TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “iPhone” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
ดู
อย่าหาทำ ! Apple เตือนอย่าเอา iPhone เปียกแช่ข้าวสารเสี่ยงเครื่องพัง | TNN Tech Reports
TNN ช่อง16 • 23 ก.พ. 67
ดู
iPhone 15 อาจเปลี่ยนใช้พอร์ต USB-C l การตลาดเงินล้าน l 11-10-65
TNN ช่อง16 • 11 ต.ค. 65
ดู
ลือ ! Apple อาจซุ่มทำ iPhone และ iPad จอพับได้หลังปล่อย Vision Pro | TNN Tech Reports
TNN ช่อง16 • 13 ก.พ. 67
ดู
ทรู 5G จัดเต็ม IPhone 14 Plus ในงาน Thailand Mobile Expo 2022 | TNN ข่าวดึก | 7 ต.ค. 65
TNN ช่อง16 • 7 ต.ค. 65
ดู
"แอปเปิ้ล" อ่วม! ยอดขายจีนวูบ รายได้ขาย iPhone ต่ำคาด I TNN ชั่วโมงทำเงิน I 02-02-67#shorts
TNN ช่อง16 • 2 ก.พ. 67
ดู
📌 ตลาดหุ้นพักฐานไกล้จบหรือยัง ? ปรับกลยุทธ์ก่อนหยุดยาว I TNN WEALTH Live บ่าย 11 ตุลาคม 2565
TNN ช่อง16 • 11 ต.ค. 65
ดู
“ไอคอนสยาม”ร่วม“โดรนวิทยา”เปิดหลักสูตรอบรมบินโดรนขั้นพื้นฐาน-ปลุกตลาดว้าว"เดนทิสเต้"ชูยาสีฟันผสมเพชร
TNN ช่อง16 • 8 ต.ค. 65
ดู
Apple เผยผู้ใช้งาน iOS 17 รวมร้อยละ 66 Galaxy AI ทำสาวกเปลี่ยนใจไหม ? | TNN Tech Reports
TNN ช่อง16 • 28 ก.พ. 67
ดู
Live | การตลาดเงินล้าน | TNN | 24 ม.ค. 67
TNN ช่อง16 • 24 ม.ค. 67
ดู
ตลาดรถอีวีคึก"BYD"พร้อมส่งมอบATTO3 ปีนี้5 พันคัน-อีคอมเมิร์ซไทยโตต่อลาซาด้าคำสั่งซื้อเพิ่มร้อยละ40
TNN ช่อง16 • 11 ต.ค. 65
ดู
ยุโรปผ่านกฎหมาย บังคับใช้พอร์ต USB-C l การตลาดเงินล้าน l 08-10-65
TNN ช่อง16 • 8 ต.ค. 65
ดู
"Apple" ลดพึ่งพาจีน ย้ายการผลิต AirPods ไปอินเดีย l การตลาดเงินล้าน l 06-10-65
TNN ช่อง16 • 6 ต.ค. 65
ดู
ตลาดรถหรูไม่สะเทือน ยอดรถ BMW ป้ายแดง 8 เดือนพุ่ง-หมดปัญหารถติด! Lilium ทดสอบแท็กซี่บินพลังงานไฟฟ้า
TNN ช่อง16 • 6 ต.ค. 65
อ่าน
7 ทริค ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน iPhone ไอโฟน เพื่อปกป้องข้อมูล
สวัสดีครับทุกคน! บทความนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน iPhone แบบละเอียด เพื่อให้ข้อมูลของเราปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการถูกละเมิดหรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตครับผม หลายคนอาจไม่ทราบว่า iPhone มีฟีเจอร์หลายอย่างที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ถ้าเรารู้วิธีตั้งค่าให้ถูกต้อง จะช่วยให้เราสบายใจเวลาใช้งานแน่นอนครับ มาดูกันเลย! 1. ปิดการติดตามจากแอป (App Tracking Transparency) ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันไม่ให้แอปต่าง ๆ ติดตามกิจกรรมของเราเพื่อนำไปใช้สำหรับโฆษณาแบบเจาะจงครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy Security) 3. เลือก การติดตาม (Tracking) 4. ปิดสวิตช์ อนุญาตให้แอปติดตาม (Allow Apps to Request to Track) รีวิวในมุมมองผู้เขียน: หลังจากที่ผู้เขียนได้ลองปิดฟีเจอร์นี้ รู้สึกว่าการโฆษณาที่เจอบนแอปหรือเว็บไซต์ลดความเจาะจงลง ทำให้รู้สึกว่าไม่ถูกติดตามตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีครับผม 2. จัดการสิทธิ์การเข้าถึงของแอป (App Permissions) บางแอปอาจขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่จำเป็น เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง กล้อง หรือไมโครโฟน เราสามารถตรวจสอบและจำกัดสิทธิ์เหล่านี้ได้ครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy Security) 3. แตะหมวดหมู่ที่ต้องการ เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง (Location Services), กล้อง (Camera) หรือ ไมโครโฟน (Microphone) 4. เลือกแอปที่ต้องการ และตั้งค่าสิทธิ์ให้เหมาะสม เช่น "ไม่อนุญาต (Never)", "ถามทุกครั้ง (Ask Next Time)" หรือ "ขณะใช้แอป (While Using the App)" รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนแนะนำให้ตั้งค่าเป็น "ถามทุกครั้ง" สำหรับข้อมูลสำคัญ เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง เพราะช่วยให้เราควบคุมการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นครับ 3. ใช้ฟีเจอร์ "ซ่อนที่อยู่อีเมล" (Hide My Email) ฟีเจอร์นี้สำหรับผู้ที่สมัครใช้บริการหรือเว็บไซต์บ่อย ๆ แต่ไม่อยากเปิดเผยที่อยู่อีเมลจริงของตัวเองครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. แตะที่ชื่อ Apple ID ของคุณ (ที่ด้านบนสุด) 3. เลือก iCloud 4. แตะ ซ่อนที่อยู่อีเมล (Hide My Email) 5. สร้างที่อยู่อีเมลสุ่มเพื่อใช้แทนที่อยู่อีเมลจริงของคุณ รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนใช้ฟีเจอร์นี้บ่อยมากครับ ช่วยลดความเสี่ยงจากอีเมลสแปมและการละเมิดความเป็นส่วนตัวได้ดีเยี่ยม แถมใช้งานง่ายมากด้วยครับผม 4. ปิดการแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (Location Sharing) การแชร์ตำแหน่งที่ตั้งแบบเรียลไทม์อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย หากไม่จำเป็นควรปิดไว้ครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy Security) 3. แตะ บริการตำแหน่งที่ตั้ง (Location Services) 4. ปิด แชร์ตำแหน่งที่ตั้งของฉัน (Share My Location) รีวิวในมุมมองผู้เขียน: หลังจากที่ผู้เขียนปิดฟีเจอร์นี้ รู้สึกว่าสบายใจขึ้น เพราะไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งจะถูกแชร์โดยไม่รู้ตัวครับ 5. ปรับการตั้งค่า Safari เพื่อความปลอดภัย สำหรับคนที่ใช้งาน Safari บ่อย ๆ การตั้งค่าให้ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก Safari 3. เปิด ป้องกันการติดตามข้ามเว็บไซต์ (Prevent Cross-Site Tracking) 4. เปิด ซ่อนที่อยู่ IP (Hide IP Address) และเลือก ผู้ติดตาม (Trackers) รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนชอบฟีเจอร์นี้มากครับ เพราะช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ติดตามพฤติกรรมการท่องเว็บของเรา ลดโอกาสถูกเจาะข้อมูลส่วนตัวได้ดีเลยครับ 6. เปิดใช้งานโหมดล็อกดาวน์ (Lockdown Mode) โหมดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด เช่น นักข่าวหรือคนที่มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy Security) 3. เลื่อนลงมาที่ โหมดล็อกดาวน์ (Lockdown Mode) 4. แตะ เปิดใช้งาน (Turn On) และอ่านคำอธิบายก่อนยืนยัน รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนลองเปิดใช้งานแล้ว พบว่าฟีเจอร์นี้เพิ่มความปลอดภัยระดับสูงสุด แต่ข้อเสียคือฟังก์ชันบางอย่างในเครื่องจะถูกจำกัดครับ ดังนั้นควรเปิดใช้เฉพาะในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ 7. ใช้ Face ID หรือ Touch ID ให้เต็มประสิทธิภาพ การตั้งค่าการปลดล็อกด้วย Face ID หรือ Touch ID ช่วยให้ข้อมูลของเราปลอดภัยจากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก Face ID และรหัสผ่าน (Face ID Passcode) หรือ Touch ID และรหัสผ่าน (Touch ID Passcode) 3. ตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย (ควรเป็นตัวเลข 6 หลักหรือตัวอักษรผสมตัวเลข) 4. เปิดการใช้งาน Face ID หรือ Touch ID สำหรับการปลดล็อกแอปและการชำระเงิน รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนคิดว่านี่เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นมากครับ แถมยังเพิ่มความปลอดภัยได้ดีด้วย ทั้งหมดนี้คือทริคง่าย ๆ สำหรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน iPhone ที่ผู้เขียนอยากแนะนำครับ การตั้งค่าเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกละเมิดข้อมูล และทำให้เราใช้งาน iPhone ได้อย่างสบายใจมากขึ้นครับผม หากใครยังไม่ได้ลองตั้งค่าตามนี้ แนะนำให้ลองทำตามดูเลยนะครับ เพราะความปลอดภัยของข้อมูลเป็น ภาพหน้าปก โดย ผู้เขียน ภาพที่ 1 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 2 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 3 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 4 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 5 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 6 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 7 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 8 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 9 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 10 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 11 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 12 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 13 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 14 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 15 โดย ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Story • 2 ม.ค. 68
อ่าน
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กวิจารณ์ Apple อาจถูกคู่แข่งแซงเพราะบริษัทไม่มีนวัตกรรมใหม่
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัท Meta วิจารณ์บริษัท Apple ในการสัมภาษณ์รายการ Podcast ความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง กับโจ โรแกน (Joe Rogan) นักจัดรายการชื่อดัง โดยบางช่วงมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กล่าวว่าบริษัท Apple นั้นไม่ได้คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ที่ยิ่งใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และพึ่งพาความสำเร็จเดิมจากการประดิษฐ์ iPhone ในยุคของสตีฟ จ็อบส์ พร้อมเหน็บว่าพวกเขาแค่นั่งเฉย ๆ กับมันมา 20 ปีการสนทนารายการ Podcast เริ่มต้นจากความไม่พอใจของโจ โรแกน (Joe Rogan) ต่อบริษัท Apple โดยเขาเล่าว่าตนเองเปลี่ยนมาใช้ระบบปฏิบัติการ Android เพราะไม่ชอบการผูกขาดของ Apple รวมถึงนโยบาย App Store ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 30% จากธุรกรรมบนแอปพลิเคชัน ซึ่งมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็ได้เสริมว่า Apple ได้ตั้งกฎเกณฑ์ที่ไม่ยุติธรรมและขัดขวางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง เช่น การปิดกั้นการเข้าถึงโปรโตคอลที่อาจทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า AirPodsนอกจากนี้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กยังเผยว่าบริษัท Meta สูญเสียรายได้จากการโฆษณาหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากข้อจำกัดบนระบบปฏิบัติการ iOS และเชื่อว่าหากบริษัท Apple ยกเลิกกฎเกณฑ์เหล่านี้ บริษัท Meta อาจเพิ่มกำไรได้ถึงสองเท่ามาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก วิจารณ์ Apple ว่าไม่มีการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ๆ และพึ่งพาเพียงการทำกำไรจากผลิตภัณฑ์เดิม ซึ่งเขามองว่าจะส่งผลเสียต่อบริษัทในระยะยาว โดยกล่าวว่า ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หากคุณไม่ทำสิ่งใหม่ใน 10 ปี สุดท้ายคุณจะแพ้นอกจากนี้ บริษัท Apple ยังถูกวิจารณ์เรื่องความผูกขาด และถูกบังคับให้ปรับนโยบายในสหภาพยุโรปเพื่อตอบสนองต่อกฎหมายใหม่ รวมถึงเผชิญคดีความจากกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ แต่ยังคงรักษาระบบปิดกั้นของตนเองเอาไว้อย่างเหนียวแน่นมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยังได้พูดถึงเทคโนโลยีในอนาคต เช่น ปัญญาประดิษฐ์และการผสมผสานโลกกายภาพกับโลกดิจิทัล โดยเผยถึงการพัฒนาอินเทอร์เฟซระบบประสาทเทียมของบริษัท Meta ซึ่งรวมถึงสายรัดข้อมือและแว่นตาเสมือนจริง Orion เข้าด้วยกัน โดยเขาจินตนาการถึงอนาคตที่ผู้คนสามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในการส่งข้อความหรือโต้ตอบกับ AI ได้อย่างไร้รอยต่อในอนาคตโลกกายภาพและดิจิทัลจะหลอมรวมกันจนกลายเป็นโลกใบเดียว ซึ่งสิ่งของในโลกจริงจะซ้อนทับด้วยวัตถุเสมือนจริงและโฮโลแกรม มันจะเปิดมิติใหม่ของการใช้ชีวิตและการสื่อสารทางด้านของบริษัท Apple ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อคำวิจารณ์ของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แต่การสนทนาในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันและความตึงเครียดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ยังคงดำเนินต่อไปที่มาของข้อมูลhttps://9to5mac.com/2025/01/10/mark-zuckerberg-joe-rogan-apple-innovation/https://www.theverge.com/2025/1/10/24341039/meta-apple-mark-zuckerberg-trash-talks-joe-rogan-interview
TNN ช่อง16 • 14 ม.ค. 68
อ่าน
Swippitt เครื่องชาร์จมือถือ จุ่มแล้วเปลี่ยนแบตให้ ชาร์จเต็มไวใน 2 วินาที !
ต่อไปนี้เราอาจจะไม่ต้องรอชาร์จแบตเตอรี่มือถือนาน ๆ เพราะล่าสุดในงานแสดงเทคโนโลยีระดับโลก CES 2025 มีบริษัทจากประเทศไอร์แลนด์ ที่นำเสนอผลงาน เครื่องชาร์จมือถือ ที่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เสริมให้กับมือถือได้ เคลมว่ากระบวนการชาร์จทำได้ไว ใช้เวลาเพียงแค่ 2 วินาทีผลงานนี้มีชื่อว่า สวิปพิต ฮับ (Swippitt Hub) ที่มีลักษณะคล้ายเครื่องปิ้งขนมปัง ตัวเครื่องไม่ได้ทำหน้าที่ชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่ของมือถือโดยตรง แต่ภายในจะมีแบตเตอรี่สำรองที่บรรจุไว้ เพื่อใช้สับเปลี่ยนกับแบตเตอรี่เสริม ที่จะติดอยู่ด้านนอก ของมือถือแต่ละเครื่องโดยการใช้งาน ผู้ใช้จะต้องใส่เคสพิเศษ สวิป ลิงก์ (Swippitt Link) กับมือถือของตัวเอง ซึ่งด้านหลังของเคส จะติดตั้งแบตเตอรี่เสริมไว้ จากนั้นเมื่อนำมือถือที่ใส่เคส ไปเสียบเข้ากับตัวเครื่องชาร์จ กลไกภายในเครื่องชาร์จ ก็จะดันแบตเตอรี่เก่าออกจากเคส แล้วแทนที่ด้วยแบตเตอรี่เสริม ที่ชาร์จพลังงานจนเต็มแล้ว ส่วนแบตเตอรี่เก่า ก็จะนำไปชาร์จพลังงานต่อให้โดยอัตโนมัติสำหรับโมดูลเครื่องชาร์จพลังงานไฟฟ้า สวิปพิต ฮับ (Swippitt Hub) จะทำหน้าที่เป็นทั้งแท่นชาร์จแบตเตอรี่ และที่จัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 3,500 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) เก็บได้สูงสุด 5 ก้อนต่อรอบ และใช้กระบวนการในการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ รอบละไม่เกิน 2 วินาทีเท่านั้นบริษัทระบุว่าด้วยความจุแบตเตอรี่ 5 ก้อน เครื่องชาร์จพลังงานเพียงเครื่องเดียว จึงสามารถพร้อมใช้งานกับโทรศัพท์หลายเครื่อง เหมาะสำหรับการใช้งานภายในครัวเรือนและสำนักงาน ให้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาการรอคอยการชาร์จพลังงานได้มากขึ้นระบบการทำงานยังสามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ การจัดการระบบต่าง ๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้อุปกรณ์รองรับการใช้งานแค่ iPhone 14, 15 และ 16 เท่านั้น ส่วนราคาเครื่องจะอยู่ที่ 450 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 15,600 บาท และเคสใส่มือถือที่ต้องซื้อแยก จะอยู่ที่ 120 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,100 บาทข้อมูลจากnewatlas,engadget
TNN ช่อง16 • 14 ม.ค. 68
อ่าน
ยุโรปบังคับใช้กฎหมายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต้องรองรับ USB-C
วันที่ 28 ธันวาคมเป็นต้นไป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาขนาดเล็กและขนาดกลางทั้งหมดที่จำหน่ายในสหภาพยุโรปจะต้องรองรับพอร์ต USB-C เป้าหมายหลักเพื่อการลดจำนวนสายชาร์จที่ผู้บริโภคต้องซื้อ โดยสามารถใช้สายชาร์จประเภทเดียวกันกับอุปกรณ์หลายชนิด ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานก่อนหน้านี้ ในปี 2022 รัฐสภายุโรปและประเทศสมาชิกได้ลงมติเห็นชอบให้ยกเลิกวิธีการชาร์จแบบหลากหลายประเภท และกำหนดให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาขนาดเล็ก ขนาดกลางที่จำหน่ายในสหภาพยุโรปจะต้องรองรับพอร์ต USB-C กฎหมายฉบับนี้ครอบคลุมอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สมาร์ตโฟน, แท็บเล็ต, กล้องถ่ายรูป, หูฟัง, คอนโซลวิดีโอเกม, ลำโพงพกพา, E-Reader, คีย์บอร์ด และเมาส์นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดมาตรฐานสำหรับการชาร์จเร็ว (Fast Charging) ครอบคลุมการชาร์จที่ใช้แรงดันไฟฟ้าเกิน 5 โวลต์ (V) กระแสไฟฟ้าเกิน 3 แอมแปร์ (A) หรือกำลังไฟเกิน 15 วัตต์ (W) โดยอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็วนั้นจะต้องสามารถใช้งานร่วมกับมาตรฐาน USB PD (Power Delivery) ซึ่งปัจจุบันโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์จำนวนมากได้ปรับใช้มาตรฐานนี้แล้ว เช่น iPhone, Google Pixel, Mi 8 Pro, iPad Pro รุ่นใหม่ และ Nintendo Switchกฎหมายฉบับดังกล่างมีบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายรายแสดงความเห็นคัดค้าน ตัวอย่างเช่น บริษัท แอปเปิล (Apple) ที่แสดงท่าทีโต้แย้งข้อบังคับในกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บริษัท แอปเปิล (Apple) ก็แสดงท่าทีปฏิบัติตามคำสั่งในเวลาต่อและเปลี่ยนมาใช้ USB-C ในผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่จำหน่ายในยุโรปถือเป็นก้าวสำคัญสู่ความสะดวกสบายของผู้บริโภคและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม กฎเหล่านี้มีขึ้นเพื่อจัดการกับขยะจำนวนหลายตันที่เกิดจากเครื่องชาร์จที่ถูกทิ้งทุกปี และช่วยประหยัดเงินได้ประมาณ 250 ล้านยูโรสำหรับครัวเรือนในสหภาพยุโรปด้วยการกำจัดการซื้อเครื่องชาร์จที่ไม่จำเป็นทุกปี แอนนา คาวาซซินี (Anna Cavazzini) ประธานคณะกรรมการตลาดภายในและการคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐสภายุโรป กล่าวในแถลงการณ์ที่มาของข้อมูลeuronews, Theverge
TNN ช่อง16 • 1 ม.ค. 68
อ่าน
สรุปฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 18.2, iPadOS 18.2 และ macOS Sequoia 15.2 พร้อมฟีเจอร์ Apple Intelligence
Apple เปิดตัว iOS 18.2, iPadOS 18.2 และ macOS Sequoia 15.2 พร้อมฟีเจอร์ Apple Intelligence ใหม่ ยกระดับประสบการณ์ iPhone, iPad และ Mac ด้วย AI ส่วนบุคคลที่ใช้งานง่ายและเน้นความเป็นส่วนตัว ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ภาพด้วย Image Playground สร้าง Genmoji และพัฒนา Writing Tools ใหม่สำหรับการเขียน iPhone 16 และ iPhone 16 Pro ยังเพิ่มฟีเจอร์ Camera Control เพื่อวิเคราะห์สิ่งรอบตัวได้ทันที พร้อมทั้งผสาน ChatGPT เข้ากับ Siri และ Writing Tools ช่วยให้ใช้งานง่ายและเร็วขึ้นออกแบบภาพสนุก ๆ ที่เป็นต้นฉบับด้วย Image PlaygroundImage Playground ช่วยผู้ใช้สร้างรูปภาพที่สนุกและไม่ซ้ำใครด้วยธีม เครื่องแต่งกาย และสถานที่ พร้อมเพิ่มคำอธิบายหรือใช้รูปจากคลังภาพ รูปภาพสามารถสร้างในสไตล์ต่างๆ เช่น แอนิเมชัน 3 มิติ หรือภาพประกอบแบบเรียบง่าย พร้อมผสานใช้งานใน Messages และแอปอย่าง Freeform และ Keynote รวมถึงยังเป็นแอปแยกใหม่ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นสร้าง Genmoji ให้เหมาะกับทุกช่วงเวลาApple Intelligence, Genmoji ยกระดับการสื่อสารให้น่าสนุกและสร้างสรรค์ ผู้ใช้เพียงพิมพ์คำอธิบาย ก็จะได้รับตัวเลือก Genmoji หลากหลาย พร้อมปรับแต่งด้วยรูปจากคลังภาพ อุปกรณ์เสริม และธีมต่างๆ Genmoji สามารถใช้ในข้อความ แชร์เป็นสติกเกอร์ หรือเป็นรีแอ็คชั่นใน Tapback ได้อย่างง่ายดายจดบันทึกสู่ระดับถัดไปด้วย Image Wandแอป Notes เพิ่มเครื่องมือ Image Wand ที่ช่วยสร้างภาพในบันทึกได้ง่ายขึ้น โดยใช้ข้อความหรือภาพในบันทึกที่มีอยู่ ผู้ใช้เพียงวงกลมพื้นที่ในโน้ต Image Wand จะวิเคราะห์บริบทและสร้างภาพที่เกี่ยวข้อง พร้อมตัวเลือกแอนิเมชัน ภาพประกอบ หรือสไตล์สเก็ตช์เพื่อเสริมบันทึกให้ชัดเจนและมีชีวิตชีวามากขึ้นอัปเดตเครื่องมือช่วยการเขียน Writing ToolsWriting Tools เพิ่มความสามารถใหม่ Describe Your Change ช่วยให้ผู้ใช้ปรับการเขียนได้ตามต้องการ เช่น ทำให้ข้อความดูมีอารมณ์มากขึ้น เพิ่มคำกริยาที่น่าสนใจในประวัติย่อ หรือเปลี่ยนคำเชิญงานเลี้ยงให้เป็นบทกวี ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้ทั้งในระบบ Apple และแอปของบุคคลที่สาม ทำให้การเขียนยืดหยุ่นและสร้างสรรค์ยิ่งขึ้นเปิดใช้งานการเข้าถึง ChatGPT ใน SiriApple ผสาน ChatGPT เข้ากับ Siri และ Writing Tools บน iOS, iPadOS, และ macOS ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน ChatGPT ได้โดยไม่ต้องสลับแอป Siri สามารถแนะนำหรือใช้ ChatGPT เพื่อตอบคำถามและช่วยเขียนเนื้อหาโดยตรงผ่าน Writing Tools นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถสร้างภาพและเพิ่มในเนื้อหาของตนได้ผ่านความสามารถของ ChatGPTการผสานนี้เป็นตัวเลือกที่ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดได้ และมีการควบคุมข้อมูลที่แชร์กับ ChatGPT โดยไม่ต้องมีบัญชี ChatGPT ข้อมูลที่ใช้จะไม่ถูกจัดเก็บหรือใช้ในการฝึกโมเดล และ IP ผู้ใช้จะถูกปิดบัง หากเชื่อมต่อบัญชี ChatGPT นโยบายข้อมูลของ OpenAI จะมีผลบังคับใช้แอปพลิเคชันอีเมลได้รับการออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่รองรับงานง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดยเพิ่มฟีเจอร์ Digest View ที่รวมอีเมลจากผู้ส่งรายเดียวกันเข้าด้วยกัน ช่วยให้มองเห็นภาพรวมของเนื้อหาได้ชัดเจน และจัดระเบียบอีเมลโดยอัตโนมัติตาม 4 หมวดหมู่หลักPrimary: รวมอีเมลส่วนตัวและอีเมลสำคัญ เช่น การสื่อสารจากครอบครัว เพื่อน หรือผู้ติดต่อสำคัญTransactions: รวมอีเมลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม เช่น ใบเสร็จ การแจ้งชำระเงิน และการยืนยันการสั่งซื้อUpdates: รวมอีเมลข่าวสาร การแจ้งเตือนต่างๆ จากบริการที่ใช้งาน และกิจกรรมโซเชียลPromotions: รวมอีเมลการตลาด คูปอง ส่วนลด และข้อเสนอพิเศษการจัดหมวดหมู่นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงอีเมลที่ต้องการได้เร็วขึ้น ลดความยุ่งยากในการค้นหา และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการอีเมลในแต่ละวันที่มาของข้อมูลhttps://www.apple.com/newsroom/2024/12/apple-intelligence-now-features-image-playground-genmoji-and-more/
TNN ช่อง16 • 13 ธ.ค. 67
อ่าน
มาเก็บความลับกัน วิธีล็อกแอปบน iPhone (iOS18)
ล็อคแอปบน iPhone ด้วย Face ID: วิธีง่าย ๆ เพื่อความปลอดภัยที่คุณต้องรู้ ใครที่อยากให้ข้อมูลในแอปสำคัญ ๆ บน iPhone ของตัวเองปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่รู้วิธีการใช้งาน Face ID ในการล็อคแอป เราไปลองทำกันทีละขั้นตอน ทำให้การล็อคแอปง่ายขึ้นอีกเยอะ แต่บน iOS18 เท่านั้นนะครับ ขั้นตอนการล็อคแอปด้วย Face ID กดค้างที่ไอคอนแอป: เริ่มต้นง่าย ๆ เพียงแตะค้างที่แอปที่ต้องการล็อค หากแอปนั้นรองรับฟีเจอร์ Face ID จะมีเมนูป๊อปอัพปรากฏขึ้นพร้อมตัวเลือก "Require Face ID" เลือก Require Face ID: แตะเลือกคำสั่งนี้ ระบบจะทำการสแกนใบหน้าของเราเพื่อยืนยันตัวตน พร้อมแสดงข้อความแจ้งเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน เช่น การปกป้องข้อมูลและวิธีใช้งาน ยืนยันตัวตน: เมื่อสแกนใบหน้าเสร็จ จะมีเครื่องหมายถูกสีเขียวแสดงว่าแอปนี้ถูกล็อคด้วย Face ID เรียบร้อย การใช้งานเมื่อแอปถูกล็อค ครั้งถัดไปที่เราพยายามจะเปิดแอปดังกล่าว ระบบจะขอให้คุณสแกนใบหน้าอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน เมื่อการสแกนสำเร็จ แอปจะปลดล็อคให้ใช้งานได้ตามปกติ เย่ ขั้นตอนการยกเลิกการล็อคแอป ถ้าหากเราต้องการยกเลิกการล็อคแอปด้วย Face ID ก็ง่ายแสนง่าย: กดค้างที่แอปที่ต้องการปลดล็อค เลือก "Don't Require Face ID" จากเมนูที่ปรากฏ ระบบจะสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้ง และแสดงเครื่องหมายถูกสีเขียวเป็นการยืนยันว่าการปลดล็อคสำเร็จ เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการล็อคแอป ตรวจสอบว่าแอปรองรับ Face ID หรือไม่: ไม่ใช่ทุกแอปที่รองรับการตั้งค่า Face ID ดังนั้นควรตรวจสอบในเมนู Settings ของแอปนั้น ๆ ใช้ Face ID สำหรับแอปที่สำคัญเท่านั้น: เช่น แอปธนาคาร แอป Notes หรือแอปที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว การล็อคแอปด้วย Face ID เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับ iPhone ของเราได้อย่างมากๆ เลย ไม่ต้องจำรหัสผ่านหลายชุด และไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลสำคัญจะถูกเปิดดูโดยไม่ได้รับอนุญาต 😁 ภาพโดยนักเขียน หมีขั้วโลก ทอดกรอบ〔´(エ)`〕 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
หมีขั้วโลกทอดกรอบ • 2 ธ.ค. 67
อ่าน
เปรียบเทียบ realme GT 7 Pro และ iPhone 16 Pro Max แตกต่างกันแค่ไหน ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน ?
สวัสดีทุกท่านครับ หลังจาก realme ได้เปิดตัว realme GT 7 Pro เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วมีคนถามว่าระหว่าง realme GT 7 Pro และ iPhone 16 Pro Max อะไรดีกว่า วันนี้เราหาคำตอบกันว่าแตกต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ พูดถึงเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ realme GT 7 Pro และ iPhone 16 Pro Max แน่นอนว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เรามาเริ่มที่ realme GT 7 Pro มาในดีไซน์ Mars Design ได้แรงบันดาลใจจากดาวอังคาร สะท้อนจิตวิญญาณมนุษยชาติในการสำรวจดาวดวงนี้ โดยฝาหลังนำลักษณะพื้นผิวของดาวอังคารให้กลมกลืน สีเครื่องมีแค่สีส้ม ขนาด 162.45 x 76.89 x 8.55 มม. น้ำหนัก 222.8 กรัม และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP69 ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max มาในดีไซน์สตรองแบบไทเทเนียมมาพร้อมผิวสัมผัสใหม่ที่ผ่านกระบวนการไมโครบลาสต์อย่างพิถีพิกัน สีเครื่อง 4 สี ได้แก่ ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมธรรมชาติ และไทเทเนียมทะเลทราย ขนาด 163 x 77.6 x 8.25 มม. น้ำหนัก 227 กรัม และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 หน้าจอ หน้าจอเป็น realme GT 7 Pro เป็นจอ RealWorld Eco² ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2780×1264(450PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 6500nits มาพร้อมกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 โดยจอใหม่ของ realme GT 7 Pro เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง realme และ Samsung Display มีลักษณะเป็นจอแบนขอบโค้ง Quad-curved AMOLED สามารถอัตราการรีเฟรชหน้าจอแบบแปรผันได้ถึง 8T LTPO ได้ขอบเขตการแสดงสีได้ถึง DCI-P3 120% ใช้พลังงานน้อยอีกด้วย จอนี้ได้รับรองเรื่องถนอมสายตาจาก SGS และ TÜV อีกด้วย ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max หน้าจอเป็น Super Retina XDR OLED แบบ Dynamic Island ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2868×1320(458PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 2000nits ต่ำสุดที่ 1nits มาพร้อมกระจกเสริม Ceramic Shield รุ่นใหม่ ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ realme GT 7 Pro มาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Elite ความเร็ว CPU 4.32GHz ส่วน RAM 12GB สามารถ Dynamic RAM ได้อีก 16GB ส่วน ROM 512GB และระบบปฏิบัติการ realme UI 6 รุ่นพัฒนาจาก Android 15 ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกับชิปเซต Apple A18 Pro Bionic ความเร็ว CPU 4.04GHz ส่วน RAM 8GB ส่วน ROM มีให้เลือก 256GB/512GB/1TB และระบบปฏิบัติการ iOS 18.1 กล้อง realme GT 7 Pro มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 8MP + กล้อง Periscope Portrait 50MP ซูม 3 เท่า Optical Zoom มาพร้อมกันสั่น OIS สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 8K 24fps และกล้องหน้า 16MP สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดแค่ 1080p 60fps เช่นกัน ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก Fusion 48MP มาพร้อมกันสั่น Sensor-Shift + กล้อง Ultrawide 48MP รองรับการถ่ายมาโคร มาพร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 12MP ซูม 5 เท่า Optical Zoom มาพร้อมกันสั่น OIS สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 120fps และกล้องหน้า 12MP สามารถบันทึกวิดีโอธรรมดาได้สูงสุดแค่ 4K 60fps การเชื่อมต่อ realme GT 7 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C , Infrared และ Wi-Fi 2.4, 5 , 6 ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 , USB-C 3.2 , Ultra Wideband 2 , Face ID และ Wi-Fi 2.4, 5 , 6 , 7 แบตเตอรี่ realme GT 7 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 6500mAh ชาร์จไว Ultra Charge 120W ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max มีความจุแบตเตอรี่ 4685mAh รับรองชาร์จไว 30W ชาร์จแบบไร้สายในแบบ MagSafe สูงสุด 25W, ชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi2 สูงสุด 15W และชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi สูงสุด 7.5W ราคา realme GT 7 Pro รุ่น 12GB/512GB ราคา 29,999 บาท iPhone 16 Pro Max รุ่น 8GB/256GB ราคา 48,900 บาท รุ่น 8GB/512GB ราคา 56,900 บาท รุ่น 8GB/1TB ราคา 64,900 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี realme GT 7 Pro และ iPhone 16 Pro Max เป็นมือถือที่เยี่ยมยอด ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ ตรงนี้ขอให้พิจารณาข้อดีในการเลือก realme GT 7 Pro อย่างแรกเรื่องชิปเซตแน่นอนว่าชิปตัวนี้ออกแบบมาเพื่อคุณสมบัติด้าน AI ความเร็ว CPU ดีกว่า อย่างที่สอง RAM เยอะกว่า แถม Dynamic RAM ได้อีกด้วย แต่แอบเสียดายไม่นำตัว RAM 16GB มาวางขายในไทย อย่างที่สามเรื่องบันทึกวิดีโอได้ถึง 8K 24fps และสุดท้ายเรื่องแบตเยอะและชาร์จไวกว่า ต่อมาที่ iPhone 16 Pro Max อย่างแรกหน้าจอใหญ่กว่า อย่างที่สอง ROM มีให้เลือกได้ อย่างที่สามกล้อง Telephoto สามารถ Optical Zoom ได้ดีกว่า อย่างที่สี่กล้องหน้าบันทึกวิดีโอได้ถึง 4K เหมาะสำหรับคนถ่าย Vlog และสุดท้ายรับรองการชาร์จไร้สาย ตรงนี้มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ ส่วนใครเป็นเจ้าของ realme GT 7 Pro สามารถสั่งซื้อพร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ realme ได้แล้ววันนี้ https://youtu.be/l9uqNWi2rp0?si=a1KOs7-jdPPrDa1E ส่วนใครเป็นเจ้าของ iPhone 16 Series สามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ Shop Apple ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review บทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพ realme GT 7 Pro จาก Facebook : realme และ ภาพ iPhone 16 Pro Max แคปมาจาก YouTube : Apple ภาพประกอบ realme GT 7 Pro จาก Facebook : realme : 1 , 4 ภาพประกอบ iPhone 16 Pro Max ที่ 2 , 3 แคปมาจาก YouTube : Apple วิดีโอจาก YouTube : realme Thailand เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
WV • 23 พ.ย. 67
อ่าน
iPhone Mirroring เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณใช้ iPhone ของคุณบนหน้าจอ Mac ได้
ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก หนึ่งในเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกสบายในการใช้งานคือ iPhone Mirroring หรือการสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ โดยเฉพาะการสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac ที่สามารถช่วยให้การทำงานและความบันเทิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น การสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac นั้นช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงผลเนื้อหาบน iPhone เช่น วิดีโอ รูปภาพ หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ บนจอของ Mac ได้อย่างง่ายดาย ทำให้ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องการทำงาน แต่ยังเพิ่มประสบการณ์ในการดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่การเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้เราจะเจาะลึกถึงวิธีการใช้งาน iPhone Mirroring ไปยัง Mac ว่ามีวิธีการอย่างไร ข้อดีของการใช้งาน และเครื่องมือหรือแอปพลิเคชันที่จำเป็นสำหรับการสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac อย่างมีประสิทธิภาพ iPhone Mirroring คืออะไร? iPhone Mirroring หรือการสะท้อนหน้าจอ iPhone คือการส่งภาพและเสียงจาก iPhone ไปยังหน้าจอของอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวี คอมพิวเตอร์ หรือ Mac โดยไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ วิธีการทำงานของเทคโนโลยีนี้คือการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายไร้สาย เช่น Wi-Fi ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและดูเนื้อหาบนหน้าจอขนาดใหญ่ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีการตั้งค่าอย่างซับซ้อน การใช้งาน iPhone Mirroring บน Mac สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันหรือฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่รองรับการทำงานนี้ และในบางกรณีผู้ใช้อาจใช้สายเชื่อมต่อหากต้องการความเสถียรในการแสดงผลมากขึ้น วิธีการใช้งาน iPhone Mirroring ไปยัง Mac การสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac สามารถทำได้หลายวิธี โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้แอพพลิเคชั่น iPhone Mirroring ซึ่งเป็นฟีเจอร์ในตัวของ iOS และ macOS 15 ที่ทำให้การเชื่อมต่อไร้สายระหว่าง iPhone และ Mac เป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันเสริมอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานอีกด้วย การใช้ iPhone Mirroring เพื่อสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac iPhone Mirroring เป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน MacOS 15 โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งการควบคุมสัญญาณภาพและเสียงจาก iPhone ไปยังอุปกรณ์ Macbook ได้อย่างง่ายดาย สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้: เปิด Wi-Fi บนอุปกรณ์ทั้งสอง: เชื่อมต่อ iPhone และ Mac เข้ากับ Apple id เดียวกัน เข้าสู่แอพพลิเคชั่น iPhone Mirroring ใน task bar ของ MacOS 15: รอให้ทำการเชื่อมต่อ ใส่รหัสผ่านของ iPhone บนหน้าจอ Mac ปิดหน้าจอ iPhone: ระบบนี้หากหน้าจอ iPhone ยังเปิดใช้งานอยู่การเชื่อมต่อจะไม่สำเร็จ รอให้การเชื่อมต่อเสร็จสิ้น: เมื่อเชื่อมต่อเสร็จสิ้น หน้าจอของ iPhone จะปรากฏบน Mac ทันที ข้อดีของการสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac ทำงานได้สะดวกขึ้น: ไม่ต้องสลับอุปกรณ์บ่อยๆ เพียงแค่เปิดหน้าจอบน MacBook เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: ใช้แอปหรือเครื่องมือที่มีอยู่ในไอโฟนผ่าน MacBook ได้ทันที เช่น แอปเฉพาะที่อาจไม่มีบน macOS แชร์หน้าจอเพื่อการสอนหรือการประชุม: เป็นวิธีที่ง่ายสำหรับการแสดงสิ่งที่อยู่ในไอโฟนให้ผู้อื่นเห็น เช่น การสาธิตแอป การแชร์ภาพ หรือการสื่อสารผ่านวิดีโอคอล ข้อจำกัดของการใช้งาน iPhone Mirroring บน Mac แม้ว่าการสะท้อนหน้าจอ iPhone ไปยัง Mac จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาเช่นกัน: การพึ่งพาเครือข่าย Wi-Fi: การเชื่อมต่อผ่าน AirPlay จำเป็นต้องมีเครือข่าย Wi-Fi ที่เสถียร หากเครือข่ายไม่ดีอาจทำให้เกิดการหน่วงหรือภาพและเสียงไม่ซิงค์กันได้ ต้องใช้ MacOS 15: Macbook บางรุ่นอาจไม่ได้รองรับการอัพเดทซอฟแวร์ใหม่ๆ และฟังชันก์นี้จำกัดการใช้งานบน MacOS 15 เท่านั้น iPhone และ Mac ต้องเชื่อม Apple id เดียวกัน: จำเป็นต้องเป็นมือถือของตัวเองเท่านั้น -ภาพทั้งหมดในบทความและภาพปกเป็นภาพที่ผู้เขียนบทความใช้งานจริงและถ่ายเองทั้งหมด เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ttrophyy • 3 พ.ย. 67
อ่าน
อินโดนีเซียสั่งแบนสมาร์ตโฟน Google Pixel หลังจากแบน iPhone 16 เมื่อต้นสัปดาห์
วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียสั่งห้ามจำหน่ายสมาร์ตโฟน Google Pixel ของบริษัท Google เนื่องจากบริษัทไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมายภายในประเทศอินโดนีเซีย การแบนครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากสั่งห้ามจำหน่าย iPhone 16 ของบริษัท Apple ทั้งนี้ อินโดนีเซียถือเป็นตลาดสมาร์ตโฟนขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ข้อกำหนดด้านกฎหมาย และนโยบายที่เกี่ยวข้องมีขึ้นเพื่อความยุติธรรมสำหรับนักลงทุนทุกคนที่ลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายโครงสร้างอุตสาหกรรมที่นี่ เฟบรี เฮนดรี อันโตนี อารีฟ (Febri Hendri Antoni Arief) โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซีย เปิดเผยกับสื่อในอินโดนีเซียว่า Google ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอินโดนีเซียก่อนจึงจะกลับมาขายได้อีกครั้ง การแบนสมาร์ตโฟน Google Pixel ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่อินโดนีเซียสั่งห้าม จำหน่ายสมาร์ตโฟน iPhone 16 เมื่อต้นสัปดาห์ หลังจากบริษัท Apple ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญาการลงทุนมูลค่า 109 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,697 ล้านบาท ในอินโดนีเซีย ซึ่งกำหนดให้บริษัท Apple ลงทุนผลิตอุปกรณ์ พัฒนาเฟิร์มแวร์ หรือลงทุนในนวัตกรรม ในประเทศอินโดนีเซียกฎหมายของอินโดนีเซียกำหนดให้บริษัทเทคโนโลยีต่างประเทศต้องจัดหาชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตในประเทศร้อยละ 40 โดยข้อกำหนดนี้สามารถปฏิบัติตามได้ผ่านการผลิตในประเทศ การพัฒนาเฟิร์มแวร์ หรือการลงทุนโดยตรงในโครงการนวัตกรรมใหม่ ๆปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น บริษัท Samsung และบริษัท Xiaomi ที่ได้จัดตั้งโรงงานผลิตขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ Apple เลือกที่จะเปิดสถาบันสำหรับนักพัฒนา กฎระเบียบดังกล่าวซึ่งถูกบังคับใช้ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายอุตสาหกรรมของอินโดนีเซีย เพื่อยกระดับตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ภายในประเทศ และพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว บริษัทที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเกณฑ์เหล่านี้จะต้องเผชิญข้อจำกัดด้านการขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในประเทศอินโดนีเซียที่มาของข้อมูล Techcrunchที่มาของภาพ Pixabay, Google
TNN ช่อง16 • 2 พ.ย. 67
อ่าน
Apple Intelligence มาแล้ว! อัปเดต iOS 18.1 บน iPhoneiPad และ Mac พร้อมกันทั่วโลก
โดยเป็นการอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชัน iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1 พร้อมความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดและทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น แม้จะยังมีอีกหลายความสามารถเด็ดที่รอเปิดตัวในเดือนธันวาคมตัวอย่างฟีเจอร์เด็ด ๆ ของ Apple Intelligence เช่นWriting Tools หรือเครื่องมือการเขียนผสานรวมเข้ากับทุกส่วนใน iOS, iPadOS และ macOS เพื่อให้ผู้ใช้สามารถขัดเกลาภาษาให้สวยงามโดยการปรับการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความการพูดคุยกับ Siri ที่เป็นธรรมชาติและลื่นไหลขึ้น มีความเป็นธรรมชาติ ยืดหยุ่น และผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับประสบการณ์ทั้งระบบมากขึ้น และมาในดีไซน์ใหม่ที่จะส่องแสงเรืองๆ อย่างสวยงามบริเวณโดยรอบของขอบหน้าจอ iPhone, iPad หรือ CarPlayแอปรูปภาพที่ฉลาดมากขึ้นด้วยความสามารถใหม่ ๆ ผู้ใช้สามารถค้นหาได้แทบทุกอย่างด้วยภาษาธรรมชาติ เพียงแค่พิมพ์คำอธิบายของสิ่งที่ต้องการค้นหา เช่น Maya skateboarding in a tie-dye shirtการจัดลำดับความสำคัญในอีเมล ด้วยคุณสมบัติการคัดข้อความที่สำคัญ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ด้านบนของอินบอกซ์ที่จะแสดงอีเมลที่ด่วนที่สุด ตัวอย่างเช่น อีเมลเชิญไปทานข้าวเที่ยงในวันเดียวกัน หรืออีเมลแสดงข้อมูล Boarding Pass และผู้ใช้ยังสามารถดูสรุปทั่วทั้งอินบอกซ์ได้โดยไม่ต้องเปิดอ่านอีเมลนอกจากนี้ยังมีอีกหลายคุณสมบัติที่จะค่อย ๆ เปิดตัวในเดือนธันวาคม เช่น ความสามารถในการสร้าง Genmoji ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร เพียงแค่พิมพ์คำอธิบาย และสามารถปรับแต่งโดยใช้รูปภาพของเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวในคลังได้ หรืออย่าง Image Wand ที่จะทำให้การจดโน้ตดูน่าสนใจยิ่งขึ้นโดยการเปลี่ยนภาพสเก็ตช์คร่าว ๆ เป็นภาพที่สวยงามที่มาของข้อมูลApple
TNN ช่อง16 • 29 ต.ค. 67
อ่าน
iFixit แกะไส้ iPhone 16 พบแบตแกะง่าย ซ่อมสบ๊าย !!
iFixit เว็บไซต์ที่มุ่งเน้นการซ่อมแซมและปรับแต่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้ซื้อ iPhone 16 มาแกะเพื่อตรวจสอบภายในแล้ว พบถอดแบตเตอรี่ได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ซ่อมแซมตัวเครื่องได้ง่ายกว่าเดิมโดยใน iPhone 16 ได้ทำการเปลี่ยนตัวยึดแบตเตอรี่ใหม่ ไปเป็นแถบกาวที่ลอกได้ด้วยการใช้ไฟฟ้า 9 โวลต์ เมื่อต่อขั้วไฟฟ้าบริเวณแถบยึดแบตเตอรี่ เป็นเวลา 90 วินาที แบตเตอรี่จะหลุดออกมา ซึ่งวิธีดังกล่าวสะดวกมากกว่าการยึดด้วยแถบกาว 4 แผ่น ที่ใช้ก่อนหน้านี้มาก เพราะก่อนหน้านี้ การนำแบตเตอรี่ออกมามีโอกาสที่จะเสียหายได้ง่าย หรือเสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟได้ตัวยึดแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนใหม่นี้ จะมีใน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus เท่านั้น โดยคาดว่าทาง Apple อาจเปลี่ยนมาใช้รูปแบบเดียวกันนี้ทั้งหมดใน iPhone รุ่นต่อไปที่มาข้อมูล :ifixit.com
TNN ช่อง16 • 1 ต.ค. 67
อ่าน
รวมเคส iPhone 16 ทุกรุ่น เคสไอโฟนสวยๆ กันกระแทกได้ พร้อมพิกัด!
ไหนใครได้ iPhone 16 มาแล้วบ้าง? ได้มาแล้วก็ต้องหาเคสสวยๆ มาใส่นะ! และแน่นอนว่าวันนี้เราได้คัดเคสไอโฟนสวยๆ มาไว้ให้แล้ว ซึ่งเป็นเคสจากแบรนด์ดังอย่าง CASETiFY นั่นเอง บอกเลยว่ามีทั้งลายฮิต ลายการ์ตูน ลายหวานๆ สไตล์ลูกคุณ หรือลายเท่ๆ คูลๆ เลือกได้ตามชอบเลยแต่ถ้าใครยังเลือกไม่ได้ก็ไปแวะหน้าร้านหรือกดเข้าเว็บไซต์ได้ บอกเลยว่ามีเคสให้เลือกเพียบ! แล้วยิ่งถ้าใครเป็นลูกค้าทรู ก็มีส่วนลดให้ด้วยนะ คุ้มสุดๆ โปรโมชั่น ใช้ 0 ทรูพอยท์ ลูกค้าทรูบลู ทรูกรีน ทรูไวท์ รับส่วนลด 10% และทรูเรด ทรูแบล็ค รับส่วนลด 15% สำหรับซื้อสินค้า CASETiFY เมื่อซื้อ iPhone 16 Series เครื่องเปล่า และเครื่องพร้อมแพ็กเกจ ที่ทรูช็อป ทรูแบรนด์ดิ้งช็อป ทรูสเฟียร์ ทุกสาขา เงื่อนไข 1. รับโค้ดส่วนลด เมือซื้อ iPhone 16 Series เครื่องเปล่า และเครื่องพร้อมแพ็กเกจ ที่ทรูช็อป ทรูแบรนด์ดิ้งช็อป ทรูสเฟียร์ ทุกสาขา2. รับโค้ดส่วนลด 10% สำหรับลูกค้าทรูบลู ทรูกรีน ทรูไวท์ และ 15% สำหรับลูกค้าทรูเรด ทรูแบล็ค เมื่อซื้อ iPhone 16 Series (*โค้ดมีจำนวนจำกัด)3. โค้ดส่วนลดสามารถใช้ได้กับสินค้า CASETiFY ราคาปกติเท่านั้น4. โค้ดส่วนลดสามารถใช้ได้กับการสั่งซื้อสินค้า CASETiFYY มูลค่า 1,500 บาทขึ้นไป5. โค้ดส่วนลดไม่สามารถใช้ได้กับสินค้าลดราคา ได้แก่ Archive Collection, Sale Collection, Collaboration Collection (เช่น Louvre, Disney Princess, Basquiat) และสินค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว (ยกเว้นเคสสำหรับ iPhone 16)6. สามารถใช้ได้หนึ่งโค้ดต่อหนึ่งรายการสั่งซื้อเท่านั้น7. สามารถใช้โค้ดส่วนลดได้ที่ร้าน CASETiFY Studio สาขา Central World, EmSphere, Siam Paragon และช่องทางออนไลน์ https://www.casetify.com ระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่ 20 ก.ย. 67 - 31 ต.ค. 678. จำกัด 1 บัตรประชาชน / 1 สิทธิ์ / 1 โปรโมชั่น ตลอดระยะเวลาแคมเปญ9. ลูกค้านาโค้ดส่วนลดที่ได้รับ จากการกดรีบสิทธิ์แสดงต่อเจ้าหน้าที่ร้าน CASETiFY Studio ก่อนการชำระเงิน เพื่อรับสิทธิ์ส่วนลด10. กดรับสิทธิได้ผ่านแอปทรูไอดี และโค้ดส่วนลดสามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 67 เท่านั้น ("โค้ดมีจำนวนจำกัด)11. สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบลวงหน้า และไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขาย หรือ ส่วนลดอื่น ๆ ได้12. สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดได้13. สิทธิ์ทิเศษนี้อยู่ภายได้เงื่อนไขที่บริษัทกำหนด เคสไอโฟน iPhone 16 1. Ripple Case ราคา 2,199 บาท 2. You Got This เคสกระจกรองรับ MagsafeBy Esther Bunny ราคา 2,599 บาท 3. Sonny Angel Harvest Heart Strawberry เคสกันกระแทกรองรับ Magsafe ราคา 2,599 บาท 4. Lucky Cat เคสกันกระแทกBy Messy Desk ราคา 2,399 บาท 5. Life Goes On เคสกันกระแทกรองรับ MagsafeBy Realest Intentions ราคา 2,599 บาท 6. Pearly Heart เคสกระจกรองรับ Magsafe ราคา 2,599 บาท 7. PP-0008 เคส Ultra Bounce รองรับ MagSafeBy Pangram Pangram ราคา 3,599 บาท
ไลฟ์สไตล์ • 25 ก.ย. 67
อ่าน
ADVICE เผยยอดจอง iPhone 16 พุ่งทะลุเป้า-เร่งขยายสาขา iStore
#ADVICE #ทันหุ้น-ADVICE เผยยอดจอง iPhone 16 พุ่งทะลุเป้า หลังเปิดให้จองล่วงหน้าเพียงไม่กี่วัน ดีมานด์เข้ามาแรงกว่าคาด ด้าน Advice iStore สองสาขาแรกจังหวัดพิจิตร และระยอง กระแสตอบรับเยี่ยม พร้อมวางเป้าหมายขยายสาขา iStore ให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2569 โดยยอดขาย iPhone 16 ช่วยหนุนปี 67 รับทรัพย์ยอดขายกลุ่ม iPhone และสินค้า Apple เข้ากระเป๋า นายณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ ADVICE ค้าปลีกไอทีชื่อดัง เปิดเผยว่า สำหรับปรากฏการณ์ยอดจอง iPhone 16 พุ่งทะลุเป้า หลังเปิดให้จองล่วงหน้าเพียงไม่กี่วัน ได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาดจากลูกค้าทั่วประเทศเกินความคาดหมาย และวางจำหน่ายวันแรก 20 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา สาวก Apple ที่รอคอยให้การตอบรับ iPhone 16 รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ล้ำสมัย และเทรนด์เทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมทัพ โดยเฉพาะการเปิดตัวไอโฟนที่มาพร้อมกับ Apple Intelligence กระแสตอบรับในครั้งนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตลาดและความนิยมของสินค้าในกลุ่ม Apple ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่การให้บริการลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยลูกค้าสามารถรับสินค้าผ่านหน้าร้าน Advice ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ และใช้บริการผ่าน Advice iStore ที่สาขาพิจิตร และระยอง พร้อมแคมเปญพิเศษ สามารถเป็นเจ้าของ iPhone16 ในราคาเพียง 623 บาทต่อเดือน หรือ ผ่อน 0% นานสูงสุด 48 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 26,000 บาท และบริการหลังการขายที่เน้นความพึงพอใจของลูกค้า โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งมอบ iPhone 16 ให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและเต็มประสิทธิภาพ นายณัฏฐ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในปัจจุบัน Advice เป็นศูนย์รวมสินค้าไอทีและสมาร์ทโฟน รวมทั้ง Apple Authorized Reseller ล่าสุดเปิดร้าน Advice iStore สาขาแรกที่จังหวัดพิจิตร เมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากชาวพิจิตรให้ความสนใจอย่างมาก ตามมาด้วย สาขาระยอง พร้อมแผนขยายสาขา Advice iStore ทั่วทุกภูมิภาคประเทศภายในปี 2569 ชูการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไอทีแบบครบวงจร ไม่เพียงแค่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Apple เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ จากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ด้วย พร้อมประเมินความต้องการในตลาดไอโฟนและสมาร์ทโฟนของประเทศไทย ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสินค้าที่เน้นความทันสมัยและนวัตกรรม ทำให้ ADVICE มีความพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า มั่นใจว่า อีกหนึ่งกลยุทธ์หลักสำคัญที่ทำให้ Advice กลายเป็นจุดหมายปลายทางหลักสำหรับผู้ที่ต้องการ iPhone 16 คือบริการหลังการขายที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ทั้งในเรื่องของการรับประกันสินค้าที่ครอบคลุม การซ่อมที่รวดเร็ว และทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอดการใช้งาน โดย Advice คาดการณ์ว่ายอดขายกลุ่มไอโฟนจะเข้ามาสนับสนุนการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายของปี อีกทั้ง การจัดแคมเปญและโปรโมชันต่างๆ จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อปลายปีที่ใกล้จะมาถึง เป็นไฮซีซั่นในการเติบโตของบริษัท
ทันหุ้น • 23 ก.ย. 67
อ่าน
เปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max และ Sony Xperia 1 VI แตกต่างกันแค่ไหน ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน ?
สวัสดีทุกท่านครับ คงมีหลายท่านคงคิดว่าผมเอาค่ายมือถือยุคใหม่มาเปรียบเทียบกับ iPhone 16 Pro Max แต่ขอโทษทีต้องเป็นชาวอารยธรรมอย่าง Sony ต่างหาก นั้นคือ Sony Xperia 1 VI ว่าแตกต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ พูดถึงเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ iPhone 16 Pro Max และ Sony Xperia 1 VI แน่นอนว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เรามาเริ่มที่ iPhone 16 Pro Max มาในดีไซน์สวย สตรองแบบไทเทเนียมมาพร้อมผิวสัมผัสใหม่ที่ผ่านกระบวนการไมโครบลาสต์อย่างพิถีพิกัน สีเครื่องโดดเด่นมี 4 สี ได้แก่ ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมธรรมชาติ และไทเทเนียมทะเลทราย ขนาด 163 x 77.6 x 8.25 มม. น้ำหนัก 227 กรัม และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ในขณะที่ Sony Xperia 1 VI จะดีไซน์ Functional Tactile Design ให้สัมผัสฝาหลังเป็นแบบกระจก เพื่อให้เกิดความสมุดลระหว่างสวยงามและจับถือ ทำให้รู้สึกโดดเด่นเหนือกว่า ขนาด 162 × 74 × 8.2 มม. น้ำหนัก 192 กรัม และสีเครื่องให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเขียวกากีและสีดำ สามารถกันน้ำกันฝุ่น IP65/IP68 หน้าจอ หน้าจอเป็น iPhone 16 Pro Max เป็น Super Retina XDR OLED แบบ Dynamic Island ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2868×1320(460PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 2000nits ต่ำสุดที่ 1nits มาพร้อมกระจกเสริม Ceramic Shield รุ่นใหม่ ในขณะที่ Sony Xperia 1 VI หน้าจอเป็น OLED ขนาด 6.5 นิ้ว มาพร้อมความละเอียด 2340×1080(396PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1300nits มาพร้อมกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกับชิปเซต Apple A18 Pro Bionic ส่วน RAM 8GB ส่วน ROM มีให้เลือก 256GB/512GB/1TB และระบบปฏิบัติการ iOS 18 ในขณะที่ Sony Xperia 1 VI มาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen3 ส่วน RAM 12GB ส่วน ROM 256GB สามารถใส่ MicroSDXC 1.5TB แถมถาดใส่ซิมแบบกดไม่ต้องใช้เข็มจิ้มซิม และระบบปฏิบัติการ Android 14 กล้อง iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก Fusion 48MP มาพร้อมกันสั่น Sensor-Shift + กล้อง Ultrawide 48MP รองรับการถ่ายมาโคร มาพร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 12MP ซูม 5 เท่า Optical Zoom มาพร้อมกันสั่น OIS สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 120fps และกล้องหน้า 12MP สามารถบันทึกวิดีโอธรรมดาได้สูงสุดแค่ 4K 60fps และมีปุ่ม Camera Control ใช้งานในฟีเจอร์กล้องสำหรับเป็นตัวปรับตั้งค่าต่างๆได้อีกด้วย ในขณะที่ Sony Xperia 1 VI มาพร้อมกล้อง ZEISS กับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 48MP มาพร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 12MP + กล้อง Telephoto 12MP ระยะโฟกัส 85-170 มม. สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 120fps และกล้องหน้า 12MP สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 60fps และมีปุ่ม Shutter Button ที่สามารถเข้ากล้องได้อย่างรวดเร็วและกดถ่ายภาพได้ตามต้องการ แถมคล้ายกับกล้อง Sony Alpha การเชื่อมต่อ iPhone 16 Pro Max รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 , USB-C 3.2 , Ultra Wideband 2 , Face ID และ Wi-Fi 2.4, 5 , 6 , 7 ในขณะที่ Sony Xperia 1 VI รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C 3.2 , ช่องเสียบหูฟัง 3.5 , OTG และ Wi-Fi 2.4, 5 , 6 แบตเตอรี่ iPhone 16 Pro Max มีความจุแบตเตอรี่ 4676mAh รับรองชาร์จไว 45W ชาร์จแบบไร้สายในแบบ MagSafe สูงสุด 25W, ชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi2 สูงสุด 15W และชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi สูงสุด 7.5W ในขณะที่ Sony Xperia 1 VI มีความจุแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จไว 30W และรับรองชาร์จไร้สาย ราคา iPhone 16 Pro Max รุ่น 8GB/256GB ราคา 48,900 บาท รุ่น 8GB/512GB ราคา 56,900 บาท รุ่น 8GB/1TB ราคา 64,900 บาท Sony Xperia 1 VI รุ่น 12GB/256GB ราคา 49,990 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี iPhone 16 Pro Max และ Sony Xperia 1 VI เป็นมือถือที่เยี่ยมยอด ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ เอาจริงๆนะ โดยส่วนตัวผมแนะนำ Sony Xperia 1 VI อย่างแรกเรื่องการใช้งานที่ง่ายกว่า เอาตั้งแต่ถาดใส่ซิมที่ไม่ต้องใช้เข็มจิ้มซิม อย่างฟีเจอร์กล้องที่ใช้ได้หลายหลากและใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างที่สามมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ตอบโจทย์คนไม่ใช้หูฟัง Bluetooth และสุดท้ายแบตเยอะ (เพิ่มเติมนิดนึง ซื้อมือถือแถมหูฟังไร้สาย WF-1000XM5) แต่ iPhone 16 Pro Max ก็มีข้อดีเช่นกัน อย่างแรกหน้าจอดีกว่า อย่างที่สอง ROM มีให้เลือกถึง 1TB และสุดท้ายกล้องทุกตัวมีกันสั่น แต่ถ้าคุณจะซื้อ iPhone เพื่อใช้ AI แนะนำให้รอดีกว่า เพราะ AI Apple Intelligence ยังไม่รองรับภาษาไทย ตรงนี้มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ ส่วนใครเป็นเจ้าของ iPhone 16 Series สามารถสั่งจองล่วงหน้า พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ True5G ได้แล้ววันนี้และวางจำหน่ายวันที่ 20 กันยายน 2567 ส่วนใครเป็นเจ้าของ Sony Xperia 1 VI สามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ Sony Store ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review บทความ TrueID : WV เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพ iPhone 16 Pro Max แคปมาจาก YouTube : Apple และภาพ Sony Xperia 1 VI จาก Facebook : Sony Thai ภาพประกอบ iPhone 16 Pro Max ที่ 1 , 3 , 5 , 8 แคปมาจาก YouTube : Apple ภาพประกอบ Sony Xperia 1 VI จาก Facebook : Sony Thai : 2 , 4 , 6 , 7 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
WV • 21 ก.ย. 67
อ่าน
เปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max และ Vivo X100 Pro แตกต่างกันแค่ไหน ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน ?
สวัสดีทุกท่านครับ คงมีหลายท่านคาดเดาไว้แล้วว่าต้องค่าย Vivo แน่นอน วันนี้จะเป็นคู่ระหว่าง iPhone 16 Pro Max กับ Vivo X100 Pro เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ พูดถึงเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ iPhone 16 Pro Max และ Vivo X100 Pro แน่นอนว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เรามาเริ่มที่ iPhone 16 Pro Max มาในดีไซน์สวย สตรองแบบไทเทเนียมมาพร้อมผิวสัมผัสใหม่ที่ผ่านกระบวนการไมโครบลาสต์อย่างพิถีพิกัน สีเครื่องโดดเด่นมี 4 สี ได้แก่ ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมธรรมชาติ และไทเทเนียมทะเลทราย ขนาด 163 x 77.6 x 8.25 มม. น้ำหนัก 227 กรัม และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ในขณะที่ Vivo X100 Pro จะดีไซน์เป็นวงแหวนสุริยุปราคาคืนความสง่างาม พร้อมแกะสลักลวดลายซันเบิร์สต์ ทำให้ได้หรูหราสง่างามที่ไม่มีวันเลือนหาย สีเครื่อง Asteroid Black ขนาด 164.05 × 75.28 × 8.91 มม. น้ำหนัก 225 กรัม และสามารถกันน้ำกันฝุ่น IP68 หน้าจอ หน้าจอเป็น iPhone 16 Pro Max เป็น Super Retina XDR OLED แบบ Dynamic Island ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2868×1320(460PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 2000nits ต่ำสุดที่ 1nits มาพร้อมกระจกเสริม Ceramic Shield รุ่นใหม่ ในขณะที่ Vivo X100 Pro หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว มาพร้อมความละเอียด 2800×1260(452PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุดที่ 3000nits มาพร้อมกระจก Corning Gorilla Glass ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกับชิปเซต Apple A18 Pro Bionic ส่วน RAM 8GB ส่วน ROM มีให้เลือก 256GB/512GB/1TB และระบบปฏิบัติการ iOS 18ในขณะที่ Vivo X100 Pro มาพร้อมกับชิปเซต MediaTek Dimensity 9300 แถมมาพร้อมชิป vivo V3 ที่มาช่วยเสริมพลังให้มือถือนี้ทรงพลังยิ่งขึ้น ส่วน RAM 16GB สามารถ Extended RAM เพิ่มได้อีก 16GB ส่วน ROM 512GB และระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 กล้อง iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก Fusion 48MP มาพร้อมกันสั่น Sensor-Shift + กล้อง Ultrawide 48MP รองรับการถ่ายมาโคร มาพร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 12MP มาพร้อมกันสั่น OIS สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 120fps และกล้องหน้า 12MP สามารถบันทึกวิดีโอธรรมดาได้สูงสุดแค่ 4K 60fps ในขณะที่ Vivo X100 Pro ได้กล้องเทพจาก ZEISS มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP พร้อมเซนเซอร์ขนาด 1 นิ้ว + กล้อง Ultrawide 50MP + กล้อง Telephoto 50MP มาพร้อมระบบกันสั่น OIS สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 8K 30fps และกล้องหน้า 32MP สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 60fps แถมระยะซูมที่มืออาชีพใช้กัน การเชื่อมต่อ iPhone 16 Pro Max รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 , USB-C 3.0 , Ultra Wideband 2 , Face ID และ Wi-Fi 2.4, 5 , 6 , 7 ในขณะที่ Vivo X100 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C 3.2 และ Wi-Fi 2.4, 5 , 6 , 7 แบตเตอรี่ iPhone 16 Pro Max มีความจุแบตเตอรี่ 4676mAh รับรองชาร์จไว 45W ชาร์จแบบไร้สายในแบบ MagSafe สูงสุด 25W, ชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi2 สูงสุด 15W และชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi สูงสุด 7.5W ในขณะที่ Vivo X100 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 5400mAh ชาร์จไว 100W และชาร์จไร้สายไว 50W ราคา iPhone 16 Pro Max รุ่น 8GB/256GB ราคา 48,900 บาท รุ่น 8GB/512GB ราคา 56,900 บาท รุ่น 8GB/1TB ราคา 64,900 บาท Vivo X100 Pro 5G รุ่น 16GB/512GB ราคา 37,999 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี iPhone 16 Pro Max และ Vivo X100 Pro เป็นมือถือที่เยี่ยมยอด ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ ตรงนี้ขอให้พิจารณาข้อดีในการเลือก iPhone 16 Pro Max อย่างแรกหน้าจอใหญ่ และอย่างที่สอง ROM มีให้เลือกถึง 1TB ต่อมาที่ Vivo X100 Pro อย่างแรกความสว่างหน้าจอดีกว่า อย่างที่สอง RAM มากกว่า แถม Extended RAM ได้อีก อย่างที่สามกล้องดีกว่า อย่างที่สี่ Bluetooth ดีกว่า และสุดท้ายแบตเยอะและชาร์จไวกว่า ตรงนี้มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ https://youtu.be/eDqfg_LexCQ?si=YK2E4y5BbWIJhWTt ส่วนใครเป็นเจ้าของ iPhone 16 Series สามารถสั่งจองล่วงหน้า พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ True5G ได้แล้ววันนี้และวางจำหน่ายวันที่ 20 กันยายน 2567 https://youtu.be/s-7c_ew_LqU?si=-SalNJBqhIVgxuTn ส่วนใครเป็นเจ้าของ Vivo X100 Pro สามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ Vivo Brand Shop ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review บทความ TrueID : WV เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพ iPhone 16 Pro Max แคปมาจาก YouTube : Apple และ Vivo X100 Pro จาก Facebook : vivo ภาพประกอบ iPhone 16 Pro Max ที่ 1 , 3 , 5 แคปมาจาก YouTube : Apple ภาพประกอบ Vivo X100 Pro จาก Facebook : vivo : 2 , 4 , 6 วิดีโอที่ 1 จาก YouTube : Apple วิดีโอที่ 2 จาก YouTube : vivo Thailand เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
WV • 21 ก.ย. 67
อ่าน
JMART ยิ้ม iPhone 16 ดันยอดจองพุ่ง 30% สินค้าใหม่พาเหรดเปิดตัวหนุน Q4 พีค
#ทันหุ้น - JMART ยิ้มรับกระแส iPhone 16 เรือธงรุ่นล่าสุดของค่าย Apple ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่น วางจำหน่ายวันแรก 20 กันยายนนี้ มียอดจองเข้ามาพีคกว่ารุ่นก่อนกว่า 30% โดย เจมาร์ทจัดเต็มโปรโมชั่นพิเศษ ดูแลเครื่องขยายระยะเวลาประกันเพิ่มความคุ้มครองนาน 2 ปี สำหรับลูกค้าของเจมาร์ทที่เดียวที่กล้าให้ และข้อเสนอสุดพิเศษหนุนโค้งสุดท้ายของปีรับไฮซีซั่นนายดุสิต สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด ในเครือ บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) เปิดเผยถึง การเปิดตัว iPhone 16 ในวันแรก เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 มีลูกค้าให้ความสนใจต่อคิวจับจองเป็นเจ้าของอย่างคึกคัก หลังผลตอบรับยอดจองยังคงทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนกว่า 30% ด้วยคุณสมบัติที่เร็วขึ้น แรงขึ้น และฉลาดสุดล้ำกับฟีเจอร์ Apple Intelligence ระบบ AI อัจฉริยะ ที่มาพร้อมกับ iPhone 16 ทุกรุ่น ประกอบด้วย iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max สำหรับการเปิดจองในช่วงที่ผ่านมา รุ่นที่ได้รับการตอบรับสูงสุดคือรุ่น iPhone 16 Pro Maxนอกจากนี้ เจมาร์ทยังได้จัดเต็ม ที่เดียวที่กล้าให้ กับ Jaymart We Care ดูแลเครื่อง ดูแลคุณ ในการรับฟรี! ประกันตัวเครื่องนาน 2 ปี *ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย บริการดูแล โดย Apple Authorized Services Provider ไม่จำกัดจำนวนครั้งรวมทั้ง ข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่มีการใช้จ่ายผ่าน J Wallet แอปพลิเคชั่น กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะช่วยให้การใช้จ่ายสะดวกสบายยิ่งขึ้น ลดเพิ่ม 3% และสมาชิก J Point (ระบบคะแนนสะสมในกลุ่มเจมาร์ท) ที่ซื้อ iPhone 16 ทุกรุ่น รับคะแนนสะสม x20 เท่า ตลอดเดือนกันยายน รวมไปถึง แคมเปญเก่าแลกใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าแลกรับส่วนลด มูลค่าสูงสุด 32,000 บาท เจมาร์ทใจดีลดเพิ่มสูงสุด 5,000 บาท เฉพาะรุ่น iPhone 11 ขึ้นไป ลูกค้าปัจจุบัน AIS รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 6,700 บาท หรือสมัครแพ็คเกจใหม่ ย้ายค่ายเบอร์เดิม รับฟรี เบอร์เสริมชีวิต เบอร์สวย เบอร์มงคล บัตรเครดิต ผ่อน 0% นานสูงสุด 36 เดือน ใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50% ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมเอาใจลูกค้าไม่มีบัตรเครดิต ก็ผ่อนได้ นานสูงสุด 48 เดือน และโปรโมชั่นมากมายที่ร้านเจมาร์ท ทุกสาขา และช่องทาง Synergy ร่วมกับบริษัทในเครือด้านผู้บริหาร ชูแนวโน้มไตรมาส 4/67 เป็นช่วงที่ดีที่สุดของเจมาร์ท โมบาย เนื่องจากยังมีสินค้าใหม่แบรนด์ดังทยอยเปิดตัว หนุนผลงานโค้งสุดท้ายของปีนี้พีคสุด
ทันหุ้น • 20 ก.ย. 67
อ่าน
เปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max และ HONOR Magic 6 Pro แตกต่างกันแค่ไหน ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน ?
สวัสดีทุกท่านครับ หลังจากผมได้เปรียบเทียบ iPhone 16 ไปกับค่าย Samsung และ Xiaomi แล้วอีก 3 ค่ายที่เหลือจะเป็นใคร วันนี้จะเป็นค่ายของ HONOR มือถือรุ่นเรือธงของค่ายนี้ นั้นคือ HONOR Magic 6 Pro ว่าแตกต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ พูดถึงเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ iPhone 16 Pro Max และ HONOR Magic 6 Pro แน่นอนว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เรามาเริ่มที่ iPhone 16 Pro Max มาในดีไซน์สวย สตรองแบบไทเทเนียมมาพร้อมผิวสัมผัสใหม่ที่ผ่านกระบวนการไมโครบลาสต์อย่างพิถีพิกัน สีเครื่องโดดเด่นมี 4 สี ได้แก่ ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมธรรมชาติ และไทเทเนียมทะเลทราย ขนาด 163 x 77.6 x 8.25 มม. น้ำหนัก 227 กรัม และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ในขณะที่ HONOR Magic 6 Pro จะเป็นให้เหนือยอดจักรวาลอันเจิดจรัส มาพร้อมโมดูลกล้องที่สวยงาม ขนาด 162.5 × 75.8 × 8.9 มม. น้ำหนัก 225(PU)-229(แก้ว) กรัม และสีเครื่องให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเขียว Epi Green (PU) และสีดำ Black (แก้ว) สามารถกันน้ำกันฝุ่น IP68 หน้าจอ หน้าจอเป็น iPhone 16 Pro Max เป็น Super Retina XDR OLED แบบ Dynamic Island ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2868×1320(460PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 2000nits ต่ำสุดที่ 1nits มาพร้อมกระจกเสริม Ceramic Shield รุ่นใหม่ ในขณะที่ HONOR Magic 6 Pro หน้าจอเป็น OLED Quad-Curved Floating Screen ขนาด 6.8 นิ้ว มาพร้อมความละเอียด 1280×2800 (453PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 5000nits มาพร้อมกระจก HONOR Nanocrystal shield ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกับชิปเซต Apple A18 Pro Bionic ส่วน RAM 8GB ส่วน ROM มีให้เลือก 256GB/512GB/1TB และระบบปฏิบัติการ iOS 18ในขณะที่ HONOR Magic 6 Pro มาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen3 ส่วน RAM 12GB ส่วน ROM 512GB และระบบปฏิบัติการ MagicOS 8.0 กล้อง iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก Fusion 48MP มาพร้อมกันสั่น Sensor-Shift + กล้อง Ultrawide 48MP รองรับการถ่ายมาโคร มาพร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 12MP ซูม 5 เท่า Optical Zoom มาพร้อมกันสั่น OIS สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 120fps และกล้องหน้า 12MP สามารถบันทึกวิดีโอธรรมดาได้สูงสุดแค่ 4K 60fps ในขณะที่ HONOR Magic 6 Pro มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP + กล้อง Ultrawide 50MP + กล้อง Periscope Telephoto 180MP ซูม 2.5 เท่า Optical Zoom สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 60fps และกล้องหน้า 50MP สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 60fps เช่นกัน การเชื่อมต่อ iPhone 16 Pro Max รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 , USB-C 3.0 , Ultra Wideband 2 , Face ID และ Wi-Fi 2.4, 5 , 6 , 7 ในขณะที่ HONOR Magic 6 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 , USB-C 3.1 และ Wi-Fi 2.4, 5 แบตเตอรี่ iPhone 16 Pro Max มีความจุแบตเตอรี่ 4676mAh รับรองชาร์จไว 45W ชาร์จแบบไร้สายในแบบ MagSafe สูงสุด 25W, ชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi2 สูงสุด 15W และชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi สูงสุด 7.5W ในขณะที่ HONOR Magic 6 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 5600mAh ชาร์จไว 100W และรับรองชาร์จไร้สาย 66W ราคา iPhone 16 Pro Max รุ่น 8GB/256GB ราคา 48,900 บาท รุ่น 8GB/512GB ราคา 56,900 บาท รุ่น 8GB/1TB ราคา 64,900 บาท HONOR Magic 6 Pro (ณ ปัจจุบัน) รุ่น 12GB/512GB ราคา 29,990 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี iPhone 16 Pro Max และ HONOR Magic 6 Pro เป็นมือถือที่เยี่ยมยอด ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ ตรงนี้ขอให้พิจารณาข้อดีในการเลือก iPhone 16 Pro Max อย่างแรกหน้าจอใหญ่ อย่างที่สอง ROM มีให้เลือกถึง 1TB อย่างที่สามกล้อง Telephoto ที่ซูม 5 เท่า Optical Zoom และสุดท้ายรับรองการเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ดีกว่า ต่อมาที่ HONOR Magic 6 Pro อย่างแรกความสว่างหน้าจอดีกว่า อย่างที่สอง RAM มากกว่า อย่างที่สามความละเอียดของกล้องดีกว่า และสุดท้ายแบตเยอะและชาร์วไวกว่า ตรงนี้มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ ส่วนใครเป็นเจ้าของ iPhone 16 Series สามารถสั่งจองล่วงหน้า พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ True5G ได้แล้ววันนี้และวางจำหน่ายวันที่ 20 กันยายน 2567 ส่วนใครเป็นเจ้าของ HONOR Magic 6 Pro สามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ HONOR Brand Shop ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review บทความ TrueID : WV เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพ iPhone 16 Pro Max แคปมาจาก YouTube : Apple และ HONOR Magic 6 Pro จาก Facebook : HONOR Thailand ภาพประกอบ iPhone 16 Pro Max ที่ 1 , 3 , 5 , 7 แคปมาจาก YouTube : Apple ภาพประกอบ HONOR Magic 6 Pro มาจาก Facebook : HONOR Thailand : 2 , 4 , 6 , 8 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
WV • 20 ก.ย. 67
ดูเพิ่มเติม