะกับทักษะการต่อสู้ของตัวผู้เล่นจึงสำคัญเป็นอย่างมาก ผมก็ไม่อยากจะแนะนำเรื่องนี้อยู่แล้ว ยังไงผู้เล่นก็ต้องรู้ตัวเองดีที่สุดครับ ผมหวังว่าทุกท่านจะเลือกคาถาที่เหมาะสมกับตน และขอให้สนุกกับการเล่นมายคราฟครับ สำหรับบทความนี้ผมต้องลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 11 พ.ย. 67
อ่าน
กุญแจสู่ Spawner แบบใหม่ | Minecraft 1.21
ตั้งแต่เกมมายคราฟเวอร์ชัน 1.21 ถูกเพิ่มเข้ามาให้ผู้เล่นได้เล่นกัน การผจญภัยล่าขุมทรัพย์ก็ดูเป็นอะไรที่น่าสนใจขึ้นมากทีเดียว เมื่อก่อนนั้น spawner มีเพียงชนิดเดียวในทั้งตัวเกม จะหามันเจอครั้งหนึ่งก็ต้องขุดไปตามผนังถ้ำหรือสร้างทางใต้ดินขึ้นมาเอง ถึงกระนั้นผู้เล่นก็แทบจะไม่ต้องต่อสู้กับ Hostile Mob ที่มาพร้อม spawner เองด้วยซ้ำ (ยกเว้นโครงกระดูกที่โจมตีระยะไกลได้) เพียงแค่ผู้เล่นขุดทางให้อยู่เหนือห้องที่มีสมบัติแล้วขโมยมันออกไปดื้อ ๆ เท่านี้ก็ไม่ต้องเผชิญกับอันตรายแล้ว ทว่าในสถานที่ใหม่อย่าง Trial chamber นี่สิ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ไอเทมดี ๆ ไปโดยที่ไม่ต้องต่อสู้เลย หากผู้เล่นเลือกที่ไม่ต่อสู้ ก็อาจได้ไอเทมอยู่บ้าง แต่ก็จะเป็นไอเทมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่น่าคุ้มค่าต่อการดั้นด้นเดินทางมาถึงขนาดนั้น แล้วพวกเขาใช้วิธีการใดในการบังคับผู้เล่นให้ต้องสู้ เพื่อแลกกับไอเทมที่สมน้ำสมเนื้อ ไปตามดูกันเลยครับ องค์ประกอบแรก ๆ เลยคงหนีไม่พ้นบล็อกเก็บไอเทมอย่าง vault ที่จะเปิดก็ต่อเมื่อใช้กุญแจพิเศษในการเปิด vault แบบปกติจำเป็นต้องใช้ trial keys ในการเปิด ซึ่งหาได้จากการที่ผู้เล่นกำจัดศัตรูทั้งหมดจาก trial spawner ในบริเวณนั้น ไม่ก็หาได้จากไหหรือกล่องเก็บของ ( โอกาสที่จะได้กุญแจจากสองแหล่งนี้มีน้อยมาก แค่ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์) ด้วยความที่โอกาสการพบกุญแจตามที่อื่น ๆ มันน้อยมาก มันก็เหมือนกับว่าผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับศัตรูที่มาพร้อมกับ trial spawner เท่านั้นจึงจะได้สมบัติมาอย่างรวดเร็วที่สุดtrial spawner พบได้ทั่วไปตามพื้นดินของ trial chamber มันมีหน้าที่ในการสร้างศัตรูให้ผู้เล่นได้กำจัด ประเภทของศัตรูก็จะแตกต่างกันออกไปตามชนิดของบล็อกที่ปูอยู่รอบบล็อก ไม่ว่าจะเป็นซอมบี้หรือโครงกระดูกประเภทต่าง ๆ , สไลม์ หรือแม้กระทั่ง silverfish หากผู้อ่านอยากทราบเกี่ยวกับ Hostile Mob ที่เรามีโอกาสเจอในสถานที่แห่งนี้เพิ่มเติม ก็ไปอ่านกันได้ในบทความ "Trial Chambers" ที่ผมเคยเชียนไว้ได้นะครับ ท้ายที่สุด เมื่อผู้เล่นจัดการศัตรูเหล่านั้นจนหมดก็จะได้ trial keys เป็นการตอบแทน (มีโอกาส 50 เปอร์เซ็นต์ในการได้รับกุญแจนี้) trial keys เป็นกุญแจที่มีหัวเป็นกะโหลกสีดำ มีดวงตาและส่วนอื่นของกุญแจเป็นสีส้ม เมื่อนำไปใช้เปิด vault แล้ว กุญแจนั้นก็จะหายไป ผู้เล่นจะได้รับของรางวัลมาเป็นการตอบแทน โดยใน vault ปกติของผู้เล่นภาค Java นั้น ไอเทมที่หายากที่สุดคงจะเป็น Trident ในสภาพปกติ (โอกาส 2.1 เปอร์เซ็นต์ทั้งสองภาค) รองลงมาคือชุดเกราะ ไม่ก็ขวานเพชร (โอกาสได้ 3.5 เปอร์เซ็นต์ในภาค Java / 0.9 เปอร์เซ็นต์ในภาค Bedrock ) แต่ถ้าหากผู้เล่นดวงไม่ดีเท่าไหร่ ก็มีโอกาสถึงเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ที่จะไม่ได้ของอะไรเลย (โอกาสเท่ากันทั้งสองภาค) สูงไม่ใช่เล่นเลยนะครับ ถ้าไม่ได้อะไรจริง ๆ ขึ้นมาผมคงจะหงอยแย่ จะไม่ให้หงอยได้ไง ก็เราอุตส่าห์มาไกลถึงขนาดนี้แล้วแถมยังต้องกลับมามือเปล่าอีก ไม่หมดเพียงเท่านี้ หากผู้เล่นต้องการจะได้โอกาสที่มากกว่านี้ล่ะก็จะต้องมุ่งไปที่ vault ประเภทต่อไปครับ อย่างที่ผมได้เขียนไปข้างต้น Ominous vault จะให้โอกาสได้ของที่ดีมากกว่าแบบปกติ ทว่าโอกาสดี ๆ นั้นก็ต้องแลกมากับการต่อสู้กับศัตรูซึ่งเรียกได้ว่าเป็นบอสขนานย่อมของเกมอย่าง Breeze การที่จะเปิด Ominous vault ได้นั้นผู้เล่นจำเป็นต้องมี Ominous trial keys ซึ่งได้จาก Ominous trial spawner เสียก่อน ผู้เล่นสามารถเข้าถึง Ominous trial spawner ได้ผ่านทางการดื่มยาที่ให้เอฟเฟกต์ Bad Omen โดยเมื่อผู้เล่นที่ติดคุณสมบัตินี้เข้าใกล้ Trial spawner ธรรมดา จะทำให้มันเปลี่ยนเป็นบล็อกประเภทที่อันตรายกว่าเดิมนั่นเอง ต่างจากกุญแจแบบปกติ กุญแจประเภทนี้ไม่สามารถหาได้ตามไหหรือกล่องเก็บของทั่วไป ฉะนั้นทางเดียวที่จะได้กุญแจมาก็คือการต่อสู้กับศัตรูให้หมดเพียงทางเดียว และก็ใช่ว่าชนะแล้วจะได้กุญแจมาทุกครั้ง เพราะมันมีโอกาสเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จะมีกุญแจให้ผู้เล่นเก็บไป หน้าตาของ Ominous trial key ที่ผู้เล่นได้จะเป็นกุญแจที่มีหัวกะโหลกสีดำสามหัว พร้อมกับตาสีแดงก่ำ ส่วนอื่นของกุญแจจะมีสีเขียวเหมือนกันกับสีของบล็อกทองแดงที่ขึ้นสนิม พอดูดี ๆ มันก็ขลังอยู่นะครับ ใน Ominous vault ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องกลัวการไม่ได้ไอเทมตอบแทนแต่อย่างใด เพราะสิ่งที่มีโอกาสได้มากที่สุดคือไอเทมอย่างมรกตครับ (โอกาสที่จะได้ไอเทมนี้เป็น 56.2 เปอร์เซ็นต์ในเกมทั้งสองภาค) และไอเทมที่หายากที่สุดก็คือบล็อกเพชรทั้งบล็อก ซึ่งมีโอกาส 2.8 เปอร์เซ็นต์ที่จะได้มันมา รองลงไปคือ Enchanted Book ที่มีโอกาสได้ 5.5 เปอร์เซ็นต์ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เห็นทั้งโอกาสและรางวัลที่จะได้มากมายขนาดนี้ ดวงตาของผู้อ่านคงจะลุกวาวเลยล่ะสิ แต่ก็อย่าลืมนะครับว่าก่อนหน้านั้นผู้เล่นจำเป็นต้องเอาชนะศัตรูที่เฝ้าสถานที่นั้นให้ได้เสียก่อน พอรู้อย่างนั้นแล้วก็ไปฝึกทักษะการต่อสู้ภายในเกมมายคราฟกันมาให้ดีนะครับ บทความนี้คงต้องจบลงแล้ว ไว้พบกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 10 พ.ย. 67
อ่าน
Crafter บล็อกเปลี่ยนชีวิต | Minecraft 1.21
ผมยังจำได้แม่นอยู่เลยว่าเมื่อก่อนตอนที่ผู้เล่นขอให้ทีมพัฒนาเกมมายคราฟเพิ่มเครื่อง craft อัตโนมัติ พวกเขาได้แถลงว่าแม้ว่าจะมีอุปกรณ์อัตโนมัติเพิ่มขึ้นในเกมมายคราฟมาก แต่พวกเขาจะยังอยากให้การ "mine (ขุด) " และการ "craft (สร้าง) " คงความเป็นเอกลักษณ์ของเกมต่อไป ฉะนั้นจะไม่มีเครื่องสร้างอุปกรณ์อัตโนมัติเข้ามาในเกม เหมือนว่าพอเวลาเปลี่ยน มุมมองของทีมพัฒนาเกมมายคราฟต่อตัวเกมของพวกเขาก็เปลี่ยนไปด้วย เพราะว่าตอนนี้มายคราฟเวอร์ชัน 1.21 ได้เพิ่มเครื่องสร้างอุปกรณ์อัตโนมัติอย่าง Crafter มาแล้วยังไงล่ะครับ ตั้งแต่ที่เจ้าอุปกรณ์นี้ถูกประกาศว่าจะถูกเพิ่ม ความคิดเห็นของผู้เล่นก็แตกออกเป็นสองส่วน บ้างก็ว่านี่คงถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งของวงการผู้ใช้ redstone แล้ว แถมยังสนับสนุนการสร้างบล็อกนี้ บ้างก็แย้งว่าไหนทีมพัฒนาอยากคงความเป็นเอกลักษณ์และคัดค้านการใช้บล็อกนี้ ส่วนทางทีมพัฒนาเกมมายคราฟเองก็ได้ออกมาบอกว่าบล็อก Crafter นี้ มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้เล่นที่อยากจะสร้างสิ่งของแบบอัตโนมัติ หากผู้เล่นท่านใดไม่ชื่นชอบการใช้งานของมัน ก็เพียงแค่ไม่ต้องสร้างเจ้าบล็อกนี้ขึ้นมา ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเกมมายคราฟเวอร์ชัน 1.21 ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างเป็นทางการ มันก็มีเจ้าบล็อก Crafter นี้พ่วงมาด้วยอยู่ดี เขียนเกริ่นเสียยาวเลยนะครับเนี่ย อย่างที่ผู้อ่านบางท่านรู้กันว่าตัวผมเองไม่ค่อยถนัดการต่อวงจร redstone เท่าไรนัก ในบทความนี้จึงจะมุ่งไปที่ภาพรวมของบล็อก crafter เป็นส่วนใหญ่ ไม่มีการสอนใช้งานนะครับ ฉะนั้นต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เอาล่ะมาเริ่มกันเลย สูตรการสร้างบล็อก Crafter นั้น ผู้เล่นจะต้องเอาแท่งเหล็กห้าแท่งเรียงไว้สามช่องบนสุดกับสองช่องด้านข้าง ตรงกลางใส่ Crafting table โต๊ะนึง ด้านล่าง crafting table เป็น Dropper หนึ่งเครื่อง ส่วนช่องที่เหลืออีกสองช่องตรงมุมขวาล่างจะเป็น Redstone dust ดูเหมือนว่าจะเป็นสูตรการสร้างที่ยุ่งยากพอสมควร แต่นั่นก็ไม่แปลกเท่าไหร่สำหรับเครื่องมือ redstone รูปร่างลักษณะของบล็อกนี้มีความคล้ายคลึงกับบล็อก crafting table ซึ่งเป็นต้นแบบเพียงนิดเดียว คือตารางเก้าช่องบนบล็อก นอกจากรายละเอียดนั้นแล้ว มันคืออุปกรณ์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งสีแดงของ redstone dust ที่ใช้ในการสร้างมันขึ้นมา ทั้งสีเทาอ่อนของเหล็กที่คลุมแทบจะทั่วบล็อก นี่ถ้าไม่มีสีน้ำตาลของไม้ก็คงลืมไปแล้วว่าบล็อกต้นแบบของมันคือบล็อกอะไร บล็อก Crafter จุไอเทมได้เพียงเก้าช่อง ผู้เล่นสามารถเปิด - ปิดแต่ละช่องในอุปกรณ์นี้ได้ดั่งใจ โดยที่การเปิด - ปิดช่องเก็บของจะมีผลต่อการสร้างไอเทมอัตโนมัติของมันด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ เมื่อช่องใดช่องหนึ่งปิดลง ไอเทมก็ไม่สามารถเข้าไปในช่องนั้นได้ และเจ้าเครื่องนี้ก็จะนับช่องที่ถูกปิดอยู่ให้เป็นเพียงช่องว่างเท่านั้นเห็นว่ามีช่องใส่ไอเทมเพียงเก้าช่องก็ใช่ว่ามันจะใช้งานได้ไม่เต็มที่นะครับ เพราะผู้เล่นก็สามารถใช้ Hopper ไม่ก็ Dropper ในการจับไอเทมเข้าหรืออกอุปกรณ์นี้ได้อยู่แล้ว ส่วนในกรณีที่ไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ เชื่อมต่อมันเลย เมื่อบล็อก crafter นี้สร้างไอเทมอะไรเสร็จแล้ว มันก็จะปล่อยไอเทมนั้นออกมาที่พื้นทันทีเหมือนกับ Dropper เพราะฉะนั้นผมขอแนะนำให้ผู้เล่นเอาอะไรมารองรับไอเทมเหล่านั้นด้วยนะครับก่อนที่มันจะสลายหายไปเสียก่อน เช่นเดียวกับอุปกรณ์ redstone อื่น บล็อกนี้ก็ต้องการวงจรมาต่อให้มันสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ การจะสร้างไอเทมหนึ่งชิ้นนั้นจะมีระยะเวลาห่างกัน 0.2 วินาที ซึ่งก็ไม่ได้นานเท่าไหร่นักหรอกครับ ก็มันเป็นเครื่องอัตโนมัติหนิ ถ้ามันใช้เวลานานกว่าผู้เล่นสร้างเองก็คงไม่มีการประดิษฐ์บล็อกนี้มาหรอก และด้วยการใช้งานที่ง่าย (ง่ายสำหรับผู้เล่นที่ชำนาญด้านวงจรแล้วน่ะ) ผมว่าพวกเราก็น่าจะปรับตัวเข้ากับเจ้าเครื่องนี้ได้สบายเลย มากไปกว่านั้นผู้เล่นมายคราฟบางคนก็ยังสามารถสร้างวงจร redstone สำหรับบล็อกใหม่นี้เสร็จตั้งแต่ช่วงระยะทดลองแล้ว เหลือเชื่อเลยนะครับเนี่ย ในความเห็นของผมผู้ไม่ค่อยใช้วงจร redstone ในตัวเกมอยู่แล้ว ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับบล็อกนี้มากเท่าไหร่ กลับกันเพื่อนของผมที่ถนัดการสร้างวงจรไฟก็มัวแต่พูดเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนกับผมที่รู้ว่าจะมีบล็อกตกแต่งบล็อกใหม่นี่แหละ เอาเป็นว่าผมก็ต้องยินดีกับผู้เล่นสายต่อวงจร redstone ด้วยนะครับ ขณะนี้พวกคุณได้ลองของเล่นใหม่กันแล้วล่ะ ผู้อ่านเป็นผู้เล่นสายอะไรกันบ้างครับ จะเป็นผู้เล่นสายต่อวงจร redstone หรือเป็นผู้เล่นประเภทอื่นที่แทบไม่รู้เรื่องวงจรอะไรเหล่านี้เลย ไม่ว่าคุณจะเล่นสายไหนอยู่ก็ตาม บทความทั้งหลายของผมก็รองรับผู้อ่านทุกประเภทอยู่แล้ว ไว้พบกันใหม่ในบทความความต่อไป หวังว่าผู้อ่านจะได้เจอกับบทความของผมที่ถูกใจนะครับ ขอบคุณที่กดเข้ามาอ่านกัน สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 10 พ.ย. 67
อ่าน
คลาสปรุงยาพื้นฐาน | Minecraft Tips
เมื่อบทความที่ผ่านมาผมได้เขียนเกี่ยวกับการปรุงยาสูตรใหม่ที่พึ่งถูกเพิ่มเข้ามาในเกมมายคราฟเวอร์ชัน 1.21 เขียนไปเรื่อย ๆ ก็นึกได้ว่าผมยังไม่เคยได้เขียนวิธีการปรุงยาอย่างจริงจังเลย ส่วนตัวผมรู้สึกว่าการปรุงยาในเกมมายคราฟเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เพราะบางทีการใส่วัตถุดิบไปผิดขั้นตอนก็อาจทำให้ยาทั้งขวดใช้ไม่ได้เลย และใช่ว่าจะใส่อะไรเข้าไปแล้วมันจะกลายเป็นยาเสมอไป เมื่อก่อนผมก็เคยปรุงยาไม่เป็น ส่วนใหญ่ก็จะอาศัยไอเทมโจมตีอื่นมากกว่าการเสริมพลัง อย่างมากก็จะใช้แค่ Golden Apple เท่านั้น ทว่าเมื่อผมก้าวเข้าสู่วงการการปรุงยาในมายคราฟแล้ว ชีวิตในตัวเกมของผมกลับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ผมสามารถเสริมความแข็งแรงให้กับตัวละครในช่วงการต่อสู้สั้น ๆ ได้ บางทีผมเข้ามิติ Nether ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวพลัดตกบ่อลาวาอีกต่อไป กระทั่งตอนที่ผมสู้กับมังกรในมิติ The End ก็ยังไม่ต้องกลัวการตกจากที่สูง และผมก็คาดว่าผู้อ่านอย่างน้อยหนึ่งท่านในนี้ต้องสนใจการปรุงยาอย่างผมแน่นอน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยครับ ขั้นที่ 1 เตรียมอุปกรณ์ ก่อนการปรุงยาทุกครั้ง ผู้เล่นควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เพราะจะได้ไม่สูญเสียเชื้อเพลิงในการปรุงยาไปเปล่า ๆ สิ่งแรกที่ควรมีคือแท่นปรุงยา หรือ Brewing Stand มันมีรูปร่างเหมือนแท่นวางหลอดทดลองในการทดลองวิทยาศาสตร์ แกนกลางเป็นสีเหลืองเหมือน Blaze Rod ซึ่งเป็นส่วนประกอบในการสร้างแท่นนี้ ของชิ้นต่อไปคือขวดน้ำ (ใส่น้ำมาด้วย) อย่างน้อยสามขวด จะเตรียมมาน้อยกว่านั้นก็ได้ แต่ผมว่าสามขวดคือจำนวนที่จะประหยัดวัตถุดิบในการปรุงยาที่สุดแล้ว สุดท้ายที่ผู้เล่นห้ามลืมเป็นอันขาดก็คือ Blaze Powder ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสำหรับปรุงยา และ Nether wart ซึ่งเรียงได้ว่าเป็นวัตถุดิบที่ช่วยปูทางสำหรับการปรุงยาทุกชนิดกันเลยทีเดียว ขั้นที่ 2 ปรุงหัวเชื้อ พอเขียนว่าหัวเชื้อแล้วเหมือนหัวเชื้อเห็ดเลยว่าไหมครับ ที่จริงแล้วเหตุผลที่ผมใช้คำว่า "หัวเชื้อ" ก็เพราะถ้าไม่เริ่มจากขั้นตอนนี้ ขั้นตอนต่อไปก็จะไม่เกิดขึ้นเลย เริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมครับว่าต้องทำอย่างไร เริ่มจากการที่ผู้เล่นเอา Water bottle ไปตั้งไว้ตามช่องที่กำหนดไว้ในแท่นปรุงยา นำ Nether wart ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญที่สุด (ขอย้ำว่าสำคัญจริง ๆ ห้ามลืมเชียวนะครับ) ใส่ในช่องเหนือขวดน้ำสามขวดนั้น ต่อมาก็ใส่ Blaze powder เพื่อจุดเชื้อเพลิงเริ่มการปรุงยา น้ำยาหัวเชื้อที่ได้จาก Nether wart จะมีชื่อว่า Awkward potion หากขวดน้ำเปลี่ยนเป็นชื่อนี้แล้วก็เริ่มขั้นตอนที่ 3 ได้ หากผู้เล่นใส่วัตถุดิบอื่นไปนอกเหนือจาก Nether wart ชื่อขวดน้ำจะเปลี่ยนเช่นกัน แต่จะไม่ใช่ Awkward potion แน่นอน และขวดเหล่านั้นจะไม่สามารถใช้ปรุงยาในขั้นต่อไปได้ คำแนะนำของผมคือเอาไปเททิ้ง จากนั้นเริ่มขั้นตอนแรกใหม่ครับ ขั้นตอนที่ 3 ปรุงยา ขั้นตอนนี้จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าขั้นตอนที่ 2 กล่าวคือ ผู้เล่นมีตัวเลือกในการปรุงชนิดยาเพิ่มขึ้น ขอบอกเลยครับว่าวัตถุดิบตระการตาไปหมด ยาที่ปรุงในขั้นนี้ส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาใช้งานสามนาที แต่หากยานั้น ๆ มีฤทธิ์ดีเกินไป เวลาการใช้งานก็อาจถูกลดลง น้ำตาล ใช้ปรุงยาเสริมความเร็ว ซึ่งทำให้ผู้เล่นวิ่งได้เร็วขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ เท้ากระต่าย ใช้ปรุงยากระโดษสูง ซึ่งทำให้ผู้เล่นกระโดดได้สูงขึ้นครึ่งบล็อก Blaze powder ใช้ปรุงยาเสริมแกร่ง ช่วยให้ผู้เล่นที่ดื่มมันเข้าไปมีหลอดเลือดเพิ่มขึ้นหนึ่งดวงครึ่ง Glistering Melon Slice (มาจากซีกแตงโมผสมกับเศษทอง 8 ก้อน) ใช้ปรุงยาที่ทำให้หลอดเลือดผู้เล่นเพิ่มขึ้นสองดวง ยาชนิดนี้เป็นยาแบบเกิดขึ้นทันที จึงไม่มีระยะเวลาใช้งานครับ Ghast tear ใช้ปรุงยารักษา ซึ่งทำให้หลอดเลือดของผู้เล่นเพิ่มขึ้นครึ่งดวงทุก ๆ สองวินาทีครึ่ง โดยมีระยะการใช้งาน 45 วินาที Magma cream ใช้ปรุงยากันไฟ ซึ่งทำให้ผู้เล่นทนไฟกับลาวาได้สามนาทีเต็ม ๆ ไหนจะยังมี ปลาปักเป้า ที่ใช้ทำยาหายใจใต้น้ำ, แครอทสีทอง ที่ใช้ทำยาสำหรับมองในที่มืด และยาอื่น ๆ ที่ให้ผลเสียต่อผู้เล่นอีก พวกมันเยอะไปหมดเลยล่ะครับ ขั้นตอนที่ 4 เสริมเอฟเฟกต์ยา ในขั้นตอนเหล่านี้นี้พวกเรามาดูกันครับว่า วัตถุดิบเพิ่มเติมแต่ละอันมีอะไรบ้าง และให้ผลอย่างไรกับยาที่ปรุง Gunpowder หรือดินปืน เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการเปลี่ยนประเภทยา จากยาประเภทดื่ม (ผู้เล่นได้ปรับเอฟเฟกต์คนเดียว) กลายเป็นยาประเภทปาได้ (ผู้เล่นได้รับเอฟเฟกต์หลายคน) เมื่อใช้ดินปืนเสร็จแล้วต่อด้วย Dragon's breath ซึ่งเก็บมาจากช่วงที่สู้กับมังกรดำ จะเปลี่ยนขวดแบบปาได้ มาเป็นขวดยาแบบส่งผลต่อพื้นที่ ( พื้นที่ที่ปาจะได้รับเอฟเฟกต์ไปด้วยชั่วคราว) Redstone ใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการเพิ่มระยะเวลาการรับเอฟเฟกต์จากยา โดยจะเพิ่มต่างกันไปตามชนิดยาที่จะปรุง Glowstone dust ใช้สำหรับการเพิ่มเลเวลของยาที่ปรุง ซึ่งจะทำให้ฤทธิ์ยาแรงขึ้นภายในเวลาที่สั้นลง สุดท้ายก็คือ Fermented spider eye ที่จะทำให้ยาทุกชนิดที่ปรุงเปลี่ยนเป็นขั้วตรงข้ามของมัน (ยาพวกนี้ให้ผลเสียทั้งหมด) ผู้อ่านสามารถเอาสูตรเหล่านี้ไปทำตามได้เลยนะครับ ได้ผลอย่างไรก็สามารถมาพูดคุยกันได้ สำหรับบทความนี้ ผมคงต้องลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบบทความมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 9 พ.ย. 67
อ่าน
ชื่นชมศิลปะจาก Minecraft 1.21
หลังจากผ่านการอัปเดตครั้งใหญ่โดยไม่เคยเพิ่มรูปภาพในเกมมายคราฟเลยหลายต่อหลายปี ใครจะไปเชื่อกันล่ะครับว่าทีมพัฒนาเกมมายคราฟจะได้เพิ่มเอาผลงานศิลปะชิ้นใหม่มาไว้ในเวอร์ชัน 1.21 นี้ แถมยังมีภาพใหม่มากถึง 20 รูปอีกต่างหาก ในบทความนี้ขอให้ผู้อ่านสละเอาเนื้อหาสาระเรื่องต่าง ๆ จากเกมออกไป แล้วมาจดจ่ออยู่กับไอเทมยี่สิบชิ้นนี้กันครับ ผู้เล่นสามารถครอบครองรูปภาพได้ง่าย ๆ ด้วยการรวมเอาแท่งไม้ 8 แท่งเข้าด้วยกันกับบล็อกขนแกะ 1 บล็อก เมื่อนำไอเทมทั้งหมดมารวมกันจะได้เป็นรูปภาพหนึ่งรูป เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่ารูปที่ได้เป็นรูปอะไร จนกว่าผู้เล่นจะวางรูปไว้บนผนัง ตำแหน่งกับเนื้อที่ของผนังมีผลอย่างมากกับรูปภาพที่ถูกสร้างขึ้น ส่วนใหญ่แล้วหากรูปภาพมีขนาดกว้างกว่าหนึ่งบล็อก มันจะขยายไปทางขวาบนของบล็อกที่ผู้เล่นคลิกวางรูปภาพ เช่น หากผู้เล่นวางรูปภาพไว้ที่มุมขวาบนสุดของกำแพง ก็จะได้เพียงภาพที่มีความกว้าง 1x1 บล็อก, หากวางขยันไปทางซ้ายอีกหน่อย ผู้เล่นก็จะได้ภาพที่มีความกว้าง 2x1 บล็อก เป็นต้น หากเผลอวางภาพในที่ที่ไม่ได้ตั้งใจไว้แต่แรก หรือไม่ได้ภาพที่ชอบ ก็อย่าได้เป็นกังวลครับ เพราะว่าเพียงแค่คุณคลิกครั้งหนึ่งที่ภาพ คุณก็จะได้ไอเทมคืนมา และวางอีกครั้ง ภาพที่คุณได้ก็มีโอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นภาพอื่นได้ครับ Fun Facts (เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย) : รู้หรือไม่ ?? ว่าภาพส่วนใหญ่ในเกมมายคราฟเป็นฝีมือของศิลปินชาวสวีเดน นามว่า Kristoffer Zetterstrand ผู้มีความสามารถเด่นเรื่องการวาดภาพแนวคลาสสิคที่มีความเป็น Pixel art รูปที่ถูกเพิ่มในการอัปเดตครั้งนี้เป็นผลงานของศิลปินประจำสตูดิโอเกมมายคราฟ Sarah Boeving และ Kristoffer Zetterstrand ผู้ร่วมสร้างสรรค์รูปภาพต่าง ๆ ด้วยกันมาตั้งแต่ภาพแรก ๆ ของเกม ที่นี้เราจะเริ่มดูแต่ละภาพ ไล่จากภาพที่ขนาดเล็กที่สุดไปสู่ขนาดใหญ่ที่สุดเลยนะครับ ภาพแรกเป็นภาพของดอกกุหลาบท่ามกลางพื้นที่โล่ง ขนาด 1x1 บล็อกซึ่งเป็นขนาดเล็กที่สุดที่ภาพหนึ่งจะทำได้แล้ว ต่อไปคือภาพขนาด 1x2 บล็อก เป็นภาพชายขี่ม้ากลางทะเลทรายอีกเช่นเคย มีภาพขนาด 2x2 บล็อกอยู่สองภาพ อันหนึ่งเป็นภาพ Villager สองคนยืนจ้องออกมาจากรูป ส่วนอีกภาพเป็นรูปของตกแต่งโต๊ะในสไตล์มายคราฟ ไม่ว่าจะเป็นก้อนเค้ก ไหดิน แล้วก็ดอกทานตะวัน สุดท้ายก็คือภาพภูเขาที่ถูกแม่น้ำล้อมรอบ ความกว้าง 4x4 บล็อก ภาพที่ผมกล่าวไปข้างต้นเป็นผลงานของคุณ Sarah ล้วน ๆ ซึ่งเป็นภาพที่นำเอาความเป็นเกมมายคราฟออกมาใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าจะมีบางรายละเอียดที่คลาดเคลื่อนไปเพื่อให้รูปไม่ดูแข็งทื่อ แต่ก็พอจะดูออกว่ามันเป็นภาพของเกมมายคราฟ อีกด้านหนึ่ง ภาพของคุณ Kristoffer ดูเหมือนภาพในชีวิตจริงมากกว่าภาพที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากในเกม พูดตามตรงผมก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายแต่ละภาพอย่างไรดี เพราะว่าผมดูไม่ค่อยออกน่ะสิครับ เอาเป็นว่าผมจะพยายามอธิบายภาพที่พอจะดูออกให้ท่านผู้อ่านก็แล้วกัน คุณ Kristoffer มีผลงานภาพใหม่ขนาด 3x3 ทั้งหมดแปดภาพ บางภาพก็ดูเหมือนจะเป็นผลงานแนวคลาสสิคทั่วไป บางภาพก็ดูเหมือนว่าจะมีรายละเอียดอะไรซ่อนอยู่ จะว่าซ่อนก็ไม่เชิง เพราะเขาจงใจทำให้รายละเอียดเหล่านั้นแตกต่างจากภาพโดยรวมไปพอสมควร ตัวอย่างเช่น ภาพ Cotan ที่มี Golden Apple และ Golden Carrot โผล่มาเกินครึ่งผลให้ผู้ชมผลงานนี้ได้เห็นอย่างชัดเจน, ภาพ Owlemons ที่มีตัวการ์ตูนซึ่งแทบไม่กลมกลืนกับภาพรวมเลย (ตอนแรกผมมองนกฮูกเป็นแรคคูนด้วยล่ะครับ), ภาพ Cavebird ที่มีตัวอะไรก็ไม่รู้สีเทา ๆ อยู่ตรงมุมขวาล่าง ภาพนี้ผมอยากรู้จริง ๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่ หากผู้อ่านรู้จักก็ช่วยบอกต่อกันหน่อยนะครับ และก็ภาพ Sunflowers ที่มีดอกทานตะวันดอกหนึ่งไม่เข้าพวกโผล่มากลางรูปภาพ ไม่หมดเพียงเท่านี้ ผลงานของคุณ Kristoffer ยังมีภาพขนาด 3x4 อีกสองรูป, ขนาด 4x2 อีกสี่รูป และขนาด 4x4 อีกรูปหนึ่ง เพราะเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ ผมถึงได้ชอบภาพ Orb ของเขา ผมเพียงแค่รู้สึกว่ามันเป็นภาพที่ดึงดูดสายตาได้ดี ทั้งความมืดรอบ ๆ และแสงสว่างที่เปล่งออกมาจากสิ่งที่ดูเหมือนลูกบอลกลมอันนั้น แล้วผู้อ่านล่ะครับ รู้สึกถูกใจภาพไหนเป็นพิเศษรึเปล่า ถ้าอยากได้ภาพไหนไว้ในเกมของตัวเองก็ลองไปเล่นกันดูนะครับ ขอบอกเลยว่ากว่าจะได้บางภาพนี่ทำเอาผมใจร้อนอยู่เหมือนกัน แล้วมาพบกันใหม่ในบทความหน้า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความของผมนะครับ สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 5 พ.ย. 67
อ่าน
ปรุงยาใหม่กันใน Minecraft 1.21
เกมมายคราฟเวอร์ชัน 1.21 มาพร้อมกับเครื่องมือการต่อสู้แบบใหม่ตั้งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฆ้อนขนาดยักษ์ที่เพียงตีลงมาจากที่สูงพอก็สามารถสยบศัตรูได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว หรือว่าจะเป็น Wind charge ที่ผู้เล่นสามารถยิงไปที่ศัตรูเพื่อให้กระเด็นออกไปหลายสิบบล็อกได้อย่างง่ายดาย ทว่าสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเหล่านั้นต่างก็เป็นไอเทมที่เมื่อเวลาผ่านไป ไม่ว่าผู้เล่นหน้าไหนก็ต้องมีอย่างแน่นอน ฉะนั้นวันนี้พวกเรามาทำอะไรที่ไม่ค่อยมีผู้เล่นคนไหนทำกันดูบ้างครับ อย่างเช่น การปรุงยามาช่วยเสริมการต่อสู้ ผมเชื่อว่าผู้เล่นหลายท่านคงจะยังไม่คุ้นชินกับการปรุงยาภายในเกมมายคราฟกันอย่างแน่นอน เพราะกว่าจะได้อุปกรณ์การปรุงยามาแต่ละอย่าง ผู้เล่นจะต้องผ่านการบุกป้อมปราการในมิติ Nether กันแล้วทั้งนั้น ขั้นตอนของการปรุงยาก็ใช่ว่าจะง่ายดาย วัตถุดิบก็ใช่ว่าจะธรรมดาเสียที่ไหน ปรุงผิดสูตรเพียงเล็กน้อยก็มีโอกาสทำให้ยาที่ปรุงอยู่นั้นเปลี่ยนชนิดได้เลย มันก็ไม่แปลกที่ผู้เล่นทั้งหลายจะเลือกข้ามขั้นตอนความยุ่งยากเหล่านั้น แล้วไปทำกิจกรรมอื่นที่น่าตื่นเต้นมากกว่า เห็นผมเขียนว่ายุ่งยากอย่างนู้นอย่างนี้ ก็อย่าได้ท้อใจไปนะครับ เพราะว่าวันนี้ผมจะพาผู้อ่านไปปรุงยาสูตรใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้นในเกมมายคราฟเวอร์ชัน1.21 กัน เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายเลย ก่อนจะมาปรุงยาเป็นชิ้นเป็นอัน พวกเรามาทำความรู้จักกับอุปกรณ์และวัตถุดิบการปรุงยาพื้นฐานกันก่อนดีกว่าครับ แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ผู้เล่นจะต้องใช้ในการปรุงยาเลยก็คือ แท่นปรุงยา หรือ Brewing Stand ซึ่งสร้างมาจากบล็อกหินสามบล็อกและ Blaze rod หนึ่งชิ้น ผู้เล่นจะสร้างเจ้าแท่นนี้ขึ้นมาเองก็ได้ หรือว่าจะไปเอามาจากหมู่บ้านของ Villager ก็ได้เช่นเดียวกัน อุปกรณ์ที่สำคัญรองลงมาทั้งหลาย ได้แก่ ขวดใส่น้ำ ( Water Bottle) ซึ่งใช้บรรจุยาหลังปรุงเสร็จ, Nether wart ที่เป็นวัตถุดิบพื้นฐานสำหรับการปรุงยาแทบจะทุกสูตรในตัวเกม แล้วก็ Blaze Powder ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการสกัดวัตถุดิบต่าง ๆ เมื่อได้ของทั้งหมดมาจนครบแล้ว มาเริ่มกันเลยครับ ก่อนอื่นให้ผู้เล่นเตรียมขวดใส่น้ำสามขวดใส่เข้าไปในแท่นปรุงยาก่อน ตามด้วย Nether wart หนึ่งอัน จากนั้นเริ่มกระบวนการการปรุงยาด้วยการใส่ Blaze Powder เมื่อใส่ส่วนประกอบทั้งหมดครบแล้ว ผู้เล่นจะเห็นแถบสีเหลืองทองที่จะบอกถึงระยะเวลาที่เชื้อเพลิงจาก Blaze Powder จะหมดไป เท่านี้ผู้เล่นก็เพียงแค่รอให้ Nether wart เปลี่ยนขวดใส่น้ำธรรมดาให้กลายเป็น awkward potion จึงจะเริ่มขั้นตอนต่อไปได้ ขั้นตอนต่อไปนี้ ผู้เล่นไม่ควรทำพลาดเป็นอันขาด มิฉะนั้นยาที่ปรุงออกมาจะไม่ได้ตามที่หวังไว้ ในบทความนี้ผมจะพาทุกท่านปรุงยาชนิดที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ในเวอร์ชัน 1.21 ก็มีอยู่เพียงสี่ชนิด ทั้งสี่ชนิดถูกจัดว่าอยู่ในคลาสของยาพิษ ฉะนั้นยาที่พวกเราปรุงจะต้องสามารถปาใส่ผู้เล่นคนอื่นได้ โดยไม่เหลือเอฟเฟกต์ให้ถูกตัวเราเองภายหลังครับ เมื่อได้ awkward potion มาแล้ว ให้ผู้เล่นใส่วัตถุดิบปรุงยาตามชนิดยาที่ต้องการ เมื่อใส่บล็อก Stone ลงไป ผู้เล่นจะได้ Potion of Infestation ซึ่งจะทำให้มีโอกาสห้าเปอร์เซ็นต์ที่ Sliverfish จะเกิดขณะสิ่งมีชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากยาตัวนี้ถูกโจมตี ผมว่ายาตัวนี้ไม่ค่อยน่าเอามาใช้เท่าไหร่ เพราะไม่เพียงมันจะเพิ่มศัตรูให้เราจัดการเพิ่มแล้ว ยังไม่ทำให้เกิดผลดีกับผู้เล่นเลยแม้แต่น้อย เมื่อใส่บล็อกสไลม์ลงไป ผู้เล่นจะได้ Potion of Oozing ที่จะทำให้มีสไลม์ขนาดกลางสองตัวเกิดขึ้นมาหลังจากสิ่งมีชีวิตที่ได้รับผลจากยาตัวนั้นได้ถูกกำจัดไป ซึ่งถ้าจะให้นำมาใช้จริง ๆ ผมก็คงเอามาทำเป็นฟาร์มสไลม์นอกเขต Slime Chunk น่าจะมีประโยชน์มากกว่าการนำมาใช้ต่อสู้นะครับ เมื่อใส่ไอเทม Cobweb เข้าไป ผู้เล่นจะได้ Potion of Weaving ซึ่งจะส่งผลก็ต่อเมื่อสิ่งมีชีวิตที่ได้รับผลจากยาถูกกำจัดออกไปเท่านั้น โดยเมื่อถูกกำจัด ก็จะมี Cobweb ประมาณสองสามอันโผล่ออกมา ยาตัวนี้เหมาะที่สุดที่จะนำมาใส่ให้กับหมาป่าคู่ใจของผู้เล่น หากผู้เล่นคิดว่าระหว่างต่อสู้อยู่นั้นไม่สามารถรักษาระดับเลือดของหมาป่าตัวเองได้ อย่างน้อยเมื่อใช้ยาตัวนี้ หมาป่าของคุณที่ถูกศัตรูกำจัดไปจะช่วยชะลอศัตรูตรงหน้าให้ช้าลงไปครับ แต่ผมว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์นั้นเลย มันก็ออกจะดูเศร้าไปสำหรับเกมแนวผจญภัยนะ และเมื่อใส่ breeze rod เข้าไป ผู้เล่นจะได้ Potion Of Wind Charging ซึ่งทำให้เกิดเอฟเฟกต์ลมหลังสิ่งมีชีวิตที่ได้รับผลจากยานั้นถูกกำจัดไป ผมไม่แนะนำให้ผู้เล่นใช้ยาตัวนี้กับศัตรูเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อศัตรูถูกคุณกำจัดจริง ๆ คุณก็จะถูกพัดให้กระเด็นไปด้วย ซึ่งอาจลดค่าหัวใจผู้เล่นไปได้มากทีเดียว สุดท้ายนี้ หากท่านได้ยาที่ต้องการเรียบร้อย ก็ให้ใส่ไอเทม Gun Powder ลงไปเพื่อทำให้ขวดน้ำยาธรรมดากลายเป็นยาแบบที่ปาใส่คู่ต่อสู้ได้ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ แต่ก็ต้องจำเอาไว้นะครับว่ายาเหล่านี้มีออกฤทธิ์ได้เพียงสามนาที ฉะนั้นถ้าคุณอยากทำอะไรก็ให้รีบตัดสินใจนะครับ ขอให้ทุกท่านสนุกกับการปรุงยา ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 5 พ.ย. 67
อ่าน
บล็อกตกแต่งที่ถูกเพิ่มใน Minecraft 1.21
เมื่อเกมมายคราฟได้อัปเดตเวอร์ชันใหม่ ๆ ขึ้นมาทีไร บล็อกชนิดใหม่ก็จะถูกเพิ่มเข้ามาด้วยทุกครั้งไป ทั้งนี้ก็เพราะว่าพวกเราไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งก่อสร้าง, โซนหรือไบโอมใหม่ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้บล็อกที่แตกต่างออกไป อย่างในเกมมายคราฟเวอร์ชัน 1.21 | Tricky Trials Update ที่มีการเพิ่มสถานที่ใหม่ให้ผู้เล่นได้ไปสำรวจ "Trial Chambers" ก็คือสถานที่ที่ว่านั่น มันเป็นพื้นที่สำหรับการต่อสู้กับ Hostile Mob เพื่อให้ได้มาซึ่งสมบัติและของตอบแทนมากมาย และเมื่อทุกท่านลองมองไปรอบสถานที่แห่งนั้น ก็จะพบกับบล็อกตกแต่งหน้าใหม่ที่จะให้พวกเราลองใช้กัน บล็อกที่มาใหม่พร้อมกับ Trial Chambers สามารถจำแนกได้เป็นสองประเภทหลัก คือบล็อกที่สร้างจากทองแดง และบล็อกที่สร้างจากบล็อก Tuff หรือหินเถ้าภูเขาไฟ บล็อกทั้งสองที่ผมกล่าวมานี้ จริง ๆ แล้วมันก็อยู่ในเกมเวอร์ชันก่อนอยู่แล้วครับ ทว่าการใช้งานของมันกลับมีไม่มากนัก บล็อกทองแดงในเวอร์ชันก่อนก็มีลวดลายไม่ค่อยเยอะ สีสันก็เข้ากับบล็อกในเซ็ตอื่นไม่ค่อยได้ ผู้เล่นนิยมใช้ทองแดงในการสร้างเป็นไอเทมกล้องส่องทางไกล ไม่ก็ไอเทมกระจกทึบมากกว่าการเอามาอัดเป็นบล็อกเสียอีก ส่วนบล็อกหินเถ้าภูเขาไฟก็มีสถานการณ์ที่ไม่ต่างกันมาก ด้วยลวดลายที่กลมกลืนกับอะไรก็ไม่ค่อยได้ แล้วยังใช้สร้างอุปกรณ์อื่นเหมือนอย่างทองแดงก็ไม่ได้ด้วย ยิ่งทำให้บล็อกนี้ถูกมองข้ามไปเลย การตัดสินใจเพิ่มรูปแบบของบล็อกเหล่านี้จึงถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีของทีมผู้พัฒนาเกมมายคราฟ บล็อกเหล่านี้จะได้ไม่ถูกมองข้ามเหมือนในเวอร์ชันก่อนหน้า และผู้เล่นอย่างเรา ๆ ก็จะได้บล็อกแบบใหม่มาใช้งานด้วย ผมว่าผมควรเริ่มแนะนำบล็อก Tuff ในรูปแบบและลายต่าง ๆ ก่อน เอาล่ะครับ หากผู้อ่านพร้อมแล้ว พวกเราก็มาเริ่มกันด้วย Chiseled tuff, Polished tuff, Tuff brick และ Chiseled tuff brick ทั้งหมดนี้สามารถสร้างขึ้นได้ด้วยการนำไปตัดในเครื่องตัดหิน บล็อกหินเถ้าภูเขาไฟหนึ่งบล็อกเมื่อนำไปตัดลายแล้วก็จะไปออกมาเป็นบล็อกสามแบบนี้เพียงบล็อกเดียว หรือถ้าใครขยันหน่อยก็สามารถลงทุนลงแรงไปบุก Trial Chambers เพื่อขุดบล็อกเหล่านี้กลับมาก็ได้ครับ นอกจากสองวิธีนี้แล้ว บล็อก Chiseled tuff ยังมีวิธีสร้างอีกวิธีหนึ่ง คือการนำเอาบล็อก Tuff slab สองชิ้นไปใส่ใน Creafting Table ก็ได้ ทั้งบล็อก Tuff, Polished tuff และ Tuff brick ต่างก็สามารถนำไปสร้างเป็นขั้นบันไดกับรั้วหินได้อีกทีหนึ่ง ทว่าจะมีบล็อกอีกสองชนิดที่ไม่สามารถนำมาตัดเป็นบล็อกชิ้นเล็กชิ้นน้อยอันอื่นอีกก็คือบล็อก Chiseled tuff กับบล็อก Chiseled tuff brick ถึงจะน่าเสียดาย แต่ผมก็เข้าใจพวกเขานะครับ เพราะทั้งสองบล็อกนี้มีลวดลายมากเกินไป ถ้าเอาไปทำอย่างอื่นอีกคงเพิ่มงานมากเลย ในบรรดาบล็อก Tuff หลายรูปแบบนี้ ผมชอบบล็อก Chiseled tuff ที่สุดแล้วครับ ก็ดูลวดลายอันสลับซับซ้อนของมันสิ ถ้าเป็นบล็อกนี้ผมก็สามารถเอามาทำเป็นพื้นบ้านได้สบายเลย น่าจะช่วยเพิ่มความมีมิติให้พื้นบ้านของผมได้ดีทีเดียว ต่อไปเป็นรูปแบบของบล็อกทองแดง ได้แก่ Chiseled Copper และ Copper grate อย่าพึ่งตกใจไปนะครับบล็อกมันไม่ได้มีแค่นี้ เพราะพวกเรายังสามารถนำบล็อกทองแดงไปสร้างเป็นประตูและกับดักได้แล้วด้วย แถมอีกอย่างคือพวกเราจะมีบล็อกแหล่งกำเนิดแสงแบบใหม่แล้วนะครับ ไล่มาตั้งแต่บล็อก Chiseled copper ซึ่งมีลายเป็นกากบาทขนาดใหญ่คู่กับสี่เหลี่ยมที่อยู่ตรงกลาง บล็อกนี้ดูเป็นบล็อกที่ทึบที่สุดแล้วครับในบรรดาบล็อกจากทองแดงที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ในเวอร์ชันนี้ ต่อมาคือบล็อก Copper bulb ที่ดูเหมือนบล็อกตกแต่งทั่วไป แต่เมื่อมีอะไรไปเปิดการทำงาน มันก็จะส่องสว่างขึ้นมา โดยมีระดับความสว่างที่ต่างกันออกไป (ขึ้นอยู่กับปริมาณสนิมที่เกาะบล็อก ยิ่งมีสนิมมากแสงยิ่งสว่างน้อยลง) บล็อกที่ดูเหมือนตาข่ายมากกว่าบล็อกอย่าง Copper grate จะมีรูเต็มบล็อกไปหมด เมื่อดูไปดูมาก็น่าเอามาทำเป็นมุ้งลวดดีเหมือนกันนะครับ ทั้งหมดที่ผมกล่าววมานั้นสามารถมีรูปแบบของมันเองได้อีกถึงแปดแบบ โดยเป็นการคละไปมาระหว่าง มีการทาขี้ผึ้งหรือไม่ทา แล้วก็ ปริมาณสนิทที่เกาะอยู่ทั้งสี่ระดับ ผู้เล่นสามารถที่จะปรับแต่งรูปแบบเหล่านั้นได้เอง วิธีก็คือ ถ้าอย่างให้มีสีเขียวของสนิมเพิ่มขึ้นก็เอาไปตั้งไว้กลางแจ้งแล้วรอให้ระดับสนิมเพิ่มขึ้น ถ้าไม่อยากได้สนิทก็ให้ใช้ขวานขูดออก, หากต้องการจะให้สีของทองแดงอยู่อย่างนั้นต่อไปก็ให้ใช้ขี้ผึ้งทาเพื่อคงสภาพ เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย พออ่านบทความของผมจบแล้ว ผู้อ่านรู้สึกชอบหรือไม่ชอบบล็อกแบบไหนกันบ้างครับ แต่ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ ไว้หลังจากผู้อ่านลองไปเล่นเกมมายคราฟและสัมผัสกับบล็อกเหล่านี้ด้วยตัวเองค่อยตัดสินใจทีหลังก็ได้ ถึงตอนนั้น บทความของผมก็คงจะมีเขียนต่อมาอีกมาก ไว้พบกันในบทความถัดไปนะครับ สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 5 พ.ย. 67
อ่าน
ร่วมผจญภัยกันใน Trial chambers | Minecraft 1.21
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าดาวเด่นของการอัปเดตเกมมายคราฟเวอร์ชัน 1.21 นี้ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตตัวใหม่ ไม่ใช่ไอเทมแปลกตาที่ถูกเพิ่มเข้ามา ไม่ใช่แม้กระทั่งบล็อกตกแต่งมากหน้าหลายตา แต่เป็นสถานที่แห่งการผจญภัยแห่งใหม่ที่รอคอยผู้เล่นให้มาค้นพบ "Trial Chambers" สิ่งก่อสร้างใต้ดินอันใหม่อย่าง Trial Chambers เป็นสถานที่ที่พบได้ในชั้นหิน Deepslate หรือก็คือความลึกระดับที่ 0 ลงไป ยกเว้นในไบโอม Deepdark นะครับ เพราะเดี๋ยวระบบเกมคงจะตีกันยกใหญ่ ลองคิดสภาพเจ้า Warden ที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยทักษะลมของ Breeze สิครับ ถ้าเจ้าสองตัวนี้ตีกันก่อนที่ผู้เล่นจะเข้าไปแถวนั้น ก็คงไม่เหลืออะไรให้ผู้เล่นแล้วล่ะมั้ง โครงสร้างภายในของมันจะสลับซับซ้อนพอ ๆ กับ Stronghold ซึ่งเป็นที่ตั้งของประตูมิติไปสู่เมืองลอยฟ้า The End ถึงกระนั้นบล็อกที่ใช้ในการสร้างสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้ดูเก่าแก่เท่า กลับกันบล็อกแต่ละบล็อกในที่แห่งนี้ทั้งดูสะอาดสะอาด ทั้งดูสดใหม่ ราวกลับว่ามีใครบางคนคอยดูแลสถานที่แห่งนี้มาตลอด ด้วยการเลือกเอาบล็อกทองแดงกับบล็อก Tuff แปรรูปในแบบต่าง ๆ มาใช้ตกแต่ง ความมันเงาที่ไม่เคยเลือนหายไปของมันทำให้ที่แห่งนี้ดูเหมือนถูกสร้างขึ้นมาไม่นาน การที่ผมเขียนว่าสถานที่แห่งนี้มีความสลับซับซ้อนมาก ก็ไม่ใช่เรื่องโกหกแต่อย่างใด การจัดเรียงตำแหน่งห้อง รวมไปทั้งองค์ประกอบภายในห้องใหญ่ที่มีบันไดนำไปสู่ชั้นลอยข้างบนได้อีก ยิ่งเป็นเหตุให้ที่แห่งนี้ดูไม่มีที่สิ้นสุดเลยแม้แต่น้อย Trial Chambers แต่ละแห่งยังมีหน้าตาไม่เหมือนกันอีกนะครับ ทั้งนี้ก็มาจากผลของการจัดเรียงตำแหน่งของอัตโนมัติของระบบในเกมมายคราฟ โดยทั่วไปแล้ว ผู้เล่นก็จะได้เห็นสามโซนหลัก ๆ คือ โซนกับดักที่จะมีเครื่องพ่นลูกธนูกับลูกบอลไฟมาที่ผู้เล่นเมื่อเดินผ่าน โซนรางวัลที่จัดไว้ดึงดูดผู้เล่น แล้วก็โซนต่อสู้ที่ผู้เล่นจะได้พบกับ Hostile Mob ตัวใหม่ ช่วงโถงทางเดินตามแต่ละห้องเหล่านั้น เป็นโอกาสดีที่ผู้เล่นจะได้เก็บเอาของชิ้นเล็กชิ้นน้อยกลับบ้านไป สำหรับผมแล้ว เทียนไขทั้งหลายที่ตั้งอยู่โดยรอบ กระถางต้นไม้ที่ใส่แต่พุ่มไม้แห้งพวกนี้ดูเป็นอะไรที่น่าเอากลับบ้านจริง ๆ เลย นอกจากนั้น ภายในถังตามมุมห้องก็ยังมีไอเทมอย่างขี้ผึ้ง หรือบล็อกไม้ต่าง ๆ ให้ผู้เล่นนำไปใช้ได้อีกด้วย ฉะนั้นผู้เล่นคนไหนที่ไม่ถนัดการต่อสู้แบบเผชิญหน้าก็สามารถให้เพื่อน ๆ รับหน้าที่กำจัดศัตรูแล้วหลบมาเก็บของแบบเงียบ ๆ ก็ได้ครับ รู้กันหรือไม่ครับว่า ผู้เล่นสามารถทราบถึงศัตรูที่เราจะสู้ด้วยล่วงหน้า โดยการสังเกตที่พื้นใต้ Spawners ว่ามันทำจากอะไรกันบ้าง แน่นอนว่าฐานของ Spawners ต้องทำมาจากวัสดุเดียวกันและหาได้ง่ายภายในสถานที่แห่งนั้นอย่างบล็อกทองแดงอยู่แล้ว ด้านข้างบล็อกทองแดงนั้นทั้งแนวตั้งและแนวขวางก็มีบล็อกทองแดงอีกชนิด ส่วนอีกสี่บล็อกในแนวทแยงมุมจะเป็นส่วนหลักที่สามารถบอกได้ว่าห้องนั้นจะมีศัตรูชนิดใดปรากฏขึ้น ตัวอย่างเช่น หากบล็อกทั้งสี่เป็นน้ำแข็ง แสดงว่าผู้เล่นจะได้ต่อสู้กับ Strays (โครงกระดูกประเภทน้ำแข็ง) หากบล็อกทั้งสี่มุมเป็นบล็อกหินทราย แสดงว่าผู้เล่นจะได้ต่อสู้กับ Husks (ซอมบี้ทะเลทราย) หากสี่มุมเป็นบล็อกมอสผู้เล่นก็เตรียมพบกับสไลม์ได้เลย และตัวอย่างสุดท้าย หากสี่มุมตรงนั้นเป็นบล็อก Tuff ผู้เล่นจะได้พบกับสิ่งมีชีวิตตัวใหม่ที่เกิดมาเพื่อใช้งานสถานที่แห่งนี้โดยเฉพาะ "Breeze" นั่นเองครับ นอกจากตัวอย่างเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีศัตรูอีกมากที่ผมไม่ได้กล่าวถึง ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะว่าผมอยากจะให้ผู้อ่านลองไปสัมผัสกับความตื่นเต้นที่จะได้เจอศัตรูในสถานที่แห่งใหม่นี้ด้วยตัวเองครับ บอกไปก็หมดสนุกกันพอดีสิ ไว้หลังต่อสู้ค่อยมาบอกคนอื่น ๆ ก็ได้นะครับว่าบล็อกอื่นที่ผมไม่ได้เขียนไว้มีอะไรกันบ้าง ห้องที่ผมคิดว่าน่าสนใจที่สุดคงจะเป็นห้องลับตามห้องย่อยต่าง ๆ ที่จะรวมเอาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้เล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกล่องเก็บของ เตียงสำหรับให้ผู้เล่นเซฟที่อยู่ และกล่องสมบัติ คงจะดีไม่น้อยถ้าผมสามารถพบห้องนั้นได้โดยไม่ต้องพบเจอกับ Hostile Mob ระหว่างทาง แต่ผมว่าผมก็คงจะขอมากจนเกินไป ดวงการหาห้องอะไรพวกนี้ของผมยิ่งไม่ค่อยดีเสียด้วยสิ ผู้เขียนเองก็เคยเข้าไปเล่นในนั้นกับกลุ่มเพื่อนแล้วล่ะครับ ขอบอกเลยว่ายิ่งมาเป็นกลุ่มใหญ่ยิ่งสนุก ผมหวังว่าแฟนเกมมายคราฟที่อ่านบทความของผมแล้วตามไปเล่นจะรู้สึกสนุกเหมือนผมบ้างนะครับ เอาล่ะพวกเรามาจบบทความนี้กันดีกว่า ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านเลยนะครับที่เข้ามาร่วมผจญภัยไปด้วยกัน ไว้พบกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 5 พ.ย. 67
อ่าน
Bogged โครงกระดูกพันธุ์ใหม่ | Minecraft 1.21
หลังจากเกมมายคราฟเวอร์ชัน 1.21 ถูกอัปเดตให้ผู้เล่นเข้ามาเล่นกันได้สักพักแล้ว ผมว่านี่ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะได้มารู้จักกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เริ่มต้นจาก สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่จะถูกเพิ่มเข้ามา และะผมก็ได้เลือกสิ่งมีชีวิตที่หน้าตาเหมือนโครงกระดูกเจ้าเก่าเจ้าเดิมอย่าง Bogged มาแนะนำให้ทุกท่านรู้จักมากขึ้นครับ อย่างที่รู้กันดีว่าการตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตใหม่ของทีมผู้พัฒนาเกมมายคราฟก็จะตรงไปตรงมามาก ชื่อของโครงกระดูกพันธุ์ใหม่นี้ก็เช่นกัน ในเมื่อมันมีธีมเกี่ยวกับไบโอมป่าโกงกางและไบโอมบึง ก็ตั้งชื่อให้มันมีธีมเดียวกันซะเลย ชื่อของเจ้า Bogged จึงเกิดขึ้นมา ซึ่งคำนี้แปลว่า ติดโคลนตม หรือจมอยู่ในโคลน ตรงตัวมากเลยใช่มั้ยครับ แล้วยิ่งถ้าพวกเราเห็นรูปร่างลักษณะของมันในตัวเกม ก็จะยิ่งคิดว่าชื่อนี้เหมาะสมกับมันเข้าไปใหญ่ ลักษณะภายนอกของมันไม่ต่างอะไรจากโครงกระดูก "Skeleton" ที่พวกเรารู้จักกันปกติ เพิ่มเติมด้วยมอสสีเขียวเข้มที่ปกคลุมตามไหล่และหัวกระโหลกของมัน กับ เห็ดดอกเล็กดอกน้อย มือข้างใดข้างหนึ่งถึงคันธนู เตรียมพร้อมจะโจมตีผู้เล่นทุกคนที่เข้าไปในรัศมีการมองเห็นของมัน ดอกเห็ดที่อยู่บนหัวเหล่านั้น ไม่ใช่เพียงแต่เห็นของตกแต่งเท่านั้นนะครับ แต่ยังเป็นแหล่งอาหารชั้นดีสำหรับผู้เล่นคนไหนที่กล้าเสี่ยงเข้าไปประชิดตัวมัน เพียงแค่ผู้เล่นนำกรรไกรไปตัดเอาเห็ดบนหัวมันออก (กรรไกรชนิดเดียวกันกับที่เอาไปตัดขนแกะ) ก็จะได้เห็ดเหล่านั้นมาทำซุปเห็ดกินกันแล้ว โดยมีโอกาสที่จะได้ทั้งเห็ดสีแดงและเห็ดสีน้ำตาล ชนิดละ 1 - 2 ดอก น่าเสียดายที่เห็ดบนหัวของมันจะไม่ผุดขึ้นมาอีกแล้วหลังจากถูกตัดไป ไม่งั้นคงมีผู้เล่นบางคนคิดจะทำฟาร์มเห็ดแน่เลยครับ สถานที่ปรากฏตัวของเจ้าตัวนี้มีอยู่สองที่คือ ไบโอมบึง (สถานที่โดยธรรมชาติ) ทั้งไบโอมบึงแบบปกติกับไบโอมบึงแบบที่มีป่าโกงกาง และภายในสิ่งก่อสร้างใหม่อย่าง Trial Chambers คู่กับ Breeze ที่เป็น Hostile Mob ตัวใหม่เหมือนกัน โอกาสที่มันจะปรากฏออกมาจะน้อยกว่าโครงกระดูกทั่วไปครึ่งหนึ่ง แต่ความอันตรายของมันก็จะมีมากกว่า เพราะนอกจากมันจะสามารถยิงลูกธนูมาที่ผู้เล่นได้แล้ว ลูกธนูที่ว่านั้นก็ยังอาบยาพิษมาอีก (พิษอยู่ได้นาน 4 วินาที ทำให้เสียค่าหัวใจหนึ่งดวงครึ่ง) ด้วยความรุนแรงของการโจมตีนี้ ทำให้ช่วงเวลาการ Cooldown ของมันนานกว่า Skeleton ถึงวินาทีครึ่ง เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้เล่นเกิดความลำบากในการต่อสู้กับมันแล้วล่ะครับ สิ่งที่เจ้า Bogged เป็นรองพี่น้องโครงกระดูกของมันก็คงจะหนีไม่พ้นค่าหัวใจที่มีเพียง 8 ดวง (โครงกระดูกปกติมีค่าหัวใจ 10 ดวง) แล้วก็ความจริงที่ว่ามันสามารถได้รับค่าความเสียหายจากการจมอยู่ในบล็อก Powder snow ด้วย ต่างจากโครงกระดูกชนิดอื่น ๆ ที่เมื่อติดอยู่ในบล็อกเดียวกันแล้วจะกลายร่างเป็น Strays หรือโครงกระดูกแช่แข็ง แต่ถึงอย่างนั้นการที่มันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้เปรียบกว่าตัวผู้เล่น ก็สามารถทำให้มันกลายเป็นศัตรูที่น่ากลัวอีกตัวหนึ่งได้แล้ว พอจัดการตัวที่ท้าทายความสามารถขนาดนี้ ผู้เล่นก็ควรจะได้รางวัลที่สมน้ำสมเนื้อหน่อย ฉะนั้นเมื่อเราจัดการมันได้ก็จะมีโอกาสประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ที่จะได้รับไอเทมลูกธนูชุบพิษกันเลยนะครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ผู้อ่านคิดว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ชื่อ Bogged นี้จะเพิ่มความท้าทายให้การเล่นเกมให้คุณหรือไม่ สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่ามันไม่ค่อยมีอะไรใหม่เท่าไหร่ แต่ก็ยังดีที่มี Mob ตัวอื่นถูกเพิ่มเข้ามาในเกม ผู้อ่านคิดเห็นเหมือนหรือต่างจากผมยังไง ก็มาลองพูดคุยกันได้นะครับ บทความนี้ก็ต้องจบลงแล้ว ขอขอบคุณที่กดเข้ามาอ่านกันนะครับ ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 3 พ.ย. 67
อ่าน
พบกับ Breeze เจ้าแห่งลม | Minecraft 1.21
ถ้าให้เลือกระหว่าง Hostile Mob สองตัวที่ถูกเพิ่มเข้ามาในการอัปเดตใหญ่ของเกมมายคราฟเวอร์ชัน 1.21 นี้ ผมก็คงจะเลือก Breeze มากกว่า Bogged อย่างแน่นอน (ไม่นับเจ้า Creaking ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในการอัปเดตย่อย) ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะว่ามันมีความสามารถที่แปลกใหม่กว่า มันไม่ได้เอารูปลักษณ์มาจาก Mob ตัวอื่นที่อยู่ในเกมมาก่อนแล้วจนเห็นได้ชัดขนาดนั้น แถมมันยังมาคู่กับสิ่งก่อสร้างชนิดใหม่อีกด้วยครับ เห็นผมเขียนอวยขนาดนี้ ก็ใช่ว่าผมจะเขียนแต่บทความของ Breeze หรอกนะ หากผู้อ่านสนใจ จะตามไปอ่านบทความของ Bogged โครงกระดูกสายพันธุ์ใหม่ด้วยก็ได้นะครับ เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ในบทความนี้พวกเราจะมาดูรายละเอียดต่าง ๆ ของ Hostile Mob ตัวใหม่อย่าง ฺBreeze กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่างลักษณะ พฤติกรรม ความสามารถพิเศษ รวมไปถึงไอเทมที่ผู้เล่นจะได้หลังจากพิชิตมันได้แล้ว มาเริ่มกันที่ลักษณะภายนอกกันก่อนดีกว่า เมื่อมองดู Breeze แล้วผู้อ่านนึกถึงสิ่งมีชีวิตตัวอื่นอีกไหมครับ ใช่แล้ว มันมีโครงสร้างพื้นฐานคล้ายตัวพ่นไฟจากต่างมิติ "Blaze" นั่นเองครับ โครงสร้างเหล่านั้นประกอบไปด้วย หัวเหลี่ยม ๆ ที่ลอยได้ แล้วก็มีแท่งอะไรซักอย่างอยู่ใต้หัวนั้น ความเป็นเอกลักษณ์ของ Breeze ก็คือเอฟเฟกต์สีขาวคล้ายลมที่ล้อมรอบตัวมัน ไหนจะมีตัวสีฟ้าที่ตัดกับสถานที่ที่มันอยู่ซึ่งเต็มได้ด้วยสีส้ม และยังจะมีคิ้วหนา ๆ อันสะดุดตานั่นอีก ไม่ว่าจะมองยังไง ผมก็อดถูกใจหน้าตาของมันไม่ได้เลยล่ะ เราจะพบมันได้ในสถานที่เดียวเท่านั้น นั่นคือสิ่งก่อสร้างใหม่ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาอย่าง Trail chambers ซึ่งจะช่วยนำเอาความสามารถของมันมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขียนแบบนี้ผู้อ่านอาจจะนึกภาพตามไม่ออก ก่อนอื่นผมต้องแนะนำความสามารถพิเศษของมันให้ทุกท่านแล้วล่ะครับ ความสามารถของ Breeze คือการปล่อย Wind charge ออกไปที่ตัวเป้าหมาย ตัวความสามารถเองไม่ค่อยทำอันตรายอะไรนัก ทว่าผลที่ตามมาอาจาทำให้ผู้เล่นเสียค่าหัวใจไปมาก เนื่องจากหลังถูก Wind charge แล้ว เป้าหมายจะกระเด็นไปไกลหลายบล็อก ส่งผลให้ได้รับความเสียหายจากการตกจากที่สูง มากไปกว่านั้น บริเวณโดยรอบ Trial Chambers ยังเต็มไปด้วยกับดักมากมายที่จะถูกเปิดก็ต่อเมื่อถูก Wind charge พุ่งเข้าใส่ แต่ก็แน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดที่ผู้เล่นไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ ผู้เล่นจะลองหลบความสามารถของมันดูก็ได้ หรือจะยืนหยัดเอาอาวุธของตัวเองไปตี Wind charge ที่พุ่งเข้าหาก็ได้ เพราะเมื่อเราตีถูก Wind charge มันก็จะเด้งกลับไป คล้ายบอลไฟที่ Ghast ปล่อยออกมานั่นเอง หากสู้จนชินแล้ว การจะตีสวนกลับไปก็จะไม่ยากเท่าที่คิดครับ ส่วนรางวัลจากการพิชิตเจ้าแห่งลมตัวนี้ คือไอเทม Breeze rods ประมาณ 1 -2 แท่งเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างไอเทมอื่นต่อไป พฤติกรรมของ Breeze เมื่อไม่ได้อยู่ใกล้ผู้เล่น ก็จะลอยไปเรื่อยเปื่อย แต่ก็จะลอยไม่ห่างจากพื้นดินมาก จะมีอยู่บ้างบางครั้งที่มันจะทำตัวเหมือนจะลอยขึ้น (ผมคิดว่ามันเหมือนจะเป็นการกระโดดโดยใช้ความสามารถ Wind charge ของตัวมันเองมากกว่า) ตอนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ใกล้มันในรัศมี 16 บล็อกก็ดูจะเป็น Mob ที่ไม่น่ากลัวอยู่หรอก ทว่าเมื่อเกินเข้าไปในเขตของมันเมื่อไหร่ล่ะก็ มันจะเริ่มโจมตีในทันที และด้วยความสามารถในการลอยได้ของตัวมันเอง ทำให้มันไม่ได้รับค่าความเสียหายใด ๆ จากการตกจากที่สูง นั่นยิ่งเป็นข้อได้เปรียบในการต่อสู้ระหว่างมันกับผู้เล่นเลยล่ะครับผู้อ่านอยากลองไปเผชิญหน้ากับเจ้าแห่งลมอย่าง Breeze บางไหมครับ ขอรับรองไว้เลยว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่แน่นอน หลังจากอ่านบทความนี้จบจะลองไปพิชิตมันดูก็ได้นะครับ สำหรับบทความนี้ คงจะต้องจบลงแล้ว ไว้เจอกันใหม่ในบทความถัดไป สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบทั้งหมดมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 3 พ.ย. 67
อ่าน
หรือ Minecraft เป็นเกมระทึกขวัญนะ ??
ตั้งแต่เล่นเกมมายคราฟมา ก็มีการอัปเดตฟีเจอร์ชวนให้แฟนเกมได้ตื่นเต้นกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Hostile Mob แบบดั้งเดิมอย่างซอมบี้กับ Creeper ไปจนถึงตัวล่าสุดที่ขณะที่ผมเขียนบทความนี้อยู่ก็ยังไม่ถูกเพิ่มเข้ามาอย่าง Creaking Mob สิ่งมีชีวิตที่จ้องจะโจมตีผู้เล่นอย่างไม่เลือกหน้าเหล่านี้ แม้จะช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับเกมได้เป็นอย่างดี แต่มันก็อาจทำให้ผู้เล่นหลายคนต้องระแวงหน้าระแวงหลังกันเลยทีเดียว มีผู้อ่านท่านไหนยังจำช่วงเวลากลางคืนครั้งแรกของเกมมายคราฟโหมดปกติได้บ้างครับ สำหรับคุณแล้ว มันเป็นความทรงจำที่ดีหรือว่าแย่กัน สำหรับตัวผมเองแล้วนั้น มันเป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยน่านึกถึงเท่าไหร่นักหรอก ช่วงเวลากลางคืนครั้งแรกในเกมมายคราฟของผม เนื่องจากผมอยากที่จะเล่นให้เป็นก่อนที่จะไปร่วมเล่นกับเพื่อน ๆ เป็นกลุ่ม ผมก็ต้องเล่นอยู่ตัวคนเดียวไปก่อน ไม่มีใครมาคอยบอกว่าควรต้องทำอะไรก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ที่จริงแล้วก็พอรู้จากคลิปวิดีโอแนะนำเกมอยู่หรอก แต่ก็นึกเอาเองว่ามันจะสักแค่ไหนกันเชียว พอตกดึกเท่านั้นแหละ ก็ทำให้ผมตระหนักได้ว่า ผมประเมินความสามารถในการต่อสู้ของตัวเองสูงไป และการยืนนิ่งกลางแจ้งนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ ตอนแรกที่ Hostile Mob เริ่มเกิดแล้วแห่เข้ามา ผมก็ยังจัดการได้เป็นอย่างดี ถึงจะโดนโจมตีบ้าง แต่ก็ยังพอถอยไปตั้งหลักได้ ซอมบี้ก็ทำอันตรายผมไม่ค่อยได้ แมงมุมก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ส่วน Creeper ผมแค่หลักเลี่ยงการระเบิดของมันก็พอ กระทั่งมีสิ่งมีชีวิตอยู่ชนิดหนึ่งที่ผมเข้าประชิดตัวไม่ได้เลย ผู้อ่านลองทายสิครับว่าคือตัวอะไร เฉลยนะครับ เจ้าตัวที่เป็นปัญหาของผมที่สุด คือ Skeleton ผมในตอนนั้นไม่เพียงเข้าไปจัดการมันไม่ได้ แถมยังโดนโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่องอีก ทำให้ช่วงเวลากลางคืนครั้งแรกของผมต้องจบลงที่โดนโจมตีเสียยับเยิน ใน Overworld ก็ว่าแย่แล้ว ในมิติ Nether ก็แย่กว่า ครั้งแรกที่ผมเข้าไปเยือนมิติ Nether ผมแทบไม่มีเวลาได้หยุดพัก เพราะ Mob ในนั้นจ้องจะโจมตีผมแทบทุกตัว โดยเฉพาะ Ghast เจ้าก้อนขาว ๆ ลอยได้ที่พ่นบอลไฟมาระเบิดทั่วพื้นที่ที่ผมยืนอยู่ ที่หนักยิ่งกว่าคือตอนย่างเข้าไปในป้อมปราการของมิตินั้น พวกโครงกระดูกสีดำมันโจมตีรุนแรงและทำให้ค่าสถานะผมผิดปกติ เจ้า Blaze ที่ควรจะเป็นเป้าหมายหลักของผมก็กลับโจมตีผมได้มากกว่าที่ผมโจมตีมัน ทั้งหมดนี้เิกดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนผมจำวิธีการต่อสู้ของพวกมันได้ ผมจึงเอาชนะและได้ไอเทมตามต้องการกลับคืนมา ยังไม่จบหรอกนะครับ ในมิติสุดท้ายที่ผมต้องไปประชิดอย่างมิติ The End ก็ยังมีอุปสรรคมากมายเข้ามาหาผมอยู่เรื่อย ไม่ต้องพูดถึง Ender Dragon เลย เจ้านั่นเป็นตัวปัญหาแน่นอนอยู่แล้ว ทั้งระยะการโจมตีที่กว้าง ทั้งความรุนแรงในการโจมตี ไหนจะมีพวก Enderman ที่ระหว่างต่อสู้กับเจ้ามังกรอยู่นั้น ผมจะหันหน้าไปมองตาของมันอยู่บ่อย ๆ พอมองตาเข้าไปนี่แหละเริ่มกลายเป็นเรื่องยุ่งไปแล้วครับ นี่เป็นเพียงแค่ Hostile Mob ช่วงแรก ๆ ของเกมเท่านั้นนะครับ เนื่องจากเกมมายคราฟมีการพัฒนาไปในทุกปี ทำให้มีสิ่งมีชีวิตจ้องจะโจมตีเราเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นพวก Drowned ซอมบี้น้ำที่นาน ๆ ทีจะเอาตรีศูลปาใส่ผู้เล่น ทำเอาการดำน้ำที่อันตรายอยู่แล้วยิ่งอันตรายเข้าไปอีก, พวก Guardian ปลาปักเป้าน้ำพลังจิตที่ถ้าผู้เล่นไม่ได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ก็อย่าหวังว่าจะได้เข้าไปในถิ่นของพวกมันเลย เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาทางทีมผู้พัฒนาเกมมายคราฟก็ได้แนะนำอสูรผู้รักษาเมืองใต้ผืนดินอย่าง The Warden ให้พวกเราได้รู้จัก ขอบอกเลยว่า เจ้าตัวนี้แหละของจริงครับ เพราะการโจมตีของมันมีทั้งระยะใกล้ที่เป็นการโจมตีแบบกายภาพ และการโจมตีระยะไกลที่เป็นการใช้คลื่นเสียงดีดให้ผู้เล่นกระเด็นตกจากที่หลบภัย แน่นอนว่าผู้เล่นเกินครึ่งที่เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้หมายหัวไว้ก็ไม่รอดกันซักคน ล่าสุดก็มี Hostile Mob ประจำไบโอมใหม่อย่าง Creaking ที่ลอบโจมตีทุกครั้งที่ผู้เล่นไม่ได้มองมันอยู่ ไม่ว่าจะยังไง การเล่นเกมนี้ก็ดูจะมีมากกว่าการเป็นเกมผ่อนคลายธรรมดาจริงไหมครับ ก็การเอาชีวิตรอดผ่านตอนกลางคืนยังยากขนาดนี้แล้ว คงบอกว่าผ่านมาได้อย่างสบาย ๆ ก็คงเป็นการโกหกที่มากไปหน่อย (ยกเว้นผู้เล่นโหมด Creative กับโหมด Peaceful ที่ไม่มีตัวอะไรมาโจมตีอยู่แล้ว สบายใจได้) หากยังมีคนคิดว่าเกมนี้ก็ไม่เท่าไหร่อยู่ดีนี่ ให้ลองเล่นเกมนี้คนเดียวแล้วเปิดเสียงเกมไว้นะครับ เพราะว่าองค์ประกอบเล็กน้อยอย่างเสียงก็เป็นตัวสร้างบรรยากาศเช่นกันไม่ว่าจะเป็นเสียงสะท้อนจากในถ้ำ หรือว่าจะเป็นความเงียบโดยสิ้นเชิงของไบโอม Pale Garden แม้กระทั่งเสียงที่ระบุว่ามี Hostile Mob อยู่ใกล้ ๆ ก็ยังทำผมหวาดระแวงได้เลย แล้วผู้อ่านล่ะครับ มีความทรงจำระทึกขวัญใดที่ได้รับมาจากเกมมายคราฟกันบ้าง สามารถมาพูดคุยกันได้นะครับ ส่วนบทความนี้คงต้องจบลงก่อน ไว้พบกันในบทความหน้านะครับ สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 3 พ.ย. 67
อ่าน
ไบโอมใหม่ "Pale Garden" | Minecraft 1.21
ถ้าช่วงนี้ใครไปตามอ่านข่าวสารจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของทีมพัฒนาเกมมายคราฟ ก็จะได้พบว่าพวกเขากำลังพัฒนาไบโอมแห่งใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งไบโอม ไม่ต้องบอกผู้อ่านก็คงรู้แล้วว่าไบโอมนั้นชื่อ "Pale Garden" มันเป็นไบโอมที่แค่มองก็ดูขนลุกพอ ๆ กับไบโอมใต้ดินที่เป็นแหล่งอาศัยของ Warden กันเลยทีเดียว ในบทความนี้ ผมจะยังไม่เขียนเจาะรายละเอียดของฟีเจอร์ต่าง ๆ ในไบโอม แต่จะมาพูดถึงภาพรวม แรงบันดาลใจในการสร้างไบโอม และความคืบหน้าของการสร้างไบโอมนี้ให้ผู้อ่านรับรู้ แล้วถ้าไบโอมนี้ถูกเพิ่มเข้ามาเมื่อไหร่ พวกเราค่อยมาเจาะลึกเรื่องฟีเจอร์กันนะครับ เมื่อพร้อมแล้ว ก็มาเริ่มกันเลย เรื่องที่ผมอยากพูดอย่างแรก ก็คือลักษณะของไบโอมนี้ที่มีสีหม่น ไม่ฉูดฉาดเหมือนไบโอมอื่น ๆ ในตัวเกม ด้วยการผสมกันเพียงสีเทากับสีน้ำตาลหลายเฉด พร้อมทั้งองค์ประกอบตามธรรมชาติของไบโอมนี้ที่เต็มไปด้วยหญ้าสูงกับเถาวัลย์ ทำให้มันดูไม่มีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืน อย่างน้อยสีเทาน้ำตาลเหล่านั้น ก็ช่วยชูสีฉูดฉาดสีเดียวในไบโอมนี้ อย่าง "สีส้ม" ให้ดูเด่นขึ้นทันตา การเล่นสีแบบนี้แหละะครับที่ทำให้ไบโอมมันน่าสนใจ (ถ้าเราไม่พูดถึงเรื่องสิ่งมีชีวิตกับฟีเจอร์อื่นในนั้นนะ) เพราะไม่ว่าจะมองทางไหน สีส้มก็จะเป็นสีที่เด่นที่สุดในไบโอมแห่งนี้อยู่ดี https://www.instagram.com/p/DBzQzsUJh9n/?igsh=NGl5M3BsbDBtZHVv ว่ากันว่า ทีมผู้พัฒนาเกมตั้งแต่สร้างให้ไบโอมแห่งนี้มีกลไกที่แตกต่างไปจากไบโอมอื่น โดยการไม่ให้มีสิ่งมีชีวิตอื่นเข้าไปในเขตไบโอม Pale Garden ไม่เว้นแต่ Hostile Mob ในช่วงกลางคืน อาจจะฟังดูเหมือนเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับผู้เล่นใช่ไหมล่ะครับ แต่ก็อย่าได้ชะล่าใจไป เพราะแม้ว่าจะไม่มี Hostile Mob นอกไบโอมมาโจมตีเรา ก็ยังจะมี Hostile Mob ตัวใหม่ประจำไบโอมที่จะโผล่มาโจมตีผู้เล่นในตอนกลางคืน แถมวิธีการโจมตีของเจ้าตัวนี้ยังน่าสนใจอีกด้วย ถ้าให้เล่าคร่าว ๆ ก็คือเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้จะไม่โผล่มาให้ผู้เล่นเห็นในตอนกลางวันเลย ทว่าเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเมื่อไหร่ นั่นจะเป็นเวลาที่ผู้เล่นต้องระวังตัวให้มากที่สุด Creaking คือชื่อของมันครับ เมื่อ Creaking ปรากฏตัวออกมาตอนกลางคืน มันจะทำตัวเหมือน Hostile Mob ทุกตัวที่เจอผู้เล่น นั่นคือเข้าไปโจมตี เว้นแต่ความพิเศษของมันนี่สิที่ทำให้น่าสนใจกว่าสิ่งมีชีวิตดุร้ายตัวอื่น คือเมื่อผู้เล่นมองไปที่ตัว Creaking หรือเพียงแค่ Creaking ได้อยู่ในระยะการมองเห็นของผู้เล่น มันก็จะหยุดโจมตีและยืนนิ่งในทันที คล้ายกับรูปปั้นนางฟ้าร้องไห้จากเรื่องเล่าต่างประเทศไม่มีผิด ถึงมันจะนิ่งไปดื้อ ๆ อย่างนั้น ก็ใช่ว่าผู้เล่นจะเข้าไปโจมตีมันได้ง่ายดาย เนื่องจาก Creaking จะได้รับการโจมตีก็ต่อเมื่อ Creaking Heart ของมันถูกทำลาย น่าสนใจใช่ไหมล่ะครับ เกมมายคราฟนี้ก็ขยันเอา Hostile Mob มาเล่นกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 จริง ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นพวกซอมบี้หรือสิ่งมีชีวิตตัวอื่นที่ "สัมผัส" ได้ว่าผู้เล่นอยู่ที่ไหน หรือว่าจะเป็น Warden ที่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของผู้เล่น แล้วนี่ยังจะมี Creaking ที่ต้องให้ผู้เล่น "มองเห็น" มันเท่านั้นจึงจะหยุดโจมตี https://www.instagram.com/p/DBeOsGiRuAv/?igsh=ajltbWZjaTNvYjdu ชื่อ Pale Garden ไม่บอกก็รู้แล้วว่ามันมาจากสีของไบโอมนี้ที่จืดชืดซะเหลือเกิน ทางทีมผู้พัฒนาเกมก็ได้บอกไปแล้วว่า เหตุผลที่พวกเขาทำไบโอมนี้ขึ้นก็เพื่อให้ผู้เล่นบนพื้นดินได้ลองสัมผัสกับความท้าทายแบบใหม่ ใต้ดินก็มีไบโอม Deep dark ไปแล้ว มิติ Nether เองก็ได้รับการอัปเดตไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงบนพื้นดินที่แทบจะพูดได้ว่าเคยเป็นที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้เล่นที่จะได้รับการอัปเดตเอาฟีเจอร์น่าตื่นเต้นนี้ไปบ้างแล้ว สำหรับผู้เล่นท่านไหนที่กังวลว่าตัวเองนั้นยังเล่นไม่เก่ง ไม่อยากไปต่อสู้กับเจ้า Hostile Mob ชนิดใหม่พวกนี้ ก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เพราะ Creaking จะอยู่ในเขตของไบโอมที่มันเกิดขึ้นเท่านั้น จะไม่ไปรุกรานไบโอมอื่นแน่นอน โลกในเกมมายคราฟก็ออกจะกว้างขวาง เพียงแค่ผู้เล่นหลีกเลี่ยงการเดินหลงเข้าไบโอม Pale Garden ในตอนกลางคืน เท่านี้ก็ปลอดภัยแล้ว ขณะที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่ เกมมายคราฟก็กำลังอยู่ในเวอร์ชัน 1.21.4 ช่วงนี้ทีมพัฒนาเกมมายคราฟได้เปิดช่วงทดลองระบบให้ผู้เล่นเข้ามาเล่นแล้วรีวิวว่าดีหรือไม่อย่างไร ควรปรับปรุงที่จุดไหนบ้าง ระหว่างนั้น พวกเขาก็จะประกาศฟีเจอร์ใหม่เล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้พวกเราตื่นเต้นเล่น สุดท้ายก็จะมีการเพิ่มไปโอมนี้ในเกมเวอร์ชัน 1.21.5 ครับ https://www.instagram.com/p/DAoI-XCpT8H/?igsh=NjE1OWx3NTdicWh5img_index=1 ไบโอมนี้มีความน่าสนใจอยู่หลายด้านทีเดียว หลังจากวันนี้ผมก็จะรอต่อไปว่าจะมีฟีเจอร์ไหนถูกเพิ่มเข้ามาใหม่หรือแก้ไขตรงจุดใดบ้าง ส่วนบทความนี้ คงต้องจบลงก่อน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ แล้วเจอกันใหม่ในบทความถัดไป เครดิตภาพ ภาพปก : Instagram / minecraft ภาพประกอบที่ 1 : Instagram / minecraft ภาพประกอบที่ 2 : Instagram / minecraft ภาพประกอบที่ 3 : Instagram / minecraft ภาพประกอบที่ 4 : Instagram / minecraft เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี ! https://www.instagram.com/p/DAeCtx0JGLV/?igsh=MWR5cnB6MnRmdzlvcQ==
Nutto • 3 พ.ย. 67
อ่าน
Minecraft เปลี่ยนรูปแบบการอัปเดต ?!
ในเมื่อทีมผู้พัฒนาเกมมายคราฟตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้เกมนี้เป็นเกมที่ผู้เล่นคนเก่า ๆ ก็เล่นได้ และไม่น่าเบื่อไปสำหรับผู้เล่นรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอยู่ทุกปี ในปัจจุบันผู้เล่นจึงเคยชินกับเทศกาลการอัปเดตครั้งใหญ่ปีละหนึ่งครั้ง กระทั่งหลังจากมายคราฟฉลองวันครบรอบ 15 ปีกันจบแล้ว พวกเขาก็ได้ออกมาแถลงแผนงานรูปแบบใหม่ ที่ทำเอาแฟนเกมก็ต่างคิดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เอาจริงหรือ" ที่คิดว่าเอาจริงหรือนี้ ไม่ใช่เพราะแฟนเกมนึกว่าผู้พัฒนาเกมจะพูดเล่น ถึงอย่างไร การอัปเดตแต่ละอย่างก็ไม่เคยทำเล่น ๆ สักครั้ง ทว่าแฟนเกมทั้งหลาย โดยเฉพาะผม กลับกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเกินไปของเกมต่างหาก Regular Feature Drops เป็นสิ่งที่ทางทีมผู้พัฒนาได้บอกไว้กับพวกเรา แปลเป็นไทยได้ว่า การเพิ่มฟีเจอร์ที่บ่อยขึ้น กล่าวคือ ต่อจากนี้เกมมายคราฟจะไม่มีการปล่อยอัปเดตครั้งใหญ่เหมือนอย่างปีก่อน ๆ อีกแล้ว แต่จะมีการอัปเดตย่อยตลอดทั้งปี การอัปเดตย่อยเหล่านี้ก็จะคละกันไป ทั้งขนาดของการอัปเดต ทั้งระยะห่างในการอัปเดต ทั้งนี้พวกเขาบอกว่าก็เพื่อให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับอะไรใหม่ ๆ มากขึ้น ที่จริงแล้ว ก่อนหน้านั้นพวกเขาก็เคยทดลองอัปเดตย่อยไปแล้วสองครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ปี 2566 (แม้แต่ผมเองก็ไม่ได้สังเกตถึงจุดนั้นเลย) ตอนที่หน้าตาของค้างคาวในเกมมายคราฟถูกเปลี่ยนแปลง และ Decorated pots ถูกปรับให้สามารถใส่ของด้านในได้ ครั้งที่สองนั้นคือการเพิ่มตัวนิ่มกับชุดเกราะสำหรับหมาป่า ในเดือนเมษายน ปีถัดไป ผู้เล่นเองก็จะมีส่วนร่วมในการอัปเดตแต่ละครั้งมากยิ่งขึ้น ผ่านทางการออกความคิดเห็นลงไปใน Official feedback site ของเกม ตัวอย่างการนำความเห็นผู้เล่นที่ผู้พัฒนาเกมนำไปปรับใช้ก็เช่น ต้นซากุระจาก Trails Tales Update กับหมาป่าพันธุ์ต่าง ๆ ประจำแต่ละไบโอมที่พึ่งถูกเพิ่มเข้ามาไม่นานมานี้ ส่วนตัวผมไม่ติดขัดอะไรกับการอัปเดตย่อยแบบนี้เท่าไรนัก ออกจะถูกใจการตัดสินใจนี้เสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะการนำความคิดเห็นของผู้เล่นเข้ามาพิจารณาที่ดูจะตอบโจทย์ของใครหลายคนไม่น้อย เพราะพวกเราก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าผู้เล่นมีความคิดสร้างสรรค์กันมากแค่ไหน บางฟีเจอร์ที่มายคราฟเพิ่มเข้าไป ก็ยังเคยเป็นฟีเจอร์ที่ผู้เล่นเคยทำเป็น Mod มาก่อนเลยครับ และเนื่องจากต่อไปนี้จะไม่มีการอัปเดตประจำปีอีกแล้ว Minecraft Live จึงต้องเปลี่ยนโปรแกรมการฉาย จากปีละครั้งก่อนการเพิ่มอัปเดตมาเป็นปีละสองครั้งเพื่อแจ้งข่าวสารว่ามีฟีเจอร์ไหนถูกเพิ่มเข้ามาบ้าง ซึ่งรายการนี้จะเหมาะกับผู้เล่นที่ต้องการติดตามการเปลี่ยนแปลงจากทางทีมพัฒนาเกมโดยตรง โดยเฉพาะคนอย่างผมที่หากไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มากพอก็แทบจะสังเกตไม่ออกเลย ฉะนั้นผู้อ่านที่เป็นคล้ายผมก็อย่าลืมไปติดตามผ่านช่องทางประกาศข่าวสารเกมมายคราฟกันได้นะครับ การอัปเดตย่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าการอัปเดตเริ่มใหญ่ขึ้นมาอย่างไบโอม Pale Garden ที่กำลังถูกพัฒนาอยู่ในตอนนี้ ก็ขออย่าให้เพิ่มมาเร็วจนเกินไปเลย เพราะบางทีฟีเจอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาเมื่ออัปเดตครั้งก่อน ผมก็ยังสำรวจไม่หมด (สำหรับคนที่เล่นอยู่ทุกวันก็อาจจะชื่นชอบการอัปเดตครั้งใหญ่มากกว่าผมก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นส่วนตัวล้วน ๆ) ความรู้สึกของผมตอนนี้จึงอยู่ระหว่างความดีใจที่ได้บล็อกไม้จากไบโอมใหม่เพิ่มเข้ามาให้ลองเอาไปใช้สร้างสิ่งก่อสร้างที่หลากหลายกว่าเดิม ปนกับความรู้สึกกังวลนิด ๆ ว่าเพิ่มไบโอมใหม่ได้รวดเร็วขนาดนี้ แล้วผมจะตามเล่นยังไงไหว เอาเป็นว่าเรื่องตามเล่นฟีเจอร์ใหม่คงต้องขึ้นอยู่กับตัวผมเองในอนาคตแล้วล่ะ ส่วนผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรก็มาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ เผื่อว่าผมจะได้มุมมองอื่นเพิ่มเติมจากที่เขียนมาในบทความนี้ด้วย ในแถลงการณ์ครั้งนี้ ยังมีการแทรกด้วยประกาศทำเกม Minecraft ที่ใช้เล่นกับเวอร์ชัน PlayStation 5 ไว้ด้วย (ผมไม่มีหรอก แค่อยากจะมาบอกข่าวดีกับผู้อ่านที่มีเจ้าเครื่องนี้ก็เท่านั้นเอง) ซึ่งจะเพิ่มเข้ามาจริง ๆ เมื่อไหร่นั้น ก็ต้องรอการประกาศอีกครั้งหนึ่ง แต่อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าจะมีการเพิ่มเข้ามาแน่นอน จริงไหมครับ แจ้งข่าวกันมาพอหอมปากหอมคอแล้ว บทความต่อ ๆ ไปคงจะกลับมาสู่การเขียนฟีเจอร์ที่ถูกอัปเดตใหม่แล้วสิครับเนี่ย ผมจะทยอยเขียนไปทีละอย่างนะครับ เพราะฟีเจอร์ปลีกย่อยมันก็เยอะจนตาลายไปหมด ผมว่าจบบทความนี้ก่อนดีกว่า แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า ขอขอบคุณครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 2 พ.ย. 67
อ่าน
Bundle มา ... สักที | Minecraft 1.21
จากใจคนที่รอไอเทมนี้มานานเป็นปี ๆ ผมอยากจะตะโกนคำว่า "ในที่สุด" ขึ้นสุดเสียง Bundle นั้นเป็นไอเทมที่ผู้พัฒนาเกมมายคราฟสัญญาว่าจะเพิ่มมันเข้าสู่ตัวเกมมาตั้งแต่ก่อนเวอร์ชัน 1.20 จะเริ่มถูกสร้างเป็นตัวเป็นตนเสียอีก แม้จะจำปีที่ประกาศอย่างแน่ชัดไม่ได้ แต่ผมก็มั่นใจว่าผู้เล่นเกมอย่างพวกเรารอนานมากเหลือเกิน ในที่สุด !! ไอเทมนี้ก็ได้เข้ามาให้ได้ยลโฉมอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อปลายเดือนตุลาคม ปี 2567 สำหรับท่านใดที่ลืมไอเทมนี้ไปสนิทแล้ว หรือท่านใดที่พึ่รู้จักกับไอเทมนี้ครั้งแรก พวกเรามาดูหน้าตารวมทั้งความสามารถของเจ้าไอเทม Bundle กันเถอะครับ Bundle มีหน้าที่เหมือนกับกล่องเก็บไอเทมทั่วไปที่ผู้เล่นมี คือสามารถเก็บไอเทมได้ 16 ชนิด (เดาว่าชนิดละ 1 stack) แล้วความพิเศษของมันน่ะหรือ ก็คือไอเทมที่มันเก็บนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นไอเทมเดียวกันก็ได้ ยกตัวอย่างกรณีของผมที่มักจะเดินสำรวจไบโอมต่าง ๆ และนำกล้าไม้จากแต่ละไบโอมมาปลูกต่อแถวบริเวณบ้าน โดยปกติผมจะได้พันธุ์ไม้มาอย่างมาก 5 สายพันธุ์ แต่เพียงแค่มีไอเทม Bundle ผมก็แทบจะสามารถเก็บพันธุ์ไม้ครบทุกสายพันธุ์ไว้ภายในช่องเก็บไอเทมช่องเดียว แถมยังได้บล็อกไม้มาเพิ่มด้วย https://www.instagram.com/p/DBbnUfERPXW/?igsh=MW9tN3dqbzhqNTVtMw== ถึงผู้อ่านจะไม่ใช่ผู้เล่นแนวเดียวกับผม ก็ยังนำมันมาใช้เก็บไอเทมได้หลายอย่าง จะคละประเภทกันก็ยังได้ เช่น บล็อกไม้สัก 4 บล็อก ใส่รวมกับดอกไม้ 5 - 6 ดอก แล้วก็บล็อกบันได (ตัวอย่างจาก Minecraft Official เชียวนะครับ) มากไปกว่านั้น ไอเทม Bundle ยังสามารถเอามาซ้อนกันได้อีก ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้เล่นในช่วงต้นเกมที่มีทรัพยากรใช้สอยน้อยได้ดีเลยทีเดียว การสร้าง Bundle ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่คุณมีหนัง 1 ผืน กับ ใยแมงมุม 1 เส้น นำมาประกอบกันโดยไม่ต้องมีขั้นตอนใดเพิ่มเติม เพียงเท่านี้ก็ได้ถุงเก็บของมาใช้แล้ว และเพื่อกันไม่ให้ผู้เล่นสับสนว่าถุงเก็บของชิ้นไหนไว้ใช้เก็บอะไรบ้าง ผู้เล่นก็สามารถเอาสีมาย้อมเจ้าไอเทมนี้ได้เหมือนไอเทมจากหนังสัตว์ทั่วไป (มีสีทั้งหมด 17 สี รวมสีธรรมชาติก่อนที่ยังไม่ถูกย้อมด้วย) การใช้งานของไอเทมนี้ ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่เปิดถุงออกมา คลิกไอเทมเข้าไปใส่ในถุง (เมื่อใส่แล้วจะปรากฏภาพพร้อมจำนวนไอเทมนั้นให้เห็น) แล้วก็ปิดถุงได้ หรือถ้าอยากจะเอาออกมา ก็เปิดถุงอีกทีและเลือกไอเทมที่ต้องการจะนำออกมาได้เลย หน้าต่างไอเทม Bundle มีทั้งหมดสองรูปแบบ คือ หน้าตาแบบ Default นั่นคือหน้าตาไอเทมทั่วไปในตอนที่ผู้เล่นไม่ได้แตะต้องมัน และ หน้าตาตอนเปิดถุง โดยถุงจะเปิดกว้างจนแทบจะเต็มหน้าต่างไอเทม เขียนอย่างนี้ผู้อ่านอาจจะนึกหน้าตาของมันไม่ออก เอาเป็นว่าลองดูภาพประกอบที่ผมแนบมาด้านล่างนี้ก็ได้ครับ อย่างที่เห็นว่าเมื่อถุงเก็บของถูกใส่ไอเทมจนเต็มแล้ว ก็จะมีแถบสีแดงพร้อมกับข้อความ "เต็ม" ให้ผู้เล่นเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งแถบสีแดงนี้ก็จะปรากฏบนหน้าต่างไอเทมด้วย คล้ายกับแถบบอกอายุการใช้งานของอุปกรณ์นั่นแหละ ส่วนตอนที่ถุงเก็บของนี้ยังมีของบรรจุมาไม่เต็มนั้น แถบนี้ก็จะเป็นสีม่วงแทน เอาล่ะ แนะนำไอเทมกันมามากแล้ว คราวนี้เรามาพูดคุยเรื่องเส้นทางการอัปเดตของเจ้าสิ่งนี้กันเลยครับ ความเป็นไปของไอเทม Bundle นี้เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2020 (นานเหมือนกันนะเนี่ย) โดยถูกเพิ่มเข้าไปในภาค Java ก่อน มันถูกปรับเปลี่ยนทั้งหน้าตารวมไปถึงฟีเจอร์การใช้งานมาเรื่อย ๆ จนไม่สามารถอัปเดตมาใช้ร่วมกับมายคราฟเวอร์ชันที่พวกเขาสัญญาว่าจะเพิ่มถุงเก็บของได้ (เวอร์ชัน 1.17) ความแปลกอย่างหนึ่งของไอเทมนี้เลย คือมันถูกเพิ่ม ๆ ลบ ๆ ออกจากการใช้งานบ่อยมาก บางครั้งผู้เล่นโหมด Survival ก็สร้างมันขึ้นมาได้ บางครั้งผู้เล่นโหมด Creative ก็ยังเอามันออกมาไม่ได้เลย ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็ขึ้นอยู่กับการอัปเดตย่อยช่วงนั้น ๆ ด้วย แม้จะยังไม่ได้ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างเป็นทางการ แต่ผู้เล่นภาค Java ยังสามารถเข้าถึงไอเทมนี้ได้ผ่านทางการเขียนคำสั่งป้อนลงไปในเกม สุดท้ายในเวอร์ชัน 1.19 ของมายคราฟภาค Java ก็ได้มีการเพิ่ม Bundle ให้ผู้เล่นได้ใช้เสียที หรือถ้าพูดให้ถูกคือเวอร์ชัน 1.19.3 ซึ่งเป็นการอัปเดตย่อย ทว่ายังมีผู้เล่นภาค Bedrock อีกจำนวนมากที่ต้องรอคอยการมาของถุงเก็บของ กระทั่งในเดือนที่ผมกำลังเขียนบทความอยู่นี่เอง ก็ได้มีการเพิ่มไอเทมนี้เข้ามาในการอัปเดตย่อยเช่นเดียวกัน (เวอร์ชัน 1.21.2) https://www.instagram.com/p/DBjk6RXRtUC/?igsh=MXNheGtoajE4MTB3OQ== ถ้าให้พูดตามตรง ผมเชียร์การเดินทางของไอเทมนี้มากยิ่งกว่าการอัปเดตใหญ่ครั้งไหน ๆ ในเกมมายคราฟ นั่นอาจมาจากสาเหตุที่ว่าผมรู้ข่าวเรื่องไอเทมนี้มาเกือบ 5 ปีได้และรอคอยการมาของมันในทุกการอัปเดตใหญ่ พอมันมาผมจึงได้เห็นบทความหนึ่งชิ้นเต็ม ๆ ให้มันไปเลย ไหนมีใครรอการมาของไอเทมนี้เหมือนผมบ้าง ถ้าผู้อ่านมีประสบการณ์เดียวกัน หรือมีประสบการณ์อื่น ๆ เกี่ยวกับไอเทม Bundle ก็สามารถพูดคุยกันได้นะครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความถัดไป สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบที่ 2 และ 4 มาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น ภาพประกอบที่ 1 : Instagram / minecraft ภาพประกอบที่ 3 : Instagram / minecraft เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 2 พ.ย. 67
อ่าน
Hardcore สู่เกมภาค Bedrock | Minecraft 1.21
ความท้าทายที่ขึ้นชื่อที่สุดของเกมมายคราฟคือโหมดหนึ่งของเกมที่มีชื่อเรียกว่า Hardcore Mode มันเป็นโหมดเดียวในทั้งเกมที่ผู้เล่นจะมีชีวิตได้เพียงชีวิตเดียวเท่านั้น และเมื่อชีวิตเดียวนั้นหมดลง ผู้เล่นก็จะไม่สามารถเล่นโลกใบนั้นได้อีกเลย มากไปกว่านั้น โหมด Hardcore นี้ยังเพิ่มความยากด้วยการเพิ่มจำนวน Hostile Mob ให้มาโจมตีผู้เล่นมากและรุนแรงกว่าเดิม อีกทั้งหลอดความหิวของผู้เล่นก็จะลดลงไวขึ้นด้วย ความน่าสนใจของฟีเจอร์เกมในโหมดนี้ ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้เล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายวิดีโอเอาตัวรอดในเกมมายคราฟโหมด Hardcore ทั้งหมด 100 วัน, การสร้างสิ่งก่อสร้างแบบอลังการในโหมด Hardcore และกิจกรรมอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน แน่นอนว่าก็ต้องมีผู้เล่นอีกหลายคนที่อยากจะเล่นโหมดนี้ให้ได้กันอยู่แล้ว เพราะถ้าทำสำเร็จ ก็คงสามารถนำไปป่าวประกาศให้คนรู้ไปทั่วได้อย่างภาคภูมิใจ ทว่าที่ผ่านมาเกมโหมด Hardcore นี้จะเปิดให้ผู้เล่นภาค Java เล่นได้เท่านั้น ส่วนผู้เล่นภาค Bedrock ก็จะเล่นโหมดที่ยากที่สุดได้เพียงโหมด Hard ปกติ ซึ่งนั่นก็เป็นจุดต่างจุดใหญ่อีกจุดที่ผู้เล่นภาค Bedrock ต่างก็รู้สึกเสียดาย ทีมผู้พัฒนาเกมก็คงจะสังเกตเห็นจุดนี้เป็นอย่างดี จึงได้ผลักดันให้เกิดการอัปเดตครั้งนี้ขึ้น อย่างที่ผู้อ่านเห็นบนหัวข้อบทความ พวกเขาได้อัปเดตเกมโหมด Hardcore เข้ามาสู่มายคราฟภาค Bedrock แล้วล่ะครับ กว่าจะเพิ่มโหมดนี้เข้ามาได้ มายคราฟก็มีอายุมาเกินสิบห้าปีไปแล้ว นั่นอาจจะเป็นการรอคอยอันยาวนานสำหรับผู้เล่นภาค Bedrock แต่ผมว่ามันก็คุ้มค่าต่อการรอของใครหลาย ๆ คน อย่างตัวผมเองก็เล่นภาคนี้อยู่ และเมื่อไหร่ที่อยากลองเล่นโหมดสุดแสนจะยากนี้บ้าง ผมก็ได้แก้ขัดโดยการเล่นโหมดยาก แล้วเมื่อชีวิตหายไปหนึ่ง ผมก็จะเปลี่ยนมุมมองของตัวเองให้กลายเป็นแบบ Spectator mode หรือไม่ก็ Creative mode ไปเลย (ไม่ต่างอะไรกับโหมด Hardcore เท่าไหร่ เว้นแต่เอฟเฟกต์บางอย่างที่ให้ผลแตกต่างออกไป) ไม่รู้ว่ามีผู้เล่นคนไหนเคยทำแบบผมบ้าง เพราะนับจากวันที่โหมดยากที่สุดถูกเพิ่มเข้ามามันคงจะกลายเป็นเพียงความทรงจำของผมไปแล้วล่ะครับ การอัปเดตครั้งนี้อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากมายเมื่อเทียบกันกับการอัปเดตเอาไบโอมใหม่ทั้งไบโอมเข้ามาภายในเกม แต่มันก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่พอที่จะทำให้ผู้เล่นภาค Bedrock ได้รู้สึกกระตือรือร้นอยากจะเล่นเกมมายคราฟขึ้นอีกรอบ เพราะผมเชื่อว่าต้องมีผู้เล่นอีกมากที่รอวันนี้มานาน ส่วนตัวผมเอง แม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็คงอยากจะแวะเข้าไปเล่นเกมโหมดนี้บ้างซักรอบสองรอบ แล้วแต่เวลาว่างที่ผมมีอยู่ช่วงนั้น ๆ นอกจากนั้น ผมคงเอาเวลามาเขียนบทความเพื่อส่งต่อข่าวสารเกี่ยวกับเกมมายคราฟให้ผู้อ่านนี่แหละครับ พวกเราจะได้รู้ข่าวไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือใหญ่โตไปพร้อมกัน ไม่แน่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป จะมีอัปเดตที่ถูกใจผู้อ่านกันก็ได้ แล้วผู้อ่านล่ะครับ เป็นผู้เล่นเกมมายคราฟภาคอะไร มักจะเล่นโหมดไหนกันบ้าง สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้เลยนะครับ ผมคงจะต้องจบบทความนี้ไปก่อน ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกัน ไว้พบกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 2 พ.ย. 67
อ่าน
Mob Vote ครั้งแรกของมายคราฟ | Minecraft Journey
Mob Vote กิจกรรมที่ทีมพัฒนาเกมมายคราฟจัดขึ้นทุกปีก่อนการอัปเดตเวอร์ชันถัดไป เพื่อให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เกมในแบบที่ตนชื่นชอบ การโหวตแต่ละครั้งจะมีอยู่สามตัวเลือก ตัวเลือกที่ชนะการโหวตเท่านั้นที่จะถูกเพิ่มเข้าไปในตัวเกมจริง ส่วนที่เหลือน่ะหรือ หากไม่ถูกตัดทิ้งไปเลย ก็จะถูกนำมาใช้ใหม่ในเกมจากเครือเดียวกัน ข้อมูลข้างต้นคือเนื้อหาคร่าว ๆ ของ Mob Vote ที่ผู้เล่นในปัจจุบันรู้จัก แต่ผู้อ่านรู้หรือไม่ครับว่า Mob Vote ครั้งแรกนั้นเป็นอย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง และมีการเปลี่ยนแปลงใดที่เกิดขึ้นในเกมมายคราฟของปีนั้น บทความนี้คงจะยาวหน่อย ฉะนั้นพวกเรามาเริ่มกันเลยครับ ก่อนจะตรงดิ่งไปที่ Mob Vote พวกเรามาดูการอัปเดตเรียกน้ำจิ้มทั้งหลายกันซักเล็กน้อย เริ่มต้นด้วยการปล่อยเกมมายคราฟเวอร์ชันจีน ที่เรียกว่า "我的世界" แปลตรงตัวได้ว่า โลกของฉัน ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่มีทีมพัฒนาแยกไปเป็นอีกทีมเลย ทำให้การอัปเดตหรือการเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ ไม่ตรงกับเวอร์ชันที่เล่นกันอยู่ทั่วโลก ด้วยเหตุนี้เอง การเข้าไปเล่นมายคราฟเวอร์ชันนี้จึงเหมือนเป็นการเล่นมายคราฟเวอร์ชันปกติที่เติม Mod เข้าไปเลยครับ บางทีผมก็อยากลองเล่นดูนะ อยากรู้ว่าสิ่งมีชีวิตจากเกมเวอร์ชันนี้จะมีอะไรที่ต่างไปจากเดิมบ้าง ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ การอัปเดตเวอร์ชันชื่อ "World Of Color" โลกแห่งสีสัน ซึ่งเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงสีสันภายในเกมให้สดใสมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดที่สุดคงจะหนีไม่พ้นการเพิ่มบล็อกใหม่หลากหลายสีหรือไม่ก็เปลี่ยนสีบล็อกเดิมที่มีอยู่แล้วให้ฉูดฉาดมากยิ่งขึ้นไปอีก https://www.instagram.com/reel/CpvRCoJgam4/?igsh=aHlzeWFsanM4cTA4 ผู้เล่นท่านใดที่มาก่อนการปรับสีช่วงนั้นคงจะยังจำสีบล็อกขนแกะแบบเก่ากันได้แบบลาง ๆ แต่ก็ไม่น่าจะมีใครที่จะจำการเพิ่มบล็อกสีทั้งหลายได้หรอก โดยเฉพาะบล็อก Glazed Terracotta ที่มีลวดลายไม่เหมือนบล็อกไหนในช่วงนั้น อย่างเช่น บล็อกดำลายแดง บล็อกขาวลายเหลืองสลับฟ้า บล็อกน้ำเงินลายส้ม และลวดลายแปลกตาอีกเกือบยี่สิบลาย ไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้จะยังมีใครใช้บล็อกเหล่านี้กันอีกหรือไม่ ผมคงจะเป็นผู้เล่นคนหนึ่งแหละครับที่แทบจะไม่แตะบล็อกชุดนี้เลยตั้งแต่มันถูกเพิ่มเข้ามา บล็อกที่ผมชอบที่สุดในอัปเดตครั้งนี้ก็คงหนีไม่พ้นบล็อกกระจกสี ที่ช่วยทำให้สิ่งก่อสร้างทั้งหลายของผมดูมีมิติขึ้นมามาก แถมผมยังเอามันมาใช้กับงานสร้างทุกชิ้นของผมด้วย ต่างจากบล็อก Glazed Terracotta อย่างสิ้นเชิงเลยใช่ไหมล่ะครับ จากการเพิ่มบล็อกมาสู่การเพิ่มสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่เข้ามาในเกมเวอร์ชันนี้ นกแก้ว คือสิ่งมีชีวิตที่ผมกำลังจะพูดถึง ด้วยสีขนที่ตัดกันโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะนำเข้ามาในอัปเดตครั้งนี้เป็นอย่างมาก ตอนมันถูกเพิ่มเข้ามา ก็มีอยู่ห้าแบบด้วยกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวล้วน สีน้ำเงินแก้มเหลือง สีเทาหัวเหลือง สีฟ้าลายเหลืองเขียว และสีที่ผมชอบที่สุด สีแดงลายเหลืองน้ำเงิน ทว่านกแก้วเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวที่ถูกเพิ่มเข้าไปในอัปเดตครั้งนั้น เพราะเรายังเหลือผู้ชนะจากการจัดกิจกรรม Mob Vote อยู่อีกไงล่ะครับ กิจกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่ผมได้เขียนไป "Mob Vote" ถูกจัดขึ้นในปี 2017 เป็นปีแรก โดยมีการจัดขึ้นที่เวทีของ Minecon Earth ซึ่งก็ยังเป็นการไลฟ์สดครั้งแรกของมายคราฟอีกด้วย ในงานมีตัวเลือกให้ผู้เล่นทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่ ปีศาจแห่งท้องทะเลลึก "Barnacle", The Great Hunger, The Hovering Inferno "Wildfire" และ ปีศาจแห่งท้องฟ้ายามค่ำ "Phantom" อยากจะบอกว่าฉายาทั้งหมดที่เขียนมานี้ตั้งโดยทีมงานพัฒนาเกมนะครับ ผมไม่ได้ตั้งมาเอง สุดท้ายแล้ว Phantom ก็ได้กลายเป็นผู้ชนะการโหวตในครั้งนั้นไป ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่ถึงได้โหวตให้เจ้าตัวนี้ไป เพราะทุกวันนี้ผมรำคาญการรบกวนของเจ้า Phantom มากเลยครับ ไม่นอนแค่สามคืนในเกมก็ดันโผล่มาโจมตีผมซะได้ ส่วนในบรรดาสิ่งมีชีวิตตัวอื่นที่ตกรอบไป The Hovering Inferno "Wildfire" ก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของเกม Minecraft Dungeons ไปซะได้ ผมออกจะเสียดายอีกสองตัวที่เหลือนะครับ เพราะมันดูเจ๋งไปหมดเลย ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะให้ทั้ง 4 ตัวนี้ถูกเพิ่มเข้าไปในเกมให้หมด (หรือจะเพิ่มในเกมเครือเดียวกันก็ได้ ผมไม่เกี่ยง) หลังจากการโหวตในงาน Minecon ครั้งนั้น ก็ได้กลายเป็นการโหวตทุก ๆ ปีในปัจจุบัน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าพึงพอใจสำหรับเกมมายคราฟทีเดียว https://www.instagram.com/p/C-dCsqNurh3/?igsh=MWJoaTZ2OW9wd3Nz สุดท้ายนี้ ก็อยากจะพูดอีกครั้งครับว่า เกมมายคราฟมาไกลจากเดิมมาก เมื่อกลับมาอ่านบทความเก่า ๆ ของผมก็เช่นเดียวกัน เพราะตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ผมก็ยังคงเขียนเกี่ยวกับมายคราฟได้ไม่หยุด และก็หวังว่าผู้อ่านจะเดินทางต่อในบทความถัด ๆ ไปด้วยกันนะครับ บทความนี้ก็คงต้องจบลงแล้ว ขอขอบคุณครับ เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบที่ 1 กับ 3 มาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น วิดีโอที่ 1 : Instagram / minecraft ภาพประกอบที่ 2 : Instagram / minecraft เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 2 พ.ย. 67
อ่าน
2016 สุดยอดปีแห่งการอัปเดต | Minecraft Journey
หากผมกล่าวไปในบทความก่อนหน้านี้แล้วว่าปี.ศ. 2015 เป็นปีแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของทีมผู้พัฒนาเกมมายคราฟ การจะกล่าวว่าปีค.ศ. 2016 เป็นปีของสายฝนแห่งการอัปเดตก็คงจะไม่ผิดไปจากความเป็นจริงนัก มาดูกันเถอะครับว่า ถ้าการเขียนบทความครั้งนี้ผมไม่เกริ่นยาว แล้วเริ่มเข้าเนื้อหาเลย จะทำให้บทความนี้ยาวพอ ๆ กับบทความอื่นหรือไม่Minecraft Education Editionเริ่มกันที่รากฐานของความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวง "ความรู้" นั่นเอง ทีมพัฒนาเกมที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาจึงได้ช่วยเพิ่มเทคนิคการเรียนรู้ด้วยการสร้างเวอร์ชันแยกของมายคราฟออกมาให้สถานศึกษาใช้ในการสอนเด็ก ๆ ของพวกเขาโดยเฉพาะ ในเวอร์ชันนี้เอง จะมีฟีเจอร์รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตหลายอย่างที่ไม่มีทางพบได้ในเวอร์ชันทั่วไป ทว่าการจะได้มาซึ่งไอเทมต่าง ๆ ในเวอร์ชันนี้ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่พวกเราคิด ตัวอย่างเช่น มีด่านที่ผู้เล่นจะต้องเขียนโค้ดให้เสร็จก่อนจะทำภารกิจอะไรซักอย่างหนึ่ง หากจะเอามาเทียบกับเวอร์ชันปกติ ผมว่าเวอร์ชันนี้ดูเล่นยากกว่าเยอะเลย แต่เราก็บ่นอะไรไม่ได้หรอก ก็เพราะเขาสร้างมาให้ความรู้เด็กนักเรียนนี่นา แถมยังส่งให้กับสถานศึกษาแบบฟรี ๆ อีกด้วยExploration Updateข่าวดีสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบการสำรวจ เพราะการอัปเดตในครั้งนี้ต้องเหมาะกับคุณอย่างแน่นอนฟีเจอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาก็จะมีแผนที่หลากหลายชนิด เช่น แผนที่เปล่า (ผู้เล่นต้องเป็นคนเดินไปตามทิศทางนั้น ๆ เพื่อค้นพบสถานที่ใหม่ด้วยตนเอง), แผนที่แบบมีลายเขียนบอก (อาจมีสมบัติหรือสถานที่สำคัญตั้งอยู่ที่ลายแทงเหล่านั้น) โดยแผนที่ทั้งสองแบบนี้ก็จะมีวิธีการสร้างต่างกัน แผนที่เปล่าจะใช้กระดาษเก้าแผ่นในการสร้าง ส่วนแผนที่แบบมีลายแทงจะต้องใช้เข็มทิศสร้างด้วย ซึ่งใช้ทรัพยากรมากกว่าแผนที่แบบแรกมาก แต่ก็อาจให้ผลตอบแทนมากตามไปด้วย ถัดจากฟีเจอร์แผนที่ก็ยังมีฟีเจอร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ถูกเพิ่มเข้ามา อย่างท่าทางการถือแผนที่ของผู้เล่นนอกจากนั้นยังจะมีการเพิ่มสถานที่สำคัญอันใหม่อย่าง Woodland Mansion ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของ Hostile Mob มากหน้าหลายตา ฉะนั้นผู้เล่นคนไหนที่อยากจะพิชิตสถานที่แห่งนี้ก็ควรจะคิดให้ดี ๆFrostburn Updateหลังจากอัปเดตครั้งนี้ ต่อไปการเดินทางเข้าไบโอมเขตหนาวของผู้เล่นก็จะไม่เหงาหงอยอีกต่อไป ในเมื่อพวกเราจะมีหมีขั้วโลกคอยทักทาย (หรือโจมตี ?) ด้วยการเดินเข้าไปตะครุบผู้เล่นที่เดินผ่านอาณาเขตของมัน เจ้าหมีขั้วโลกตัวนี้ เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย บางครั้งที่ผู้เล่นเดินผ่านมันจะนิ่งเฉยไม่โจมตีใด ๆ แต่บางวันแม้เดินเฉียดอาณาเขตไปเพียงเล็กน้อย มันก็พร้อมจะโจมตีเราเสมอไม่เพียงเท่านั้น ถึงหมีขั้วโลกมันจะโจมตีเราไม่ทันเพราะระดับความเร็วที่ต่างกัน เรียกง่าย ๆ ว่าผู้เล่นวิ่งหนีเร็วกว่า แต่เจ้าหมีขั้วโลกมันก็จะเดินทางเรามาอย่างไม่ลดละ ฉะนั้นหากถูกมันตามล่าเมื่อไหร่ ขอให้คุณระวังตัวไว้เลยว่า ตราบใดที่คุณยังเดินอยู่แถวนั้น มันจะไม่มีวันปล่อยคุณให้รอดไปได้แน่ นอกจากจะไปอัปเดตฝั่งหนาวขั้นสุดแล้ว ยังมีการอัปเดตฝั่งร้อนขั้นสุดด้วย นั่นคือการเพิ่ม Magma Block ที่สามารถทำให้ผู้เล่นร้อนจนบาดเจ็บได้เลยCombat Updateแม้แต่เกมที่มีแต่บล็อกสี่เหลี่ยม ก็ยังหนีไม่พ้นการต่อสู้ ทั้งเพื่อป้องกันตัวจากสิ่งมีชีวิตบางตัวที่จ้องจะโจมตีผู้เล่น ทั้งเพื่อออกล่าประทังปากท้องของตัวละครที่หิวโหย ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ากลไกการต่อสู้ของเกมในตอนนั้นยังขาดฟีเจอร์อีกมาก การอัปเดตครั้งนี้จึงเป็นการอุดช่องโหว่ที่เกมเคยขาดหายไป ทั้งยังมีฟีเจอร์ที่ผู้เล่นไม่คาดคิดว่าพวกเขาต้องการอย่างเครื่องร่อน Elytra จากมิติ The End ที่เป็นรางวัลการพิชิต End City ได้ดีกว่าหัวมังกรดำเสียอีกสำหรับบทความนี้ก็จบลงแล้ว ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับเครดิตภาพและข้อมูลภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 30 ส.ค. 67
อ่าน
มายคราฟแก้มือ จัดงาน Minecon ใหม่ | Minecraft Journey
ใครจะไปคิดกันล่ะ ว่าเกมบล็อกเกมหนึ่งที่เมื่อก่อนแทบจะไม่มีความน่าสนใจอะไร จะกลายมาเป็นเกมที่ผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกให้ความสนใจมากขนาดนี้ ในตอนนั้นเอง ทีมงานผู้พัฒนาเกมมายคราฟก็ไม่เคยคิดถึงเวลาที่เกมของพวกเขาจะได้เฉิดฉายมาก่อน และแล้วรางวัลแห่งการทำงานหนักก็มาถึง เมื่อมายคราฟได้จัดงาน "Minecon" ขึ้นMinecon 2015 ถือเป็นงานใหญ่ในรอบหลายปีนับตั้งแต่งานครั้งล่าสุดที่ไปได้ไปค่อยจะดีนัก ที่เหล่าแฟนเกมมายคราฟทุกคนจะได้มารวมตัวอยู่ในที่เดียวกันเพื่อพบปะพูดคุยและรับรู้ข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกมอย่างใกล้ชิด รวมทั้งสิทธิพิเศษอีกมากมายที่คนภายนอกงานจะไม่ได้รับอย่างแน่นอน ซึ่งงานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กับ 5 กรกฏาคม ปีค.ศ. 2015 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วยจำนวนคนเข้าร่วมงานมากถึงหนึ่งหมื่นคน (หากนำมาเปรียบเทียบกับสมัยนี้คงไม่ใช่งานที่ยิ่งใหญ่อะไรมากมาย แต่ผู้อ่านลองนึกถึงเมื่อหลายสิบปีที่แล้วดูสิครับ ว่างานระดับคนหมื่นคนมารวมกันจะดูยิ่งใหญ่อลังการแค่ไหน)Fun Fact (เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย) : งาน Minecon ปี 2015 เคยได้รับรางวัล Guinness World Record สำหรับงานเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก (ที่น่าเศร้าก็คือพวกเขาได้ถือครองงตำแหน่งนี้ไปเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น ก่อนที่จะถูกเกมอื่นแย่งตำแหน่งไป)ตัวผมเองก็ไม่เคยร่วมงานอะไรทำนองนี้สักครั้ง จึงไม่รู้ว่างานนี้เมื่อเปรียบเทียบกับงานอื่นจะเป็นอย่างไร ด้วยเหตุนี้ผมก็ต้องอาศัยข้อมูลจากความคิดเห็นของผู้ทีเคยเข้าร่วมงานในตอนนั้นเอาเองเนื่องจากงานนี้ถูกขบคิดมาอย่างยาวนาน งานที่ควรจะจัดตั้งแต่ปี 2014 ก็ได้ถูกเลื่อนมาจัดไกลถึงกลางปี 2015 ผลตอบรับจากการร่วมงานส่วนใหญ่เป็นไปในทางที่ดีกว่าครั้งล่าสุดอยู่มาก ผมได้ข่าวมาว่างานนี้ไม่กร่อย ไม่มีอีเวนต์อื่น ๆ จัดทับกัน มีสิทธิพิเศษอย่างส่วนลดการจองโรงแรม แถมยังมีการแจกผ้าคลุมสำหรับตกแต่งตัวละครฟรีในเกมมายคราฟส่งตรงไปถึง Email ของผู้เข้าร่วมงานอีกด้วยสิ่งที่ผมเกือบจะลืมเขียนอีกอย่างคือในระหว่างที่งานนี้กำลังดำเนินอยู่ก็ได้มีการประกาศขายหนังสือสอนการเอาชีวิตรอดในเกมมายคราฟ ซึ่งเขียนโดยหนึ่งในทีมงานผู้พัฒนาเกมที่ผู้เล่นอาจจะรู้จักกันดี "Dinnerbone" นั่นเองครับ หรือหากผู้อ่านไม่คุ้นชื่อนี้ในฐานะที่เป็นผู้พัฒนาเกม ก็อาจคุ้นชื่อนี้ในฐานะของโค้ดที่เมื่อใช้ตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตใดแล้ว สิ่งมีชีวิตนั้นก็จะเอาหัวทิ่มลงดินแล้วเอาขาชี้ฟ้าในทันทีนอกจากงาน Minecon ครั้งที่สองที่มายคราฟใช้ในการแก้มือ ลบภาพจำเก่า ๆ เกี่ยวกับงานพบปะของผู้เล่นมายคราฟที่น่าเบื่อลงไปได้ พวกเขาก็มีการปล่อยเกมโหมดใหม่ ซึ่งก็คือ Story Mode อีกด้วย ถือเป็นการอัปเดตฟีเจอร์ที่แปลกใหม่มากสำหรับเกมที่ขึ้นชื่อว่าสามารถเล่นได้อย่างอิสระ ไม่มีเนื้อเรื่องมาควบคุม บอกตามตรงว่าผมเองก็ยังไม่เคยเล่นโหมดเนื้อเรื่องซักทีครับ ส่วนตัวคิดว่ามันไม่ค่อยน่าติดตามเท่าเกมเนื้อเรื่องเกมอื่น ๆ ตัวละครที่สร้างขึ้นมาก็ดูไม่ค่อยน่าจดจำ (อาจเป็นเพราะมันมีแต่บล็อกสี่เหลี่ยมทั้งเรื่องก็ได้) แต่ก็มีอยู่บ้างที่ผมนั้นจะมานั่งดูคนอื่นเล่นโหมดเนื้อเรื่องกัน ถึงดูไปก็ไม่เคยจะดูจบ ผมจึงเล่นแต่ในโหมดเอาชีวิตรอดธรรมดาเหมือนที่เคยเล่นอยู่ประจำเท่านั้นเท่าที่ผมทราบมา เกมมายคราฟในโหมดเนื้อเรื่องจะมีตัวละครหลักชื่อ Jesse ที่ต้องทำภารกิจกับเหล่าผองเพื่อน ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ นานาเพื่อที่สุดท้ายแล้วจะได้ไปต่อกรกับบอสใหญ่ ชื่อ "The Wither Storm" หากผู้อ่านลองตามไปเล่นดูก็จะได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจหาได้จากเกมมายคราฟโหมดทั่วไป แม้แต่ตัวบอสใหญ่เองก็ไม่เคยปรากฏในเวอร์ชันปกติเช่นกัน เนื้อเรื่องระหว่างการผจญภัยจะเป็นอย่างไร ก็ขอให้ลองไปเล่นกันดูเองนะครับ สำหรับใครที่ชื่นชอบการเล่นเกมแนวเนื้อเรื่องอยู่แล้ว เกมโหมดนี้อาจจะเหมาะกับคุณครับความสำเร็จในปีนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้แน่นอนคือการที่เกมมายคราฟได้รับรางวัลถึงสองอย่างด้วยกัน ได้แก่ รางวัลเกมขายดีตลอดกาล โดยดูจากยอดขายที่พุ่งกระฉูดตลอดหลายปี ไม่ว่าจะเป็นในช่องทางไหนก็ตาม และ รางวัล BAFTA for Family ที่ย่อมาจากคำว่า The British Academy of Film and Television Arts ซึ่งเป็นสถาบันที่ส่งเสริมเกม ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่เหมาะสำหรับเด็กกับครอบครัว รางวัลที่ผมกล่าวมานี้เป็นของเกมมายคราฟเวอร์ชัน Console (ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมได้แค่เวอร์ชันเดียว ถ้าให้เดาก็คงเป็นเพราะการคัดเลือกที่เข้มงวดนั่นแหละครับปีค.ศ. 2015 นี้ แม้ว่าจะมีเรื่องราวให้พูดถึงมาก ทว่าแต่ละเรื่องราวต่างก็เป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของทีมพัฒนาเกมมายคราฟกันทั้งนั้น ปีต่อ ๆ ไปจะมีอะไรให้เขียนถึงอีก ติดตามต่อได้ในบทความหน้านะครับ สำหรับบทความนี้ ผมขอลาไปก่อน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ สวัสดีครับเครดิตภาพและข้อมูลภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 29 ส.ค. 67
อ่าน
ทำความรู้จักกับ Ocean Monument | Minecraft Journey
ไม่เป็นเรื่องแปลกเลยที่บริษัทเล็ก ๆ ผลงานดีทั้งหลายจะถูกซื้อไปต่อยอดโดยบริษัทเจ้าใหญ่ นั่นก็เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า และเพื่อให้เจ้าของกิจการเดิมได้พักผ่อนหลังจากที่ทำงานหนักมาพักใหญ่ ในปีค.ศ. 2014 เองก็เป็นปีที่ Mojang ได้ถูกส่งต่อให้เข้าไปในมือของบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีชื่อดังแห่งหนึ่ง นั่นถือเป็นการตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างภายในแผนการพัฒนาเกม แม้ว่าในตอนนั้นเหล่าแฟนเกม รวมถึงผมเอง จะไม่รู้เรื่องราวนี้เลยก็ตามผมมารู้ว่า Mojang ไม่ได้เป็นทีมงานอิสระอีกต่อไปก็เมื่อมีถึงห้าปีที่ผ่านมานี้ เมื่อย้อนกลับไม่มองประวัติการอัปเดตก็ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเกมมายคราฟถึงได้มีการอัปเดตครั้งใหญ่มาได้ตลอดทุกปี ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นไกล แต่เป็นการอัปเดตฟีเจอร์เกมตั้งแต่ปีนี้เลย สองฟีเจอร์ใหญ่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในปีนั้น คือการเพิ่มบล็อกเกือบสี่สิบกว่าบล็อก และเพิ่มสิ่งก่อสร้างอันใหญ่ทั้งอันพร้อมสิ่งมีชีวิตประจำสิ่งก่อสร้างนั้นมาเริ่มกันที่การเพิ่มบล็อกเลยดีกว่า บล็อกที่พวกเขาเพิ่มเข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นบล็อกที่ใช้ในการตกแต่งสิ่งก่อสร้าง พวกประตู รั้วไม้ บล็อกไม้แปรรูปทั้งหลายที่แตกต่างออกไปตามประเภทไม้ที่ใช้ในการสร้างบล็อกเหล่านั้น พวกบล็อกที่สามารถขุดได้ใต้ดินก็เพิ่มมากขึ้น แต่ผมว่ามันคงจะไม่ถูกใจผู้เล่นหลายคนเลยแหละ เพราะพวกบล็อกเหล่านั้นมีหน้าตาไม่ค่อยสวยงาม ลวดลายดูเข้ากับบล็อกอื่นได้ยาก กระทั่งปัจจุบันผมยังไม่ค่อยเห็นใครเอาบล็อกเหล่านี้มาใช้ในการสร้างสิ่งก่อสร้างทั้งหลังเลยครับ ส่วนตัวผมเองก็พอจะเอามันมาใช้อยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะใช้ในการแปรรูปเป็นบล็อกแบบอื่นที่กลมกลืนกับบล็อกโดยรอบสิ่งก่อสร้างของผมมากกว่า ไม่เคยได้ใช้รูปแบบดั้งเดิมของมันเสียทีอย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบล็อกที่ผมชื่นชอบในอัปเดตครั้งนี้อยู่บ้าง ส่วนมากก็จะเป็นบล็อกที่หาได้ตามสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ท่านผู้อ่านเห็นในภาพประกอบภาพนี้เท่านั้น ภายใน Ocean Monument มีบล็อกสีเขียวฟ้าที่ชื่อว่า "Prismarine" อยู่ แถมยังมีบล็อกให้แสงสว่างอันใหม่อย่าง "Sea lantern" ที่เหมาะกับการน้ำมาสร้างเป็นบ้านแบบไร้คบเพลิงมาก ผมเขียนมาแบบนี้อาจจะฟังดูง่าย แต่การดำลงไปเอาบล็อกเหล่านี้ขึ้นมากลับยากยิ่งกว่าการเอาบล็อกจากในมิติ Nether เสียอีกครับOcean Monument นั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่อยู่ใต้ทะเลตามชื่อ และการที่จะขุดบล็อกเหล่านั้นขึ้นมาได้ แน่นอนว่าผู้เล่นจะต้องดำลงไปด้านล่าง ดำลงไปแบบช้า ๆ เนื่องจากการบังคับให้ตัวละครในเกมว่ายน้ำได้เป็นอะไรที่ยากพอสมควร (หรืออาจจะยากแค่ผมคนเดียวก็ไม่รู้) ต้องระวังไม่ให้หลอดอากาศของตนเองหมด แถมยังต้องระวังการโจมตีจาก "Guardian" ที่สามารถโจมตีผู้เล่นได้จากระยะไกลอีก กว่าจะเอาบล็อกหนึ่งมาได้ก็ผ่านไปนับสิบนาทีแล้ว ซึ่งถ้าให้ยึดเอาความคุ้มค่าของเวลาที่เสียไปกับการได้บล็อกมาเพียงหยิบมือ มันไม่คุ้มเอาเสียเลยครับ ยิ่งตอนนั้นผมไม่มีเทคนิคการพิชิตสิ่งก่อสร้างนี้ด้วยแล้ว มันยิ่งไม่คุ้มค่าเข้าไปใหญ่บล็อกต่อมาที่ผมจะพูดถึงเป็นบล็อกที่ช่วยยกระดับการสร้างวงจร Redstone ให้มีรูปแบบหลากหลายขึ้น บล็อกที่ว่าคือ "Slime Block" ครับ มันเป็นบล็อกสีเขียว ๆ เด้ง ๆ ที่ผู้เล่นบางคนอาจนำมาสร้างเป็นเครื่องเล่นกระโดดไปมา บางคนก็นำมาใช้รองรับตัวละครตอนตกจากที่สูงเพื่อไม่ให้รับ Damage ส่วนสำหรับผู้เล่นสายสร้างวงจร Redstone แล้ว เจ้าสิ่งนี้สามารถนำมาต่อยอดในกลไกของพวกเขาได้ตั้งแต่มีบล็อกสไลม์มา ก็มีการประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ ขึ้นจนแทบจะดูไม่เหมือนเกมมายคราฟที่ผมรู้จักในตอนนั้นแล้ว ทั้งการสร้างเรือเหาะ การสร้างรถไฟที่ขับเคลื่อนเองได้ ทั้งอุปกรณ์ขุดเหมืองแบบไม่ใช้แรงงานผู้เล่น ในตอนนั้นมีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ออกมามากมายจนผมอยากจะยกให้ปีค.ศ. 2014 เป็นปีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมของเกมมายคราฟเลยทีเดียว พูดตามตรงผมก็ทึ่งเหมือนกันนะครับว่าพวกเขาไปเอาเวลาตอนไหนมาคิดออกแบบสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้กันทว่าบล็อกสไลม์นี้จะถือกำเนิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีสิ่งมีชีวิตอย่างเจ้าสไลม์สีเขียว ถึงมันจะถือเป็น Hostile Mob แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่ามันจะอันตรายมากเท่าสิ่งมีชีวิตตัวอื่นในจำพวกเดียวกันเลย ก็จริงอยู่ที่สไลม์ตัวยักษ์ขนาดสูงกว่าผู้เล่นจะสามารถโจมตีได้ถี่มาก แต่หากผู้เล่นกำจัดมันไปเรื่อย ๆ จนสไลม์แบ่งตัวถึงขั้นสุดท้ายที่มีขนาดเล็กกว่าบล็อกหนึ่งบล็อก พวกมันจะไม่สามารถทำอันตรายผู้เล่นได้เลย แม้ว่าสไลม์จิ๋วเป็นสิบตัวจะมากระโดดจ๋อม ๆ ข้างตัวผู้เล่นก็ตามนอกเหนือจากสไลม์แล้วก็ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกตัวหนึ่งที่ทำให้การเอาชีวิตรอดในเกมของผมดีขึ้นอีกเล็กน้อย "กระต่าย" เป็นทั้งแหล่งให้อาหาร แหล่งผลิตหนังสัตว์และแหล่งผลิตวัตถุดิบในการทำน้ำยาเร่งความเร็ว กระต่ายเพียงตัวเดียวมีประโยชน์มากขนาดนี้ มีหรือที่ผู้เล่นจะไม่ชอบ แถมเจ้ากระต่ายพวกนี้ยังมีลายเปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่ที่มันเกิดด้วยนะครับ ตัวโปรดของผมคงจะเป็นกระต่ายขาวลายจุดสีดำแล้วล่ะฟีเจอร์อีกอย่างที่ผมว่าผู้เล่นบางส่วนน่าจะชื่นชอบก็คงจะเป็นการเพิ่มตัวละครให้เล่นตัวใหม่ นั่นคือ "Alex" กลายเป็นว่าในปีนี้เกมมายคราฟมีตัวละครจนครบทั้งตัวแทนของชายและหญิงเอาล่ะครับ ผมต้องจบบทความนี้ลงเพียงเท่านี้ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่คลิกเข้ามาร่วมเดินทางไปพร้อมกับผมใน Minecraft Journey นะครับ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับเครดิตภาพและข้อมูลภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 26 ส.ค. 67
อ่าน
บินไปกับฝูงผึ้ง Buzzy Bees | Minecraft Museum
ถัดจากประตูสองบานใน "พิพิธภัณฑ์มายคราฟเนื่องในวันครบรอบ 15 ปีเกมมายคราฟ" ที่ผมได้เดินเข้าไปแล้ว ประตูบานที่ 3 เป็นประตูบานสีเหลืองทอง มีไอคอนรูปผึ้งแปะอยู่เหนือขอบประตูบานนั้น พร้อมกับชื่อกำกับที่ว่า "Buzzy Bees"เมื่อเดินเข้าไปในห้องก็สังเกตได้เลยว่าห้องนี้มีความแตกต่างจากอีกสองห้องที่ผมเข้ามามาก ห้อง Buzzy Bees ไม่มีเพดานที่ชัดเจน กำแพงก็ทำเป็นกำแพงพุ่มไม้ แถมยังสร้างให้เหมือนกับว่ามันเป็นสวนนอกอาคาร ทำให้ห้องทั้งห้องดูไม่อึดอัดและดูกว้างกว่าอีกสองห้องหลายเท่า ในบรรดาประตูที่ผมเคยเดินเข้าไป ผมชอบบานนี้ที่สุดแล้วล่ะครับ ก่อนที่จะเดินเข้านั้น ผมก็คิดว่าพวกเขาจะตกแต่งห้องให้ดูเหมือนกับรังผึ้งรังใหญ่ ทว่าภาพที่เห็นกลับเกินคาด ห้องทั้งห้องถูกตกแต่งให้มีเรือนกระจกอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยสวนผัก สวนดอกไม้ ด้านข้างก็มีเขาวงกตให้ผู้เล่นเดินเข้าไปพบกับต้นไม้ใหญ่ที่มีรังผึ้งด้านในอีกทีหนึ่งดูจากภายนอกก็ว่าห้องนี้ใหญ่แล้ว ยิ่งผู้สร้าง Map จัดทำระบบการ Teleport ผู้เล่นไปตามโซนต่าง ๆ ก็ยิ่งทำให้ห้องนี้กว้างขึ้นไปอีก กว่าจะสำรวจจนครบทุกโซนคงจะนานน่าดู งั้นพวกเราเริ่มกันเลยดีกว่าครับเริ่มต้นการสำรวจด้วยการเดินรอบเรือนกระจก ผู้เล่นจะพบกับแปลงพืชผัก และสวนดอกไม้ ตกแต่งด้วยเถาวัลย์ บอลลูนลายผึ้ง (แถวสีน้ำตาลสลับเหลือง) ต้นซากุระและดอกไม้นานาพันธุ์ บางจุดก็จะมีการตั้งกล่องรังผึ้งไว้บ้าง ทั้งยังมีการโชว์หายากทั้งสองชนิดที่พึ่งมีการอัปเดตเข้ามาใหม่ให้ผู้เล่นเข้ามาเชยชม พวกแปลงผักก็ไม่ได้มีอะไรใหม่มาก ผักเหล่านั้นก็มีแครอท มันฝรั่ง บีทรูท ฟักทอง เป็นต้นนอกจากโซนที่เป็นสวนผัก ด้านข้างเรือนกระจกก็ยังมีการสร้างที่พักผ่อนหย่อนใจ ตามข้างทางผู้เล่นจะเห็นต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์จากพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งต้นโกงกางจากไบโอมป่าโกงกาง ทั้งต้นซากุระจากไบโอมเขตเย็น แม้แต่ต้นไม้ที่ควรจะอยู่ใน Lush cave ใต้ดินก็ยังสามารถตั้งตระหง่านท่ามกลางต้นไม้เหนือพื้นดินอื่นได้อีก ถึงจะเดินไปอย่างไม่มีจุดมุ่งหมายก็อย่าได้กังวลว่าคุณจะรู้สึกเบื่อแต่อย่างใด เนื่องจากระหว่างทางผู้เล่นจะต้องกระโดดบนก้อนหินเพื่อผ่านทางต่อไป ส่วนผู้เล่นท่านไหนที่ไม่มั่นใจในฝีมือการ Parkour ของตนเองก็ไม่ต้องกังวลเหมือนกัน เพราะถึงคุณตกน้ำไป พวกเขาก็จะไม่พาตัวละครของคุณวาร์ปไปที่อื่นแน่นอนภายในเรือนกระจกนั้นก็สวยงามไม่แพ้กัน ตรงกลางเรือนกระจกจะเป็นประตูไปโซนเล่นเกม รอบ ๆ จะตกแต่งด้วยโซนที่มีการโชว์ต้นไม้จากทั่วทุกไบโอมให้เดินดู ให้ความรู้สึกเหมือนเดินในสวนพฤกษศาสตร์อยู่เหมือนกันนะครับ มีป้ายเล็ก ๆ บอกชื่อต้นพืชเหล่านั้นด้วย หากผู้เล่นคิดว่าพื้นที่เหล่านี้ยังร่มรื่นไม่พอ พวกเขาก็ยังมีโซนแหล่งน้ำ ประกอบไปด้วยบ่อน้ำน้อยใหญ่ที่มีก้อนหินให้ผู้เล่นกระโดดข้ามไปมาได้ มีใบบัว มีสาหร่ายใต้น้ำ แต่ที่ควรระวังในจุดนี้คือมันมีผึ้งที่กำลังโกรธจนตาแดงก่ำเตรียมโจมตีคุณอยู่ (ความจริงแล้วมันก็เป็นแค่หุ่นจำลองแหละครับ เดินเข้าไปหาได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกมันโจมตีหรอก)ออกไปในเรือนกระจก ก็จะมีอีกโซนหนึ่งไปให้ผู้เล่นได้ร่วมสนุก นั่นก็คือโซนเขาวงกต ลักษณะของเขาวงกตแห่งนี้มีกำแพงเป็นพุ่มไม้คล้ายเขาวงกตที่เราเคยได้เห็นกันในหนังต่างประเทศต่าง ๆ ทางตันทั้งหลายผู้เล่นก็จะได้พบกับรูปปั้น Villager ตั้งดักทางพวกเราอยู่ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันกวนดีครับ ไม่น่าเบื่อเลยใจกลางเขาวงกตพุ่มไม้แห่งนี้มีต้นซากุระต้นยักษ์ตั้งอยู่ ที่ผมบอกว่าต้นมันใหญ่ไม่ใช่เพียงใหญ่ว่าต้นซากุระในเกมแค่สี่ห้าเท่า เจ้าต้นนี้มันใหญ่กว่าต้นซากุระทั่วไปเกินสิบเท่าแน่นอนครับ ใหญ่จนขนาดที่รากของมันกระจายไปรอบต้นไม้ จนรากนั้นอยู่สูงกว่าตัวละครผู้เล่นอีก ตรงกิ่งหนึ่งของต้นซากุระผมก็เหลือบไปเห็นรังผึ้งอันเล็กอันหนึ่งห้อยอยู่ ตรงกลางโคนต้นผู้เล่นจะเห็นน้ำผึ้งไหลออกมาจากกลางต้นไม้ โคนต้นส่วนล่างก็จะมีรูให้ผู้เล่นได้กระโดดลงไปสู่รังผึ้งขนาดเท่าบ้านคนในหลุมที่ผมกระโดดลงไปนั้น ภาพจำแรกที่เห็นคือมันมีแต่สีเหลืองของทั้งรังผึ้งและน้ำผึ้ง ภายในนั้นจะเป็นพิพิธภัณฑ์กล่าวถึงผึ้งและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผึ้งขนาดย่อม เนื้อหาของพิพิธภัณฑ์ย่อม ๆ นี้จะกล่าวถึงความเป็นมาว่าฟีเจอร์เหล่านี้ถูกเพิ่มขึ้นมาเมื่อไหร่ มีการเปลี่ยนแปลงจากตอนถูกเพิ่มมาใหม่จนถึงปัจจุบันอย่างไร และมีฟีเจอร์ไหนบ้างที่ผู้เล่นส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้ นอกจากพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ ผู้เล่นก็สามารถเล่น Parkour ภายในรังผึ้งขนาดใหญ่ได้อีกด้วย แถมยังมีมินิเกมสนุก ๆ ให้เล่นคลายเครียด (หรืออาจจะทำให้เครียดกว่าเดิมกันนะ) เอาเป็นว่า หากผู้อ่านผ่านด่านเขาวงกตมาได้ ผมก็อยากจะให้ลองเข้ามาในรังผึ้งใหญ่นี้ด้วยตัวเองครับ ผมขอบอกใบ้ไว้ด้วยว่า ที่ต้นซากุระยักษ์จะมีสติกเกอร์ให้สะสมหนึ่งจุด ภายในรังผึ้งก็จะมีสติกเกอร์ให้ไปเอาอีกหนึ่งจุด มาดูกันครับว่าผู้อ่านที่ตามมาเล่น Map นี้จะหาสติกเกอร์ครบทั้งหมดหรือไม่ เป็นกำลังใจให้นะครับแค่ได้เข้ามาในห้องนี้ก็หวานฉ่ำจนผมไม่อยากจะกินอะไรหวาน ๆ อีกนาน ปกติผมจะไม่ค่อยตื่นเต้นกับห้องใน Map "Minecraft Museum" แห่งนี้เท่าไหร่ แต่สำหรับห้องที่สามแห่งนี้ ผมขอแนะนำมากเลยล่ะครับ ผู้อ่านท่านไหนที่ยังไม่เคยเข้าไปเล่น Map นี้อย่างน้อยก็ต้องลองเข้าประตู "Buzzy Bees" นะครับ ผมไม่ผิดหวังเลยกับประตูบานนี้ แต่ถึงจะชื่นชอบมากเพียงใด บทความหน้าผมก็ต้องสำรวจประตูอีกสามบานที่เหลือต่อไปสำหรับบทความนี้ ผมก็คงต้องลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับเครดิตภาพภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่นเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 25 ส.ค. 67
อ่าน
ไบโอมในยุคต้นเกม | Minecraft Journey
จากที่ผมเคยพูดถึงการที่เกมมายคราฟเวอร์ชันเก่านั้นมีไบโอมให้ผู้เล่นสายผจญภัยได้สำรวจน้อยมาก ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนในเกม แม้ว่าผู้เล่นจะเริ่มพบไอเทมมากขึ้นแล้ว แต่สภาพแวดล้อมยังคงดูเหมือนกันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวสด ต้นไม้ลายเดิม ๆ หรือว่าจะเป็นแหล่งน้ำที่มีน้ำสีฟ้าโทนเดียวจนชินตา ในบทความนี้ก็ถึงเวลาที่ไบโอมใหม่ทั้งหลาย (ในเวลานั้นที่มีการอัปเดตไบโอมใหม่) จะได้เฉิดฉายให้ผู้เล่นได้ยลโฉมกันเสียที และไบโอมที่ผมว่ามานั้นก็ไม่ได้มีเพียงสองสามไบโอมเหมือนอย่างการอัปเดตในปีหลัง ๆ แต่ค่าย Mojang ได้อัปเดตมามากถึงสิบเอ็ดไบโอมกันเลยทีเดียวทั้งหมดที่เขียนมานี้คือเรื่องราวในปีค.ศ. 2013 ซึ่งเป็นปีที่เกมมายคราฟมีการอัปเดตไบโอมใหม่มากในที่สุดตั้งแต่เกมนี้เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก แถมยังเป็นปีที่มียอดผู้เล่นเกมมายคราฟทั่วโลกรวมกันสูงถึงสิบล้านคนเป็นที่เรียบร้อยตัวอย่างไบโอมที่ผู้อ่านคงจะคุ้นหูคุ้นตากันมาบ้างก็ได้แก่ ไบโอมป่า Birch ที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีขาวลายจุดกับใบไม้ที่เพื่อนผมขนานนามว่าเป็นสีใบไม้ที่ดูเศร้าที่สุดในเกม ต่อด้วยไบโอมโปรดของผู้เล่นหลายคนรวมถึงผมอย่างไบโอม Dark forests ที่เป็นแหล่งตัดไม้สำคัญแหล่งหนึ่งเมื่อผมเล่นมายคราฟ นอกเหนือจากไบโอมที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ ก็ยังมีไบโอมที่แสงส่องผ่านพอที่จะเกิดพืชชนิดอื่นอย่างไบโอม Flower forests สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่ไบโอมอันแห้งแล้งไร้ต้นไม้อย่างไบโอม Mesaผู้อ่านที่ไม่คุ้นชื่อกับไบโอมอันสุดท้ายนี้ก็อย่าตกใจไปนะครับ เพราะแท้จริงแล้วไบโอม Mesa ก็คือชื่อเก่าของไบโอม Badlands นั่นเอง และผมว่าชื่อที่เปลี่ยนใหม่นี้ก็ดูเข้ากันกับสภาพแวดล้อมของมันมากเลยล่ะครับ ถือว่าการตัดสินใจเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเลยทีเดียวนอกจากจะมีการเพิ่มไบโอมใหม่นับสิบแห่งแล้ว ในปีเดียวกันนั้นเองก็ยังมีการเพิ่มกลไกที่อาศัย Redstone ซึ่งเป็นแร่สีแดงตัวใหม่ที่จะนำไปสู่เส้นทางการเล่นของผู้เล่นเกมมายคราฟสายสำคัญอันหนึ่ง นั่นก็คือผู้เชี่ยวชาญวงจร Redstone การจะเป็นผู้เชี่ยวชาญวงจร Redstone ในความคิดผมได้นั้น ผู้เล่นจะต้องมีความรู้เรื่องวงจรคล้าย ๆ กับช่างไฟฟ้าที่รู้เกี่ยวกับการต่อสายไฟอย่างไรอย่างนั้น เพราะวงจรเหล่านี้มีความสลับซับซ้อนและออกจะเข้าใจยากไปหน่อย แม้แต่ผมที่ถือว่าเล่นเกมนี้มานานพอสมควรก็ยังไม่สามารถประยุกต์ใช้วงจรนี้ได้อย่างอิสระเลยแต่มีสิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นทั่วไปก็คงทำได้คือการขี่ม้า แล้วทำไมผมถึงพูดเรื่องการขี่ม้าอย่างกะทันหัน ก็เพราะว่าอัปเดตประจำปีค.ศ. 2013 นี้ได้มีการเพิ่มสิ่งมีชีวิตที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเดินทางได้รวดเร็วยิ่งขึ้นอย่างม้าเข้ามาน่ะสิครับ ตั้งแต่ม้าได้ถูกเพิ่มเข้ามา การเดินทางไกลก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป หากไม่นับการเดินทางข้ามไปมาระหว่างมิติเพื่อย่นระยะทาง หรือการเดินทางด้วย Elytra ที่ต้องพยายามอย่างมากในการได้ครอบครองมันแม้แต่อันเดียว การเดินทางด้วยม้าเร็วนี่แหละครับที่สะดวกสบายและรวดเร็วที่สุดการอัปเดตครั้งนี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในการอัปเดตที่ยกระดับความน่าสนใจให้กับตัวเกมได้เป็นอย่างดี ไหนจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือว่าเป็นการเพิ่มช่องทางให้ผู้เล่นจากอุปกรณ์อื่นให้ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีพอ ๆ กับผู้เล่นที่เล่นในเครื่องคอมพิวเตอร์ แถมยังมีการคำนึงถึงผู้เล่นจากชาติอื่นที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักโดยการเพิ่มภาษาภายในเกมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งตอนนี้ ภาษาไทยก็ได้ถูกเพิ่มเข้าไปแล้วนะครับFun Facts (เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย) : รู้หรือไม่ว่านอกจากภาษาที่มีอยู่จริงในโลก Mojang ยังได้ทำการเพิ่มภาษาน่าสนใจอื่นอีก เช่น ภาษาของโจรสลัด ซึ่งใช้การเขียนให้เลียนแบบสำเนียงโจรสลัดตามเรื่องราวในจินตนาการที่ผู้คนแต่งมา ตัวอย่างภาษาโจรสลัดได้แก่ คำว่า You ที่จะออกเสียงเป็น Ye หรือการย่อคำที่ลงท้ายด้วย -ing ให้เหลือแต่ -in' เป็นต้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมนั้นชอบภาษาสำเนียงโจรสลัดมาก ถ้าไม่ติดที่บางทีมันจะทำให้ผมลืมวิธีการเขียนคำภาษาอังกฤษบางคำ ตอนนี้ผมคงยังอยากจะตั้งค่าให้เกมมายคราฟเป็นภาษานี้อยู่ แต่หากผู้อ่านอยากลองไปเล่นด้วยตัวเองก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องโหลดอะไรมาเพิ่มเติมเลยนะครับ เพียงแค่ไปที่ตั้งค่าภาษาแล้วค้นหาช่องที่เขียนว่า Pirate Speak (PIRATE) ก็จะได้ภาษาโจรสลัดมาอ่านเองแล้วขอรับรองเลยครับว่าพอตั้งเป็นภาษาโจรสลัดแล้ว คุณจะไม่สามารถอ่านภาษาอังกฤษแบบธรรมดาได้อีกนาน ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะตอนที่ผมโหลดภาษานี้มาลองเล่น ผมก็มัวแต่ขำกับการอ่านที่ใส่สำเนียงเหมือนโจรสลัดในหนังน่ะสิครับผมว่าผมคงไม่มีอะไรจะเขียนลงในบทความนี้แล้วล่ะครับ เอาเป็นว่าผมของจบบทความไว้เพียงเท่านี้เลยก็แล้วกัน สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ร่วมผจญภัยผ่านกาลเวลาในประวัติศาสตร์ของเกมมายคราฟไปกับผมนะครับ สำหรับบทความนี้ ผมจะต้องลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับเครดิตภาพและข้อมูลภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 24 ส.ค. 67
อ่าน
Wither บอสแห่งหายนะ | Minecraft Journey
เกมแนว Sandbox ที่ผู้เล่นสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ เล่นเกมโดยมีไม่การกำหนดเป้าหมายไว้ตั้งแต่ต้น ด้วยปัจจัยต่าง ๆ นี้การจะทำให้ผู้คนหลงไหลในการเล่นเกมต่อไป รวมไปถึงการดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ก็ดูเป็นเรื่องที่ท้าทายมากสำหรับคนสร้างเกม หากจะแก้ปัญหาระยะสั้น ก็แค่ทำให้รูปร่างของเกมแตกต่างจากเกมแนวเดียวกันเกมอื่น แต่นั่นก็อาจดูเป็นสิ่งที่น่าเบื่อในการเล่นติดต่อกันได้เป็นปี ฉะนั้นสิ่งที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาระยะยาวของค่าย Mojang เลยก็คือการเพิ่มตัวเลือกให้ผู้เล่นสามารถพิชิตได้ โดยผู้เล่นที่ไม่สนใจจะทำเป้าหมายเหล่านั้นจะไม่เข้าร่วมทำเป้าหมายนั้นก็ได้ นี่แหละ ดูเป็นการแก้ไขปัญหาที่ได้ประโยชน์กันอย่างถ้วนหน้า ได้เปรียบกันทุกฝ่ายด้วยเหตุนี้ เกมมายคราฟจึงได้มีการสร้างบอสตัวแรกเป็นมังกรสีดำ เพื่อให้ผู้เล่นที่เล่นไปแล้วในระยะหนึ่งได้พิชิต อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการสร้างบอสที่ผู้เล่นสามารถพิชิตได้เพียงตัวเดียวยังจะไม่ใช่เป้าหมายสำคัญของทีมพัฒนาเกมบล็อกอย่างเกมมายคราฟ เพราะเพียงแค่ปีเดียวหลังจากที่พวกเขาได้สร้างบอสมังกรดำในมิติ The End ขึ้นมา บอสตัวต่อไปอย่าง The Wither และสิ่งมีชีวิตอันตรายตัวอื่น ก็ได้ถูกเพิ่มเข้ามาในเกมเพียบปีค.ศ. 2012 เป็นปีที่ทีมงานได้ตั้งฉายาอัปเดตอันน่ากลัว มันอาจจะไม่ได้ดูน่ากลัวมากนักสำหรับผู้เล่นในตอนนี้ที่รู้วิธีทั้งทางตรงและทางลัดในการจัดการกับ Hostile Mob ที่เดินผ่านไปผ่านมาตามหน้าบ้านในเกมของพวกเรา แต่ในตอนที่สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นพึ่งถูกแนะนำขึ้นมาใหม่นั้น คงเป็นประสบการณ์แห่งฝันร้ายน่าดูเลยล่ะครับลองจินตนาการถึงผู้เล่นไม่รู้อีโหน่อีเหน่ที่เดินทางตอนกลางคืน แล้วต้องมาเจอกับกลุ่ม Hostile Mob หน้าใหม่ที่เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันจะมาโจมตีในรูปแบบไหน ทั้งชาวบ้านที่ติดเชื้อซอมบี้ (แน่นอนว่าจัดการได้การพอ ๆ กับซอมบี้ธรรมดา) ทั้งแม่มดที่จะคอยปาขวดยาอะไรไม่รู้ใส่คุณจนค่าชีวิตลดฮวบลงอีก ไม่เพียงเท่านั้น ในมิติ Nether ที่ก็ว่าเอาชีวิตรอดออกไปได้ยากอยู่แล้ว ยังมีการเพิ่ม Wither Skeleton มาไล่ตีผู้เล่น ตีครั้งหนึ่งก็ไม่ใช่การทำ Damage ปกติแต่เป็นการทำให้ตัวผู้เล่นติดพิษด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมได้เขียนมานี้ ยังมีความน่ากลัวไม่ถึงครึ่งหนึ่งของบอสใหม่อย่าง Wither ที่มีทั้งพลังชีวิตที่เยอะมาตั้งแต่ต้น ทั้งพลังในการรักษาตัวเอง แล้วก็ยังมีพลังในการทำลายล้างอันมหาศาลอีก บอกเลยครับว่าครั้งแรกที่ผมลองอัญเชิญเจ้าตัวนี้ขึ้นมา มันทำเอาผมกับเพื่อน ๆ ต้องหนีไปคนละทิศละทาง แล้ว Wither มันน่ากลัวแค่ไหนน่ะหรือ ให้ท่านผู้อ่านลองนึกภาพตามดูนะครับ ว่ามีเด็กสามสี่คนพยายามอัญเชิญ The Wither ด้วยความตื่นเต้น โดยไม่คิดเลยว่าตัวที่อัญเชิญมาจะสามารถบินเหนือตัวละครของพวกเขาจนแม้แต่จะเอื้อมดาบขึ้นไปตีก็ตีไม่ได้ พอจะหนีมันก็บินตามมา พอจะเดินเข้าไปใกล้อีกหน่อยมันก็ปล่อยหัวกะโหลกออกมาโจมตีในตอนนั้นพวกผมไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากมาย จะหาข้อมูลเรื่องของเจ้าบอสตัวนี้ยังขี้เกียจหาเลย ผลลัพธ์จึงมาลงเอยอยู่ที่โลกที่พวกผมสร้างต้องมาพังไม่เหลือชิ้นดี เรื่องในครั้งนั้นจึงกลายเป็นบทเรียนให้พวกผมว่า ถ้าจะสู้กับเจ้าตัวนี้ควรลงไปอัญเชิญมันที่ใต้ดินยังจะปลอดภัยกว่าเอาล่ะครับ พูดถึงเรื่องการอัปเดตส่วนใหญ่ไปกันเยอะแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าในปีค.ศ. 2012 นี้ผมพูดถึงนี้ทางค่ายพัฒนาเกมมายคราฟได้มีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง เริ่มต้นจากการแปลงเกมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้กลายเป็นของเล่นที่สามารถจับต้องได้ นั่นคือการรวมมือกันในการสร้างเซ็ตของเล่น Lego ระหว่างเกมหน้าใหม่อย่างมายคราฟและยี่ห้อของเล่นขวัญใจเด็กช่างฝันอย่างเลโก้ ส่วนตัวผมคิดว่าบล็อกในช่วงนั้นไม่ค่อยมีความหลากหลายมากเท่ากับในตอนนี้ ทำให้เซ็ตของเล่นดูน่าเบื่อกว่าการเล่นเกมจริงเสียอีก หากผู้อ่านลองไปค้นดูภาพเซ็ต Lego เกี่ยวกับมายคราฟในยุคก่อน ก็จะเห็นได้ว่า Steve ที่ดูเหลี่ยมแล้วยังสามารถมีหน้าเหลี่ยมได้อีก แม้แต่แขนยื่นออกมาก็ยังไม่มี ส่วนเจ้าสิ่งมีชีวิตสีเขียวที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของเกมอย่าง Creeper ก็มีตุ่มอะไรไม่รู้นูน ๆ ขึ้นที่หัวของมัน ไม่รู้ว่าผมควรจะขำหรือสงสารมันก่อนดีเลยครับไหนจะเป็นพวกบล็อกที่ควรจะประกอบไปด้วย Pixel หลายช่องต่อกัน ต้องกลายมาเป็นบล็อกที่มีสีเดียวตลอดทั้งก้อน มันก็ดูเป็นของเล่นเด็กที่ไม่ลายตาดีหรอก แต่ไม่มีลายขนาดนี้ผมก็อดรู้สึกหดหู่ไม่ได้ สิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจของผมไปจากสินค้าชิ้นนี้ก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากวิดีโอโฆษณาเซ็ตตัวต่อ Lego ที่ทำเหมือนกันว่าเพียงแค่ทีมพัฒนาเกมเขียน Code ลงไปในคอมพิวเตอร์ก็สามารถสร้างเซ็ตตัวต่อนี้ได้เองแล้ว และไม่ใช่แค่ผมเท่านั้นนะครับที่ชื่นชอบวิดีโอที่สร้างสรรค์อันนี้ เพราะผู้ชมถึงห้าแสนคนก็ได้กดถูกใจให้กับคลิปโฆษณานี้มาแล้วถ้าข้ามเรื่องไม่ค่อยจริงจังออกไป ก็มีเรื่องที่เกมมายคราฟได้ไปเปิดตัวที่ประเทศจีนนี่แหละที่น่าสนใจ เกมมายคราฟในประเทศจีนได้รับชื่อว่า "我的世界" แถวยังมีทีมงานฝั่งนั้นเป็นผู้ดูแลโดยตรงเลยด้วยด้วยความที่เกมมายคราฟฝั่งประเทศจีนมีทีมพัฒนาที่แยกออกมาจากทีมหลัก ทำให้พวกเขาก็มีการเพิ่มฟีเจอร์เกม เพิ่มสิ่งมีชีวิตเข้าไปในเกม รวมถึงการจัดงานเกี่ยวกับเกมนี้ที่แตกต่างกันออกไปด้วย บางทีเหตุผลพวกนั้นก็ทำให้ผมสงสัยนะครับว่าเกมในเวอร์ชันนั้นจะเป็นอย่างไร แต่ขอสำรวจในแบบของเกมเวอร์ชันหลักก่อนดีกว่า เพราะตอนนี้ก็มีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มมาให้ผมมากแล้วทุกอย่างที่ผมเขียนมาทำให้เห็นว่าปีค.ศ. 2012 เป็นอีกปีหนึ่งที่เกมมายคราฟได้ประกอบความสำเร็จในการสร้างความชื่นชอบต่อตัวเกม แล้วในปีถัดไปอีกหลายปีเกมนี้ก็ยังจะเป็นหนึ่งในเกมขวัญใจผู้เล่นต่อไป และสำหรับบทความนี้ผมก็คงต้องจบลงไปก่อน ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่คลิกกันเข้ามา แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับเครดิตภาพและข้อมูลภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 24 ส.ค. 67
อ่าน
เยี่ยมชมโซน Dimensions ภายใน Minecraft Museum
หลังจากที่ผมได้พาผู้อ่านเยี่ยมชมบรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์และพาเดินเเข้าประตูบานแรกไปแล้ว ในบทความเรื่องก่อน ๆ ในบทความนี้ ผมก็ต้องพาทุกท่านเดินชมพิพิธภัณฑ์ต่อไป ซึ่งหากอ่านจากชื่อบทความก็คงเดากันไม่ยากว่าประตูบานต่อไปจะเกี่ยวกับอีกสองมิติในโลกมายคราฟที่ตัดขาดจาก Overworld ที่ตัวละครของเราอาศัยอยู่ ถัดออกมาจากประตูสีเขียวนามว่า "Alpha" ตามเวอร์ชันอัลฟ่าที่นับว่าเป็นเวอร์ชันแรกสุดของเกมมายคราฟ ทางซ้ายของประตูบานนี้คือประตูหน้าตาคล้ายกันแต่มีสีม่วง ชื่อว่า "Dimensions"ผู้เล่นที่เดินเข้าไปในประตูบานนี้จะพบกับ Cutscene เล็ก ๆ รอบต้อนรับอยู่ เมื่อเดินลึกเข้าไปอีกหน่อย นั่นแหละครับคือความอลังการที่แท้จริง ผมก็ว่าแอนิเมชันที่ทีมงานใส่ลงไปตรงโถงพิพิธภัณฑ์นั้นอลังการแล้ว ห้องนี้กลับน่าสนใจกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก เพราะผู้เล่นที่เดินเข้าไปจะได้พบกับรูปปั้นของตัวละครหลักในเกมทั้งสองตัวต่อสู้กับบอสใหญ่ของเกมอย่าง "The Wither" และ "Ender Dragon" ไม่เพียงเท่านั้น กำแพงทั้งสี่ด้านยังมีการประดับด้วยบล็อกประจำมิติของใครของมัน ฝั่งมิติ Nether ถูกตกแต่งด้วยหิน Obsidian ส่วนฝั่งมิติ The End ก็ถูกตกแต่งด้วย Endstone ทั้งซ้ายและขวาก็ยังจะมีประตูให้ผู้เล่นเข้าไปสำรวจตามแต่ละมิติได้อีกเตือนท่านผู้อ่านที่อยากจะตามผมเข้ามาเล่นในนี้ไว้ก่อนนะครับว่าเดินระวังพื้นที่เปิดรูด้วย เพราะครั้งแรกที่ผมลองเดินเข้าไปด้วยความคิดที่ว่ามันเป็นภาพลวงตาที่น่าสนใจดี ผมกลับต้องตกลงไปในพื้นที่ว่างนั้นแบบงง ๆ แต่ก็อย่ากลัวเลย ถ้ากลัวแล้วการสำรวจครั้งนี้จะไม่สนุกเอา จริงไหมครับ ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พวกเรามาสำรวจต่างมิติไปด้วยกันเถอะครับ เริ่มจากมิติแรกที่ถูกสร้างขึ้น "Nether" นั่นเองNether เป็นมิติที่เต็มไปด้วยความแห้งแล้งและสีแดงทั่วทั้งพื้นที่ พร้อมกับสิ่งมีชีวิตอันตรายที่จะโจมตีผู้เล่นให้เสียหลักตกลาวาอยู่เรื่อย ไหนจะภูมิประเทศที่ไม่อำนวยต่อการใช้ชีวิตอันสงบสุขสุด ๆ มันถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผมไม่อยากไปเยือนที่สุดในเกมนี้แล้ว ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีรางวัลหลายอย่างที่จูงใจให้ผู้เล่นอย่างผมต้องเข้าไปนับครั้งไม่ถ้วนการจะไปเยือนมิตินี้ได้นั้น ผู้เล่นจำเป็นต้องสะสมหิน Obsidian อย่างต่ำสิบบล็อกเพื่อสร้างเป็นประตูมิติ แค่นั้นไม่พอ ผู้เล่นยังต้องสร้างไฟแช็คเพื่อเปิดทางอีกด้วย ของรางวัลที่จูงใจให้ผมเข้าไปในมิตินี้ได้ตลอดก็คืออุปกรณ์เสริมแกร่งให้ชุดเกราะกับดาบเพชรของผมเพิ่มเติมที่เรียกว่า Netherite มันช่วยทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ของผมทนทาน ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมากไปกว่านั้น คือเราสามารถเอาไปอวดเพื่อน ๆ ที่เล่นอยู่ใน realm เดียวกันได้ว่าขณะนี้เราแข็งแกร่งมากแค่ไหน เท่านี้ก็จะไม่มีใครกล้ามากวนคุณระหว่างเล่นเกมได้แล้วครับผมยังไม่ได้กล่าวถึงการตกแต่งห้องใช่ไหมนะ ในห้องโซนมิติ Nether นี้พวกเขาได้ทำให้เป็นเหมือนตัวละครของเรากำลังเดินอยู่บนสะพานปราการ Nether โดยถูกล้อมรอบด้วยภูมิประเทศที่หลากหลายของมัน พร้อมกับทำแอนิเมชันสิ่งมีชีวิตให้ดูมีชีวิตชีวาเหมือนกับในตัวเกมจริง (หรือจะคิดว่าเจ้าพวกนี้ดูเป็นมิตรกว่าในตัวเกมจริงก็ได้) การจัดห้องแบบนี้ทำให้ผมต้องคอยสอดส่องทุกซอกทุกมุมของห้องว่ามันจะมีรายละเอียดอะไรที่น่าสนใจซ่อนอยู่ตรงมุมไหนบ้าง เป็นประสบการณ์เข้าพิพิธภัณฑ์ที่ไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อยครับมิติที่สองอย่าง "The End" ก็มีรางวัลจูงใจที่มากกว่าอีกมิติหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็น Elytra ที่ทำให้ผู้เล่นในโหมดธรรมดาสามารถบินสำรวจท้องฟ้าและเดินทางได้เร็วกว่ายานพาหนะอันไหน ๆ ในเกม หรือว่าจะเป็น Dragon Breath ที่ผู้เล่นสายปรุงยามักใช้ในการเคลือบหัวลูกศรให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ ไม่ก็ Shulker Box เจ้ากล่องหลากสีที่ทำให้ผู้เล่นแบกของติดตัวได้มากกว่าเดิม ทว่า สิ่งของเหล่านี้ต่างก็ต้องอาศัยความพยายามในการเข้าไปเอามาก เนื่องจากผู้เล่นจะต้องรวบรวมกุญแจที่ใช้เปิดประตูมิติ ต้องตามหาป้อมปราการโบราณใต้ดินเพื่อหาประตูมิติอีกที ต้องต่อสู้กับเจ้าถิ่นอย่างมังกรดำ แล้วก็ยังต้องเดินทางข้ามเกาะลอยฟ้าต่าง ๆ เพื่อไปเอาของเหล่านั้น เพียงทำพลาดไม่กี่ก้าว ตัวละครของคุณก็อาจตกลงไปในพื้นที่ว่างได้ และแม้แต่ชุดเกราะที่แข็งแกร่งก็ไม่อาจปกป้องคุณจากความผิดพลาดนี้แน่นอนมาพูดถึงการตกแต่งห้องนี้บ้างดีกว่า ตอนแรกที่ผมเดินเข้าไปก็รู้สึกว่ามันน่าเบื่อกว่าห้องฝั่งมิติ Nether มาก ไม่มีอะไรน่าสนใจมากเป็นพิเศษ ทว่า ผมก็ต้องเปลี่ยนใจใหม่อีกครั้งเมื่อเดินเข้าไปถึงโซนห้องกระจกบานใหญ่ที่โชว์ให้เห็นมิติ The End แบบหนึ่งร้อยแปดสิบองศา ทั้งสีสัน ทั้งบรรยากาศ ทั้งท่าทางของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนั้นก็ทำได้สมจริงจนผมอยากเข้าไปบินเล่นตรงนั้นด้วยนึกได้ไม่ทันไรตาของผมก็เหลือบไปเห็น NPC มอบมินิเกมเสียแล้ว และมินิเกมที่ว่าคือให้ผมเข้าไปร่วมบินเล่นกับพวกเขาจริง ๆ มุมมองของเกมนี้ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากในเกมจริงมากหรอกครับ แต่ด้วยแอนิเมชันที่ทำให้ดูเหมือนเราไม่ใช่ผู้เล่นคนเดียวที่แข่งเกมนี้อยู่ ก็หายเหงาอยู่ไม่น้อยเลยอย่างที่ผมได้เขียนไป ระหว่างที่สำรวจตามห้องต่าง ๆ ผู้เล่นอาจได้พบกับ NPC ที่จะยืนมอบมินิเกมให้เราได้ลองเล่น ผมขอแนะนำให้ลองเล่นกันดูครับ แต่ละมินิเกมมีเอกลักษณ์ของมันเอง แม้ว่ามันจะมีหน้าตาเหมือนกันเกมมายคราฟธรรมดา แต่การควบคุมมุมกล้องให้ต่างไปจากเดิมก็ทำให้เกมน่าเล่นมากขึ้นแล้ว ผมขอชื่นชมค่าย Mojang ในจุดนี้เลย นอกจากนั้น ผู้อ่านก็ลองไปถ่ายรูปที่โซนถ่ายรูปเล็ก ๆ ที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดไว้ให้สิครับ ถ้าถ่ายด้วยมุมมองบุคคลที่ 3 จะดูดีมาก ผมว่ามันเป็นกิจกรรมขำ ๆ ที่สนุกนะครับ แถมเรายังสามารถเอารูปภาพพวกนี้เก็บไว้เป็นที่ระลึกวันครบรอบสิบห้าปีของเกมมายคราฟได้อีกด้วยสุดท้ายก่อนที่บทความนี้จะจบลง ผมขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับที่เข้ามาชม แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับเครดิตภาพและข้อมูลภาพประกอบทั้งหมดมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 23 ส.ค. 67
อ่าน
แอบย่องไปส่องด้านใน Minecraft Museum
ในบทความเรื่องที่แล้ว ผมได้กล่าวถึงบรรยากาศภายนอกพิพิธภัณฑ์แสดงความเป็นมาของเกมมายคราฟไปก่อนตบท้ายว่าจะพาท่านผู้อ่านเข้ามาชมภายในพิพิธภัณฑ์นี้ในบทความต่อไป เพื่อไม่ให้ผู้อ่านรอคอยกันนาน บทความนี้พวกเราจะเข้าไปเยี่ยมชมด้านในพิพิธภัณฑ์กันครับMinecraft Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้ผู้คนเข้ามาชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแค่เข้าไปโหลด Map แล้วสร้างโลกใหม่ในตัวเกม ใช่ครับ พิพิธภัณฑ์ที่ว่านี้อยู่ในตัวเกมมายคราฟด้วยเช่นกัน ทำให้เหล่าแฟนเกมจากทั่วโลกสามารถเข้ามาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ได้แม้ว่าจะอยู่ที่ไหน เวลาใดก็ตามถ้าเดินเข้าไปด้านหน้าตัวอาคารแล้วเจอผู้เฝ้าประตูยืนกันประตูที่ปิดไว้อยู่ก็ไม่ต้องตกใจนะครับ พวกเขาไม่ทำอันตรายกับตัวละครของเราแน่นอน ฉะนั้นเดินต่อไปได้เลย เมื่อเดินไปถึงจุดหนึ่งแล้วพวกเขาจะเป็นคนเปิดประตูให้เราเข้าไปเอง จากนั้นผู้เล่นก็จะเจอกับฉาก Cut Scene ซึ่งทำให้เราได้ไปพบกับ NPC เสื้อสีฟ้าคนหนึ่งนำหนังสือบางอย่างมายื่นให้กับเรา หนังสือเล่มหนาเล่มนั้นเป็นหนังสือสะสมสติกเกอร์ที่ผู้เล่นจะพบเจอตามจุดต่าง ๆ ของพิพิธภัณฑ์ เมื่อ Cut Scene จบลง ผู้เล่นก็จะสามารถเดินสำรวจโดยรอบอาคารได้อย่างอิสระแล้วสิ่งที่ดึงดูดสายตาผมที่สุด คงจะเป็นตัวละครสองตัวที่อยู่เคียงคู่เกมมายคราฟมาอย่างยาวนาน นานก่อนที่จะมีฟีเจอร์การตกแต่งตัวละครเองเสียอีก ตัวละครสองตัวนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ พวกเขาคือ Steve กับ Alex นั่นเองครับ หากผู้อ่านยังจำกันได้ Steve ได้ถูกเพิ่มเข้ามาตั้งแต่เกมเวอร์ชันอัลฟ่าแล้ว ส่วน Alex นั้นก็ถูกเพิ่มเข้ามาไม่นานนักทั้งคู่กำลังเปิดดูหนังสือที่เหมือนว่าจะเป็นสมุดสะสมสติกเกอร์อีกเล่ม แต่ถึงผมจะพยายามเดินเข้าไปส่องอย่างไร สมุดเล่มนั้นก็แทบจะเป็นสมุดเปล่าที่มีแค่โครงของสติกเกอร์เท่านั้น น่าเสียดายที่ผู้เล่นไม่สามารถเข้าไปสื่อสารกับพวกเขาได้ แต่เท่านี้ก็เพียงพอให้ผมอยากสำรวจต่อแล้ว เผื่อจะเจอสติกเกอร์อยู่รอบ ๆ นี้บ้างถัดจากตัวละครอมตะทั้งสองตัวนี้ ผมยังสังเกตเห็นก้อนเค้กก้อนยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ใต้ฐานเค้กเป็นตุ๊กตารูป Hostile Mob ตัวจิ๋วตั้งเรียงราย ไหนจะมีก้อนเค้กขนาดปกติกระจัดกระจายทั่วมุมห้อง รอบ ๆ เค้กก้อนใหญ่ผู้เล่นจะพบกับโต๊ะอาหารที่เหล่าตัวละครมากหน้าหลายตาได้มารวมกัน ไม่ว่าจะเป็น Mob เป็นมิตรต่อผู้เล่นและ Mob ที่พร้อมจะโจมตีผู้เล่นทุกเมื่อในโหมดปกติของเกม มองครั้งแรกผมก็รู้สึกแปลกเหมือนกันที่พวกมันไม่โจมตีผู้เล่นเลย สงสัยผมจะเล่นตัวเกมจริงมากไปตัวอย่าง Mob ตัวแรกที่ควรจะโจมตีผมเลยก็คือ Creeper ที่นั่งชิวอยู่มุมโต๊ะ แถมมันยังกลายเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกับตัวละครในเกมตัวอื่น ๆ อีก ภาพที่เห็นคงจะน่าเหลือเชื่อสำหรับผู้เล่นหลายคนที่ถูกเจ้าสิ่งมีชีวิตสีเหลืองนี้จ้องจะระเบิดต่อหน้ามาแล้ว แต่ก็อย่างว่า มันเป็น Map แบบพิเศษ พวกเราก็ต้องเห็นอะไรที่ไม่ชินตาบ้าง จริงไหมครับเอาล่ะ พาสำรวจกลางห้องมามากพอแล้ว คราวนี้พวกเรามาดูรอบห้องกันดีกว่าครับ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง เผื่อว่าผมจะสังเกตเห็นรายละเอียดบางอย่างที่ผู้อ่านอาจมองข้ามไปตอนที่เข้ามาในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จุดที่เด่นและไม่อาจมองข้ามไปได้เลยก็คือประตูที่ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของกำแพงพิพิธภัณฑ์ ฝั่งละสามบาน รวมทั้งหมดเป็นหกบาน แต่ละบานต่างก็มีสีรวมถึงสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของมันเอง หากผู้เล่นเดินเข้าไปใกล้พอ จะเกิด Cut Scene ที่นำตัวละครของเราไปสู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง ปลายสุดของประตูนั้นก็แตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน ไว้ผมมีเวลาเมื่อไหร่ จะค่อย ๆ มาเจาะลึกไปตามประตูแต่ละบาน และถ้าผมดันโชคดีหาสติกเกอร์ตามแต่ละห้องจนครบ ก็อาจจะแอบบอกใบ้ไปด้วยครับว่า สติกเกอร์ดวงนั้น ๆ อยู่ที่ไหนบ้าง ค่อยเก็บไว้พูดถึงในบทความต่อไปนะครับถัดจากประตูขนาดมหึมาเหล่านั้น ผู้เล่นจะได้พบกับโต๊ะอีกตัวที่มีแต่ก้อนเค้กเต็มไปหมด ผู้ที่นำเอาก้อนเค้กมาเรียงสูงขนาดนั้น ก็คือ Mob ตัวจิ๋วสีฟ้า Alley นั่นเองครับ ส่วนตัวผมชอบแอนิเมชันของโซนนี้มากที่สุด เหตุผลคงจะเป็นเพราะรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทีมสร้าง Map ได้ใส่เข้าไปให้กับ Alley เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นท่ายกเค้ก (ในเกมปกติเจ้าพวกนี้จะถือเป็นไอเทมมากกว่าที่จะยกมาทั้งบล็อก) หรือการบินเลี้ยวไปมา ซึ่งทำให้พวกมันเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลกว่า อีกทั้งยังทำแอนิเมชันให้วนลูปได้อย่างพอดี สมแล้วล่ะครับที่เป็น Map ฉลองสิบห้าปีเกมมายคราฟแต่ก็ใช่ว่าจะมีแค่โซนนี้นะครับที่พวกเขาสร้างแอนิเมชันให้วนอย่างลื่นไหล ถัดไปอีกเล็กน้อยผู้เล่นจะได้เห็นประตูอีกบาน ซึ่งจะเปิดให้ NPC Villager ที่แต่งตัวเหมือนเชฟเดินเข้ามาข้างใน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมลองเดินเข้าไปแล้ว มันเข้าไม่ได้นะครับ เหมือนจะสร้างมาเพื่อทำแอนิเมชันโซนนี้โดยเฉพาะขอบอกเลยครับว่าผู้อ่านต้องลองโหลดและเข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศในแมพนี้ด้วยตัวเอง เพราะว่ายังไงประสบการณ์จริงก็คงจะน่าจดจำกว่าการฟังจากที่ผมเล่าแน่นอน ไม่แน่ใจว่าตอนที่บทความนี้ถูกเผยแพร่ไปจะยังมี Map ให้โหลดอยู่อีกไหม ถ้าใครโหลดทันก็ลองเข้าไปสำรวจดูนะครับ แต่หากใครโหลดไม่ทันก็ไม่ต้องเสียใจไปนะครับ เดี๋ยวผมจะพาผู้อ่านเข้าไปสำรวจด้วยกันเองสำหรับบทความนี้ก็คงต้องจบลงไปก่อน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับเครดิตภาพภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่นเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 19 ส.ค. 67
อ่าน
เส้นทางสู่มายคราฟเวอร์ชันอัลฟ่า | Minecraft Museum
การเปลี่ยนแปลงย่อมมีให้เห็นได้ในทุก ๆ สิ่ง ไม่มีสิ่งใดบนโลกที่เกิดมาแล้วไม่มีการพัฒนาหรือถดถอยลง แม้แต่เกมมายคราฟที่พวกเราเล่นกันอยู่นี้ก็ยังหนีไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่...เริ่มตั้งแต่วันที่เกมมายคราฟได้ออกสู่สายตาผู้คนทั่วโลก ตามชื่อที่แฟนเกมเรียกกันว่า Minecraft Classic หรือตามชื่อของบทความนี้ Alpha Minecraft เกมนี้ก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากมาย เอกลักษณ์หลักที่ทำให้เกมนี้ยังคงความเป็นตัวเองอยู่คือทุกสิ่งทุกอย่างในเกมที่ประกอบไปด้วยพิกเซล พื้นที่ที่ถูกสร้างมาจากบล็อก สีสันนีออนอันสดใส รวมไปจนถึงก้อนเมฆก้อนแบนเจ้าเก่าเจ้าเดิมที่ไม่เปลี่ยนรูปร่างเลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากฟีเจอร์ที่ผมกล่าวมาเหล่านี้ ฟีเจอร์อื่น ๆ ก็ถูกแก้ไขไม่ก็เพิ่มเติมกันจนหมดผู้เล่นหลายคนคงจะพอทราบกันอยู่แล้วว่านอกจากชื่อที่เก่าแก่ที่สุดของมายคราฟอย่าง "Cave Game" แล้ว ทีมผู้พัฒนายังเปลี่ยนชื่อเกมเป็น "Minecraft : Order of the Stone" กระทั่งมาลงเอยอยู่กับชื่อที่พวกเราต่างก็จำได้อย่าง "Minecraft" ในที่สุด ช่วงที่เกมถูกสร้างขึ้นใหม่นี้เอง บล็อกที่ผู้เล่นสามารถใช้ได้ก็ไม่มีจำนวนเยอะเท่าปัจจุบัน ต้นไม้ก็มีแค่ต้น Oak เพียงชนิดเดียว ไบโอมในแต่ละโลกที่ถูกสร้างขึ้นก็มีเพียงไบโอมเดียว จากนั้นมันจึงถูกเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมีบล็อกนับไม่ถ้วนอย่างที่เห็นกันในเวอร์ชันปัจจุบันถ้าให้เรียงเป็น Timeline ก็คงต้องเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 เดือนพฤษภาคม ปีค.ศ. 2009 ที่มีแค่บล็อกพื้นฐานที่ผมได้กล่าวไป ต่อมาเดือนกันยายนจนถึงช่วงปลายเดือนตุลาคมปีเดียวกัน บล็อกบางส่วนก็ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบระบบการเล่นแบบ Survivalเมื่อการทดสอบการเล่นแบบ Survival จบลง การทดสอบระบบการเล่นแบบมีผู้เล่นหลายคนก็ได้เริ่มขึ้น พร้อมกับบล็อกอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามา หนึ่งในนั้นก็เป็นส่วนประกอบของธรรมชาติที่ช่วยให้เกมมายคราฟมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างดอกไม้ ที่ตอนนั้นมีเพียงดอกสีแดงและสีเหลืองเท่านั้น นอกจากบล็อกดอกไม้แล้ว บล็อกที่สำคัญสำหรับสร้าง "เตียง" อุปกรณ์คู่บุญบารมีของเกมมายคราฟก็ได้ถูกเพิ่มเข้ามาด้วย ทว่าในตอนนั้นมันถูกเรียกว่าเป็นชิ้นส่วนเสื้อผ้ามากกว่าบล็อกขนแกะที่ผู้เล่นในปัจจุบันรู้จักกันFun Fact (เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย) : รู้หรือไม่ว่า บล็อกที่ไม่ค่อยมีผู้เล่นสนใจอย่าง "ฟองน้ำ" มีการเปลี่ยนแปลงที่ขึ้น ๆ ลง ๆ จนทีมงานพัฒนาเกมถึงกับเรียกว่าเป็นรถไฟเหาะกันเลยทีเดียวกล่าวคือ ในช่วงแรกของเกม เจ้าบล็อกฟองน้ำมีคุณสมบัติการซับน้ำแบบไม่มีวันสิ้นสุด ทำให้เมื่อวางไปแล้วบล็อกนึง ก็สามารถทำให้บ่อน้ำขนาดใหญ่บ่อนึงแห้งเหือดไปจนหมดอีกทั้งมันยังเป็นการยากต่อการปรับปรุงการเขียนโค้ดเกี่ยวกับฟิสิกส์ของน้ำในเกม ด้วยปัญหานี้เองทำให้มันต้องถูกลบฟังก์ชันการใช้งานออกชั่วคราว กลายเป็นเพียงบล็อกตกแต่งทั่วไป กระทั่งในเวอร์ชัน 1.8 ฟังก์ชันการซับน้ำของมันก็กลับมีอีกครั้ง ในตอนนี้ฟองน้ำก็จะสามารถซับน้ำได้ในส่วนเล็ก ๆ ผู้เล่นก็สามารถเอามันไปเผาให้แห้งและนำมาใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ เลยพอพูดถึงฟิสิกส์เกี่ยวกับของเหลวในเกมแล้ว ผมก็อดพูดถึงลาวากับน้ำไม่ได้ เพราะในช่วงก่อนนั้น บล็อกน้ำเพียงบล็อกเดียวก็สามารถเติมพื้นที่โดยรอบให้เต็มได้แล้ว บล็อกลาวาก็เช่นกัน ทว่าเมื่อฟีเจอร์ฟิสิกส์ของเหลวได้ถูกเพิ่มเข้ามา ทำให้ตอนนี้บล็อกน้ำไปได้ไกลเพียงแค่เจ็ดบล็อก บล็อกลาวายิ่งแล้วใหญ่ เนื่องจากมันไปได้ไกลเพียงสามบล็อกเท่านั้นส่วนตัวผมชอบที่พวกเขามีการเพิ่มหลักการทางฟิสิกส์เข้ามาในตัวเกมนะครับ มันทำให้เกมดูสมจริงและท้าทายมากยิ่งขึ้น แต่หลักฟิสิกส์เดียวที่ผมไม่อยากจะให้ถูกเพิ่มเข้ามาเลยก็คือฟิสิกส์แรงโน้มถ่วงของบล็อก ไม่งั้นคงจะเป็นหายนะเหมือนหลายคลิปเกี่ยวกับ Gravity Mod ที่เห็นทางอินเทอร์เน็ตเป็นแน่พูดถึงบล็อกมามากแล้ว ต่อไปพวกเรามาพูดถึงสิ่งมีชีวิตในช่วงแรกของเกมกันดีกว่า ผู้อ่านรู้หรือไม่ครับว่า ในช่วงแรกของเกม ผู้เล่นสามารถกดปุ่ม "G" เพื่อเรียกให้ Steve ออกมาได้ ซึ่งในตอนนั้นเขายังไม่ได้รับชื่อและถูกเรียกว่าเป็น "มนุษย์" เท่านั้น ที่ผมคิดว่าฮาก็คือท่าเดียวของมนุษย์ที่ถูกเรียกตัวมา จะเดินแกว่งแขนแกว่งขาสุดแรง เป็นภาพที่ดูคล้ายปลาดาวเคลื่อนที่มากกว่ามนุษย์เดินเสียอีก ถ้าไม่ติดตรงที่มนุษย์ทั้งหลายที่ถูกเรียกมาเหล่านี้จะโจมตีผู้เล่น ผมก็คงอยากเรียกออกมาหลาย ๆ คนให้เครื่องคอมพิวเตอร์งงจนค้างไปเลยในเมื่อเขียนถึง Hostile Mob ตัวหนึ่งไปแล้ว ก็คงขาดอีกตัวที่ก็เป็นเอกลักษณ์อยู่คู่กับเกมมานานอย่าง Creeper ไปไม่ได้แน่ ว่ากันว่าก่อนหน้าที่จะกลายมาเป็นเจ้าตัวสีเขียวเดินสี่ขาที่คอยเดินตามมาระเบิดใกล้ผู้เล่น มันเคยเป็นต้นแบบของ Mob เป็นมิตรธรรมดา ๆ อย่างหมูมาก่อน น่าเหลือเชื่อจริง ๆ ใช่ไหมครับที่เมื่อก่อนพวกเขามีจินตนาการได้ถึงขนาดนี้ในปัจจุบันแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้น่าจดจำเท่าการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในเมื่อก่อน ตอนนี้พวกเราก็คงต้องรอคอยกันต่อไปว่าทางทีมพัฒนาเกมจะมีอะไรมานำเสนอ และหากถึงตอนนั้นจริง ผมก็จะมาอัปเดตให้ผู้อ่านนะครับ สำหรับในบทความนี้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันครับ เครดิตภาพภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่นเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 20 ส.ค. 67
อ่าน
พากันมาทัวร์รอบ Minecraft Museum
หลังจากที่เกมมายคราฟมีการจัดกิจกรรมแจกไอเทมแต่งตัวละครในเกมฟรีเนื่องในโอกาสวันครบรอบ 15 ปีของการกำเนิดเกม การเฉลิมฉลองก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะว่าต่อจากนั้นไม่นาน ทางทีมผู้พัฒนาเกมอย่าง Mojang Studios ก็ได้ประกาศว่าพวกเขาได้เปิด Map ให้ผู้เล่นโหลดไปเล่นกันได้แบบฟรี ๆ ในเมื่อเป็นของที่ทีมพัฒนาเกมสร้างมาทั้งทีก็ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้วจริงไหมครับ เพราะ Map ที่พวกเขาบอกว่าจะเปิดให้โหลดฟรีนั้นเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงความเป็นมาของเกมมายคราฟภายในเกมมายคราฟอีกทีนั่นเองตั้งแต่พวกเขามีการประกาศมาอย่างนั้น ผมก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปโหลด Map มาดูทันที หากผู้อ่านท่านไหนอย่างมีประสบการณ์ร่วมกับผมก็สามารถโหลดมาดูไปพร้อม ๆ กับอ่านคำบรรยายของผมก็ได้ Map นี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "Minecraft 15 Year Journey" นะครับ คิดซะว่าผมพาท่านผู้อ่านมาเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรีแล้วกัน ส่วนท่านผู้อ่านที่เหลือก็ไม่ต้องน้อยใจไป ผมมีภาพประกอบให้ดูระหว่างการบรรยายอย่างแน่นอน ในเมื่อทุกท่านพร้อมแล้ว ไปดูพิพิธภัณฑ์ภายในโลกบล็อกสี่เหลี่ยมนี่กันเลยครับMap "Minecraft 15 Year Journey" เป็นผลงานร่วมของสตูดิโอสองที่ ได้แก่ Mojang Studios และ Oreville Studios เมื่อคลิกเข้ามาภายในเป็นครั้งแรกก็จะมีแอนิเมชันต้อนรับผู้เล่นอย่างอลังการ หากใครเคยดูแอนิเมชันของทีมผู้พัฒนาเกมนี้อยู่แล้วก็น่าจะคุ้นเคยกับสไตล์ของมันเป็นอย่างดี สไตล์เดียวกันเลยล่ะครับ สีดูเรียบกว่าตัวเกมจริง แต่ก็ดูสะอาดตาดี เอาซะผมอยากได้ texture pack แบบนี้เลย อย่าว่าแต่แอนิเมชันตอนต้อนรับครั้งแรก โลกมายคราฟด้านในก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับคลิปที่ Mojang ทำเช่นกัน แม้แต่ตัวละครของผมเองก็ถูกทำให้กลายเป็นตัวการ์ตูนแอนิเมชันไปด้วยจากภาพประกอบที่ผู้อ่านได้เห็นกัน เบื้องหน้าของผมคือพิพิธภัณฑ์หลัก มันเป็นอาคารสีเหลืองอ่อนจาก Sandstone ตกแต่งด้วยบล็อกหลายชั้นเพื่อให้มีมิติมากขึ้น บนยอดหลังคามีหน้า Creeper ประดับอยู่ ระหว่างเสาทุกต้นยกเว้นต้นกลางก็ถูกประดับด้วยธงสีเขียวลาย Creeper อีกเช่นเดียวกัน โดยรอบตัวอาคารก็มีความน่าสนใจไม่แพ้ภายใน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมในบทความนี้ผมจึงอยากจะมาเดินทัวร์แค่ภายนอกพิพิธภัณฑ์อย่างเดียว แล้วค่อยไปเจาะลึกรายละเอียดในอาคารต่อบทความอื่นหลังจากนี้ถัดมาจากตรงหน้าอาคาร พวกเราจะเห็นน้ำพุสามชั้นที่สูงกว่าตัวละครผู้เล่นประมาณสองเท่ากว่า ๆ ได้ บนยอดน้ำพุมีตัว Ravager ตัวน้อยยืนอยู่ ถ้าเป็นในเกมจริงผมคงหนีไปแล้วครับ เจ้าตัวนี้ดุร้ายและมีพลังโจมตีรุนแรงมาก พอมาอยู่ใน Map นี้ดูน่ารักขึ้นเยอะเลย บอกตามตรงว่าถ้าผมไม่ได้มานั่งเขียนบทความนี้ก็คงไม่ได้สังเกตรายละเอียดรอบน้ำพุให้ชัด ๆ และก็คงต้องมองข้ามอะไรไปเยอะแน่ ผู้อ่านลองมองไปที่ขอบน้ำพุทั้งสี่ด้านสิครับว่ามีอะไรซ่อนอยู่ มันเป็นรูปปั้นของโลมาล่ะครับ ผมไม่ทันได้มองเลย ถึงรูปปั้นเหล่านี้จะมีขนาดเท่าตัวผู้เล่นก็ตาม เพราะตอนเข้ามาใน Map ผมแทบจะถ่ายรูปแล้วเดินผ่านมันไปเลย นอกจากรูปปั้นโลมาอีกรายละเอียดหนึ่งที่ผมอยากให้ผู้อ่านลองดูคือนกแก้วสองตัวที่เกาะอยู่ตรงเชือกคล้องธงสีเขียวส้มเหนือหัวผู้เล่นครับ เห็นในภาพนิ่งแบบนี้จริง ๆ พวกมันขยับหัวไปมาไม่หยุดเลยนะ สะดุดตาผมยิ่งว่ารูปปั้นโลมาตรงน้ำพุซะอีกไหน ๆ ก็เงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนแล้ว พวกเรารวดมองบอลลูนบนท้องฟ้ากันเลยดีกว่า บนท้องฟ้าของ Map มายคราฟอันนี้มีบอลลูนลอยอยู่ทั้งหมดหกลูก สองลูกด้านหน้าพิพิธภัณฑ์คงเป็นลูกที่ท่านผู้อ่านจะเห็นได้ชัดที่สุด ถ้าเดาจากสีก็คงจะพอเดาได้อยู่แล้วครับ ว่าลูกหนึ่งเป็นลายหมู อีกลูกหนึ่งเป็นลาย Creeper พอเข้าใกล้ตัวผู้เล่นอีกซักหน่อย บอลลูนสองลูกต่อไปคือลาย Enderman กับลาย Skeleton ส่วนสองลูกด้านหลังสุดคือลายฟักทองกับลายซอมบี้ ลายที่ผมชอบที่สุดเห็นทีจะเป็นลูกที่มีลาย Enderman สีดำของตัวมันเห็นง่ายบนท้องฟ้าที่สุดแล้วล่ะครับ น่าเสียดายที่บอลลูนพวกนั้นมีไว้เพื่อตกแต่งเฉย ๆ ไม่สามารถขึ้นไปขี่ได้เมื่อเดินผ่านน้ำพุไปใกล้พิพิธภัณฑ์มากขึ้นจะมีพื้นที่ว่างอยู่สองโซน ทั้งสองโซนก็มีฉากตลก ๆ ที่รอให้ผู้เล่นเข้าไปค้นพบกันทั้งคู่ ทางซ้ายของผู้เล่นเป็นกลุ่มของ Pillager ที่ตะโกนเชียร์ให้เพื่อนของเขาปีนขึ้นไปสู่ยอดพิพิธภัณฑ์ได้สำเร็จ ภาพที่เห็นก็ดูน่ารักดีหรอกที่ได้มาเห็น Hostile Mob เหล่านี้ทำอะไรที่ไม่ใช่การโจมตีผู้เล่นกันบ้าง แต่อีกมุมนึงผมก็หวาดเสียวแทน Pillager คนที่ต้องปีนเชือกเส้นเดียว แถมยังมีฉากตอนที่เขาทำเชือกหลุดมือจนหล่นจากโคนเชือกมาอยู่ตรงกลาง ๆ อีกด้วยครับ เอาเป็นว่าผมเอาใจช่วยพวกเขาก็แล้วกันทางด้านขวามือของผู้เล่นก็เป็นภาพที่น่ารักไม่แพ้กัน นั่นคือตัวละครในเกมตัวหนึ่งที่กำลังถ่ายภาพให้กับกลุ่มเพื่อนต่างสายพันธุ์ ได้แก่ แมวดำ, แม่มด, Warden แล้วก็วัวอยู่ทั้งหมดนี้ก็เป็นบรรยากาศภายนอกพิพิธภัณฑ์ที่ดูครึกครื้นมาก แค่ด้านหน้าก็มีอะไรให้ดูเยอะแล้ว ด้านในจะน่าสนใจขนาดไหน ส่วนตัวผมชื่นชอบรายละเอียดการเคลื่อนไหวของแอนิเมชันที่เป็นธรรมชาติจากด้านนอกอาคารมากที่สุด แถมทีมงานที่สร้าง Map ยังมีการสอดแทรกรายละเอียดชวนขำเข้าไปแบบเนียน ๆ อีก ไม่แน่ว่าภายในจะมีให้พวกเราสำรวจมากกว่านี้ หรืออาจมีความลับซ่อนอยู่ก็เป็นได้ ไว้มาสำรวจร่วมกันอีกในบทความต่อไป สำหรับวันนี้ผมก็ขอลาไปก่อน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับเครดิตภาพภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 12 มิ.ย. 67
อ่าน
ว่าด้วยมายคราฟเวอร์ชันแรก | Minecraft Journey
การเริ่มต้นทำสิ่งใหม่มักเป็นการกระทำที่ท้าทายอยู่เสมอ ทุกตัวเลือกที่ตัดสินใจ ทุกก้าวที่เดินไปข้างหน้าต่างก็มีผลต่ออนาคตของสิ่งที่กระทำอยู่ทั้งสิ้น จะว่าความสำเร็จเป็นเรื่องของสิ่งที่เราทำก็ได้ หรือจะว่าโชคก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นก็ได้ ไม่ว่าอย่างไรมันก็มีหลายปัจจัยเกินกว่าจะควบคุม สิ่งที่ทำอยู่จะรอดและดำเนินต่อไป หรือมันจะล้มเหลวไม่เหลือซากก็ต้องค่อยดู เป็นเวลากว่าสองปีมาแล้วนับจากวันที่เกมแนว Sandbox อย่างเกมมายคราฟได้เปิดตัวให้แฟนเกมรู้จัก ในที่สุดเมื่อปีค.ศ. 2011 เกมมายคราฟก็ได้ปล่อยเวอร์ชัน 1.0 ให้ผู้เล่นได้เข้ามายลโฉมเกมกันแบบเต็มตัว ถึงแม้ว่าเกมนี่พึ่งเปิดตัวเวอร์ชันแรกไป แต่ยอดผู้เล่นสะสมของเกมนับตั้งแต่วันแรกก็ทะลุมาเกินหนึ่งล้านคนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ในปีเดียวกันเกมมายคราฟก็ได้รับรางวัลสุดยอดเกมแห่งปีจาก Time Magazine อีกต่างหากนี่ขนาดพึ่งเปิดตัวเวอร์ชันแรกไปหมาด ๆ นะครับเนี่ย เกมมายคราฟยังได้รับผลตอบรับและรางวัลมาขนาดนี้ ในบทความนี้พวกเรามาดูกันดีกว่าว่าในปี 2011 มีการอัปเดตเพิ่มฟีเจอร์ไหนเข้าไปในเกมบ้าง พูดคุยกันเรื่องอีเวนต์ใหญ่อันแรกของคอมมูนิตี้มายคราฟอย่างงาน Minecon 2011 รวมถึงการเล่าเรื่องเกี่ยวกับมายคราฟเวอร์ชันเก่าในความทรงจำของผม และคอยดูกันว่าความทรงจำเกี่ยวกับมายคราฟในวันวานของผมกับผู้อ่านจะเหมือนหรือแตกต่างกันแค่ไหนเปิดประเดิมด้วยการอัปเดตครั้งใหญ่ที่เพิ่มมิติอันที่สามเข้ามาในเกม มิตินี้เป็นมิติแห่งความมืดมิด รอบข้างเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ว่างเสียยิ่งกว่าดินแดนแห้งแล้งในมิติ Nether เพราะนอกจากพื้นดินลอยได้สีเหลือง สิ่งมีชีวิตไม่กี่ชนิดกับสิ่งก่อสร้างเพียงหยิบมือแล้ว มิตินี้ก็ไม่มีอะไรเลย"The End" คือชื่อของมิติผมกล่าวมา แรงบันดาลใจในการสร้างมิตินี้ไม่ได้ห่างไปจากตัวเกมนัก เพราะต้นแบบของมันก็คือโลก "Sky Dimension" ที่เคยอยู่ในเกมมายคราฟเวอร์ชันก่อนนี่เอง โลกใบนี้มีหน้าตาเหมือน Overworld ทุกประการ เว้นแต่ว่าพื้นดินจะแยกออกจากกันและส่วนที่แยกถูกแทนที่ด้วยความว่างเปล่า หากผู้เล่นตกลงไปก็จะต้องอยู่ในห้วงความเคว้งคว้างตลอดกาล เหมือนกับมิติ The End เลยใช่ไหมล่ะครับ แถมพื้นดินจากมิติ The End ยังเป็นการนำเอาบล็อกหิน Cobblestone มาเปลี่ยนสีใหม่จากสีเทาเป็นสีเหลืองก็เท่านั้นเองหากมาเพียงแค่พื้นที่โล่งแบบนั้นก็คงไม่เป็นที่สนใจของผู้เล่นที่รอคอยการเปิดตัวของเกมมานานอย่างแน่นอน ฉะนั้นทีมพัฒนาเกมจึงนำ Hostile Mob ที่นับได้ว่าเป็นบอสตัวแรกของเกมเข้ามาอย่าง Ender Dragon ตามมาด้วยสิ่งมีชีวิตที่ชื่อขึ้นต้นด้วย "Ender" ทั้งหลาย เช่น Enderman แล้วก็ Endermite ในอนาคตพวกเขาก็ยังมีแผนในการเติมสิ่งมีชีวิตกับสิ่งก่อสร้างเพื่อเป็นรางวัลให้ผู้เล่นที่เอาชนะมังกรประจำมิตินี้ได้อีกด้วยเมื่อพูดถึงบอสตัวแรก แน่นอนว่าช่วงนั้น ไม่มีผู้เล่นหน้าไหนเคยกำจัดมันมาก่อน การจะเข้าไปมิตินั้นก็แสนจะยากเย็น ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่กว่าจะเข้าไปกำจัดมังกรได้ก็ใช้เวลานานมากเหมือนกัน แต่นั่นแหละครับคือเสน่ห์ของการเล่นเกมนี้ ถึงจะยากเย็นแค่ไหน เมื่อทำอะไรสำเร็จแล้ว มันก็มีรางวัลที่คุ้มค่าเหนื่อยให้ผู้เล่นแน่นอน หนึ่งในนั้นคือบล็อกที่อยู่ตามสิ่งก่อสร้างประจำมิตินี้ End City ที่ผมไม่ลืมเยี่ยมเยือนหลังจากกำจัดเจ้ามังกรตัวร้ายเสร็จอยู่แล้วFun Facts (เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย) : รู้หรือไม่ ? Ender Dragon เป็นตัวเมียนะ เพราะว่าทีมงานใช้สรรพนามเรียกมังกรตัวนี้ว่า She นั่นเอง ด้วยเหตุนี้หลังจากกำจัดมังกรไปพวกเราจึงได้ไข่มังกรเป็นของรางวัลด้วยไงครับด้วยความที่การจะเข้าไปในมิตินี้เป็นการเดินทางที่ยากลำบาก เกมมายคราฟก็ไม่ลืมที่จะใส่ตัวช่วยเข้ามาให้ผู้เล่นด้วย จึงได้ถือกำเนิดมาเป็น Enchanting Table ที่ผู้เล่นรู้จักกันมาถึงทุกวันนี้ ตอนสร้างไอเทมนี้มาเป็นครั้งแรก ผมนี่ก็งงเป็นไก่ตาแตกเลยว่าตกลงมันใช้ยังไงกันแน่ ถึงแม้จะดูคนอื่นสอนก็แล้ว ลองผิดลองถูกเองก็แล้ว ผมในตอนนั้นยังใช้เจ้าอุปกรณ์นี้ไม่ค่อยเป็นเลยครับ จะต้องใส่ไอเทมเข้าไปในช่องไหน ต้องใช้ค่าประสบการณ์มากเท่าไหร่ถึงจะเปิดใช้ตัวเลือกสองกับสามได้ ทำไมตอนใช้เสร็จค่าประสบการณ์ของเราหายไปกันนะ คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นมาตลอดที่ผมใช้ Enchanting Table อยู่เลย แล้วตอนนี้น่ะหรือ ใช้จนคล่องแล้วครับ ใช้คล่องกว่าระบบ Redstone เสียอีกอย่างน้อยตอนนั้นผมที่เจอกับปัญหาการใช้งาน Enchanting Table อยู่ก็จะได้ไม่งงกับระบบการแลกเปลี่ยนสิ่งของกับชาวบ้านในเกมด้วยแร่มรกตแล้ว เพราะเมื่อเอาทั้งสองระบบมาเทียบกัน การแลกของมันง่ายกว่าหลายเท่า มีใครติดปัญหาในช่วงแรกของการเล่นเกมเหมือนผมไหมครับ เผื่อว่าผมจะไม่ใช่คนเดียวที่เคยเป็นแบบนั้นเอาล่ะ ในเมื่อกล่าวถึงมิติมาครบสามมิติจากหลายบทความที่ผ่านมาแล้ว นี่ก็คงจะเป็นฤกษ์ของการพูดถึงอีเวนต์ Minecon 2011 กันแล้วสินะครับ จริง ๆ แล้วปีที่ผ่านมาเคยมีการจัดอีเวนต์เกี่ยวกับเกมมายคราฟแล้ว ทว่าเหตุผลที่หลายคนพูดถึงงานนี้เป็นงานแรกก็เพราะมันคืองานที่มีผู้คนเข้าร่วมมากถึงห้าพันคนทั่วโลก (ตัวเลขห้าพันคนในตอนนี้อาจจะดูน้อย แต่เมื่อเทียบกับงานก่อนที่มีเพียงห้าสิบคนแล้ว ถือว่าเป็นการเติบโตที่ก้าวกระโดดมาก)ด้วยความที่มีฐานแฟนคลับเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นนี้ อีเวนต์ Minecon 2011 จึงต้องไปจัดในเมืองลาสเวกัส และนั่นทำให้เหล่าแฟน ๆ คาดหวังกับงานเป็นอย่างมาก เมื่อมาถึงตัวงาน Minecon เองไม่ค่อยมีผลตอบรับที่เกินความคาดหมายสำหรับแฟนเกมในตอนนั้นเท่าไหร่ ผมก็ไม่สามารถออกความคิดเห็นในส่วนตรงนี้ได้เพราะไม่เคยได้ไปงานจริง ๆ ซักที จึงได้แค่บอกความเห็นของผู้เข้าร่วมงานคนอื่นเท่านั้นนะครับ บางคนก็บอกว่าเขาตื่นเต้นกับงานมากแต่ก็ต้องผิดหวังกับการจัดงานที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบ บางคนก็ว่ามันออกจะน่าเบื่อเสียด้วยซ้ำ ถึงจะมีผลตอบรับที่ไม่ดีแต่ในส่วนของเกมมายคราฟแบบ Pocket Edition ที่มีการเปิดตัวไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนงาน Minecon จะเริ่มนั้น ทำให้มีแฟนของเกมนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากทีเดียว ผมว่าอย่างน้อยในตอนนั้นทีมพัฒนาเกมก็กระตือรือร้นเข้าหากลุ่มลูกค้าดีนะครับ ถือเป็นจุดเด่นจุดหนึ่งของพวกเขาเลย เพราะผมเชื่อว่ามีแฟนเกมมายคราฟจำนวนไม่น้อยที่ยังเล่นแบบ Pocket Edition อยู่จริงไหมล่ะครับเครดิตภาพและข้อมูลภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่นเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 12 มิ.ย. 67
อ่าน
จุดเริ่มต้นของเกมแห่งบล็อก | Minecraft Journey
ปีค.ศ. 2009 เป็นปีที่ผู้คนทั่วไปรู้จักกันในนามของปีที่องค์การนาซ่าได้ปล่อยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์ออกไปสำรวจดาวเคราะห์คล้ายโลกในห้วงอวกาศอันมืดมิดและห่างไกลแต่สำหรับแฟนเกมทั้งหลายแล้ว ปีที่พูดถึงนี้ คือก้าวแรกของเกมแนว Sandbox หน้าใหม่อย่างเกม Minecraft ที่อีกไม่นานจะกลับกลายมาเป็นเกมอันดับต้น ๆ ที่ผู้คนเล่นกัน ทว่ากว่าจะได้มาเป็นอย่างที่พวกเราเห็นกันอยู่ในตอนนี้ เกมมายคราฟก็ผ่านอะไรมามากมายเช่นเดียวกับเกมชื่อดังเกมอื่น ทั้งการแก้ไขข้อผิดพลาดในตัวเกม ทั้งการอัปเดตเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาเพื่อให้ผู้เล่นขาประจำไม่เบื่อ และดึงดูดผู้เล่นใหม่เข้ามา ในบทความนี้ ผมจึงอยากจะมากล่าวถึงการเดินทางอันยาวไกลของเกมมายคราฟนี้ ว่ากว่าสิบห้าปีที่ผ่านมาพวกเขาได้ทำอะไรกันบ้าง มีเหตุการณ์สำคัญหรืออัปเดตครั้งสำคัญครั้งไหนที่พวกเราอาจมองข้ามมันไปขอเปิดประเดิมด้วยการกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของเกมนี้กันเลยดีกว่า หากผู้อ่านติดตามการเขียนของผมเป็นประจำอยู่แล้วก็จะพบกับหลายบทความที่ผมบอกว่า เดิมทีเกมมายคราฟมีชื่อว่า Cave Game ต่อมาจึงถูกเปลี่ยนให้มีชื่อที่น่าจดจำมากขึ้นอย่าง "Minecraft" ซึ่งแยกออกมาได้เป็นคำว่า "ขุด (Mine)" และคำว่า "สร้าง (Craft)" แถมยังเป็นชื่อที่บอกผู้เล่นเป็นนัย ๆ ว่ามันคือเกมเกี่ยวกับการขุดบล็อกและนำบล็อกมาสร้างเป็นสิ่งต่าง ๆ อีกด้วย ผมว่ามันก็เป็นชื่อที่เรียบง่ายและสื่อความหมายได้ดีเลยทีเดียวเกมมายคราฟนั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยทีม Mojang Specifications หรือที่ในปัจจุบันพวกเขาทั้งเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนโลโก้มาให้เป็น Mojang Studios ที่ผมบอกว่าพวกเขาเปลี่ยนหน้าตาของโลโก้ ก็เพราะว่าเมื่อก่อนนั้น โลโก้ของพวกเขาถูกออกแบบมาให้มีรูปร่างคล้ายมังกร (ถ้าจำไม่ผิดผมเคยไปฟังเขาอธิบายรูปร่างของโลโก้อันเก่าอยู่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจำถูกไหม ฉะนั้นของอธิบายเพียงเท่านี้ก็แล้วกันครับ)ดีไซน์ของโลโก้เก่าที่ว่าก็ไม่ใช่มังกรแบบมีรายละเอียดอะไรมาก ให้ผู้อ่านจินตนาการถึงตัวอักษรภาษาอังกฤษ C ที่มีจุดลูกน้ำด้านบนครับ นั่นแหละคือโลโก้ของพวกเขาในตอนนั้น โลโก้เกมมายคราฟก็เรียบง่ายไม่แพ้กัน พวกเขาได้ออกแบบโดยการใช้บล็อก Cobblestone มาต่อกันเป็นคำว่า Minecraft พร้อมกับพื้นหลังสีเทาเข้มตัดกับสีหินที่เป็นสีเทาอ่อนภายในตัวเกมมายคราฟก็ยังไม่ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์อะไรมากเหมือนกับตัวเกมในตอนนี้ อยากจะบอกว่าถ้าเอามาเทียบกันแล้ว เกมเวอร์ชันแรกกับเวอร์ชันล่าสุดต่างกันสุด ๆ ไปเลยครับ ข้อแตกต่างแรกคือ texture ของบล็อกแต่ละอัน บล็อก Cobblestone ในสมัยนั้นจะมีสีฉูดฉาดกว่าบล็อกในตอนนี้ สีเขียวของหญ้ากับสีน้ำตาลของบล็อกดินก็เช่นเดียวกัน หากใครเคยเห็นเกมในตอนนั้นคงบอกได้เต็มปากเลยว่าสีมันจ้ามากครับพูดถึงเรื่องบล็อกมาพอหอมปากหอมคอแล้ว พวกเรามาดูตัวละครตัวแรกที่ถูกเพิ่มเข้ามาดีกว่า ตัวละครที่ผมพูดถึงก็คือ Steve นั่นเองครับ เขาคือตัวละครรุ่นบุกเบิกตั้งแต่ตอนที่มายคราฟไม่มีระบบให้ผู้เล่นตกแต่งตัวละครได้ตามใจชอบ ในช่วงนั้นผู้เล่นทุกคนก็จะมีหน้าตาของตัวละคร Steve เหมือนกันหมด ตอนที่เจ้าตัวละครตัวนี้เดินไปเดินมาก็ไม่เหมือนกับปัจจุบันด้วย กล่าวคือเขาจะแกว่งแขนแกว่งขาแรง ๆ พร้อมทั้งส่ายหน้าไปด้วย นี่ถ้าเป็นคนจริงเดินท่านี้ผมว่าต้องมีคอเคล็ดกันบ้างแหละจุดขายขำของตัวละครตัวนี้ที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ ในตัวเกมมายคราฟผู้เล่นสามารถป้อนคำสั่นเพิ่มตัวละคร Steve เข้ามาในเกมได้อีก โดยไม่จำเป็นจะต้องมีผู้เล่นคนอื่นเข้ามาเล่นด้วย Steve ที่พวกเขาเรียกมาก็จะเดินเล่นพร้อมแกว่งแขนขาไปเรื่อย และถ้าผู้เล่นเพิ่มตัวละครเข้ามามากพอ ภาพที่เห็นก็จะเหมือนคนกลุ่มใหญ่ตีกันเลยล่ะครับนอกเหนือจากตัวละคร Steve แล้ว ในปีเดียวกันนั้นเอง ผู้เล่นก็ได้รู้จักกับ Hostile Mob ที่ผู้เล่นทั้งหลายโปรดปราน "Creeper" ครับ เจ้าสิ่งมีชีวิตสีเขียวที่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ผู้เล่นก็จะระเบิดตัวนี้มีประวัติยาวนานมากว่าสิบห้าปีแล้ว รู้สึกว่าเวลาผ่านมานานจังเลยนะครับเนี่ย แล้วท่านผู้อ่านรู้หรือไม่ครับว่าเมื่อก่อนที่เจ้า Creeper ตัวนี้ระเบิดนั้น มันเคยระเบิดแล้วกระจายตัวเหมือนกับบล็อกใบไม้ที่อยู่ในเกมเดียวกันนี้เลย อีกทั้ง texture ตามตัวของมันยังมีลายเดียวกับบล็อกใบไม้ด้วย นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงมีหลายคนตั้งทฤษฎีว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีจุดกำเนิดมาจากพืชยังไงล่ะครับ ซึ่งผมก็ว่าเป็นทฤษฎีที่น่าสนใจมากเลยนะแต่กว่าจะมาเป็น Creeper ได้ก็ผ่านการทดลองมาเยอะเหมือนกัน ที่จริงแล้วพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะสร้างตัวนี้มาตั้งแต่แรกหรอกครับ ความจริงคือมันมาจากการสร้างโมเดลหมูที่ผิดพลาดจนตัวของหมูเป็นแนวตั้งแทนที่จะเป็นแนวนอน และขาทั้งสี่ลงไปรวมกันด้านล่าง ถึงจะเป็นภาพที่ไม่น่าดูเท่าไหร่ แต่ทีมงานก็พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เอาโมเดลนี้มาสร้าง Mob อีกตัวซะเลยในเมื่อมีเกมใหม่เข้ามาสู่สายตาแฟนเกม ก็แน่นอนว่าจะต้องมีคนนำเกมเหล่านั้นมาเล่นแล้วอัปโหลดลงช่องทางออนไลน์ให้คนอื่นได้เห็นจริงไหม อ้างอิงจากเว็บไซต์มายคราฟของทีมผู้พัฒนาเกมโดยตรง พวกเขาบอกว่ายูทูปเบอร์คนแรกที่อัปโหลดคลิปเกี่ยวกับมายคราฟมีชื่อว่า Jan Willem Nijman ปัจจุบันผู้อ่านก็ยังสามารถตามเข้าไปดูคลิปของเขาได้อยู่นะครับ แล้วจะเห็นว่ามันเป็นเมื่อสิบห้าปีที่แล้วจริง ๆ ความยาววิดีโอของเขาอยู่ที่สองนาทีกว่า จะเห็นได้ว่าในเวอร์ชันก่อน (ในวิดีโอของเขาเป็นเวอร์ชัน 0.0.11a) แทบจะไม่มีบล็อกอะไรให้เล่นเลย โลกในตัวเกมทั้งใบมีแค่บล็อกดินกับพื้นที่โล่งเท่านั้น ทำให้เห็นว่าจากวันนั้นจนถึงทุกวันนี้ เกมมายคราฟได้มาไกลมากกว่าก้าวแรกเยอะ และในอนาคตก็คงมีการพัฒนาต่อไปอีกความทรงจำเกี่ยวกับมายคราฟอันแรกของผมก็คงจะเป็ฯการดูคลิปคนอื่นเล่นเกมนี้กันแหละ กว่าจะได้มาลองเล่นเกมเองจริง ๆ ก็เลยมาอีกหลายปีแล้ว ความรู้สึกแรกที่เข้ามาเล่นเกมมันมักตื่นเต้นเสมอครับ ไม่มีทางที่ผมจะลืมความรู้สึกนั้นไปได้หรอก ปม้ว่าเกมนี้จะอัปเดตมามากถึงยี่สิบกว่าเวอร์ชันแล้วก็ตามแล้วผู้อ่านมีความทรงจำเกี่ยวกับเกมมายคราฟเป็นอย่างไรกันบ้างครับ คลิปวิดีโอแรกเกี่ยวกับมายคราฟที่เคยดูคือคลิปไหน และอะไรเป็นจุดเริ่มต้นการเข้ามาเล่นเกมมายคราฟของผู้อ่าน สามารถมาพูดคุยกันได้นะครับ สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความของผมกันครับ สวัสดีครับเครดิตภาพภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่นอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ 15th Anniversary Minecraftเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 12 มิ.ย. 67
อ่าน
ปีที่มายคราฟเพิ่มมิติ Nether | Minecraft Journey
เดิมทีเกมมายคราฟถูกสร้างขึ้นให้มีเพียงมิติเดียวคือมิติ Overworld (ไม่นับรวมตัวเลือกการสร้างโลกตามใจผู้เล่นและมิติความฝัน) มิติพื้นโลกอันสดใส เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวขจี เบื้องบนเป็นท้องฟ้าสีฟ้าครามกับก้อนเมฆสีขาวที่ลอยไปมาเคียงคู่ดวงอาทิตย์ในตอนกลางวัน และดวงจันทร์ในตอนกลางคืน แม้ผู้เล่นจะต้องพบเจอกับ Hostile Mob ที่คอยโจมตีพวกเขาอยู่บ้าง แต่นั่นก็เทียบไม่ได้เลยกับมิติที่ถูกเพิ่มเข้ามาเป็นอันดับที่สองของตัวเกมที่ถูกขนานนามว่า "มิติ Nether" เอาล่ะ ผมอยากจะให้ผู้อ่านนึกภาพตามที่ผมเขียนนะครับ นึกภาพของโลกเขียวขจีที่ผมได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ จากนั้นให้นึกภาพของโลกอันว่างเปล่า แห้งแล้งจนผืนน้ำกลายเป็นลาวา ไม่มีสีเขียว มีเพียงสีแดงกับละอองฝุ่นที่คละคลุ้งอยู่ตามอากาศ หากว่าเราต้องออกจากโลกอันสงบสุขแล้วเข้าไปอยู่ในอีกโลกที่เดินไปทางไหนก็มีแต่อันตรายคุณจะรู้สึกอย่างไรครับ ก็ต้องไม่อยากไปเป็นธรรมดาอยู่แล้ว นั่นแหละคือความรู้สึกของผมเมื่อได้เข้าไปในมิติ Nether เป็นครั้งแรก มันคือมิติที่สุดแสนจะอันตราย เพียงแค่เดินผิดนิดเดียวก็อาจทำให้ตกลาวาไปเลยก็ได้ แล้วไอเทมที่เราเก็บสะสมมานานก็จะละลายหายไปในลาวานั้น แค่คิดก็รู้สึกแย่แล้วล่ะครับและมิติ Nether นี่เอง ก็เป็นศูนย์รวมของทั้งหมดนั้น แต่อย่าเข้าใจผิดกันนะครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบความท้าทายที่ได้เข้าไปในมิติลาวาแห่งนี้ และยิ่งเล่นไปนาน ๆ ก็จะรู้สึกเลยว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเท่าไหร่ ในบทความนี้ผมจึงจะมาพูดถึงความทรงจำเก่าเกี่ยวกับมิติ Nether ของผมรวมทั้งเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีเดียวกันนั้นเอง เมื่อพร้อมแล้ว มาร่วมย้อนวันวานไปด้วยกันเลยครับแรงบันดาลใจในการสร้างมิติใหม่อันนี้มาจาก Map หนึ่งในเกมช่วงอัลฟ่าชื่อธีมว่า "Hell" ที่มีลักษณะคล้ายโลกปกติแต่เปลี่ยนจากน้ำทะเลเป็นลาวา พร้อมกับบรรยากาศที่แสงไฟสลัวกว่าเดิม ท้องฟ้าที่เปลี่ยนจากสีฟ้าอ่อนเป็นสีดำทมิฬและเมฆสีแดง เมื่อทีมงานพัฒนาเกมมีโอกาสได้สร้างมิติใหม่ พวกเขาจึงนำเอาไอเดียนี้มาดัดแปลงจนกลายเป็น Nether ที่ผู้เล่นเห็นกันในที่สุดไม่ใช่เพียงแค่มิติ Overworld เท่านั้นที่มีสีสันแสบตา มิติ Nether เองก็แสบตาไม่แพ้กัน ความแสบตาจากสีเขียวสดก็ยังไม่สามารถสู้กับความแสบตาจากสีแดงของลาวาในมิติใหม่นี้ได้เลย แน่นอนว่าสีสันทั้งหลายเหล่านี้ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความพยายามของผู้เล่นที่ต้องการจะสำรวจมิติใหม่นี้ได้เมื่อก่อนที่จะมีการอัปเดตเพิ่มบล็อกเข้ามาในมิติที่เต็มไปด้วยลาวา Nether เคยเป็นมิติที่รกร้างว่างเปล่ามาก่อน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนผมเข้าไปข้างในมันรู้สึกเคว้งแค่ไหน ยิ่งตอนที่ไม่รู้ว่าจะต้องต่อสู้กับ Hostile Mob ในนั้นยังไง ยิ่งไม่รู้ว่าต้องเริ่มหาสถานที่ไหนก่อน ทำให้มิตินี้ดูน่ากลัวและกว้างมากกว่าที่มันเป็นอยู่ พอเอาไปเทียบกับอีกมิติในตอนนั้น มิติ Overworld ที่มีพื้นที่ไม่สิ้นสุดยังจะดีกว่าอีกครับ ตั้งแต่ที่มีลาวาเพิ่มเข้ามาผู้เล่นก็ได้รู้สึกถึงการสูญเสียไอเทมอย่างไม่สามารถเอากลับคืนมาได้เป็นครั้งแรก ทำให้นั่นเป็นอีกปัจจัยที่ใครหลายคนไม่อยากเข้าไปในมิติใหม่เท่าไหร่นอกจากการอัปเดตที่ทำให้ผู้เล่นต้องขวัญอ่อนกันไปแล้ว ทีมผู้พัฒนาเกมก็ได้เพิ่มฟีเจอร์น่าสนใจเข้ามาปลอบใจพวกเราอีกเพียบ ตัวอย่างเช่นช่วงวันฮาโลวีน ไอเทมบล็อกฟักทองได้ถูกเพิ่มเข้ามา ในตอนนั้นบล็อกนี้ยังเป็นเพียงบล็อกธรรมดาที่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์อะไรมาก จะเอาไปสร้างบ้านนอกเหนือจากธรมวันฮาโลวีนก็ดูไม่สวย เนื่องจากตอนที่เพิ่มฟักทองเข้ามาครั้งแรก ฟักทองทั้งหมดจะเป็นฟักทองที่ถูกแก้สลักหน้าตามาหมดแล้ว หารู้ไม่ว่าอีกไม่นานบล็อกนี้จะมีฟังก์ชันให้ผู้เล่นสามารถเอามาสวมหัวเพื่อป้องกันการโจมตีจาก Mob บางตัวได้ แต่นั่นก็คงเป็นเรื่องของบทความต่อ ๆ ไปสำหรับผู้เล่นที่เก่งเรื่องการใช้ Redstone สร้างเครื่องจักรอัตโนมัติ รู้หรือไม่ครับว่าไอเทมที่ปัจจุบันผู้เล่นใช้ในการเดินทางอย่าง Minecarts ถูกเพิ่มเข้ามาก่อนแร่ Redstone เสียอีก ทว่าการใช้งานของมันไม่ได้เหมือนกันกับที่คุ้นเคย แทนที่ Minecart จะถูกใช้เป็นช่องทางคมนาคมในเกม แต่ด้วยความที่รางรถไฟยังไม่ถูกเพิ่มเข้ามา มันจึงเป็นได้แค่อุปกรณ์เก็บของเหมือนกล่องเก็บของทั่วไป ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อก่อนหากผู้เล่นเติมของลงไปใน Minecart ก็จะทำให้ระดับของดินภายในเพิ่มสูงขึ้นต่อมาไอเดียเรื่องกล่องเก็บของใน Minecart ก็ถูกตัดออกไป เหลือเป็นกล่องเหล็กที่ผู้เล่นสามารถขึ้นไปนั่งได้เหมือนที่พวกเราคุ้นเคยกันดี สุดท้ายในเวอร์ชันแรก ๆ พวกเขาก็เพิ่มฟังก์ชัน Minecart ที่มีกล่องภายในกลับเข้ามาเป็นฟีเจอร์ของเกมอยู่ดี สงสัยพวกเขาคงจะลบมันออกไปเพราะเจอ Bug พอแก้ไขเสร็จก็ค่อยเพิ่มกลับมาล่ะมั้งครับส่วนผู้เล่นที่ชื่นชอบในศิลปะก็อย่าพึ่งหนีหายไปไหน ในปี 2010 ไอเทมรูปภาพก็ถูกเพิ่มเข้ามาด้วยเช่นเดียวกัน ไอเทมรูปภาพก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผู้เล่นสายสร้างอย่างผมมักเอาไปช่วยเติมสีสันเข้าไปในสิ่งก่อสร้างของตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าเกมมายคราฟก็เล็งเห็นความสำคัญของมันในจุดนี้ด้วย ทำให้ไอเทมรูปภาพมีความหลากหลายทั้งขนาด ทั้งรูปแบบ เฉพาะในตัวเกมช่วงเวอร์ชันอัลฟ่า (เวอร์ชันมายคราฟ 1.0 ที่เปิดให้ผู้เล่นเข้ามาเล่นกันอย่างแพร่หลาย) ก็มีไอเทมนี้อยู่ถึงยี่สิบหกแบบกันเลยทีเดียวรูปภาพเหล่านี้แบ่งเป็นขนาดหนึ่งคูณหนึ่งบล็อกอยู่ 7 แบบ, ขนาดสองคุณหนึ่งทั้งแนวนอนและแนวตั้งอยู่ 9 แบบ และขนาดเท่ากับหรือมากกว่าสองคูณสองบล็อกอยู่ 10 แบบ ยังไม่พอในเวอร์ชันเบต้ารวมถึงเวอร์ชันล่าสุด (เวอร์ชัน 1.21) ก็เพิ่มเข้ามาอีกเกินยี่สิบแบบ ไหนแต่ละรูปจะยังมีเรื่องราวในตัวมันเองอีก ขอบอกเลยว่าพวกเขาใส่ใจรายละเอียดมากครับสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ในปี 2010 ที่ผมกล่าวมาทั้งหมด เป็นปีที่เกมมายคราฟได้รางวัลสุดยอดเกมแห่งปีจาก PC Gamer UK ด้วยนะครับ ภายในออฟฟิศตอนนั้นคงจะดีใจกันน่าดู ก็สมแล้วล่ะที่ได้รางวัล เพราะในตอนนั้นเกมนี้ก็ดังอย่างก้าวกระโดดเลย เครดิตภาพและข้อมูลภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่นอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ 15th Anniversary Minecraftเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Nutto • 12 มิ.ย. 67
ดูเพิ่มเติม