TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “iPhone” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
ดู
iPhone 15 อาจเปลี่ยนใช้พอร์ต USB-C l การตลาดเงินล้าน l 11-10-65
TNN ช่อง16 • 11 ต.ค. 65
ดู
ทรู 5G จัดเต็ม IPhone 14 Plus ในงาน Thailand Mobile Expo 2022 | TNN ข่าวดึก | 7 ต.ค. 65
TNN ช่อง16 • 7 ต.ค. 65
อ่าน
iPhone 16e vs iPhone 13 ซื้อรุ่นไหนดี ?
iPhone 16e รุ่นประหยัดตัวล่าสุด vs iPhone 13 รุ่นเริ่มต้นตัวเก่า iPhone 16e ? ขอบคุณภาพจาก : Apple เปิดตัวแล้ว สำหรับ iPhone 16e มือถือรุ่นราคาประหยัดที่ทาง Apple ออกมาล่าสุดเพื่อเติมเต็มช่องว่างสำหรับผู้ที่ต้องการใช้มือถือแบรน Apple ในราคาที่ย่อมเยากว่าซีรี่ส์ iPhone 16 ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดย iPhone 16e เปิดตัวมาด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 22,900 บาท ซึ่งถูกกว่า iPhone 16 ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท แต่แน่นอนว่าเมื่อเปรียบเทียบระหว่าง iPhone 16 และ iPhone 16e แล้ว iPhone 16 ที่มีราคาสูงกว่า โดยรวมแล้วก็จะมีการใช้งานที่ดีกว่า iPhone 16e อยู่แล้ว แต่หากพิจารณาจากราคา iPhone 16e เป็นหลักก็จะพบว่า ราคาของ iPhone 16e จะใกล้เคียงกับ iPhone รุ่นเก่าอย่าง iPhone 13 หรือ iPhone 14 ทำให้หลาย ๆ ท่านอาจลังเลว่า ระหว่าง iPhone รุ่นราคาประหยัดอย่าง iPhone 16e เปรียบเทียบกับ iPhone รุ่นเริ่มต้นของปีก่อน ๆ อย่าง iPhone 13 หรือ iPhone 14 ตัวไหนจะเหมาะกับคุณผู้อ่านมากกว่า ผู้เขียนจึงได้สรุปข้อแตกต่างระหว่าง iPhone 16e และ iPhone 13 (เนื่องจาก iPhone 13 และ iPhone 14 มีความใกล้เคียงกันมาก แต่ iPhone 13 จะมีราคาที่ถูกกว่า ผู้เขียนจึงขอหยิบ iPhone 13 มาเป็นตัวเปรียบเทียบ แต่สำหรับท่านใดที่สามารถหา iPhone 14 ได้ในราคาที่ใกล้เคียง หรือไม่สามารถหา iPhone 13 มือหนึ่งได้แล้ว ก็สามารถอ่านบทความนี้เพื่อเปรียบเทียบคร่าว ๆ ได้เช่นกัน) เพื่อให้คุณผู้อ่านทุกท่าน ได้เปรียบเทียบฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ของ iPhone ทั้ง 2 รุ่น ว่ารุ่นไหนเหมาะกับการใช้งานของคุณผู้อ่านมากที่สุด ดีไซน์และจอแสดงผล ขอบคุณภาพจาก : Apple เมื่อมองจากภายนอก สิ่งที่มองเห็นได้ชัดเลยคือด้านหลังของ iPhone 13 จะมีกล้องถึง 2 ตัว ส่วน iPhone 16e จะมีกล้องเพียงตัวเดียว ส่วนบริเวณขอบข้างตัวเครื่องคือ ปุ่ม action button ที่จะมีอยู่ใน iPhone 16e แต่ใน iPhone 13 จะยังเป็นสวิตซ์เลื่อนเปิด/ปิดเสียงแบบเดิม ด้านล่างตัวเครื่องจะพบว่า iPhone 16e ได้เปลี่ยนเป็นพอร์ต type-c เรียบร้อยแล้ว แต่ iPhone 13 ยังเป็นพอร์ต lightning เมื่อดูที่จอแสดงผลก็จะพบว่าทั้ง 2 รุ่นมีจอแสดงผลที่เหมือนกันแบบ 100% คือ หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ที่ยังมีติ่งเล็ก ๆ ยื่นลงมา ถูกเคลือบด้วย ceramic shield ความสว่าง ความละเอียด อัตราการรีเฟรชเท่ากันทุกประการ แต่อีกหนึ่งความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ภายในฝาหลังคือ iPhone 13 จะรองรับ magsafe ทำให้สามารถรองรับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้หลากหลายมากกว่า และทั้ง 2 รุ่น ยังกันน้ำกันฝุ่นเช่นเคย ในด้านสีสันของตัวเครื่อง iPhone 13 จะมีสีให้เลือกมากถึง 6 สี แต่ iPhone 16e จะมีสีให้เลือกเพียง 2 สี ขอบคุณภาพจาก : Apple ชิปประมวลผล ขอบคุณภาพจาก : Apple ด้านความเร็วในการประมวลผล แน่นอนว่า iPhone รุ่นล่าสุดอย่าง iPhone 16e ที่ใช้ชิป A18 จะประมวลผลได้รวดเร็วกว่า iPhone 13 ที่ใช้ชิป A15 ซึ่งผู้เขียนคิดว่าก็ยังสามารถใช้งานขั้นพื้นฐานได้ดี โดยการที่ iPhone 16e ใช้ชิป A18 ยังทำให้สามารถรองรับ Apple Intelligence ที่เป็นตัวช่วยอัจฉริยะ ทำให้มีตัวช่วยในการทำงานต่าง ๆ ได้สะดวกรวดเร็วขึ้น และอีกข้อดีของการใช้ชิปตัวใหม่กว่า ก็ยังทำให้สามารถใช้งานตัวเครื่องได้ในระยะยาวกว่านั่นเอง กล้อง ขอบคุณภาพจาก : Apple เมื่อเปรียบเทียบกันทั้ง 2 รุ่นนี้ จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันคือ iPhone 16e จะมีกล้องเพียงตัวเดียว แต่จะได้เซ็นเซอร์ตัวใหม่ที่มีความละเอียดถึง 48 ล้านพิกเซล ทำให้สามารถซูมครอปโดยเซ็นเซอร์ แล้วให้ภาพในระยะ 2 เท่าโดยยังมีความละเอียดที่ 12 ล้านพิกเซล ส่วน iPhone 13 จะมีกล้องถึง 2 ตัว โดยให้กล้องมุมกว้างพิเศษเพิ่มมาอีก 1 ตัวจากกล้องระยะปกติ แต่จะยังเป็นกล้องที่มีความละเอียดเพียง 12 ล้านพิกเซล ทั้ง 2 ตัว ทำให้อาจได้ความละเอียดที่น้อยกว่ากล้องของ iPhone 16e แบตเตอรี่และการชาร์จ ขอบคุณภาพจาก : Apple อีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในการใช้มือถือยุคปัจจุบันนี้คือ แบตเตอรี่ที่ส่งผลต่อระยะเวลาการใช้งานระหว่างวันนั่นเอง โดยทาง Apple เคลมที่หน้าเวปไซต์ว่า iPhone 16e สามารถเล่นวิดีโอได้ถึง 26 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่า iPhone 13 ที่สามารถเล่นวิดีโอได้เพียง 19 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่ Apple แจ้งว่าสามารถชาร์จได้สูงสุด 50% ใน 30 นาที ด้วย อะแดปเตอร์ขนาด 20 วัตต์ หรือสูงกว่า เท่ากันทั้ง 2 รุ่น แต่สำหรับพอร์ตชาร์จ อย่างที่ได้เกริ่นนำไปในส่วนของดีไซน์คือ iPhone 16e ได้เปลี่ยนเป็นพอร์ต type-c เรียบร้อยแล้ว แต่ iPhone 13 ยังเป็นพอร์ต lightning อยู่ แต่ iPhone 13 ก็ยังได้เปรียบในด้านการชาร์จไร้สาย เนื่องจากสามารถรองรับการชาร์จผ่าน Magsafe ที่ทำให้ชาร์จได้เร็วถึง 15 วัตต์ ขณะที่ iPhone 16e รองรับการชาร์จไรสายธรรมดาด้วยความเร็วเพียง 7.5 วัตต์ ราคาและความจุ iPhone 16e 128 GB 22,900 บาท 256 GB 26,900 บาท 512 GB 34,900 บาท สั่งจอง ดูราคาและโปรโมชันเพิ่มเติมของ iPhone 16e จาก True iPhone 16e iPhone 13 128 GB 19,900 บาท ดูราคาและโปรโมชันเพิ่มเติมของ iPhone 13 จาก True iPhone 13 สรุปความคิดเห็น เมื่อคุณผู้อ่านได้เปรียบเทียบถึงจุดเด่นจุดด้อยของทั้ง 2 รุ่นแล้วก็จะเห็นได้ว่า iPhone 16e จะมีจุดเด่นคือความเร็วแรงในการประมวลผล มี Apple Intelligence ใช้พอร์ตใหม่อย่าง type-c iPhone 16e ผู้เขียนจึงมีความเห็นว่า เจ้า 16e เหมาะกับคนที่ต้องการ iPhone ที่มี AI ประมวลผลได้เร็ว เล่นเกมที่ต้องใช้การประมวลผลสูง อยากได้กล้องที่มีความละเอียดสูง ต้องการใช้ในระยะยาวเป็นหลัก ซึ่งในทางกลับกัน ผู้ที่เน้นเรื่องกล้องมุมกว้าง ใช้อุปกรณ์เสริม Magsafe ใช้เพียงแอปพลิเคชันพื้นฐาน เล่นเกมเบา ๆ ต้องการประหยัดงบประมาณ iPhone 13 ก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า สุดท้ายนี้ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่าน เลือก iPhone ได้ตรงกับความต้องการ และใช้ iPhone อย่างมีความสุข ขอบคุณครับ ...CKTW… ขอบคุณภาพจาก : Apple ติดต่อ twiningck@gmail.com เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
CKTW • 27 ก.พ. 68
ดู
📌 ตลาดหุ้นพักฐานไกล้จบหรือยัง ? ปรับกลยุทธ์ก่อนหยุดยาว I TNN WEALTH Live บ่าย 11 ตุลาคม 2565
TNN ช่อง16 • 11 ต.ค. 65
ดู
“ไอคอนสยาม”ร่วม“โดรนวิทยา”เปิดหลักสูตรอบรมบินโดรนขั้นพื้นฐาน-ปลุกตลาดว้าว"เดนทิสเต้"ชูยาสีฟันผสมเพชร
TNN ช่อง16 • 8 ต.ค. 65
ดู
ตลาดรถอีวีคึก"BYD"พร้อมส่งมอบATTO3 ปีนี้5 พันคัน-อีคอมเมิร์ซไทยโตต่อลาซาด้าคำสั่งซื้อเพิ่มร้อยละ40
TNN ช่อง16 • 11 ต.ค. 65
ดู
ยุโรปผ่านกฎหมาย บังคับใช้พอร์ต USB-C l การตลาดเงินล้าน l 08-10-65
TNN ช่อง16 • 8 ต.ค. 65
ดู
"Apple" ลดพึ่งพาจีน ย้ายการผลิต AirPods ไปอินเดีย l การตลาดเงินล้าน l 06-10-65
TNN ช่อง16 • 6 ต.ค. 65
ดู
ตลาดรถหรูไม่สะเทือน ยอดรถ BMW ป้ายแดง 8 เดือนพุ่ง-หมดปัญหารถติด! Lilium ทดสอบแท็กซี่บินพลังงานไฟฟ้า
TNN ช่อง16 • 6 ต.ค. 65
อ่าน
iPhone 16e น่าซื้อมั้ย? ส่องสเปคและความคุ้มค่ากัน!
iPhone 16e น่าซื้อมั้ย? มาส่องสเปคและความคุ้มค่ากันเลย! ถ้าคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับนวัตกรรมล้ำสมัยและราคาที่คุ้มค่า iPhone 16e คือคำตอบที่คุณต้องการ iPhone 16e น่าซื้อมั้ย? มาส่องสเปคและความคุ้มค่ากันเลย! ถ้าคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับนวัตกรรมล้ำสมัยและราคาที่คุ้มค่า iPhone 16e คือคำตอบที่คุณต้องการ มาดูกันว่า iPhone 16e มีอะไรน่าสนใจบ้าง ด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ iPhone 16 เลย ไม่ว่าจะดูรายการ เล่นเกม หรืออ่านอะไรก็ลงตัวไปหมดบนจอภาพ OLED แบบขอบจรดขอบที่สวยสดงดงามของ iPhone 16e เริ่มต้นกันที่ดีไซน์ iPhone 16e มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัย ตัวเครื่องทำจากวัสดุคุณภาพสูง มีความทนทานและดูหรูหรา หน้าจอเป็น OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดสูง ให้ภาพที่สว่างสดใสและคมชัด รองรับการแสดงผล HDR และมีอัตราการรีเฟรช 120Hz ทำให้การใช้งานลื่นไหลไม่มีสะดุด ปรับแต่ง iPhone ให้เป็นสไตล์ของเราได้ทั้งหน้าจอโฮมและหน้าจอล็อค ซึ่งจะยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iOS ให้เหนือชั้น คุณสามารถมั่นใจได้ว่า iPhone 16e จะพร้อมรับการอัปเดตใหม่ๆ ที่จะมีมาในอนาคต ในเรื่องของประสิทธิภาพ iPhone 16e มาพร้อมกับชิปเซ็ต A17 Bionic ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ทำให้การใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือการทำงานหนักๆ ก็ไม่มีปัญหา แรม 6GB และความจุภายในที่มีให้เลือกตั้งแต่ 128GB ไปจนถึง 512GB ทำให้คุณสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างจุใจ iPhone 16e มาพร้อมกล้องหลังเพียงตัวเดียว!! แต่อย่าเพิ่งตกใจ! เพราะนี่คือเลนส์อัลตร้าไวด์ที่ทรงพลังสุดๆ เมื่อถ่ายภาพในสภาพแสงสว่างจ้า ความละเอียดกล้องหลัก 48MP ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัดและสีสันสดใสเหมือนภาพที่ถ่ายด้วยกล้องมืออาชีพ กล้อง Fusion 48MP นี้ไม่ธรรมดา เพราะมันรวมความสามารถของกล้องสองตัวไว้ในตัวเดียว และด้วยเซ็นเซอร์ 48MP ที่มีความละเอียดมากกว่า iPhone รุ่นก่อนหน้าถึง 4 เท่า เราสามารถเก็บภาพความละเอียดสูงที่สวยงามน่าทึ่งได้อย่างสมดุลทั้งในเรื่องแสงและรายละเอียด มีเทเลโฟโต้ 2 เท่าที่รวมอยู่ในกล้องเพื่อให้เราซูมเข้าออกได้อย่างมีคุณภาพ และยังสามารถถ่ายวิดีโอ 4K ในแบบ Dolby Vision ที่สวยเด่นสะดุดตา พร้อมเสียงคุณภาพสูงที่จะทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ โหมดถ่ายภาพกลางคืนที่ช่วยให้ภาพในที่แสงน้อยออกมาสวยงามไม่แพ้กัน และยังมีคุณสมบัติการซูมดิจิทัลที่สูงถึง 5 เท่า ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างละเอียดลออ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์หรือถ่ายภาพในงานปาร์ตี้ก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม iPhone 16e มีความละเอียดที่ยอดเยี่ยมแบบเดียวกับ iPhone 16 ทุกรุ่น กล้องของ iPhone 16e ก็ไม่ธรรมดา มาพร้อมกับกล้องหลักความละเอียด 48MP และกล้องเลนส์อัลตร้าไวด์ 12MP ทำให้การถ่ายภาพในทุกสภาวะแสงสว่างสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม มีโหมดถ่ายภาพกลางคืนที่ทำให้ภาพออกมาสวยงามและคมชัด นอกจากนี้ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 12MP ที่รองรับการถ่ายภาพเซลฟี่และวิดีโอคอลได้อย่างสวยงาม USB-C: ทุกอย่างในพอร์ตเดียว iPhone 16e มาพร้อมพอร์ต USB-C ที่เป็นศูนย์รวมของการชาร์จและการเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ Apple อื่นๆ หรืออุปกรณ์เสริมสุดเจ๋งที่เราชอบ ทุกอย่างลงตัวในพอร์ตเดียว ในเรื่องของแบตเตอรี่ iPhone 16e มีความจุแบตเตอรี่ที่ 3200mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบ MagSafe ที่ 20W และการชาร์จไร้สายที่ 15W ทำให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมด สร้าง Genmoji ได้ทันทีบนคีย์บอร์ดให้เข้ากับบทสนทนาของคุณ เช่น ถ้าอยากได้รูปไก่สะพายเป้ ก็แค่ป้อนคำอธิบายเท่านั้น ง่ายและสนุกสุดๆ แอป Image Playground ให้คุณสร้างสรรค์ภาพสนุกๆ ในแบบไม่ซ้ำใครได้ในพริบตาตามคำอธิบาย แนวคิด หรือแม้แต่ใครสักคนจากในคลังรูปภาพของคุณ แล้วทดลองกับสไตล์ภาพต่างๆ อย่างภาพเคลื่อนไหว ภาพประกอบ และภาพสเก็ตช์ เมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone 16 ที่มีราคาสูงกว่า iPhone 16e มีราคาที่เอื้อมถึงได้มากกว่า แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพและคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ iPhone 16e เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม ดังนั้น iPhone 16e คือสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสเปคที่ทรงพลัง ดีไซน์ที่สวยงาม และราคาที่เอื้อมถึงได้ อย่ารอช้า รีบคว้า iPhone 16e มาเป็นเจ้าของกันเลย! https://www.apple.com/105/media/us/iphone-16e/2025/d9015f23-5cc1-45b4-b25a-2b1caee9d7ac/anim/chip/large_2x.mp4 ดังนั้น iPhone 16e คือสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสเปคที่ทรงพลัง ดีไซน์ที่สวยงาม และราคาที่เอื้อมถึงได้ อย่ารอช้า รีบคว้า iPhone 16e มาเป็นเจ้าของกันเลย! #iPhone16e #สเปคiPhone16e #รีวิวiPhone16e #คุ้มค่าiPhone16e #เทคโนโลยี #สมาร์ทโฟน #Apple ภาพประกอบคอนเท้นท์และภาพหน้าปกจจาก Officecial Apple iPhone 16e ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4 รวมภาพตัวอย่างจาก Officecial Apple iPhone 16e, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6, ภาพที่ 7 คลิปประกอบคอนเท้นท์ Officecial Apple iPhone 16e เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ชายสามโบสถ์ • 3 มี.ค. 68
อ่าน
สรุป iPhone 16e มีอะไรใหม่บ้างและน่าซื้อมั้ย
สวัสดีครับ หลังจาก Apple เปิดตัว iPhone 16e หลังทิ้งช่วงจากรุ่นเดิมนานพอสมควร แต่กลับในความจุเริ่มต้น 128GB และราคาที่โอเคอยู่ วันนี้จะมาส่อง iPhone 16e ว่ามีอะไรใหม่และน่าซื้อมั้ย https://youtu.be/PadojOJMKxI?si=pKyjR4kexBdexVJg สเปค iPhone 16e หน้าจอจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532×1170 (457PPI) รองรับ True Tone ขอบเขตสี DCI-P3 ความสว่างสูงสุด 800nits ชิปประมวลผล Apple A18 ,CPU แบบ 6-core ,GPU แบบ 4-core ความเร็ว 4.04GHz RAM 8GB ROM 128GB, 256GB, 512GB กล้องหลัง 48MP (f/1.6), กันสั่น OIS สามารถซูมในเซนเซอร์ 2 เท่า ซูมดิจิทัล 10 เท่า และสามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K ตั้งแต่ 24fps จนถึง 60fps กล้องหน้า 12MP (f/1.9) สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K ตั้งแต่ 24fps จนถึง 60fps การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3, USB-C 2.0, Wi-Fi 6, และ NFC ความเร็วถ่ายโอนข้อมูล 480 Mbps แบตเตอรี่-ไม่ระบุ, ชาร์จไว-ไม่ระบุ และชาร์จไร้สาย Qi 7.5W แต่ไม่รับรอง ชาร์จไร้สายจาก MagSafe มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ระบบปฏิบัติการ iOS 18 ขนาด 146.7 x 71.5 x 7.8 มม. น้ำหนัก 167 กรัม ดีไซน์ ดีไซน์ iPhone 16e ถ้าดูภายนอกใช้ดีไซน์โครงเดียวกับ iPhone 14 ภายในได้ชิป A18 และมีปุ่ม Action button ที่ด้านข้าง เหมือน iPhone 16 รุ่น Standard เพราะใช้อะลูมิเนียมเกรดเดียวกับอุตสาหกรรมอวกาศทำให้ทนทาน แต่มีสีเครื่องมีแค่ 2 สี ได้แก่ สีดำและสีขาว ทำให้ตัวเครื่องดูเรียบหรู มีอะไรใหม่ มีอะไรใหม่ของ iPhone 16e มันมีหลายอย่าง https://youtu.be/A5vVlEXA64I?si=UxjATtUtleJriSOg 1.iPhone ราคาย่อมเยาที่สุดที่สามารถเข้าถึงชุดฟีเจอร์ Apple Intelligence ได้ โดยไม่ต่างจากมือถือเรือธงอย่าง iPhone 16 และ iPhone 16 Pro โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่รีเฟรชมาจาก iPhone SE พร้อมปรับสเปคใหม่ให้ดูทันสมัยกว่าเดิม https://youtu.be/TJSqGPe4ljY?si=IutqZdp8Xz9z-cDY 2.iPhone 16e มากับจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว รองรับการปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้าผ่าน Face ID มีกล้องหน้า TrueDepth 12MP บันทึกวิดีโอกล้องหน้าได้ถึง 4K แล้ว และกล้องหลัง 48MP รองรับการซูมในเซนเซอร์ 2 เท่า และซูมดิจิทัลได้สูงสุด 10 เท่า https://youtu.be/_wvUQh5Svq8?si=D7bWUZ0JoLI_iU_k 3.ความจุแบตเตอรี่ของ iPhone 16e เป็นเรื่องปกติไม่มีการเปิดเผยตามธรรมเนียม(กว่าจะหาคำตอบเรื่องนี้อีก 3 เดือน) แต่ไฮไลต์สำคัญ คือ บอกว่ารุ่นนี้ดูวิดีโอได้นานสุด 26 ชั่วโมง ต้องนับว่าเป็น iPhone ที่แบตอึดสุดในกลุ่มจอเล็กซึ่งอึดกว่า iPhone 16 ที่เคลมไว้ 22 ชั่วโมงเอง แต่เกือบใกล้เคียง iPhone 16 Plus ที่เคลมไว้ 27 ชั่วโมง ข้อสังเกต ผมตั้งข้อสังเกตรุ่นนี้ไว้ 4 อย่าง อย่างแรกไม่รองรับการถ่ายภาพมาโครและการถ่ายภาพสามมิติ ตรงนี้อาจจะเป็นข้อจำกัดของกล้องหลังเดี่ยวก็ไม่แน่ อย่างที่สองเทคโนโลยีการชาร์จไร้สายยังเป็น Qi เป็นเวอร์ชันแรก ความเร็ว 7.5W ไม่มี MagSafe อย่างที่สามทำไมใช้รอยบาก Notch อยู่ ตรงนี้ผมขอตั้งเหตุผลด้านการใช้งานเซนเซอร์ปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้าผ่าน Face ID หรือเหตุผลด้านราคา และอย่างสุดท้ายชิป A18 มีการปรับสเปคเล็กน้อย โดยลดจำนวนแกน GPU ลงจาก 5 เหลือ 4 แกน แต่ถ้าบอกว่าเหตุผลด้านสเปคไม่ให้เหมือนตัวกลุ่มเรือธงและด้านราคายังพอเข้าใจ ราคาและการจำหน่าย iPhone 16e เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 20.00 น.เป็นต้นไป ก่อนจะวางขายเต็มรูปแบบในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยมีราคาดังนี้ รุ่น 128GB ราคา 22,900 บาท รุ่น 256GB ราคา 26,900 บาท รุ่น 512GB ราคา 34,900 บาท น่าซื้อมั้ย คำถามที่หลายคนต้องถามแน่นอนว่า iPhone 16e น่าซื้อมั้ย ในมุมมองส่วนตัวผมนะ "น่าซื้อ" เหตุผลอย่างแรกสเปคเครื่องที่เกือบใกล้เคียง iPhone 16 ทุกอย่างหรือเหนือกว่าด้วยซ้ำ อย่างที่สอง ROM เริ่มต้น 128GB มันทำให้รู้สึกโอเคกว่า 64GB ในราคาสองหมื่นกว่าก็ไม่เอาด้วยนะ และอย่างสุดท้ายราคาเริ่มต้นที่ตอบโจทย์คนที่อยากได้ iPhone 16 ในราคาย่อมเยา ถ้ามาเปรียบเทียบด้านราคากับ ROM เริ่มต้น ถ้าเราซื้อ iPhone 16 ได้ ROM แค่ 128GB ในราคา 29,900 บาท แต่เราสามารถซื้อ iPhone 16e รุ่น 256GB ในราคา 26,900 บาท มันคุ้มค่ากว่าแต่ต้องแลกกันสเปคที่จะไม่ได้เหมือน iPhone 16 เท่านั้น ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ iPhone 16e ก่อนใครสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ True5G ได้แล้ว สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้ช่วยกดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review บทความ TrueID : WV เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพ iPhone 16e แคปมาจาก YouTube : Apple วิดีโอจาก YouTube : Apple : 1 , 2 , 3 , 4 ภาพประกอบจาก Facebook : TrueMove H เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
WV • 22 ก.พ. 68
อ่าน
ส่อง iPhone 16e รุ่นใหม่ล่าสุด ฟังก์ชั่นจัดเต็ม คุ้มค่าหรือไม่
ส่อง iPhone 16e น่าซื้อไหม? คุ้มค่าแค่ไหน? สวัสดีครับทุกคน iPhone 16e เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการทำงานสุดล้ำ ในราคาที่จับต้องได้ วันนี้ ผมจะพาทุกคนไปเจาะลึกสเปก iPhone 16e ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง เทียบกับรุ่นพี่ iPhone 16 แล้วคุ้มค่าหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยครับ ดีไซน์เรียบหรู พร้อมวัสดุเกรดอวกาศ iPhone 16e มาพร้อมสองสี ได้แก่สีดำและสีขาว แม้ตัวเลือกอาจดูน้อย แต่ดีไซน์ยังคงเรียบหรูตามสไตล์ Apple ที่สำคัญ ตัวเครื่องผลิตจากอะลูมิเนียมเกรดอวกาศ ที่ให้ความแข็งแรง ทนทาน พร้อมลุยไปกับเราในทุกสถานการณ์ แบตเตอรี่อึดขึ้น ดูวิดีโอต่อเนื่อง 26 ชั่วโมง เรื่องแบตเตอรี่ ถือเป็นจุดเด่นของ iPhone 16e เพราะสามารถใช้งานได้นานที่สุดในบรรดาไอโฟนทุกรุ่น คุณสามารถดูวิดีโอต่อเนื่องได้สูงสุด 26 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับ iPhone 16 ที่ใช้งานได้นานสุด 22 ชั่วโมง ขุมพลัง A18 พร้อมรองรับ Apple Intelligence iPhone 16e ใช้ชิป A18 รุ่นใหม่ล่าสุด ช่วยให้การใช้งานลื่นไหล ไม่มีสะดุด อีกทั้งยังรองรับ Apple Intelligence เต็มรูปแบบ ตอบโจทย์การใช้งาน AI ขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยสรุปข้อความ, ไฮไลต์อีเมล, สร้าง Genmoji หรือแก้ไขภาพอัตโนมัติ กล้อง Fusion 48MP ถ่ายสวย คมชัดระดับหนัง สายถ่ายภาพต้องถูกใจ iPhone 16e มาพร้อมกล้อง Fusion 48MP ซึ่งรวมเอาคุณสมบัติของกล้องสองตัวไว้ในตัวเดียว แถมยังมีระบบเทเลโฟโต้ 2 เท่า ที่ให้คุณซูมโดยไม่เสียรายละเอียด ด้านวิดีโอ iPhone 16e รองรับการถ่ายที่ความละเอียด 4K แบบ Dolby Vision ทำให้วิดีโอคมชัด สีสวยสมจริง พร้อมเสียงคุณภาพสูง เทียบชั้นงานโปรดักชั่นเลยทีเดียว iOS 18 + Apple Intelligence ยกระดับการใช้งาน ระบบปฏิบัติการ iOS18 ใน iPhone 16e มาพร้อมเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้น เช่น ปรับแต่งเลย์เอาท์หน้าจอตามสไตล์ของคุณ Apple Intelligence AI ช่วยตรวจคำผิด และสรุปข้อความในพริบตา สร้าง Genmoji และสร้างสรรค์ภาพตามคำอธิบาย เครื่องมือลบวัตถุพื้นหลังในภาพแบบอัตโนมัติ เปรียบเทียบ iPhone 16e VS iPhone 16 ดีไซน์ตัวเครื่อง iPhone 16e : อะลูมิเนียม + กระจก ด้านหน้าแบบ Ceramic shield iPhone 16 : อะลูมิเนียม + กระจกแต่งสี (มี 4 สี) ชิปประมวลผล iPhone 16e : A18 CPU แบบ 6-core, GPU แบบ 4-core Neural Engine แบบ 16-core iPhone 16 : A18 CPU แบบ 6-core, GOU แบบ 5-core Neural Engine แบบ 16-core ระบบ Apple Intelligence พบทั้ง 2 รุ่น ระบบกล้อง iPhone 16e : กล้องแบบทูอินวัน Fusion 48MP (ซูมแบบออปติคัล 1x – 2x) iPhone 16 : ระบบกล้องคู่ Fusion 48MP + อัลตราไวด์ 12 MP (ซูมออปติคัล 0.5x – 2x) วิดีโอ 4K Dolby Vision สูงสุด 60 fps ทั้ง 2 รุ่น แบตเตอรี่ iPhone 16e : ดูวิดีโอต่อเนื่อง 26 ชั่วโมง iPhone 16 : ดูวิดีโอต่อเนื่อง 22 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้น iPhone 16e : 22,900 บาท iPhone 16 : 29,900 บาท สรุป : น่าซื้อไหม? คุ้มค่าหรือเปล่า? ดีไซน์ : iPhone 16 มีตัวเลือกสีมากกว่า แต่ iPhone 16e ให้ความเรียบหรูและวัสดุแข็งแรง กล้อง : iPhone 16 ได้เปรียบเรื่องกล้องอัลตราไวด์ แต่ iPhone 16e มีกล้อง Fusion ที่ให้ภาพคมชัดระดับโปร แบตเตอรี่ : iPhone 16e ชนะขาด เพราะใช้งานได้นานกว่า iPhone 16 ราคา : iPhone 16 แพงกว่า 7,000 บาท แต่ฟังก์ชั่นโดยรวมใกล้เคียงกัน คำแนะนำ หากคุณเป็นสายคอนเทนต์ หรือชอบถ่ายภาพ iPhone 16 อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าในเรื่องราคาคุ้มค่า แบตอึด iPhone 16e อาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่าครับ iPhone 16e ไอโฟนรุ่นใหม่ ที่คุ้มค่าและน่าลอง แม้ฟีเจอร์โดยรวมอาจไม่ต่างจาก iPhone 16 มากนัก แต่ด้วยราคาที่ถูกลงถึง 7,000 บาท iPhone 16e ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า เหมาะกับคนที่ต้องการไอโฟนเครื่องใหม่ แต่ไม่อยากจ่ายแพงเกินไปครับ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดว่า iPhone 16e น่าซื้อไหม? คุ้มค่าหรือเปล่า? มาคอมเมนต์แชร์กันได้เลยครับ ภาพปกและภาพประกอบทั้งหมด : วิดีโอ Introducing iPhone 16e - February 19 จาก Apple บทความหมวดข่าวสารเรื่องอื่นๆ ของผู้เขียน ส่องปฏิทิน 2568 เช็ควันหยุดยาวปีนี้ วางแผนเที่ยวให้จุใจ! ป้ายยา 5 หนังสือน่าอ่านที่ควรซื้อ ในงานหนังสือ 2567 รีวิว งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 (งานสัปดาห์หนังสือ 2567) ที่ศูนย์สิริกิติ์ 10-20 ตุลาคมนี้ รู้หรือไม่ แอป “ทางรัฐ” บอกคะแนน Onet ย้อนหลังได้นะ หากคุณชื่นชอบบทความนี้ ขอฝากกดแชร์และติดตามเพจ ⛰️ ภูเขาเล่าไปเรื่อย ⛰️ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ และสำหรับใครที่รักการท่องเที่ยว อย่าลืมกดถูกใจและติดตามเพจ Kyojuro พาไปหนาย ไว้ด้วย ผมยังมีบทความดี ๆ อีกมากมายรอเสิร์ฟให้ทุกคนได้เพลิดเพลินอยู่นะครับ! เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
⛰️ภูเขาเล่าไปเรื่อย⛰️ • 25 ก.พ. 68
อ่าน
หุ้นสหรัฐฯบวก-AVGO รายได้นิวไฮ AAPL จ่อเปิดตัว iPhone พับได้
#หุ้นต่างประเทศ #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.เอเซียพลัส ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกในวันศุกร์ (SP500 +0.55%, Dow Jones +0.52% และ Nasdaq +0.70%) หลังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Broadcom +8.64%, Palantir +5.53% และ Nvidia +1.92% นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ Jerome Powell กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปัจจุบันยังอยู่ในภาวะที่ดี ขณะที่ Fed จะยังไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยและจะดำเนินการอย่างระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทั้งนี้ เช้านี้ตลาดการเงิน (FedWatch Tool) มองโอกาสมากกว่า 80% ที่ Fed อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในเดือน มิ.ย. รายงานตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด โดย Nonfarm Payrolls เดือน ก.พ. ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดอยู่ที่ +1.51 แสนตำแหน่ง (ตลาดคาดที่ +1.60 แสนตำแหน่ง vs. เดือนก่อนที่ +1.25 แสนตำแหน่ง) ด้าน Unemployment Rate เดือน ก.พ. ออกมาสูงกว่าคาดเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 4.1% (vs. ตลาดคาดและเดือนก่อนที่ระดับ 4.0%) ในส่วนของ Average Hourly Earnings เดือน ก.พ. ออกมาที่ +4.0% YoY (vs. ตลาดคาด +4.1% และเดือนก่อน +3.9%) . Broadcom (AVGO US) +8.64% หลังบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปีบัญชี 2025 รายได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขับเคลื่อนโดย AI และการควบรวม VMware โดย Broadcom รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 (สิ้นสุด 2 กุมภาพันธ์ 2025) ด้วยรายได้รวม $1.49 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 25% YoY นับเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท ขณะที่ EBITDA ปรับตัวขึ้น 41% YoY สู่ $1.01 หมื่นล้าน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นแตะ 79.1% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของบริษัทที่เคยให้ไว้ เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ Broadcom คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 2 รายได้รวมจะ อยู่ที่ $1.49 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 19% YoY ดีกว่านักวิเคราะห์คาดที่ $1.46 หมื่นล้าน โดยธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์คาดว่าจะเติบโต 17% YoY แตะ $8.4 พันล้าน และรายได้จาก AI จะเพิ่มขึ้นเป็น $4.4 พันล้าน เพิ่มขึ้น 44% YoY ส่วนซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานคาดว่าจะมีรายได้ $6.5 พันล้าน เพิ่มขึ้น 23% YoY ฝ่ายกลยุทธ์ฯ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ Broadcom หลังบริษัทแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ทั้งรายได้และกำไรเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์สะท้อนถึงพลังขับเคลื่อนจาก AI และการควบ รวม VMware ซึ่งช่วยเสริมฐานธุรกิจด้านซอฟต์แวร์ ซึ่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI กำลังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากกลุ่ม Hyperscaler เช่น Google, Microsoft, Amazon, Meta และ OpenAI ที่กำลังเร่งขยาย Data Centers สำหรับ AI ทำให้การเติบโตของ AI Infrastructure ไม่ใช่แค่ ความต้องการที่เพิ่มขึ้น แต่เป็น Structural Shift ที่เปลี่ยนไปสู่ยุคของ AI-Driven Computing ซึ่ง Broadcom เป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักที่จะได้รับผลประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ Apple (AAPL US) +1.59% หลังเตรียมเปิดตัว iPhone พับได้ปี 2026 ราคาอาจแตะ $2,500โดยมีการวางแผนเปิดตัว iPhone พับได้รุ่นแรกในช่วงปลายปี 2026 ด้านนักวิเคราะห์ MingChi Kuo จาก TF International Securities คาดว่าราคาจะอยู่ที่ $2,000$2,500 เพื่อเจาะตลาดพรีเมียม อาศัยฐานแฟนคลับและอุปสงค์ในการเปลี่ยนเครื่องที่สูง ซึ่ง Apple มีแผนเริ่มผลิตจำนวนมากใน Q4/2026 หลังจากออกแบบดีไซน์สุดท้ายใน Q2/2025 โดยมีเป้าการผลิตปีแรก 3-5 ล้านเครื่อง และอาจแตะ 20 ล้านเครื่อง ภายในปี 2027 นอกจากนี้ การเปิดตัว iPhone พับได้สะท้อน แนวโน้ม AI-driven smartphones ที่เน้นการเชื่อมต่อข้ามแอปและประสบการณ์ใช้งานแบบมัลติโหมด ซึ่งอาจกลายเป็นแนวโน้มสำคัญในอุตสาหกรรมมือถือ - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวกับผู้นำในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 มี.ค.) ที่งาน White House Digital Assets Summit ว่า เขากำลังทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับนักลงทุน และจะยังคงสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโทฯ ต่อไป และ "ผมให้คำมั่นว่าจะทำให้อเมริกาเป็นมหาอำนาจด้าน Bitcoin ของโลก และเป็นศูนย์กลางด้านคริปโทฯ ของโลก และเรากำลังดำเนินการครั้งประวัติศาสตร์เพื่อทำให้คำสัญญานั้นเป็นจริง" - นอกจากนี้ หน่วยงานกำกับดูแลธนาคารของสหรัฐฯ ระบุว่าบรรดาธนาคารของสหรัฐฯสามารถทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีได้ในบางกรณีอาทิ การเก็บรักษาสินทรัพย์คริปโทฯ และการทำกิจกรรมบางอย่างเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์และได้ยกเลิกข้อกำหนดที่ให้ธนาคาร และสถาบันการเงินต้องขออนุญาตล่วงหน้าจากหน่วยงานกำกับดูแลก่อนดำเนินการใดๆ ทางฝ่ายกลยุทธ์ฯ มีมุมมองเชิงบวกต่อประเด็นนี้ และหากราคา Bitcoin มีการปรับตัวขึ้นคาดจะส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ได้รับประโยชน์ อาทิ MicroStrategy และ Coinbase . - Tal Cohen ประธานตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ประกาศในว่า Nasdaq มีแผนที่จะทำการซื้อขายหลักทรัพย์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกล่าวว่า "เรามีความตื่นเต้นยินดีที่จะประกาศว่า Nasdaq ได้เริ่มทำการหารือกับหน่วยงานกำกับดูแล รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาด และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เกี่ยวกับการทำการซื้อขายหลักทรัพย์ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 5 วันใน 1 สัปดาห์บนตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq" และได้เสริมว่า คาดว่าการให้บริการดังกล่าวจะสามารถเริ่มได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2569 โดยขึ้นอยู่กับการได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล และความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน - รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ กล่าวว่าทรัมป์มีท่าทีสองมาตรฐานต่อความสัมพันธ์จีนสหรัฐฯ พร้อมประณามนโยบายภาษีศุลกากร โดยระบุว่าสหรัฐฯ ไม่ควรตอบแทนความดีอย่างไม่เหมาะสม หรือใช้ภาษีเป็นเครื่องมือกดดันทางการเมือง หวัง อี้ ยังปฏิเสธการเชื่อมโยงประเด็นการค้ายากลุ่มเฟนทานิลกับมาตรการภาษี พร้อมเตือนว่าสหรัฐฯ ไม่สามารถกดดันจีนขณะเดียวกันก็หวังรักษาความสัมพันธ์ที่ดีได้ คำกล่าวของหวังสะท้อนความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นจากจีน หลังจากที่ทรัมป์เพิ่งเพิ่มภาษีศุลกากร โดยปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณว่าทั้งสองประเทศจะเปิดการเจรจาการค้า - สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นเกณฑ์วัดเงินเฟ้อในเดือน ก.พ. ออกมาอยู่ที่ -0.7%YoY (ตลาดคาดที่ -0.4% YoY vs. เดือนก่อนที่ +0.5%) ขณะที่ดัชนี PPI ในเดือน ก.พ. ออกมาอยู่ที่ -2.2% YoY (ตลาดคาดที่ -2.1% YoY vs. เดือนก่อนที่ -2.3%) . รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้: สหรัฐฯ CPI เดือน ก.พ. (ตลาดคาด +0.3% MoM vs. เดือนก่อน +0.5%), PPI เดือน ก.พ. (ตลาดคาด +0.3% MoM vs. เดือนก่อน +0.4%) และ JOTLs Job Openings เดือน ม.ค. (ตลาดคาดอยู่ที่ระดับ 7.66 ล้านตำแหน่ง vs. เดือนก่อนที่ระดับ 7.60 ล้านตำแหน่ง) ยุโรป Industrial Production เดือน ม.ค. (ตลาดคาด +0.7% YoY vs. เดือนก่อน -1.1%) ญี่ปุ่น GDP ไตรมาส 4 รอบ Final (ตลาดคาดและครั้งก่อนที่ +2.8% Annualized QoQ) และ PPI เดือน ก.พ. (ตลาดคาด -0.1% MoM vs. เดือนก่อน +0.3%) นอกจากนี้ ต้องติดตามพัฒนาการสงครามการค้า ซึ่งในวันที่ 12 มี.ค. นี้ การปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้รวมทั้งการที่ทรัมป์กำลังพิจารณาการปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับคู่ค้าอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งนับเป็นความเสี่ยงสำคัญที่จะสร้างความผันผวนให้แก่ตลาด - ติดตามรายงานผลประกอบการฯ ในสัปดาห์นี้: จันทร์ Oracle (ตลาดคาดรายได้และ EPS +8.4% และ +5.7% YoY ตามลำดับ) พุธ Adobe (ตลาดคาดรายได้และ EPS +9.2% และ +11.0% YoY ตามลำดับ) พฤหัสบดีUlta Beauty (ตลาดคาดรายได้และ EPS -2.8% และ -12.1% YoY ตามลำดับ) ศุกร์Li Auto (ตลาดคาดรายได้และ EPS +5.9% และ -25.2%YoYตามลำดับ)
ทันหุ้น • 3 วันที่แล้ว
อ่าน
วิธีกดแลกคอยน์แอปโลตัสลุ้นรับ! iPhone 16 Pro มูลค่ารางวัลละ 39,900 บาท
สวัสดีค่ะทุกคน สำหรับในวันนี้นะคะเราจะพามาดูวิธีการกดแลกคอยน์เพื่อลุ้นรับโทรศัพท์มือถือ iPhone 16 Pro 128 GB - Natural Titanium จำนวน 1 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 39,900 บาท ในแอปโลตัส(Lotus)ค่ะ ซึ่งจะมีวิธีการกดแลกคอยน์ในแอปโลตัสยังไงนั้นเดี๋ยวเรามาดูกันเลยนะคะ ✏️ วิธีการกดแลกคอยน์ลุ้นรับโทรศัพท์มือถือ iPhone 16 Pro ในแอปโลตัส 1. สำหรับในขั้นตอนแรกก็ให้ทุกคนกดเข้าไปในแอปโลตัสค่ะ หน้าตาของแอปจะตามรูปภาพเลยนะคะ เขียนว่า Lotus’s แอปสีเขียว 2. จากนั้นให้เรากดเลือกไปที่คำว่า “มายโลตัส” จะอยู่ด้านล่างสุดของแอปโลตัสตามลูกศรสีเหลืองชี้เลยค่ะ 3. แล้วทีนี้เราจะเห็นรูปภาพเขียนว่า “ลุ้นรับ! iPhone 16 Pro 128 GB - Natural Titanium จำนวน 1 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 39,900 บาท” ก็ให้เรากดเข้าไปนะคะ 4. ต่อมาก็ให้เรากดไปที่คำว่า “รับสิทธิ์” ค่ะ 5. แล้วเราก็กดคำว่า “ยืนยัน” เพื่อทำการยืนยันการรับสิทธิ์โดยจะใช้คอยน์ที่เราสะสมในแอปโลตัสแลกจำนวน 5 คอยน์ด้วยกัน 6. เมื่อเรากดยืนยันการแลกคอยน์สำเร็จจะเขียนว่า “แลกคอยน์สำเร็จ ขอบคุณที่ร่วมกิจกรรมกับเรา ประกาศผลผู้ชนะกิจกรรมภายใน 15 วัน” เพียงแค่นี้เราก็แลกคอยน์ในแอปโลตัสเพื่อลุ้นรับรางวัลใหญ่โทรศัพท์มือถือ iPhone 16 Pro 128 GB Natural Titanium จำนวน 1 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 39,900 บาทเรียบร้อยแล้วค่ะ วิธีการกดแลกคอยน์โลตัสง่ายมาก เพียงแค่เข้าแอปโลตัสนะคะ แล้วคอยน์ที่ใช้ในแอปเพียงแค่ 5 คอยน์เท่านั้น สำหรับใครที่มีคอยน์เหลือเยอะอย่าลืมไปกดแลกคอยน์ลุ้นรับรางวัลกันเยอะ ๆ ค่ะ คอยน์โลตัสจะมาจากการใช้จ่ายซื้อสินค้าในโลตัสเวลาที่เราบอกเลขสมาชิกก็จะได้คอยน์เพิ่ม สามารถสะสมเพื่อรับสิทธิ์ต่าง ๆ ในแอปโลตัสได้อีกหลากหลายสิทธิ์เลยทุกคน แล้วเรามาพบกันใหม่ในบทความต่อไปสำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ ภาพทั้งหมดโดยนักเขียนนามปากกา 345Pink✏️ จากแอปโลตัส(Lotus’s) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
345Pink • 1 วันที่แล้ว
อ่าน
กรุงศรี มอง Apple เปิดตัว iPhone 16E แนะลงทุนหุ้นไหน
#ทันหุ้น-บล.กรุงศรี ระบุว่า Apple ได้เปิดตัว IPhone รุ่นประหยัดที่สุด เปิดตัวคือ iPhone 16E ราคาเริ่มต้นเอาไว้ที่ 22,900 บาท (ราคาสูงกว่าที่คาดและรุ่นก่อนที่คาด 2 หมื่นบาท) สั่งซื้อล่วงหน้า 21 ก.พ.,วางจำหน่าย 28 ก.พ. โดยรายละเอียดคือ มีหน้าตาเหมือนกับ iPhone 14 ขนาด 6.1 นิ้ว แต่ภายในมาพร้อมกับ chip A18 ที่รองรับ Apple Intelligence(เหมือนกับ iphone 16) โดยรวมหุ้น Apple ในสหรัฐเมื่อคืนปรับขึ้นเพียง 0.16% แต่จุดที่น่าสนใจคือ ใน X หมวด News ข่าวคำว่า iPhone 16Eได้รับการโพสต์ขึ้นเป็นอันดับ 1 โดยรวมฝ่ายวิจัยกรุงศรี มองการเปิดตัวสินค้าใหม่ IPhone 16E จะเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่เน้นขาย Iphone แนะนำ Trading ระยะสั้น อาทิหุ้น COM7, CPW, JMART แนะนำ Trading เน้น COM7 และในเชิงพื้นฐานแนะนำ ADVICE โดยคาดว่างบไตรมาส 4/67 จะออกมาดี ขณะที่ Valuation ถูก P/E 10 เท่า PEG 0.5 เท่า
ทันหุ้น • 20 ก.พ. 68
อ่าน
iPhone 16e น่าซื้อมั้ย? ส่องสเปค ถ้าจะซื้อเปรียบเทียบราคากับ iphone16 คุ้มค่าแค่ไหน?
สวัสดีครับทุกคน iPhone 16e น่าซื้อมั้ย? คุ้มมั้ยถ้าจะซื้อใช้งาน ราคาเปรียบเทียบกับ iPhone 16 วันนี้ผมมีคำตอบมาฝาก จากคนใช้ไอโฟนตระกูลเอสอี ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับน้องใหม่ที่ได้เข้ามาอยู่ในครอบครัว iPhone 16 จะเป็นใครไม่ได้อีกแล้วนอกจาก iPhone 16e เรียกได้ว่าอัปเดตต่อยอดจาก iPhone SE ก็ได้ แต่มาในชื่อใหม่ที่ทันสมัยมากขึ้น ฟีเจอร์ก็ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ แถมยังบอกลาปุ่มโฮม มาด้วยชิป C1 ชิปโมเด็มรุ่นแรกของไอโฟนเลยเด้อ ว่าไม่ได้จริง ๆ เกิดใหม่อีกในครั้งในร่างที่สาวกแอปเปิ้ลคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ติ่งหน้าจอจะยังคงเป็นเอกลักษณ์ทำงานในรุ่นนี้ต่อไป iPhone 16e มีให้เลือก 2 สี คือดำและขาว แต่เอาใจสายเคส มาพร้อมให้เลือกมากถึง 5 สี ได้แก่ สีเขียวเลคกรีน สีม่วงฟิวเซีย สีฟ้าวินเทอร์ สีขาวและสีดำ ในส่วนสเปคของไอโฟน 16e ใช้ระบบเซลลูลาร์ 5G หน้าจอ Super Retina XDR 6.1 นิ้ว แสดงผลหน้าจอแบบ OLED ใช้ชิป A18 CPU 6 Core, GPU 4 Core ความจุมีให้เลือก 3 แบบ 128GB 256GB 512GB น้ำหนักเครื่อง 167 กรัม กล้องหลังเป็นแบบกล้องตัวเดียว Fusion 48 MP แต่ให้มาแบบทูอินวัน สำหรับถ่ายภาพความละเอียดสูงเป็นพิเศษ (24 MP และ 48MP) กล้องหน้ามาให้ 12 MP (TrueDepth) บันทึกวิดีโอแบบ Dolby Visoin ระดับ 4K รองรับ การใช้งานแบบ Face ID เพื่อความปลอดภัยตามฉบับแอปเปิ้ล ใช้เชื่อมต่อสายแบบ USB-C รองรับ USB-2 ระบบชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน QI ตัวเครื่องทนฝุ่นทนน้ำทนกระแทก มาพร้อม Apple Intelligence และ ราคาเริ่มต้นที่ 22,900 บาท สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ iPhone 16e น่าสนใจมั้ย ถ้าหากคุณเป็นผู้ใช้ไอโฟนเอสอีอยู่แล้ว รู้สึกน่าสนใจเพิ่มขึ้น หากต้องการอัปเกรดเครื่องใหม่ แบบว่าพอใจในตระกูล (E) เนื่องจากฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้รับการอัปเดตไปในทางดีขึ้น จะเรียกว่าข้ามขั้นตอนไปเลยก็ได้ กล้องหลักก็เปลี่ยนไป เมื่อเทียบเท่าไอโฟนสิบหก แม้ว่าฟีเจอร์บางอย่างจะไม่ได้ใช้งานเท่ากับรุ่นพี่ก็ตาม แต่การที่ได้กล้องไปทางเดียวกัน ทำให้น้องเล็กดูดีขึ้นเลยแหละ ถ้าเอาไปเทียบกับไอโฟนเอสอี (รุ่นเดิม) แล้วคุ้มมั้ยถ้าจะซื้อ? iPhone 16e ส่วนตัวผมมองว่าขึ้นอยู่กับงบและความต้องการของทุกคนเลย จะคุ้มหรือไม่คุ้ม หากเป็นผู้ใช้งานไอโฟนสิบสี่และสิบห้า ก็คงไม่ได้รู้สึกอยากจะเปลี่ยนแน่ ๆ แต่หากเป็นผู้ใช้ไอโฟนเอสอีรุ่นเดิม อาจจะทำให้เปลี่ยนใจง่ายขึ้น ในกรณีมีงบเท่านี้ ยกเว้นแต่ว่ามีความต้องการในบางฟีเจอร์ที่ทำได้มากกว่าไอโฟนสิบหกอี น่าจะพากันข้ามไปรุ่นนี้ไปเลย ราคา IPhone 16e (22,900 บาท) เปรียบเทียบกับ iphone16 (29,900 บาท) แน่นอนว่าเจ้าตัวไอโฟนสิบหกต้องแพงกว่าแน่นอน ด้วยความที่มีฟีเจอร์หลายอย่างมากกว่า เช่น ตัวควบคุมกล้องทำให้เรื่องถ่ายภาพเป็นเรื่องง่ายขึ้น ถ่ายภาพมาโคร ซูมแบบออปติคัลได้มากกว่า มีไดนามิกไอแลนด์ รองรับ Magsafe และฟีเจอร์ อื่น ๆ มากมาย แต่ทั้งนี้ไอโฟนสิบหก (อี) แทบไม่ต่างอะไรกับไอโฟนสิบหกเท่าไหร่ ในเรื่องของความจุ กล้องหลัง กล้องหน้า ที่จะเหมือนกันบ้างบางจุด เมื่อเปรียบเทียบราคาดูแล้ว ถ้าใครมีงบถึงขอแนะนำให้ไปไอโฟน 16 หรือไปซื้อตัวท็อปอย่าง ไอโฟน 16 Pro มีแต่คุ้มกับคุ้มแน่นอนไปทั้งทีต้องไปให้สุด ทั้งนี้ถ้าหากใครชื่นชอบในความไอโฟนตระกูลอี มีงบเท่านี้ หรืออยากได้ไอโฟนสำรองไว้ใช้ ไม่ได้เดือดร้อนเงิน จะซื้อจะเอารุ่นนี้เท่านี้ ตามที่ใจชอบตัวเอง iPhone 16e ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มอยู่ และมีน่าสนใจมากเช่นกัน แถมยังใช้ต่อไปได้อีกหลายปีเลยครับ "รู้หรือไม่ ตัวอักษร e ที่ตามท้ายชื่อไอโฟน (iPhone 16e ) e ไม่ได้มีความหมายแต่อย่างใด" หน้าปก:Apple/Canva ภาพประกอบทั้งหมด:Apple/Youtube เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
JPooh • 1 มี.ค. 68
อ่าน
วิธีกดแลกสิทธิ์ลุ้นรับiPhone 16 Pro ฟรี แอปTrueMoney
สวัสดีค่ะทุกคน ในวันนี้เราจะพามาดูวิธีกดรับสิทธิ์ลุ้นรับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อที่หลายคนอยากได้ก็คือยี่ห้อ iPhone 16 Pro ฟรี ๆ มีวิธีการกดรับสิทธิ์ที่ง่ายมาก เราเลยจะพาทุกคนมาลองกดลุ้นโชคดูค่ะ จะมีวิธีกดรับสิทธิ์ลุ้นโชครับ iPhone 16 Pro ยังไงนั้นเดี๋ยวเรามาดูกันเลยนะคะ ✏️ สำหรับวิธีการกดรับสิทธิ์ลุ้นรับโทรศัพท์มือถือ iPhone 16 Pro ในขั้นตอนแรกนะคะทุกคนจะต้องกดเข้าไปในแอปทรูมันนี่(TrueMoney)ค่ะ สำหรับใครที่ยังไม่มีแอปก็สามารถติดตั้งไว้ในเครื่องได้เลย จากนั้นกดเข้าไปในแอปทรูมันนี่(TrueMoney)ค่ะ แล้วจะเห็นคำว่า ทรูมันนี่คอยน์ตามลูกศรสีเหลืองชี้ค่ะก็กดเข้าไปนะคะ ต่อมาให้ทุกคนเลื่อนไปดูตรงคำว่า “แลกคอยน์สำหรับคุณ” ก็จะเห็นเขียนว่า ใช้ 1 คอยน์แลก 1 สิทธิ์ลุ้น iPhone16 Proเราก็กดเข้าไปได้เลยค่ะ เมื่อกดเข้าไปแล้วก็กดคำว่าแลกคูปองทุกคน นอกจากนี้เราก็จะเห็นยอดทรูมันนี่คอยน์ของตัวเองด้วย ซึ่งทรูมันนี่คอยน์ของเราจะอยู่ที่ 111 เหรียญ เรากดแลกคูปองปุ๊บก็ทำการกดยืนยันอีกรอบที่ปุ่มยืนยันตามนี้ เพียงแค่นี้เราก็จะได้ข้อความยืนยันว่าทำการแลก 1 สิทธิ์โดยใช้คอยน์ในแอปทรูมันนี่เพื่อลุ้นรับ iPhone 16 Pro สำเร็จแล้วค่ะ และหากว่าเราเป็นผู้โชคดีก็จะมีข้อความส่งมาในSMS จากแอปทรูมันนี่ค่ะ สำหรับคอยน์ของแอปทรูมันนี่จะได้จากการสะสมของเรามาจากการจ่ายค่าเน็ตผ่านแอปทรูมันนี่, ซื้อสินค้าจ่ายในแอปทรูมันนี่ ฯ และเราสามารถนำคอยน์ในแอปทรูมันนี่มาแลกสิทธิ์ลุ้นโชคหรือแลกเป็นเงินสดเข้าแอปทรูมันนี่ได้ด้วยทุกคน วิธีการก็ไม่ยาก ใครที่อยากลุ้นโชคลุ้นรับ iPhone 16 Pro อย่าลืมไปกดแลกคอยน์ในแอปทรูมันนี่กันนะคะ แล้วเรามาพบกันใหม่ในบทความต่อไป วันนี้สวัสดีค่ะ ภาพทั้งหมดโดยนักเขียนนามปากกา 345Pink✏️จากแอปทรูมันนี่(TrueMoney) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
345Pink • 15 ก.พ. 68
อ่าน
พรีวิวเปิดตัว iPhone 16e จาก Apple การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่สร้างความต่าง ควรซื้อไหม?
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทาง Apple ก็ได้เปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง iPhone 16e ครับ ที่มาพร้อมกับความคาดหวังมากมายจากผู้ใช้งานทั่วโลกครับ แต่คำถามสำคัญคือ "มันคุ้มค่าไหม?" แล้วมันมีจุดเด่นอะไรบ้างที่ทำให้เราควรสนใจ? วันนี้ แต้มเอง จะมาทำการพรีวิวให้ทุกท่านได้ทราบกันครับผม ดีไซน์ของตัวเครื่อง iPhone 16e ยังคงรักษาดีไซน์คลาสสิกแบบที่เราคุ้นเคยจาก iPhone 14 มาครับ ด้วยขอบเครื่องทรงเหลี่ยม กรอบอะลูมิเนียม และหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ที่มากับรอยบากของ Face ID ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นเอกลักษณ์ของ iPhone ไปแล้วครับ ฝาหลังเป็นกระจกสะท้อนแสงได้ดี ทำให้ให้ความรู้สึกหรูหราพอสมควรครับ รุ่นนี้มีสองสีให้เลือก คือ สีขาวและสีดำ ซึ่งเรียบง่ายและเหมาะสมกับทุกสไตล์ครับ น่าเสียดายที่ Apple ไม่ได้เพิ่มสีใหม่ๆ ที่น่าสนใจเข้ามา แต่ก็พอเข้าใจได้ว่ามันคือการมุ่งเน้นไปที่ความเรียบง่ายครับ ปุ่ม Action กับคุณสมบัติใหม่ที่ใช้งานได้จริง หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ iPhone 16e คือปุ่ม Action ที่มาแทนปุ่ม Silent Switch บน iPhone รุ่นก่อนครับ คุณผู้อ่านสามารถตั้งค่าปุ่มนี้ให้ทำงานได้หลากหลาย เช่น ใช้เปิด/ปิดเสียง, เปิดไฟฉาย, เปิดกล้อง หรือฟังก์ชันอื่นๆ ที่คุณต้องการครับผม ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกในการใช้งานที่สามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้นครับ นอกจากนี้ยังสามารถปรับการทำงานให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตได้มากขึ้นอีกด้วย หน้าจอ Super Retina XDR คมชัดและทนทาน iPhone 16e ใช้หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้วที่ให้สีสันสดใสและคมชัดครับ ความละเอียดของหน้าจอก็สามารถตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดีมากๆ ครับ นอกจากนี้ตัวกระจก Ceramic Shield ที่ทนทานต่อการขีดข่วนและการตกกระแทกก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ช่วยให้คุณผู้อ่านไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลหน้าจอมากนักครับผม กล้อง Fusion Camera 48MP หนึ่งในจุดที่ Apple ตั้งใจทำให้ดีขึ้นใน iPhone 16e คือกล้องครับ ตัวกล้องหลังใช้ระบบ Fusion Camera ความละเอียด 48MP ซึ่งให้ภาพคมชัดและมีการปรับปรุงในเรื่องของ Hybrid Focus Pixel ที่ช่วยให้การโฟกัสและการถ่ายภาพนั้นทำได้ดีขึ้นในทุกสภาพแสงครับ จุดเด่นคือกล้องนี้สามารถทำงานได้เหมือนกับมีเลนส์สองตัวในตัวเดียว ได้แก่ เลนส์ Wide (1x) และ Telephoto (2x) ครับ ทำให้สามารถถ่ายภาพที่มีระยะไกลขึ้นได้ โดยยังคงความละเอียด 12MP อยู่ครับ นอกจากนี้ยังมีระบบ OIS (Optical Image Stabilization) ที่ช่วยลดการสั่นของภาพขณะถ่ายอีกด้วยครับ น่าเสียดายที่ไม่มีเลนส์ Ultra-wide มาให้ทำการถ่าย Macro หรือภาพใกล้ชิดครับผม ชิป A18 ประสิทธิภาพเป็นเลิศ iPhone 16e มาพร้อมกับชิป A18 ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 3nm รุ่นที่ 2 ซึ่งทำให้มันมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า iPhone รุ่นก่อนๆ อย่างชัดเจนครับ คุณผู้อ่านจะเห็นถึงการใช้งานที่ลื่นไหลมากขึ้น โดยเฉพาะการเล่นเกมหรือการใช้งานแอปพลิเคชันที่หนักๆ ครับ การใช้ชิป A18 นี้สามารถทำให้ประสิทธิภาพของ iPhone 16e ดีกว่า iPhone SE 3 ถึง 40% เลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ยังรองรับ Ray-tracing และ Neural Engine 16-core ที่จะทำให้การใช้งาน AI หรือการประมวลผลต่างๆ ทำได้รวดเร็วมากขึ้นครับผม แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น Apple ไม่ได้ระบุความจุของแบตเตอรี่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Apple บอกว่า iPhone 16e มีเวลาใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานกว่า iPhone รุ่นก่อนๆ ครับ โดยมีการทดสอบเปรียบเทียบว่า iPhone 16e ใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone 11 ถึง 6 ชั่วโมง และ iPhone SE ถึง 12 ชั่วโมงครับผม ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาที่ดีมากๆ ในการยืดระยะเวลาใช้งานให้ยาวนานขึ้นครับ พอร์ต USB-C สิ่งที่น่าสนใจที่สุดใน iPhone 16e คือการใช้พอร์ต USB-C แทนพอร์ต Lightning ครับ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิด เพราะมันหมายถึงการปิดตำนานพอร์ต Lightning ของ iPhone ไปแล้วครับ อย่างไรก็ตาม iPhone 16e รองรับ USB 2 ซึ่งทำให้การถ่ายโอนข้อมูลอาจจะไม่เร็วเท่าพอร์ต USB 3 ที่อยู่ใน iPhone Pro ครับ นอกจากนี้ยังไม่มีการรองรับ MagSafe บนรุ่นนี้ซึ่งเป็นการตัดฟีเจอร์ที่หลายคนชอบครับ โดยส่วนตัวแล้ว iPhone 16e ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับสำหรับผู้ที่อยากได้ iPhone ที่มีประสิทธิภาพดีในราคาที่ไม่สูงมากนักครับ แม้ว่าจะขาดฟีเจอร์บางอย่างเช่น MagSafe หรือพอร์ต USB-C ที่รองรับความเร็วสูงสุด แต่ก็ยังคงตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วไปได้ดีครับผม ถ้าคุณผู้อ่านมองหาความคุ้มค่ากับการใช้งานในชีวิตประจำวัน iPhone 16e ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีครับ เพราะคุณได้ทั้งดีไซน์ที่เรียบหรู ฟีเจอร์ที่ครบครัน และประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในราคาที่เหมาะสมครับ น่าซื้อไหม? ถ้าคุณไม่ต้องการฟีเจอร์พิเศษหรือคุณเป็นคนที่ต้องการ iPhone ที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่าครับ นี่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ไม่เลวเลยครับ ราคาและความคุ้มค่า สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 22,900 บาท iPhone 16e ความจุ 128GB ราคา 22,900 บาท iPhone 16e ความจุ 256GB ราคา 26,900 บาท iPhone 16e ความจุ 512GB ราคา 34,900 บาท คุณผู้อ่านสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป และจะวางจำหน่ายหน้าร้านวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ครับรุ่น 128GB ถือว่าไม่แพงเกินไปครับ เมื่อเทียบกับสเปกและประสิทธิภาพที่ได้ครับผม ถือว่าคุ้มค่ามากครับ นอกจากนี้ยังมีรุ่นความจุ 256GB และ 512GB ให้เลือก ตามความต้องการของผู้ใช้ครับ สำหรับใครที่มองหา iPhone ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในราคาที่สมเหตุสมผล iPhone 16e ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีครับ ด้วยการพัฒนาในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่คลาสสิก กล้องที่ดีขึ้น ชิป A18 ที่เร็วขึ้น และการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าเดิมครับผม นี่คือ iPhone ที่คุ้มค่าที่สุดในช่วงราคาไม่เกิน 30,000 บาทครับ นั่นเองครับ นอกจากนี้ คุณผู้อ่านก็สามารถมาพูดคุยกันได้ในช่อง “แสดงความคิดเห็น” ได้เลยนะครับ แต้มเอง เป็นพื้นที่ในการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจที่แต้มได้ไปเจอมา ทั้งสถานที่ อาหาร การใช้ชีวิต และเรื่องราวการเรียนอีกสารพัด ฝากกดติดตามด้วยนะครับ เครดิต รูปภาพประกอบบทความ รูปที่ 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 จาก Apple News Room รูปภาพหน้าปก - แต้มเอง(ผู้เขียน) ฝากติดตาม · แต้มเอง อ่านบทความอื่นๆ บน TrueID Creator เข้าร่วม Community กับ แต้มเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
แต้มเอง • 22 ก.พ. 68
อ่าน
Swippitt เครื่องชาร์จมือถือ จุ่มแล้วเปลี่ยนแบตให้ ชาร์จเต็มไวใน 2 วินาที !
ต่อไปนี้เราอาจจะไม่ต้องรอชาร์จแบตเตอรี่มือถือนาน ๆ เพราะล่าสุดในงานแสดงเทคโนโลยีระดับโลก CES 2025 มีบริษัทจากประเทศไอร์แลนด์ ที่นำเสนอผลงาน เครื่องชาร์จมือถือ ที่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เสริมให้กับมือถือได้ เคลมว่ากระบวนการชาร์จทำได้ไว ใช้เวลาเพียงแค่ 2 วินาทีผลงานนี้มีชื่อว่า สวิปพิต ฮับ (Swippitt Hub) ที่มีลักษณะคล้ายเครื่องปิ้งขนมปัง ตัวเครื่องไม่ได้ทำหน้าที่ชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่ของมือถือโดยตรง แต่ภายในจะมีแบตเตอรี่สำรองที่บรรจุไว้ เพื่อใช้สับเปลี่ยนกับแบตเตอรี่เสริม ที่จะติดอยู่ด้านนอก ของมือถือแต่ละเครื่องโดยการใช้งาน ผู้ใช้จะต้องใส่เคสพิเศษ สวิป ลิงก์ (Swippitt Link) กับมือถือของตัวเอง ซึ่งด้านหลังของเคส จะติดตั้งแบตเตอรี่เสริมไว้ จากนั้นเมื่อนำมือถือที่ใส่เคส ไปเสียบเข้ากับตัวเครื่องชาร์จ กลไกภายในเครื่องชาร์จ ก็จะดันแบตเตอรี่เก่าออกจากเคส แล้วแทนที่ด้วยแบตเตอรี่เสริม ที่ชาร์จพลังงานจนเต็มแล้ว ส่วนแบตเตอรี่เก่า ก็จะนำไปชาร์จพลังงานต่อให้โดยอัตโนมัติสำหรับโมดูลเครื่องชาร์จพลังงานไฟฟ้า สวิปพิต ฮับ (Swippitt Hub) จะทำหน้าที่เป็นทั้งแท่นชาร์จแบตเตอรี่ และที่จัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 3,500 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) เก็บได้สูงสุด 5 ก้อนต่อรอบ และใช้กระบวนการในการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ รอบละไม่เกิน 2 วินาทีเท่านั้นบริษัทระบุว่าด้วยความจุแบตเตอรี่ 5 ก้อน เครื่องชาร์จพลังงานเพียงเครื่องเดียว จึงสามารถพร้อมใช้งานกับโทรศัพท์หลายเครื่อง เหมาะสำหรับการใช้งานภายในครัวเรือนและสำนักงาน ให้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาการรอคอยการชาร์จพลังงานได้มากขึ้นระบบการทำงานยังสามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ การจัดการระบบต่าง ๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้อุปกรณ์รองรับการใช้งานแค่ iPhone 14, 15 และ 16 เท่านั้น ส่วนราคาเครื่องจะอยู่ที่ 450 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 15,600 บาท และเคสใส่มือถือที่ต้องซื้อแยก จะอยู่ที่ 120 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,100 บาทข้อมูลจากnewatlas,engadget
TNN ช่อง16 • 14 ม.ค. 68
อ่าน
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กวิจารณ์ Apple อาจถูกคู่แข่งแซงเพราะบริษัทไม่มีนวัตกรรมใหม่
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัท Meta วิจารณ์บริษัท Apple ในการสัมภาษณ์รายการ Podcast ความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง กับโจ โรแกน (Joe Rogan) นักจัดรายการชื่อดัง โดยบางช่วงมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กล่าวว่าบริษัท Apple นั้นไม่ได้คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ที่ยิ่งใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และพึ่งพาความสำเร็จเดิมจากการประดิษฐ์ iPhone ในยุคของสตีฟ จ็อบส์ พร้อมเหน็บว่าพวกเขาแค่นั่งเฉย ๆ กับมันมา 20 ปีการสนทนารายการ Podcast เริ่มต้นจากความไม่พอใจของโจ โรแกน (Joe Rogan) ต่อบริษัท Apple โดยเขาเล่าว่าตนเองเปลี่ยนมาใช้ระบบปฏิบัติการ Android เพราะไม่ชอบการผูกขาดของ Apple รวมถึงนโยบาย App Store ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 30% จากธุรกรรมบนแอปพลิเคชัน ซึ่งมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็ได้เสริมว่า Apple ได้ตั้งกฎเกณฑ์ที่ไม่ยุติธรรมและขัดขวางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง เช่น การปิดกั้นการเข้าถึงโปรโตคอลที่อาจทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า AirPodsนอกจากนี้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กยังเผยว่าบริษัท Meta สูญเสียรายได้จากการโฆษณาหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากข้อจำกัดบนระบบปฏิบัติการ iOS และเชื่อว่าหากบริษัท Apple ยกเลิกกฎเกณฑ์เหล่านี้ บริษัท Meta อาจเพิ่มกำไรได้ถึงสองเท่ามาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก วิจารณ์ Apple ว่าไม่มีการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ๆ และพึ่งพาเพียงการทำกำไรจากผลิตภัณฑ์เดิม ซึ่งเขามองว่าจะส่งผลเสียต่อบริษัทในระยะยาว โดยกล่าวว่า ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หากคุณไม่ทำสิ่งใหม่ใน 10 ปี สุดท้ายคุณจะแพ้นอกจากนี้ บริษัท Apple ยังถูกวิจารณ์เรื่องความผูกขาด และถูกบังคับให้ปรับนโยบายในสหภาพยุโรปเพื่อตอบสนองต่อกฎหมายใหม่ รวมถึงเผชิญคดีความจากกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ แต่ยังคงรักษาระบบปิดกั้นของตนเองเอาไว้อย่างเหนียวแน่นมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยังได้พูดถึงเทคโนโลยีในอนาคต เช่น ปัญญาประดิษฐ์และการผสมผสานโลกกายภาพกับโลกดิจิทัล โดยเผยถึงการพัฒนาอินเทอร์เฟซระบบประสาทเทียมของบริษัท Meta ซึ่งรวมถึงสายรัดข้อมือและแว่นตาเสมือนจริง Orion เข้าด้วยกัน โดยเขาจินตนาการถึงอนาคตที่ผู้คนสามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในการส่งข้อความหรือโต้ตอบกับ AI ได้อย่างไร้รอยต่อในอนาคตโลกกายภาพและดิจิทัลจะหลอมรวมกันจนกลายเป็นโลกใบเดียว ซึ่งสิ่งของในโลกจริงจะซ้อนทับด้วยวัตถุเสมือนจริงและโฮโลแกรม มันจะเปิดมิติใหม่ของการใช้ชีวิตและการสื่อสารทางด้านของบริษัท Apple ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อคำวิจารณ์ของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แต่การสนทนาในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันและความตึงเครียดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ยังคงดำเนินต่อไปที่มาของข้อมูลhttps://9to5mac.com/2025/01/10/mark-zuckerberg-joe-rogan-apple-innovation/https://www.theverge.com/2025/1/10/24341039/meta-apple-mark-zuckerberg-trash-talks-joe-rogan-interview
TNN ช่อง16 • 14 ม.ค. 68
อ่าน
7 ทริค ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน iPhone ไอโฟน เพื่อปกป้องข้อมูล
สวัสดีครับทุกคน! บทความนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน iPhone แบบละเอียด เพื่อให้ข้อมูลของเราปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการถูกละเมิดหรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตครับผม หลายคนอาจไม่ทราบว่า iPhone มีฟีเจอร์หลายอย่างที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ถ้าเรารู้วิธีตั้งค่าให้ถูกต้อง จะช่วยให้เราสบายใจเวลาใช้งานแน่นอนครับ มาดูกันเลย! 1. ปิดการติดตามจากแอป (App Tracking Transparency) ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันไม่ให้แอปต่าง ๆ ติดตามกิจกรรมของเราเพื่อนำไปใช้สำหรับโฆษณาแบบเจาะจงครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy Security) 3. เลือก การติดตาม (Tracking) 4. ปิดสวิตช์ อนุญาตให้แอปติดตาม (Allow Apps to Request to Track) รีวิวในมุมมองผู้เขียน: หลังจากที่ผู้เขียนได้ลองปิดฟีเจอร์นี้ รู้สึกว่าการโฆษณาที่เจอบนแอปหรือเว็บไซต์ลดความเจาะจงลง ทำให้รู้สึกว่าไม่ถูกติดตามตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีครับผม 2. จัดการสิทธิ์การเข้าถึงของแอป (App Permissions) บางแอปอาจขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่จำเป็น เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง กล้อง หรือไมโครโฟน เราสามารถตรวจสอบและจำกัดสิทธิ์เหล่านี้ได้ครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy Security) 3. แตะหมวดหมู่ที่ต้องการ เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง (Location Services), กล้อง (Camera) หรือ ไมโครโฟน (Microphone) 4. เลือกแอปที่ต้องการ และตั้งค่าสิทธิ์ให้เหมาะสม เช่น "ไม่อนุญาต (Never)", "ถามทุกครั้ง (Ask Next Time)" หรือ "ขณะใช้แอป (While Using the App)" รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนแนะนำให้ตั้งค่าเป็น "ถามทุกครั้ง" สำหรับข้อมูลสำคัญ เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง เพราะช่วยให้เราควบคุมการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นครับ 3. ใช้ฟีเจอร์ "ซ่อนที่อยู่อีเมล" (Hide My Email) ฟีเจอร์นี้สำหรับผู้ที่สมัครใช้บริการหรือเว็บไซต์บ่อย ๆ แต่ไม่อยากเปิดเผยที่อยู่อีเมลจริงของตัวเองครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. แตะที่ชื่อ Apple ID ของคุณ (ที่ด้านบนสุด) 3. เลือก iCloud 4. แตะ ซ่อนที่อยู่อีเมล (Hide My Email) 5. สร้างที่อยู่อีเมลสุ่มเพื่อใช้แทนที่อยู่อีเมลจริงของคุณ รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนใช้ฟีเจอร์นี้บ่อยมากครับ ช่วยลดความเสี่ยงจากอีเมลสแปมและการละเมิดความเป็นส่วนตัวได้ดีเยี่ยม แถมใช้งานง่ายมากด้วยครับผม 4. ปิดการแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (Location Sharing) การแชร์ตำแหน่งที่ตั้งแบบเรียลไทม์อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย หากไม่จำเป็นควรปิดไว้ครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy Security) 3. แตะ บริการตำแหน่งที่ตั้ง (Location Services) 4. ปิด แชร์ตำแหน่งที่ตั้งของฉัน (Share My Location) รีวิวในมุมมองผู้เขียน: หลังจากที่ผู้เขียนปิดฟีเจอร์นี้ รู้สึกว่าสบายใจขึ้น เพราะไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งจะถูกแชร์โดยไม่รู้ตัวครับ 5. ปรับการตั้งค่า Safari เพื่อความปลอดภัย สำหรับคนที่ใช้งาน Safari บ่อย ๆ การตั้งค่าให้ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก Safari 3. เปิด ป้องกันการติดตามข้ามเว็บไซต์ (Prevent Cross-Site Tracking) 4. เปิด ซ่อนที่อยู่ IP (Hide IP Address) และเลือก ผู้ติดตาม (Trackers) รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนชอบฟีเจอร์นี้มากครับ เพราะช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ติดตามพฤติกรรมการท่องเว็บของเรา ลดโอกาสถูกเจาะข้อมูลส่วนตัวได้ดีเลยครับ 6. เปิดใช้งานโหมดล็อกดาวน์ (Lockdown Mode) โหมดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด เช่น นักข่าวหรือคนที่มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy Security) 3. เลื่อนลงมาที่ โหมดล็อกดาวน์ (Lockdown Mode) 4. แตะ เปิดใช้งาน (Turn On) และอ่านคำอธิบายก่อนยืนยัน รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนลองเปิดใช้งานแล้ว พบว่าฟีเจอร์นี้เพิ่มความปลอดภัยระดับสูงสุด แต่ข้อเสียคือฟังก์ชันบางอย่างในเครื่องจะถูกจำกัดครับ ดังนั้นควรเปิดใช้เฉพาะในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ 7. ใช้ Face ID หรือ Touch ID ให้เต็มประสิทธิภาพ การตั้งค่าการปลดล็อกด้วย Face ID หรือ Touch ID ช่วยให้ข้อมูลของเราปลอดภัยจากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก Face ID และรหัสผ่าน (Face ID Passcode) หรือ Touch ID และรหัสผ่าน (Touch ID Passcode) 3. ตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย (ควรเป็นตัวเลข 6 หลักหรือตัวอักษรผสมตัวเลข) 4. เปิดการใช้งาน Face ID หรือ Touch ID สำหรับการปลดล็อกแอปและการชำระเงิน รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนคิดว่านี่เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นมากครับ แถมยังเพิ่มความปลอดภัยได้ดีด้วย ทั้งหมดนี้คือทริคง่าย ๆ สำหรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน iPhone ที่ผู้เขียนอยากแนะนำครับ การตั้งค่าเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกละเมิดข้อมูล และทำให้เราใช้งาน iPhone ได้อย่างสบายใจมากขึ้นครับผม หากใครยังไม่ได้ลองตั้งค่าตามนี้ แนะนำให้ลองทำตามดูเลยนะครับ เพราะความปลอดภัยของข้อมูลเป็น ภาพหน้าปก โดย ผู้เขียน ภาพที่ 1 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 2 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 3 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 4 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 5 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 6 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 7 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 8 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 9 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 10 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 11 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 12 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 13 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 14 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 15 โดย ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Story • 2 ม.ค. 68
อ่าน
ยุโรปบังคับใช้กฎหมายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต้องรองรับ USB-C
วันที่ 28 ธันวาคมเป็นต้นไป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาขนาดเล็กและขนาดกลางทั้งหมดที่จำหน่ายในสหภาพยุโรปจะต้องรองรับพอร์ต USB-C เป้าหมายหลักเพื่อการลดจำนวนสายชาร์จที่ผู้บริโภคต้องซื้อ โดยสามารถใช้สายชาร์จประเภทเดียวกันกับอุปกรณ์หลายชนิด ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานก่อนหน้านี้ ในปี 2022 รัฐสภายุโรปและประเทศสมาชิกได้ลงมติเห็นชอบให้ยกเลิกวิธีการชาร์จแบบหลากหลายประเภท และกำหนดให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาขนาดเล็ก ขนาดกลางที่จำหน่ายในสหภาพยุโรปจะต้องรองรับพอร์ต USB-C กฎหมายฉบับนี้ครอบคลุมอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สมาร์ตโฟน, แท็บเล็ต, กล้องถ่ายรูป, หูฟัง, คอนโซลวิดีโอเกม, ลำโพงพกพา, E-Reader, คีย์บอร์ด และเมาส์นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดมาตรฐานสำหรับการชาร์จเร็ว (Fast Charging) ครอบคลุมการชาร์จที่ใช้แรงดันไฟฟ้าเกิน 5 โวลต์ (V) กระแสไฟฟ้าเกิน 3 แอมแปร์ (A) หรือกำลังไฟเกิน 15 วัตต์ (W) โดยอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็วนั้นจะต้องสามารถใช้งานร่วมกับมาตรฐาน USB PD (Power Delivery) ซึ่งปัจจุบันโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์จำนวนมากได้ปรับใช้มาตรฐานนี้แล้ว เช่น iPhone, Google Pixel, Mi 8 Pro, iPad Pro รุ่นใหม่ และ Nintendo Switchกฎหมายฉบับดังกล่างมีบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายรายแสดงความเห็นคัดค้าน ตัวอย่างเช่น บริษัท แอปเปิล (Apple) ที่แสดงท่าทีโต้แย้งข้อบังคับในกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บริษัท แอปเปิล (Apple) ก็แสดงท่าทีปฏิบัติตามคำสั่งในเวลาต่อและเปลี่ยนมาใช้ USB-C ในผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่จำหน่ายในยุโรปถือเป็นก้าวสำคัญสู่ความสะดวกสบายของผู้บริโภคและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม กฎเหล่านี้มีขึ้นเพื่อจัดการกับขยะจำนวนหลายตันที่เกิดจากเครื่องชาร์จที่ถูกทิ้งทุกปี และช่วยประหยัดเงินได้ประมาณ 250 ล้านยูโรสำหรับครัวเรือนในสหภาพยุโรปด้วยการกำจัดการซื้อเครื่องชาร์จที่ไม่จำเป็นทุกปี แอนนา คาวาซซินี (Anna Cavazzini) ประธานคณะกรรมการตลาดภายในและการคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐสภายุโรป กล่าวในแถลงการณ์ที่มาของข้อมูลeuronews, Theverge
TNN ช่อง16 • 1 ม.ค. 68
อ่าน
สรุปฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 18.2, iPadOS 18.2 และ macOS Sequoia 15.2 พร้อมฟีเจอร์ Apple Intelligence
Apple เปิดตัว iOS 18.2, iPadOS 18.2 และ macOS Sequoia 15.2 พร้อมฟีเจอร์ Apple Intelligence ใหม่ ยกระดับประสบการณ์ iPhone, iPad และ Mac ด้วย AI ส่วนบุคคลที่ใช้งานง่ายและเน้นความเป็นส่วนตัว ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ภาพด้วย Image Playground สร้าง Genmoji และพัฒนา Writing Tools ใหม่สำหรับการเขียน iPhone 16 และ iPhone 16 Pro ยังเพิ่มฟีเจอร์ Camera Control เพื่อวิเคราะห์สิ่งรอบตัวได้ทันที พร้อมทั้งผสาน ChatGPT เข้ากับ Siri และ Writing Tools ช่วยให้ใช้งานง่ายและเร็วขึ้นออกแบบภาพสนุก ๆ ที่เป็นต้นฉบับด้วย Image PlaygroundImage Playground ช่วยผู้ใช้สร้างรูปภาพที่สนุกและไม่ซ้ำใครด้วยธีม เครื่องแต่งกาย และสถานที่ พร้อมเพิ่มคำอธิบายหรือใช้รูปจากคลังภาพ รูปภาพสามารถสร้างในสไตล์ต่างๆ เช่น แอนิเมชัน 3 มิติ หรือภาพประกอบแบบเรียบง่าย พร้อมผสานใช้งานใน Messages และแอปอย่าง Freeform และ Keynote รวมถึงยังเป็นแอปแยกใหม่ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นสร้าง Genmoji ให้เหมาะกับทุกช่วงเวลาApple Intelligence, Genmoji ยกระดับการสื่อสารให้น่าสนุกและสร้างสรรค์ ผู้ใช้เพียงพิมพ์คำอธิบาย ก็จะได้รับตัวเลือก Genmoji หลากหลาย พร้อมปรับแต่งด้วยรูปจากคลังภาพ อุปกรณ์เสริม และธีมต่างๆ Genmoji สามารถใช้ในข้อความ แชร์เป็นสติกเกอร์ หรือเป็นรีแอ็คชั่นใน Tapback ได้อย่างง่ายดายจดบันทึกสู่ระดับถัดไปด้วย Image Wandแอป Notes เพิ่มเครื่องมือ Image Wand ที่ช่วยสร้างภาพในบันทึกได้ง่ายขึ้น โดยใช้ข้อความหรือภาพในบันทึกที่มีอยู่ ผู้ใช้เพียงวงกลมพื้นที่ในโน้ต Image Wand จะวิเคราะห์บริบทและสร้างภาพที่เกี่ยวข้อง พร้อมตัวเลือกแอนิเมชัน ภาพประกอบ หรือสไตล์สเก็ตช์เพื่อเสริมบันทึกให้ชัดเจนและมีชีวิตชีวามากขึ้นอัปเดตเครื่องมือช่วยการเขียน Writing ToolsWriting Tools เพิ่มความสามารถใหม่ Describe Your Change ช่วยให้ผู้ใช้ปรับการเขียนได้ตามต้องการ เช่น ทำให้ข้อความดูมีอารมณ์มากขึ้น เพิ่มคำกริยาที่น่าสนใจในประวัติย่อ หรือเปลี่ยนคำเชิญงานเลี้ยงให้เป็นบทกวี ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้ทั้งในระบบ Apple และแอปของบุคคลที่สาม ทำให้การเขียนยืดหยุ่นและสร้างสรรค์ยิ่งขึ้นเปิดใช้งานการเข้าถึง ChatGPT ใน SiriApple ผสาน ChatGPT เข้ากับ Siri และ Writing Tools บน iOS, iPadOS, และ macOS ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน ChatGPT ได้โดยไม่ต้องสลับแอป Siri สามารถแนะนำหรือใช้ ChatGPT เพื่อตอบคำถามและช่วยเขียนเนื้อหาโดยตรงผ่าน Writing Tools นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถสร้างภาพและเพิ่มในเนื้อหาของตนได้ผ่านความสามารถของ ChatGPTการผสานนี้เป็นตัวเลือกที่ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดได้ และมีการควบคุมข้อมูลที่แชร์กับ ChatGPT โดยไม่ต้องมีบัญชี ChatGPT ข้อมูลที่ใช้จะไม่ถูกจัดเก็บหรือใช้ในการฝึกโมเดล และ IP ผู้ใช้จะถูกปิดบัง หากเชื่อมต่อบัญชี ChatGPT นโยบายข้อมูลของ OpenAI จะมีผลบังคับใช้แอปพลิเคชันอีเมลได้รับการออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่รองรับงานง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดยเพิ่มฟีเจอร์ Digest View ที่รวมอีเมลจากผู้ส่งรายเดียวกันเข้าด้วยกัน ช่วยให้มองเห็นภาพรวมของเนื้อหาได้ชัดเจน และจัดระเบียบอีเมลโดยอัตโนมัติตาม 4 หมวดหมู่หลักPrimary: รวมอีเมลส่วนตัวและอีเมลสำคัญ เช่น การสื่อสารจากครอบครัว เพื่อน หรือผู้ติดต่อสำคัญTransactions: รวมอีเมลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม เช่น ใบเสร็จ การแจ้งชำระเงิน และการยืนยันการสั่งซื้อUpdates: รวมอีเมลข่าวสาร การแจ้งเตือนต่างๆ จากบริการที่ใช้งาน และกิจกรรมโซเชียลPromotions: รวมอีเมลการตลาด คูปอง ส่วนลด และข้อเสนอพิเศษการจัดหมวดหมู่นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงอีเมลที่ต้องการได้เร็วขึ้น ลดความยุ่งยากในการค้นหา และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการอีเมลในแต่ละวันที่มาของข้อมูลhttps://www.apple.com/newsroom/2024/12/apple-intelligence-now-features-image-playground-genmoji-and-more/
TNN ช่อง16 • 13 ธ.ค. 67
อ่าน
มาเก็บความลับกัน วิธีล็อกแอปบน iPhone (iOS18)
ล็อคแอปบน iPhone ด้วย Face ID: วิธีง่าย ๆ เพื่อความปลอดภัยที่คุณต้องรู้ ใครที่อยากให้ข้อมูลในแอปสำคัญ ๆ บน iPhone ของตัวเองปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่รู้วิธีการใช้งาน Face ID ในการล็อคแอป เราไปลองทำกันทีละขั้นตอน ทำให้การล็อคแอปง่ายขึ้นอีกเยอะ แต่บน iOS18 เท่านั้นนะครับ ขั้นตอนการล็อคแอปด้วย Face ID กดค้างที่ไอคอนแอป: เริ่มต้นง่าย ๆ เพียงแตะค้างที่แอปที่ต้องการล็อค หากแอปนั้นรองรับฟีเจอร์ Face ID จะมีเมนูป๊อปอัพปรากฏขึ้นพร้อมตัวเลือก "Require Face ID" เลือก Require Face ID: แตะเลือกคำสั่งนี้ ระบบจะทำการสแกนใบหน้าของเราเพื่อยืนยันตัวตน พร้อมแสดงข้อความแจ้งเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน เช่น การปกป้องข้อมูลและวิธีใช้งาน ยืนยันตัวตน: เมื่อสแกนใบหน้าเสร็จ จะมีเครื่องหมายถูกสีเขียวแสดงว่าแอปนี้ถูกล็อคด้วย Face ID เรียบร้อย การใช้งานเมื่อแอปถูกล็อค ครั้งถัดไปที่เราพยายามจะเปิดแอปดังกล่าว ระบบจะขอให้คุณสแกนใบหน้าอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน เมื่อการสแกนสำเร็จ แอปจะปลดล็อคให้ใช้งานได้ตามปกติ เย่ ขั้นตอนการยกเลิกการล็อคแอป ถ้าหากเราต้องการยกเลิกการล็อคแอปด้วย Face ID ก็ง่ายแสนง่าย: กดค้างที่แอปที่ต้องการปลดล็อค เลือก "Don't Require Face ID" จากเมนูที่ปรากฏ ระบบจะสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้ง และแสดงเครื่องหมายถูกสีเขียวเป็นการยืนยันว่าการปลดล็อคสำเร็จ เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการล็อคแอป ตรวจสอบว่าแอปรองรับ Face ID หรือไม่: ไม่ใช่ทุกแอปที่รองรับการตั้งค่า Face ID ดังนั้นควรตรวจสอบในเมนู Settings ของแอปนั้น ๆ ใช้ Face ID สำหรับแอปที่สำคัญเท่านั้น: เช่น แอปธนาคาร แอป Notes หรือแอปที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว การล็อคแอปด้วย Face ID เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับ iPhone ของเราได้อย่างมากๆ เลย ไม่ต้องจำรหัสผ่านหลายชุด และไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลสำคัญจะถูกเปิดดูโดยไม่ได้รับอนุญาต 😁 ภาพโดยนักเขียน หมีขั้วโลก ทอดกรอบ〔´(エ)`〕 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
หมีขั้วโลกทอดกรอบ • 2 ธ.ค. 67
อ่าน
เปรียบเทียบ realme GT 7 Pro และ iPhone 16 Pro Max แตกต่างกันแค่ไหน ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน ?
สวัสดีทุกท่านครับ หลังจาก realme ได้เปิดตัว realme GT 7 Pro เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วมีคนถามว่าระหว่าง realme GT 7 Pro และ iPhone 16 Pro Max อะไรดีกว่า วันนี้เราหาคำตอบกันว่าแตกต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ พูดถึงเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ realme GT 7 Pro และ iPhone 16 Pro Max แน่นอนว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เรามาเริ่มที่ realme GT 7 Pro มาในดีไซน์ Mars Design ได้แรงบันดาลใจจากดาวอังคาร สะท้อนจิตวิญญาณมนุษยชาติในการสำรวจดาวดวงนี้ โดยฝาหลังนำลักษณะพื้นผิวของดาวอังคารให้กลมกลืน สีเครื่องมีแค่สีส้ม ขนาด 162.45 x 76.89 x 8.55 มม. น้ำหนัก 222.8 กรัม และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP69 ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max มาในดีไซน์สตรองแบบไทเทเนียมมาพร้อมผิวสัมผัสใหม่ที่ผ่านกระบวนการไมโครบลาสต์อย่างพิถีพิกัน สีเครื่อง 4 สี ได้แก่ ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมธรรมชาติ และไทเทเนียมทะเลทราย ขนาด 163 x 77.6 x 8.25 มม. น้ำหนัก 227 กรัม และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 หน้าจอ หน้าจอเป็น realme GT 7 Pro เป็นจอ RealWorld Eco² ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2780×1264(450PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 6500nits มาพร้อมกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 โดยจอใหม่ของ realme GT 7 Pro เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง realme และ Samsung Display มีลักษณะเป็นจอแบนขอบโค้ง Quad-curved AMOLED สามารถอัตราการรีเฟรชหน้าจอแบบแปรผันได้ถึง 8T LTPO ได้ขอบเขตการแสดงสีได้ถึง DCI-P3 120% ใช้พลังงานน้อยอีกด้วย จอนี้ได้รับรองเรื่องถนอมสายตาจาก SGS และ TÜV อีกด้วย ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max หน้าจอเป็น Super Retina XDR OLED แบบ Dynamic Island ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2868×1320(458PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 2000nits ต่ำสุดที่ 1nits มาพร้อมกระจกเสริม Ceramic Shield รุ่นใหม่ ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ realme GT 7 Pro มาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Elite ความเร็ว CPU 4.32GHz ส่วน RAM 12GB สามารถ Dynamic RAM ได้อีก 16GB ส่วน ROM 512GB และระบบปฏิบัติการ realme UI 6 รุ่นพัฒนาจาก Android 15 ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกับชิปเซต Apple A18 Pro Bionic ความเร็ว CPU 4.04GHz ส่วน RAM 8GB ส่วน ROM มีให้เลือก 256GB/512GB/1TB และระบบปฏิบัติการ iOS 18.1 กล้อง realme GT 7 Pro มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 8MP + กล้อง Periscope Portrait 50MP ซูม 3 เท่า Optical Zoom มาพร้อมกันสั่น OIS สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 8K 24fps และกล้องหน้า 16MP สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดแค่ 1080p 60fps เช่นกัน ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก Fusion 48MP มาพร้อมกันสั่น Sensor-Shift + กล้อง Ultrawide 48MP รองรับการถ่ายมาโคร มาพร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 12MP ซูม 5 เท่า Optical Zoom มาพร้อมกันสั่น OIS สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 120fps และกล้องหน้า 12MP สามารถบันทึกวิดีโอธรรมดาได้สูงสุดแค่ 4K 60fps การเชื่อมต่อ realme GT 7 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C , Infrared และ Wi-Fi 2.4, 5 , 6 ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 , USB-C 3.2 , Ultra Wideband 2 , Face ID และ Wi-Fi 2.4, 5 , 6 , 7 แบตเตอรี่ realme GT 7 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 6500mAh ชาร์จไว Ultra Charge 120W ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max มีความจุแบตเตอรี่ 4685mAh รับรองชาร์จไว 30W ชาร์จแบบไร้สายในแบบ MagSafe สูงสุด 25W, ชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi2 สูงสุด 15W และชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi สูงสุด 7.5W ราคา realme GT 7 Pro รุ่น 12GB/512GB ราคา 29,999 บาท iPhone 16 Pro Max รุ่น 8GB/256GB ราคา 48,900 บาท รุ่น 8GB/512GB ราคา 56,900 บาท รุ่น 8GB/1TB ราคา 64,900 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี realme GT 7 Pro และ iPhone 16 Pro Max เป็นมือถือที่เยี่ยมยอด ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ ตรงนี้ขอให้พิจารณาข้อดีในการเลือก realme GT 7 Pro อย่างแรกเรื่องชิปเซตแน่นอนว่าชิปตัวนี้ออกแบบมาเพื่อคุณสมบัติด้าน AI ความเร็ว CPU ดีกว่า อย่างที่สอง RAM เยอะกว่า แถม Dynamic RAM ได้อีกด้วย แต่แอบเสียดายไม่นำตัว RAM 16GB มาวางขายในไทย อย่างที่สามเรื่องบันทึกวิดีโอได้ถึง 8K 24fps และสุดท้ายเรื่องแบตเยอะและชาร์จไวกว่า ต่อมาที่ iPhone 16 Pro Max อย่างแรกหน้าจอใหญ่กว่า อย่างที่สอง ROM มีให้เลือกได้ อย่างที่สามกล้อง Telephoto สามารถ Optical Zoom ได้ดีกว่า อย่างที่สี่กล้องหน้าบันทึกวิดีโอได้ถึง 4K เหมาะสำหรับคนถ่าย Vlog และสุดท้ายรับรองการชาร์จไร้สาย ตรงนี้มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ ส่วนใครเป็นเจ้าของ realme GT 7 Pro สามารถสั่งซื้อพร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ realme ได้แล้ววันนี้ https://youtu.be/l9uqNWi2rp0?si=a1KOs7-jdPPrDa1E ส่วนใครเป็นเจ้าของ iPhone 16 Series สามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ Shop Apple ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review บทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพ realme GT 7 Pro จาก Facebook : realme และ ภาพ iPhone 16 Pro Max แคปมาจาก YouTube : Apple ภาพประกอบ realme GT 7 Pro จาก Facebook : realme : 1 , 4 ภาพประกอบ iPhone 16 Pro Max ที่ 2 , 3 แคปมาจาก YouTube : Apple วิดีโอจาก YouTube : realme Thailand เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
WV • 23 พ.ย. 67
อ่าน
iPhone Mirroring เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณใช้ iPhone ของคุณบนหน้าจอ Mac ได้
ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก หนึ่งในเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกสบายในการใช้งานคือ iPhone Mirroring หรือการสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ โดยเฉพาะการสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac ที่สามารถช่วยให้การทำงานและความบันเทิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น การสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac นั้นช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงผลเนื้อหาบน iPhone เช่น วิดีโอ รูปภาพ หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ บนจอของ Mac ได้อย่างง่ายดาย ทำให้ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องการทำงาน แต่ยังเพิ่มประสบการณ์ในการดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่การเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้เราจะเจาะลึกถึงวิธีการใช้งาน iPhone Mirroring ไปยัง Mac ว่ามีวิธีการอย่างไร ข้อดีของการใช้งาน และเครื่องมือหรือแอปพลิเคชันที่จำเป็นสำหรับการสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac อย่างมีประสิทธิภาพ iPhone Mirroring คืออะไร? iPhone Mirroring หรือการสะท้อนหน้าจอ iPhone คือการส่งภาพและเสียงจาก iPhone ไปยังหน้าจอของอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวี คอมพิวเตอร์ หรือ Mac โดยไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ วิธีการทำงานของเทคโนโลยีนี้คือการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายไร้สาย เช่น Wi-Fi ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและดูเนื้อหาบนหน้าจอขนาดใหญ่ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีการตั้งค่าอย่างซับซ้อน การใช้งาน iPhone Mirroring บน Mac สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันหรือฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่รองรับการทำงานนี้ และในบางกรณีผู้ใช้อาจใช้สายเชื่อมต่อหากต้องการความเสถียรในการแสดงผลมากขึ้น วิธีการใช้งาน iPhone Mirroring ไปยัง Mac การสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac สามารถทำได้หลายวิธี โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้แอพพลิเคชั่น iPhone Mirroring ซึ่งเป็นฟีเจอร์ในตัวของ iOS และ macOS 15 ที่ทำให้การเชื่อมต่อไร้สายระหว่าง iPhone และ Mac เป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันเสริมอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานอีกด้วย การใช้ iPhone Mirroring เพื่อสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac iPhone Mirroring เป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน MacOS 15 โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งการควบคุมสัญญาณภาพและเสียงจาก iPhone ไปยังอุปกรณ์ Macbook ได้อย่างง่ายดาย สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้: เปิด Wi-Fi บนอุปกรณ์ทั้งสอง: เชื่อมต่อ iPhone และ Mac เข้ากับ Apple id เดียวกัน เข้าสู่แอพพลิเคชั่น iPhone Mirroring ใน task bar ของ MacOS 15: รอให้ทำการเชื่อมต่อ ใส่รหัสผ่านของ iPhone บนหน้าจอ Mac ปิดหน้าจอ iPhone: ระบบนี้หากหน้าจอ iPhone ยังเปิดใช้งานอยู่การเชื่อมต่อจะไม่สำเร็จ รอให้การเชื่อมต่อเสร็จสิ้น: เมื่อเชื่อมต่อเสร็จสิ้น หน้าจอของ iPhone จะปรากฏบน Mac ทันที ข้อดีของการสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac ทำงานได้สะดวกขึ้น: ไม่ต้องสลับอุปกรณ์บ่อยๆ เพียงแค่เปิดหน้าจอบน MacBook เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: ใช้แอปหรือเครื่องมือที่มีอยู่ในไอโฟนผ่าน MacBook ได้ทันที เช่น แอปเฉพาะที่อาจไม่มีบน macOS แชร์หน้าจอเพื่อการสอนหรือการประชุม: เป็นวิธีที่ง่ายสำหรับการแสดงสิ่งที่อยู่ในไอโฟนให้ผู้อื่นเห็น เช่น การสาธิตแอป การแชร์ภาพ หรือการสื่อสารผ่านวิดีโอคอล ข้อจำกัดของการใช้งาน iPhone Mirroring บน Mac แม้ว่าการสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาเช่นกัน: การพึ่งพาเครือข่าย Wi-Fi: การเชื่อมต่อผ่าน AirPlay จำเป็นต้องมีเครือข่าย Wi-Fi ที่เสถียร หากเครือข่ายไม่ดีอาจทำให้เกิดการหน่วงหรือภาพและเสียงไม่ซิงค์กันได้ ต้องใช้ MacOS 15: Macbook บางรุ่นอาจไม่ได้รองรับการอัพเดทซอฟแวร์ใหม่ๆ และฟังชันก์นี้จำกัดการใช้งานบน MacOS 15 เท่านั้น iPhone และ Mac ต้องเชื่อม Apple id เดียวกัน: จำเป็นต้องเป็นมือถือของตัวเองเท่านั้น -ภาพทั้งหมดในบทความและภาพปกเป็นภาพที่ผู้เขียนบทความใช้งานจริงและถ่ายเองทั้งหมด เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ttrophyy • 3 พ.ย. 67
อ่าน
อินโดนีเซียสั่งแบนสมาร์ตโฟน Google Pixel หลังจากแบน iPhone 16 เมื่อต้นสัปดาห์
วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียสั่งห้ามจำหน่ายสมาร์ตโฟน Google Pixel ของบริษัท Google เนื่องจากบริษัทไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมายภายในประเทศอินโดนีเซีย การแบนครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากสั่งห้ามจำหน่าย iPhone 16 ของบริษัท Apple ทั้งนี้ อินโดนีเซียถือเป็นตลาดสมาร์ตโฟนขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ข้อกำหนดด้านกฎหมาย และนโยบายที่เกี่ยวข้องมีขึ้นเพื่อความยุติธรรมสำหรับนักลงทุนทุกคนที่ลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายโครงสร้างอุตสาหกรรมที่นี่ เฟบรี เฮนดรี อันโตนี อารีฟ (Febri Hendri Antoni Arief) โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซีย เปิดเผยกับสื่อในอินโดนีเซียว่า Google ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอินโดนีเซียก่อนจึงจะกลับมาขายได้อีกครั้ง การแบนสมาร์ตโฟน Google Pixel ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่อินโดนีเซียสั่งห้าม จำหน่ายสมาร์ตโฟน iPhone 16 เมื่อต้นสัปดาห์ หลังจากบริษัท Apple ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญาการลงทุนมูลค่า 109 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,697 ล้านบาท ในอินโดนีเซีย ซึ่งกำหนดให้บริษัท Apple ลงทุนผลิตอุปกรณ์ พัฒนาเฟิร์มแวร์ หรือลงทุนในนวัตกรรม ในประเทศอินโดนีเซียกฎหมายของอินโดนีเซียกำหนดให้บริษัทเทคโนโลยีต่างประเทศต้องจัดหาชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตในประเทศร้อยละ 40 โดยข้อกำหนดนี้สามารถปฏิบัติตามได้ผ่านการผลิตในประเทศ การพัฒนาเฟิร์มแวร์ หรือการลงทุนโดยตรงในโครงการนวัตกรรมใหม่ ๆปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น บริษัท Samsung และบริษัท Xiaomi ที่ได้จัดตั้งโรงงานผลิตขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ Apple เลือกที่จะเปิดสถาบันสำหรับนักพัฒนา กฎระเบียบดังกล่าวซึ่งถูกบังคับใช้ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายอุตสาหกรรมของอินโดนีเซีย เพื่อยกระดับตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ภายในประเทศ และพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว บริษัทที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเกณฑ์เหล่านี้จะต้องเผชิญข้อจำกัดด้านการขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในประเทศอินโดนีเซียที่มาของข้อมูล Techcrunchที่มาของภาพ Pixabay, Google
TNN ช่อง16 • 2 พ.ย. 67
อ่าน
Apple Intelligence มาแล้ว! อัปเดต iOS 18.1 บน iPhoneiPad และ Mac พร้อมกันทั่วโลก
โดยเป็นการอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชัน iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1 พร้อมความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดและทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น แม้จะยังมีอีกหลายความสามารถเด็ดที่รอเปิดตัวในเดือนธันวาคมตัวอย่างฟีเจอร์เด็ด ๆ ของ Apple Intelligence เช่นWriting Tools หรือเครื่องมือการเขียนผสานรวมเข้ากับทุกส่วนใน iOS, iPadOS และ macOS เพื่อให้ผู้ใช้สามารถขัดเกลาภาษาให้สวยงามโดยการปรับการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความการพูดคุยกับ Siri ที่เป็นธรรมชาติและลื่นไหลขึ้น มีความเป็นธรรมชาติ ยืดหยุ่น และผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับประสบการณ์ทั้งระบบมากขึ้น และมาในดีไซน์ใหม่ที่จะส่องแสงเรืองๆ อย่างสวยงามบริเวณโดยรอบของขอบหน้าจอ iPhone, iPad หรือ CarPlayแอปรูปภาพที่ฉลาดมากขึ้นด้วยความสามารถใหม่ ๆ ผู้ใช้สามารถค้นหาได้แทบทุกอย่างด้วยภาษาธรรมชาติ เพียงแค่พิมพ์คำอธิบายของสิ่งที่ต้องการค้นหา เช่น Maya skateboarding in a tie-dye shirtการจัดลำดับความสำคัญในอีเมล ด้วยคุณสมบัติการคัดข้อความที่สำคัญ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ด้านบนของอินบอกซ์ที่จะแสดงอีเมลที่ด่วนที่สุด ตัวอย่างเช่น อีเมลเชิญไปทานข้าวเที่ยงในวันเดียวกัน หรืออีเมลแสดงข้อมูล Boarding Pass และผู้ใช้ยังสามารถดูสรุปทั่วทั้งอินบอกซ์ได้โดยไม่ต้องเปิดอ่านอีเมลนอกจากนี้ยังมีอีกหลายคุณสมบัติที่จะค่อย ๆ เปิดตัวในเดือนธันวาคม เช่น ความสามารถในการสร้าง Genmoji ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร เพียงแค่พิมพ์คำอธิบาย และสามารถปรับแต่งโดยใช้รูปภาพของเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวในคลังได้ หรืออย่าง Image Wand ที่จะทำให้การจดโน้ตดูน่าสนใจยิ่งขึ้นโดยการเปลี่ยนภาพสเก็ตช์คร่าว ๆ เป็นภาพที่สวยงามที่มาของข้อมูลApple
TNN ช่อง16 • 29 ต.ค. 67
อ่าน
iFixit แกะไส้ iPhone 16 พบแบตแกะง่าย ซ่อมสบ๊าย !!
iFixit เว็บไซต์ที่มุ่งเน้นการซ่อมแซมและปรับแต่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้ซื้อ iPhone 16 มาแกะเพื่อตรวจสอบภายในแล้ว พบถอดแบตเตอรี่ได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ซ่อมแซมตัวเครื่องได้ง่ายกว่าเดิมโดยใน iPhone 16 ได้ทำการเปลี่ยนตัวยึดแบตเตอรี่ใหม่ ไปเป็นแถบกาวที่ลอกได้ด้วยการใช้ไฟฟ้า 9 โวลต์ เมื่อต่อขั้วไฟฟ้าบริเวณแถบยึดแบตเตอรี่ เป็นเวลา 90 วินาที แบตเตอรี่จะหลุดออกมา ซึ่งวิธีดังกล่าวสะดวกมากกว่าการยึดด้วยแถบกาว 4 แผ่น ที่ใช้ก่อนหน้านี้มาก เพราะก่อนหน้านี้ การนำแบตเตอรี่ออกมามีโอกาสที่จะเสียหายได้ง่าย หรือเสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟได้ตัวยึดแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนใหม่นี้ จะมีใน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus เท่านั้น โดยคาดว่าทาง Apple อาจเปลี่ยนมาใช้รูปแบบเดียวกันนี้ทั้งหมดใน iPhone รุ่นต่อไปที่มาข้อมูล :ifixit.com
TNN ช่อง16 • 1 ต.ค. 67
อ่าน
รวมเคส iPhone 16 ทุกรุ่น เคสไอโฟนสวยๆ กันกระแทกได้ พร้อมพิกัด!
ไหนใครได้ iPhone 16 มาแล้วบ้าง? ได้มาแล้วก็ต้องหาเคสสวยๆ มาใส่นะ! และแน่นอนว่าวันนี้เราได้คัดเคสไอโฟนสวยๆ มาไว้ให้แล้ว ซึ่งเป็นเคสจากแบรนด์ดังอย่าง CASETiFY นั่นเอง บอกเลยว่ามีทั้งลายฮิต ลายการ์ตูน ลายหวานๆ สไตล์ลูกคุณ หรือลายเท่ๆ คูลๆ เลือกได้ตามชอบเลยแต่ถ้าใครยังเลือกไม่ได้ก็ไปแวะหน้าร้านหรือกดเข้าเว็บไซต์ได้ บอกเลยว่ามีเคสให้เลือกเพียบ! แล้วยิ่งถ้าใครเป็นลูกค้าทรู ก็มีส่วนลดให้ด้วยนะ คุ้มสุดๆ โปรโมชั่น ใช้ 0 ทรูพอยท์ ลูกค้าทรูบลู ทรูกรีน ทรูไวท์ รับส่วนลด 10% และทรูเรด ทรูแบล็ค รับส่วนลด 15% สำหรับซื้อสินค้า CASETiFY เมื่อซื้อ iPhone 16 Series เครื่องเปล่า และเครื่องพร้อมแพ็กเกจ ที่ทรูช็อป ทรูแบรนด์ดิ้งช็อป ทรูสเฟียร์ ทุกสาขา เงื่อนไข 1. รับโค้ดส่วนลด เมือซื้อ iPhone 16 Series เครื่องเปล่า และเครื่องพร้อมแพ็กเกจ ที่ทรูช็อป ทรูแบรนด์ดิ้งช็อป ทรูสเฟียร์ ทุกสาขา2. รับโค้ดส่วนลด 10% สำหรับลูกค้าทรูบลู ทรูกรีน ทรูไวท์ และ 15% สำหรับลูกค้าทรูเรด ทรูแบล็ค เมื่อซื้อ iPhone 16 Series (*โค้ดมีจำนวนจำกัด)3. โค้ดส่วนลดสามารถใช้ได้กับสินค้า CASETiFY ราคาปกติเท่านั้น4. โค้ดส่วนลดสามารถใช้ได้กับการสั่งซื้อสินค้า CASETiFYY มูลค่า 1,500 บาทขึ้นไป5. โค้ดส่วนลดไม่สามารถใช้ได้กับสินค้าลดราคา ได้แก่ Archive Collection, Sale Collection, Collaboration Collection (เช่น Louvre, Disney Princess, Basquiat) และสินค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว (ยกเว้นเคสสำหรับ iPhone 16)6. สามารถใช้ได้หนึ่งโค้ดต่อหนึ่งรายการสั่งซื้อเท่านั้น7. สามารถใช้โค้ดส่วนลดได้ที่ร้าน CASETiFY Studio สาขา Central World, EmSphere, Siam Paragon และช่องทางออนไลน์ https://www.casetify.com ระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่ 20 ก.ย. 67 - 31 ต.ค. 678. จำกัด 1 บัตรประชาชน / 1 สิทธิ์ / 1 โปรโมชั่น ตลอดระยะเวลาแคมเปญ9. ลูกค้านาโค้ดส่วนลดที่ได้รับ จากการกดรีบสิทธิ์แสดงต่อเจ้าหน้าที่ร้าน CASETiFY Studio ก่อนการชำระเงิน เพื่อรับสิทธิ์ส่วนลด10. กดรับสิทธิได้ผ่านแอปทรูไอดี และโค้ดส่วนลดสามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 67 เท่านั้น ("โค้ดมีจำนวนจำกัด)11. สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบลวงหน้า และไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขาย หรือ ส่วนลดอื่น ๆ ได้12. สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดได้13. สิทธิ์ทิเศษนี้อยู่ภายได้เงื่อนไขที่บริษัทกำหนด เคสไอโฟน iPhone 16 1. Ripple Case ราคา 2,199 บาท 2. You Got This เคสกระจกรองรับ MagsafeBy Esther Bunny ราคา 2,599 บาท 3. Sonny Angel Harvest Heart Strawberry เคสกันกระแทกรองรับ Magsafe ราคา 2,599 บาท 4. Lucky Cat เคสกันกระแทกBy Messy Desk ราคา 2,399 บาท 5. Life Goes On เคสกันกระแทกรองรับ MagsafeBy Realest Intentions ราคา 2,599 บาท 6. Pearly Heart เคสกระจกรองรับ Magsafe ราคา 2,599 บาท 7. PP-0008 เคส Ultra Bounce รองรับ MagSafeBy Pangram Pangram ราคา 3,599 บาท
ไลฟ์สไตล์ • 25 ก.ย. 67
ดูเพิ่มเติม