TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “Last Twilight” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
Last twilight ภาพนายไม่เคยลืม ซีรีส์เรื่องนี้ทำถึง
รีวิว Last twilight ภาพนายไม่เคยลืม เป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่เอาขึ้นหิ้งไปเมื่อปี่ที่แล้ว ถือได้ว่าเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของ gmmtv และผู้กำกับยอดฝีมืออย่าง นพณัช ชัยวิมล รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของ "เดย์" อดีตนักกีฬาแบตทีมชาติที่เคยประสบอุบัติเหตุ ทำให้มีผลกระทบเกี่ยวกับการมองเห็น เลยจำเป็นต้องหยุดเล่นกีฬานานถึงสองปี แม่ของเขาเลยต้องหาพี่เลี้ยงมาดูแล เนื่องจากงานของแม่ไม่สามารถอยู่ดูแลเดย์ได้ตลอด เลยทำให้เดย์ได้มาเจอกับผู้ชายที่ชื่อว่า "หมอก" อดีตช่างซ่อมรถเคยติดคุกในคดีทะเลาะวิวาทมาก่อน พอออกมาหางานทำ ก็ไม่มีที่ไหนรับ จนได้มาสมัครงานเป็นพี่เลี้ยง เพราะตอนแรกเห็นว่าเงินดี แต่การเจอกันของทั้งสองคนไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ทำให้หมอกไม่สนใจที่จะทำงานนี้ เพราะไม่ชอบนิสัยบางอย่างของเดย์ แต่แล้ววันหนึ่งก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับเดย์ และหมอกก็เป็นคนเข้าไปช่วย ทำให้เดย์เกิดความคิดบางอย่างที่จะให้หมอกมาเป็นพี่เลี้ยงให้ได้ หลังจากนั้นหมอกก็ได้เข้าไปในบ้านของเดย์ทั้งสองฝ่ายมีการลองเชิงกันไปมาในที่สุดหมอกก็ตัดสินใจเข้ามาทำงานเป็นพี่เลี้ยงดูแลเดย์ และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้น จากเด็กช่างสายโหดต้องปรับโหมดมาเป็นพี่เลี้ยง เรียกได้ว่าเส้นทางชีวิตใหม่กำลังเริ่มขึ้น โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง การที่คนตาดีที่กำลังไปทำความเข้าใจกับคนที่กำลังจะมองไม่เห็นนั้นจะทำให้ได้เรียนรู้อะไรบ้าง ความประทับใจ สิ่งที่ชอบสำหรับเรื่องนี้คือ ความสัมพันธ์ของตัวละครที่ค่อยเป็นค่อยไป การเติมเต็มให้กันและกัน รวมไปถึงพัฒนาการของตัวละครจากคนที่ไม่มีความหวังในชีวิตจนกลายมามีความหวังกับชีวิตอีกครั้งหนึ่งเพราะว่า พอเดย์เริ่มมีการมองเห็นแค่เพียงยี่สิบเปอร์เซ็นต์มาตลอดสองปี ทำให้เขาขาดความมั่นใจ ไม่กล้าออกไปใช้ชีวิต กลัวสายตาคนมองเพราะไม่รู้ว่าคนที่มองมาเขารู้สึกยังไง แต่เมื่อหมอกเข้ามาในชีวิต สอนให้เดย์ค่อยๆฝึกทำอะไรด้วยตัวเอง พาเดย์ออกไปข้างนอก คอยรับฟังปัญหาของเดย์ และเป็นคนเดียวที่ไม่สงสารเดย์เหมือนคนอื่น จนวันหนึ่งเดย์สามารถใช้ชีวิตเองได้ ความกลัวมันลดลงเริ่มมีความหวังกับชีวิตมากขึ้น ในขณะเดียวกันหมอกเองที่ก็แทบมองไม่เห็นอนาคตตัวเอง ก็เริ่มเห็นคุณค่าของตัวเอง เริ่มเห็นเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น เรียกได้ว่าทั้งคู่ต่างก็มาเติมเต็มความหวังแห่งชีวิตให้กันและกัน ซีนโรแมนติกที่โคตรสร้างสรรค์ ซีนตู้ปลา เดย์มีตู้ปลาอยู่ในห้องนอน ในตู้ปลามีปลาทองหนึ่งตัวชื่อ "เดย์น้อย" หมอกเลยไปซื้อปลาทองเพิ่มมาอีกตัวให้อยู่เป็นเพื่อนกัน ตั้งชื่อว่า "บิ๊กหมอก" และในขณะที่เดย์มองปลาทองใกล้ๆ ก็มีสายตาคู่หนึ่งจากอีกฝั่งหนึ่งมองมาด้วยความละมุน เอ่ยขึ้นว่า "ไม่เหงาแล้วนะเดย์น้อย" เดย์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่หยุดชะงัก แล้วค่อยๆเลื่อนสายตาไปมองหมอก เป็นการออกแบบซีนโรแมนติกที่สื่อสารด้วยคำพูดและภาษากายได้ดี เกิดภาพจำให้กับซีนนี้มากๆ สร้างตำนานความโรแมนติกเอาไว้ https://www.facebook.com/share/r/VkNV39PBrhNLGWWn/ ความประทับใจที่มีต่อนักแสดงและทีมผู้สร้าง ในเรื่องของการแสดงนั้น นักแสดงอย่าง ซี ทวินันท์ รับบทเป็น เดย์ ที่ในเรื่องต้องเล่นเป็นผู้พิการทางสายตา ก็เล่นออกมาได้อย่างแนบเนียนไม่มีหลุด เข้าถึงตัวละคร ทำให้คนดูเชื่อและรู้สึกอินตาม เข้าใจในสิ่งที่ตัวละครเจอ จิมมี่ จิตรพล รับบทเป็น หมอก ซึ่งตัวละครในเรื่องตรงข้ามกับชีวิตจริง บทของตัวละครมีความท้าทายอยู่มาก แต่การแสดงของเขาก็ถ่ายทอดความเป็นหมอกออกมาได้ดีเช่นกันไม่ติดคราบในชีวิตจริงเลย รวมไปถึงนักแสดงคนอื่นๆที่แสดงออกมาเป็นตัวละครนั้นจริงๆ ทำให้คนดูเชื่อ และรับรู้ได้ว่านักแสดงทุกคนในเรื่องตั้งใจมากในการทำงาน และขอบคุณทีมงานเบื้องหลังผู้กำกับที่มีส่วนร่วมช่วยกันทำให้ผลงานชิ้นนี้มันสมบูรณ์ในแบบฉบับที่ควรจะเป็น สรุป Last twilight ภาพนายไม่เคยลืม ที่ยกให้เป็นซีรีส์ที่เนื้อหาดีที่สุด มีความเข้มข้น ได้ข้อคิดต่างๆมากมาย และยกขึ้นหิ้งไปตลอดกาล ถึงจะจบไปนานแล้วแต่ก็ยังคงคิดถึงอยู่เสมอ และหวังว่าจะเป็นซีรีส์ที่ถูกค้นพบขึ้นอีก ภาพปกตั้งบทความจาก Facebook page Gmmtv Official: facebook ภาพที่ 1 ซีรีส์จากFacebook page Gmmtv Official: facebook ภาพที่ 2 ซีรีส์จากFacebook page Gmmtv Official: facebook ภาพที่ 3 ซีรีส์จากFacebook page Gmmtv Official: facebook คลิปreelsจากFacebook page Gmmtv Official: facebook เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
083******* • 6 ธ.ค. 67
อ่าน
ภาพสุดท้าย (Last Twilight) - William Jakrapatr : ความทรงจำที่ยังคงอยู่ในหัวใจไม่ลืมเลือน
"ภาพสุดท้าย (Last Twilight)" ของ William Jakrapatr บทเพลงกล่าวถึงความทรงจำที่ยังคงอยู่ในหัวใจไม่ลืมเลือน ในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาผู้อ่านทุกท่านมาอ่านรีวิวบทเพลง "ภาพสุดท้าย (Last Twilight)" ของ William Jakrapatr กันครับ ติดตามอ่านในบทความนี้ได้เลยครับhttps://www.instagram.com/p/C3IDGIwpwZe/การเล่าเรื่องในบทเพลงเพลง "ภาพสุดท้าย (Last Twilight)" ของ William Jakrapatr มีแก่นเรื่องเกี่ยวกับการเล่าเรื่องความทรงจำของความรักที่สวยงามในใจ โดยนำเสนอความทรงจำที่ยังคงอยู่ในหัวใจและความรักที่สวยงาม การเล่าเรื่องนี้สร้างภาพในใจผู้ฟังถึงความลึกซึ้งและความหลงใหลในความทรงจำhttps://www.instagram.com/p/C3T_FOYppzW/ท่อนเพลงที่ชอบคำว่ารักที่เธอบอกรัก ช่วยต่อลมหายใจ แค่ได้จำความรู้สึกนี้เอาไว้ความทรงจำจะยังจดจำด้วยหัวใจ จะไม่ลืมเลยเราเคยรักกันแค่ไหนภาพสุดท้ายที่ฉันจะจำ คือภาพที่เรารักกัน ภาพสุดท้ายคือ ตอนที่เธอมองมาในดวงตาฉันภาพของเธอ จะจำเอาไว้ แม้ว่านานสักแค่ไหน ก็ยังสวยงาม ฉันจะจำเธอในใจผู้เขียนชอบเพลงท่อนนี้มากที่สุด เพราะ ท่อน "คำว่ารักที่เธอบอกรัก ช่วยต่อลมหายใจ แค่ได้จำความรู้สึกนี้เอาไว้" บอกเล่าความรู้สึกใช้คำว่า "รัก" ซ้ำสองครั้ง เน้นย้ำความสำคัญของคำว่ารัก ซาบซึ้งใจที่บุคคลที่พูดด้วยรักhttps://www.instagram.com/p/C3fPmx9JEsQ/ส่วนท่อน "ความทรงจำจะยังจดจำด้วยหัวใจ จะไม่ลืมเลยเราเคยรักกันแค่ไหน" บอกเล่าความรู้สึกที่กำลังคิดถึงอดีต หรือกำลังจมอยู่กับความทรงจำเก่าๆ ย้อนรำลึกถึงความทรงจำเก่าๆ ในยามที่รู้สึกเหงาและคิดถึงใครบางคนโดยเฉพาะท่อน "ภาพของเธอ จะจำเอาไว้ แม้ว่านานสักแค่ไหน ก็ยังสวยงาม ฉันจะจำเธอในใจ" บ่งบอกถึงอารมณ์ภาพความทรงจำของบุคคลที่พูดถึง "จะจำเอาไว้" เป็นคำที่สื่อถึงความรู้สึกคิดถึง รอยยิ้มของเธอ เสียงหัวเราะของเธอ ทุกๆ อย่างยังคงชัดเจนในใจฉัน ฉันจะไม่มีวันลืมเธอเสน่ห์ดนตรี และเอ็มวีเสน่ห์ของดนตรี คือ ดนตรีประกอบเพลงนี้เป็นแนวมินิมอลป๊อป เน้นเสียงเปียโนที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยอารมณ์ ผสมผสานกับเสียงร้องอันอบอุ่นของวิลเลียม ทำให้รู้สึกเหมือนถูกพาไปล่องลอยในห้วงความคิดถึง และ เสน่ห์ของเอ็มวี บอกเล่าเรื่องราวผ่านฉากของการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพวาดและภาพถ่ายเก่าๆ สื่อถึงความทรงจำที่เลือนรางแต่ยังคงชัดเจนในใจhttps://www.instagram.com/p/C3-M4BmpjSg/สรุปส่งท้ายเพลง "ภาพสุดท้าย (Last Twilight)" ของ William Jakrapatr เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่มีความไพเราะเล่าเรื่องผ่านดนตรีหวานผสานความเศร้า โดยเพลงนี้เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่นำเสนอมุมมองเรื่องราวสุดท้ายของความรักให้กับผู้ฟังได้เป็นอย่างดี ท่านผู้อ่านที่ยังไม่เคยฟัง เพลง "ภาพสุดท้าย (Last Twilight)" ของ William Jakrapatr อย่าลืมไปติดตามฟังกันนะครับฟังเพลงเต็มได้ที่นี่เลยครับhttps://www.youtube.com/watch?v=MiQ5m9BHnQIเครดิตรูปภาพภาพหน้าปก จาก williamjkpภาพที่ 1 จาก williamjkpภาพที่ 2 จาก williamjkpภาพที่ 3 จาก williamjkpภาพที่ 4 จาก williamjkpเครดิตวิดีโอภาพสุดท้าย (Last Twilight) Ost.Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม - William Jakrapatrเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Story • 5 มี.ค. 67
อ่าน
รีวิว Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืมกับบทสรุปสุดประทับใจ
https://www.youtube.com/watch?v=cuH-oZOT1bc หากใครต้องการดูซีรีส์ที่มีคุณภาพทั้งเนื้อหา นักแสดง โปรดักชั่น ผู้เขียนขอแนนนำ Last Twilight หรือ ภาพนายไม่เคยลืม ผลงานเรื่องล่าสุดของคุณออฟ นพณัช ผู้กำกับมากฝีมือ ที่มีผลงานดังมาแล้วมากมาย เช่น เพราะเราคู่กัน เพราะเรา(ยัง)คู่กัน นิทานพันดาว แค่เพื่อนครับเพื่อน จูบสุดท้ายเพื่อนายคนเดียว เขามาเชงเม้งข้าง ๆ หลุมผมครับ และอีกมากมายหลายเรื่อง ที่การันตีคุณภาพสุด ๆ ส่วนเรื่องนี้ผู้เขียนขอยกให้เป็นซีรีส์น้ำดีประจำปี 2023 เลยครับบทประพันธ์https://www.instagram.com/p/C2jUQIxtnOl/?hl=th เป็นเรื่องราวของเดย์ เด็กหนุ่มนักกีฬาแบดมินตันเยาวชนทีมชาติ ผู้มีอนาคตไกลในการแข่งขันระดับนานาชาติ แต่ด้วยอุบัติเหตุ ทำให้ในอีก 180 วันข้างหน้า หรือราว ๆ 6 เดือน ดวงตาของเดย์จะบอดสนิท คนเป็นแม่จึงต้องหาคนมาคอยดูแล เดย์จึงได้เจอกับหมอก เด็กช่างหน้าหล่อ นิสัยใจร้อนและรักพวกพ้องมากกว่าตัวเอง ถึงขั้นเคยติดคุกติดตาราง เลือกที่จะมาสมัครเป็นคนดูแล เพราะเห็นค่าตอบแทนที่สูงมาก ซึ่งตัวเขาเองไม่เคยได้รับมาก่อน การโคจรมาเจอกันของทั้งคู่ จึงเป็นการเริ่มต้นใหม่ ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของทั้งคู่ไปตลอดกาล ผู้เขียนชอบบทที่ลึกซึ้งดึงความรู้สึก เรื่องนี้ตอบโจทย์มาก บทที่เขียนสามารถร้องไห้ได้ทุกตอน ทำให้คนดูแบบเราได้ติดตามภารกิจของหมอก ในการเปลี่ยนชีวิตของเดย์ คนที่ฝันพังทลายและกำลังจะกลายเป็นคนตาบอด เราได้เห็นความยากลำบากของคนที่มองไม่เห็น ได้เห็นความหวังที่จะมีชีวิตแบบคนปกติ เป็นบทประพันธ์ที่กินใจมาก ไม่มีที่ติเลยเสน่ห์นักแสดงhttps://www.instagram.com/p/C2pOZ2yvXQt/?hl=thimg_index=1 หมอก (รับบทโดย จิตรพล โพธิวิหค) เด็กช่างที่เคยใช้ชีวิตผิดพลาด ปกป้องเพื่อนจนตัวเองต้องไปอยู่ในคุก เป็นตัวละครที่เห็นได้ทั่วไปในสังคม เพราะสุดท้ายเมื่อได้ออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ เพื่อนที่เคยปกป้องในครั้งนั้น คนที่เคยร่วมกินร่วมดื่มกัน กลับหนีหน้าจากหายไปกันหมด และยังถูกสังคมตราหน้าว่าคนคุก เป็นความผิดพลาดที่แก้ไขไม่ได้แล้ว ต้องจำใจก้มหน้ารับผลของการกระทำ แต่ยังโชคดีที่ได้มาเจอครอบครัวของเดย์ เราได้เห็นโอกาสที่หมอกจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ได้พบเจอกับความรักที่ยากจะไขว่คว้า นักแสดงเล่นดีมาก โดยเฉพาะสายตาเวลาสับสน เมื่อตัวเองไม่ทำตามหน้าที่คนดูแลให้ดี ได้เรียนรู้การใช้ชีวิต และรักตัวเองมากขึ้น เป็นพี่หมอกที่แสนอบอุ่นของน้องเดย์ ดีมาก ๆ เลย https://www.instagram.com/p/C2l_57qvvPo/?hl=thimg_index=1 เดย์ (รับบทโดย ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ) เด็กหนุ่มนักกีฬาแบดมินตันเยาวชนทีมชาติ ผู้มีอนาคตไกลในการแข่งขันระดับนานาชาติ เราได้เห็นความฝัน ความหวังของเดยืพังทลายไปต่อหน้าต่อหน้า โลกและแสงสว่างที่ตัวเองเคยได้รับมาตลอดตั้งแต่เกิด กำลังจะหายไป หลงเหลือไว้เพียงความดำมืด เราได้เห็นทัศนคติ ความคิดที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ตามการเรียนรู้และการยอมรับของตัวละคร แม้สายตาจะองไม่เห็น แต่เดย์ยังยิ้มได้อยู่เสมอ เขาไม่ต้องการให้ใครสงสาร ไม่ต้องการความเห็นใจ แค่ปฏิบัติกับเขาเหมือนคนปกติ ซีรีส์และนักแสดงทำให้เราได้เห็นมุมมองของคนตาบอดชัดเจนมากยิ่งขึ้น อันนี้ต้องชื่นชม ประทับใจมากhttps://www.instagram.com/p/C2pPFewSM_H/?img_index=1 ไนท์ (รับบทโดย ภาคิน คุณาอนุวิทย์) พี่ชายคนโตที่ต้องแบกรับความรู้สึกผิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องตาบอด ทั้งที่ความจริงเดย์เองก็มีส่วนผิดด้วยเช่นกัน แต่สุดท้ายคนที่สูญเสียการมองเห็นก็คือน้องชาย ไนท์จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรู้สึกผิดนั้นได้ เพราะชีวิตที่น้องเคยวาดฝันไว้พังไปหมดแล้ว ยังไม่ต้องรอน้องให้อภัยหรอก ขนาดไนท์เองยังหยุดโทษตัวเองไม่ได้เลย ภาคินเล่นดีมาก โดยเฉพาะฉากรับส่งอารมณ์กับเดย์ ไม่มีฉากไหนที่จะไม่ร้องไห้ตาม และเมื่อถึงเวลาที่ตัวละครจะต้องปลดล็อกจากความรู้สึกผิด ได้กลับมาคืนดีกับน้อง บอกเลยร้องไห้จนสะอื้นhttps://www.instagram.com/p/C2l0dGyJx1R/?img_index=1 พอใจ (รับบทโดย ทิพนารี วีรวัฒโนดม) ผู้หญิงแกร่งคนที่สองรองจากแม่เดย์ที่เราชื่นชม แฟนคนแรกติดคุกเป็นสาเหตุให้เลิกกัน ได้พบกับคนใหม่จนมีลูกและเตรียมพร้อมจะแต่งงาน แต่ก็ถูกนอกใจ เราสงสารตัวละครนี้มาก จนไนท์เข้ามา เราเชียร์มากให้พี่ไนท์มาช่วยยืนเคียงข้างพอใจหน่อย แต่กลัวพอใจจะไม่ยอมเปิดใจ สุดท้ายเราได้ยินความในใจของพอใจที่บอกว่า ไนท์มาขอโอกาสครั้งที่สอง ไม่ใช่เพื่อตัวไนท์ แต่เพื่อตัวพอใจเอง โอกาสที่จะทำให้พอใจมีความสุขอีกครั้ง บทพูดดีมาก ชื่นชมและของคุณพี่ไนท์ที่ยอมรับพอใจ เธอควรจะได้มีความสุขบ้างจริง ๆhttps://www.instagram.com/p/CzfRSA2PWPk/?img_index=1 รมณ (รับบทโดย เปรมสินี รัตนโสภา) เชฟชื่อดังแถวหน้าของวงการอาหาร แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้เห็นฉากคุณแม่ทำอาหารเลย แต่เราได้เห็นชัดเจนในมุมมองความเป็นคุณแม่เลี้งเดี่ยว ที่ต้องดูแลลูกชายสองคน โดยเฉพาะลูกคนเล็กที่กำลังตาบอดก็ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ถึงบางครั้งการกระทำจะไม่ค่อยมีเหตุผล แต่เราก็เข้าใจแม่นะในความเป็นห่วง เรายังคงเห็นแม่ที่พยายามทำความเข้าใจลูก เหมือนฉากที่ถามหมอกว่า "ภาพสุดท้ายที่เดย์เห็น มันเป็นภาพอะไรเหรอ" ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเดย์สำคัญที่สุด และความรู้สึกของลูก คือสิ่งที่แม่พยายามรักษา ความปรารถนาคือสิ่งที่พยายามเข้าใจ หรือจะเป็นตอนที่หลงลืมลูกชายคนโต เพราะคาดหวังว่าไนท์จะเป็นผู้นำครอบครัว เพราะอย่าลืมว่าครอบครัวนี้ไม่มีพ่อ จนแม่ลืมคิดไปว่าไนท์เองก็มีเรื่องต้องแบกรับ มีความรู้สึกเหมือนกัน แต่สุดท้ายแม่ก็เรียนรู้และเปิดกว้าง ปรับความเข้าใจกัน เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก ๆ เลยโปรดักชั่นhttps://www.instagram.com/p/C11i8UntAF4/?hl=th ต้องเริ่มชื่นชมตั้งแต่คนเขียนบท ด้วยความที่บทมันดีมาก มันยิ่งดีขึ้นไปอีกเมื่อได้การลำดับเรื่องราว การเล่าเรื่องด้วยภาพ แสงสีเสียงไปในทิศทางเดียวกันคืออบอุ่นหัวใจ แม้แต่เพลงประกอบยังดีงาม ไม่ว่าจะเป็นเพลงแค่คืบ หรือภาพสุดท้าย ล้วนถูกคิดและปล่อยออกมาในวันเวลาที่เหมาะสมมาก ไม่รู้จะติอะไรเลย ยกให้เป็นซีรีส์ที่โปรดักชั่นดีที่สุดอีกเรื่องหนึ่งเลย ทุกสถานที่ทุกบุคคลมีความเป็นมา มีเรื่องราวและความทรงจำ ดีมากจริง ๆอรรถรสในการรับชมhttps://www.instagram.com/p/C2reFZgNNZs/?hl=th เราเลือกฉากนี้มาบอกเล่าความประทับใจ เพราะว่าเป็นฉากที่เดย์ได้กลับมามองเห็นอีกครั้ง ได้เห็นหน้าหมอกแบบชัด ๆ เป็นครั้งแรก ถ้าเวลาที่เราดูก็หลายเดือน แต่เวลาในซีรีส์คือหลายปี กว่าครึ่งทศวรรษที่เดย์รอดองตาจากคนที่จะมาบริจาคให้ รอคอยอย่างมีความหลัง ระหว่างรอก็ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและความสุข เพิ่มเติมพลังบวกให้กับคนรอบข้าง ปรับตัวและเรียนรู้ไปด้วยกัน เป็นซีรีส์ที่สร้างพลังบวกจริง ๆ ใครดูจะต้องยิ้มและร้องไห้ไปพร้อมตัวละครอย่างแน่นอน มีทุกความรัก ความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นคนรัก แม่ลลูก พี่น้อง เพื่อนสนิท ดูเถอะไม่ผิดหวังแน่นอน สุดท้าย Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ในความยาวสิบสองตอนได้จบเรื่องราวเป็นบทสรุปสุดประทับใจของใครหลาย ๆ คน เป็นซีรีส์ที่ทำให้เห็นมุมมองการใช้ชีวิตของคนตาบอด เป็นซีรีส์ที่สะท้อนให้เห็นความจำเป็นในการรับบริจาคดวงตาจากผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ว่าสิ่งที่ผู้ล่วงลับอุทิศให้ มันสามารถให้ชีวิตและแสงสว่างกับผู้ที่ยังอยู่ ไม่มีอะไรจะชื่นชมแล้วครับ ดีมากจริง ๆ คุณพีลงคะแนนบทประพันธ์ 10/10เสน่ห์ตัวละคร 10/10โปรดักชั่น 10/10อรรถรสในการรับชม 10/10คะแนนเฉลี่ย 10/10ซีรีส์/ภาพยนตร์ที่คล้ายกันชวนติดตาม ซีรีส์วาย 9 เรื่อง จาก GMMTV (2024) พร้อมเปิดวาร์ปไอจีนักแสดงเปิดลิสต์ ! ซีรีส์วาย 13 เรื่อง ต้อนรับเดือนพฤศจิกายน 2566 ขอขอบคุณเครดิตภาพปก จาก gmmtvภาพที่ 1 ,2 และ3เครดิตวิดีโอ จาก GMMTV OFFICIALเครดิตรูปภาพที่ 1 จาก gmmtvเครดิตรูปภาพที่ 2 จาก jimmyyjpเครดิตรูปภาพที่ 3 จาก sea_tawinanเครดิตรูปภาพที่ 4 จาก mmarkpkkเครดิตรูปภาพที่ 5 จาก namtan.tipnareeเครดิตรูปภาพที่ 6 จาก creamcareเครดิตรูปภาพที่ 7 จาก gmmtvเครดิตรูปภาพที่ 8 จาก gmmtv จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
Prerengi • 4 ก.พ. 67
อ่าน
พาไปซื้อดอกไม้ ถ่ายรูปเล่น ตามรอยพี่หมอกน้องเดย์ ในซีรีส์ Last Twilight
ช่วงนี้กำลังเป็นที่นิยมสุดๆ กับคอนเทนต์ซื้อดอกไม้ไปถ่ายรูป แต่เราก็ยังไม่มีโอกาสได้ลองทำซักที จนถึงวันที่สาววายคลั่งรักแบบเราได้มาดูซีรีส์ Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ถึงซีรีส์จะพึ่งจบไปแต่ความอินและความฟินของเรานั้นไม่จบเลย วันนี้เราจะพาไปตามรอยพี่หมอก น้องเดย์ ซื้อดอกทานตะวันที่ปากคลองตลาด และเดินถ่ายรูปเล่นต่อที่สะพานพุทธฯ อันที่จริงฉากในซีรีส์ถ่ายที่สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา สะพานพระปกเกล้า ที่อยู่ใกล้ๆ กันกับสะพานพุทธฯ เราจำผิด! แต่ไม่เป็นไรได้ฟีลคล้ายๆ กัน ขอบอกเลยว่าบรรยากาศก่อนพระอาทิตย์ตกคือดีมากๆ แสงสวยสุดๆการเดินทางง่ายมากนั่ง MRT มาลงที่สถานีสนามไชย ทางออก 4 เดินข้ามสะพานคูเมืองมาก็จะถึงปากคลองตลาดเลยร้านดอกไม้มีให้เลือกหลายร้านมาก เดินเพลินเลยแก ใครชอบดอกไหนหาซื้อได้เลย สวยๆ ทั้งนั้น จะซื้อแบบดอกเดี่ยวๆ หรือแบบจัดช่อสำเร็จรูปไว้แล้วก็สวย มีหลากหลายชนิดสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบ เยอบีร่า ทานตะวัน ทิวลิป ไฮเดรนเยีย คาร์เนชั่น และอื่นๆ อีกเพียบ ราคาไม่แรงด้วยนะ เราเห็นดอกทานตะวันบางร้านขายเริ่มต้นอยู่ที่ 20 บาทเอง ดีต่อใจสุดๆหลังจากที่ซื้อดอกไม้เรียบร้อยแล้วก็เดินเล่นมาเรื่อยๆ จนสุดปากคลองตลาด ให้ข้ามถนนมาก็จะเจอกับทางขึ้นสะพานพุทธฯ ด้านขวามือ แนะนำมาช่วงเวลาประมาณ 16:30 น. - 18:00 น. พระอาทิตย์ใกล้ตก อากาศกำลังดีเลย แสงสวยแบบตะโกนเลยแก แสงสีส้มสะท้อนกับแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ สำหรับเราต้องซื้อดอกทานตะวันอยู่แล้ว ก็พี่หมอกเขาให้ดอกทานตะวันกับน้องเดย์นี่นา ช่อนี้มีถึง 5 ดอกเลยนะ ได้มาในระคา 80 บาท ดอกใหญ่มากเลยตอนที่ถ่ายต้องพยายามหามุมหลบคนนิดนึงนะ เพราะวันที่เราไปคือวันอาทิตย์คนจะเยอะหน่อย รูปที่ได้แสงสวยมากจริงๆ นะแก หรือถ้าใครจะไปถ่ายตอนกลางคืนก็จะได้รูปสวยไปอีกแบบ สาดแฟลชได้เลย ยังไงก็สวย! ใกล้วันวาเลนไทน์แล้วด้วยรีบชวนแฟนมาซื้อดอกไม้เดินถ่ายรูปเล่นกันนะ โรแมนติกสุดๆ เลยหล่ะพิกัด : ปากคลองตลาด / สะพานพุทธฯ / สวนลอยฟ้าเจ้าพระยาการเดินทาง : MRT สถานีสนามไชย ทางออก 4 ขอบคุณ รูปปก และรูปภาพประกอบ ที่ 1, 2 : IG sea_tawinanรูปภาพประกอบ ที่ 3 - 8 โดย 📷 : iambuticเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
iambutic • 2 ก.พ. 67
อ่าน
ชวนคุย: ภาพนายไม่เคยลืม (Last Twilight) ความหวัง ในวันที่ชีวิตมืดบอด
“เราคาดหวังให้มนุษย์คนหนึ่ง แจ่มแจ้งในโลกใบนี้ได้อย่างไร หากตัวเขาเองไม่สามารถมองเห็นความเป็นไปของโลก” เป็นคำถามที่ตัวผมเองเริ่มคบคิดตั้งแต่วินาทีแรก ที่ตัวละครเดย์ จากซีรีส์ ภาพนายไม่เคยลืม (Last Twilight) เริ่มสูญเสียการมองเห็น ทว่าตลอดการควานหาตัวตนของเดย์ ในดินแดนที่แสงตะวันสาดส่องไปไม่ถึง กลับทำให้ผมในฐานะคนเฝ้าดู พานพบมุมมองของโลกใบใหม่ ผ่านการเรียนรู้การใช้ชีวิต ไปพร้อม ๆ กับตัวละครตาบอดที่สลับซับซ้อน ทว่าไม่ย่อท้อที่จะส่องสว่างในความมืด แม้ความเป็นจริง จะไม่ง่ายดายก็ตาม ทุกครั้งที่ผมดู Last Twilight จบแต่ละตอน ผมก็จะพยายามขีดเขียนหัวข้อ และแก่นสำคัญที่จะนำมาใช้เขียนเป็นบทความนี้ขึ้นมา ทว่ายิ่งกลับมาพลิกหน้ากระดาษที่ตัวเองจดไว้ ก็พบว่ามีเรื่องให้ได้กล่าวถึงซีรีส์เรื่องนี้เยอะเหลือเกิน จนผมจำเป็นต้องลดทอนบางเนื้อหาออก และหยิบเพียงสารัตถะสำคัญ ที่ซีรีส์พยายามจะสื่อสารกับคนดู เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อบอกเล่าข้อคิด มุมมองความหวังในการใช้ชีวิต ผ่านตัวละครตาบอดอันทรงพลัง และความมุ่งมาดวาดหวังอันเต็มเปี่ยมของทีมพัฒนา เพื่อรังสรรค์ซีรีส์น้ำดีอีกเรื่องของไทย Disclaimers*** มีการเปิดเผยเนื้อหาในบทความ*** เนื้อหาทั้งหมด เป็นการตีความ และทัศนะของผู้เขียนเท่านั้น “อะไรที่จำเป็นต้องใช้ในภายหลัง ก็ให้รีบนำเสนอคนดูเสียแต่เนิ่น ๆ” “อะไรที่จำเป็นต้องใช้ในภายหลัง ก็ให้รีบนำเสนอคนดูเสียแต่เนิ่น ๆ” เป็นคำพูดของใครสักคน จากบทเรียนในชั้นเรียนสักแห่ง ที่ผมเองก็รื้อค้นจากเศษเสี้ยวความทรงจำที่ไม่ปะติดปะต่อ ทว่าจริงเสมอในความคิดของผม สมมุติคุณต้องสร้างตัวละครขึ้นมาหนึ่งตัว คุณจะทำให้คนดูของคุณเชื่อได้อย่างไรว่าตัวละครนั้นเกลียดกลัวงูเข้ากระดูกดำ โดยที่คุณพึ่งจะยัดฉากเผชิญความหวาดกลัวงูลงไปกลางเรื่อง คงไม่มีใครเชื่อแน่นอน ดังนั้นถ้าการกลัวงูสำคัญต่อมิติตัวละครดังเช่นตัวอย่าง โดยเฉพาะเนื้อเรื่องแล้วละก็ ขอให้นำเสนอมันเสียแต่เนิ่น ๆ (เริ่มเรื่องได้ยิ่งดี) เหมือนอย่างที่เรากำลังจะวิเคราะห์ฉากเปิดแรก ใน last twilight ซีรีส์นำเสนอการเริ่มเรื่อง ผ่านวิธีการตัดสลับระหว่างตัวละครเดย์ (ซี ทวินันท์) นักกีฬาแบดมินตันหนุ่มอนาคตไกล และ หมอก (จิมมี่ จิตรพล) เด็กช่างที่ชีวิตหมิ่นเหม่เข้าออกคุกตะรางเป็นเรื่องปกติ ภาพชีวิตที่ถูกฉายสลับคู่ขนานนี้ มีจุดร่วมที่จะกลายเป็นแกนหลักของเนื้อเรื่องที่เหลือต่อไป ลองสังเกตดูให้ดีครับ มันคือ “การมองเห็น” นั่นเอง โดยฉากแรกที่นำเสนอภาพของเดย์ ที่กำลังแข่งขันแบดมินตัน ดวงตารอบสนามทุกคู่จดจ้องเดย์ด้วยความปีติยินดี ราวกับเดย์เป็นดวงตะวัน ที่หรี่ทุกจรัสแสงในสนามจนหม่นดับ ในขณะที่ความมั่นใจในตัวเดย์พุ่งทะยานถึงจุดสูงสุด ทว่าความมืดก็ได้ชำแรกมาเยือนสู่ดวงตาของเขาเป็นครั้งแรก เดย์กำลังจะสูญเสียการมองเห็นตลอดกาล กลับมาที่หมอก ที่ชีวิตมืดบอดแทบไม่ต่างกัน ต้องพบกับความยากลำบากในการหางานเลี้ยงชีพ หลังจากที่ตนพึ่งพ้นโทษคุมขัง ทว่าไม่ใช่ทุกคนจะยินดีโอบรับลูกจ้างที่ถูกพันธนาการด้วยกำไลอีเอ็ม สายตาของคนในสังคมที่มองมายังหมอก แตกต่างออกไปจากที่เดย์ได้รับ สายตาแห่งการตัดสิน และเคลือบแคลงสงสัย ดั่งคำพิพากษาที่คน ๆ หนึ่งแลต้องเผชิญไปตลอดทั้งชีวิต เราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าแก่นเรื่องของซีรีส์ last twilight ไม่ใช่เพียงอาการตาบอดทางกายภาพเท่านั้น แต่มันยั่วล้อไปกับจิตใจอันมืดบอด ที่พร้อมจะตัดสินผู้คนจากเปลือกนอก ซึ่งอาการมืดบอดอย่างหลังดูจะน่าเป็นห่วงกว่าที่เดย์ต้องประสบพบเจอเสียอีก การนำเสนอแกนหลักของเรื่องอย่างชาญฉลาดในฉากเปิดเช่นนี้ ทำให้คนดูรับรู้หัวใจหลักที่เต้นเร่าในบท ทุกทิศทางที่เนื้อเรื่องพาเราไป เนื้อแท้ของเรื่องราวจะคอยส่งเสียงเรียกคนดู อย่างสม่ำเสมอในท้องเรื่องที่เหลือแน่นอนความกลัวที่จะไม่มีโอกาสได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง ความมืดเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนหวาดหวั่น แต่โชคดีคือ เรารู้ว่าทุกเช้าวันใหม่จะมีแสงอาทิตย์ คอยปัดเป่าความมืดอันแสนประหวั่นพรั่นพรึงเสมอ แต่ไม่ใช่กับเดย์ที่กำลังสูญเสียการมองเห็น ความมืดที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามานี้ อาจไม่ถูกปัดเป่าด้วยแสงสว่างใดอีกเลย เดย์อาจต้องอยู่ในโลกแห่งความมืดมิดตลอดกาล และนั้นทำให้แสงสว่างสุดท้าย ตราตรึงในใจเดย์ตลอดไป การเขียนตัวละครตาบอดในทางวรรณกรรมไม่ใช่เรื่องง่าย นักเขียนต้องสรรค์สร้างวิมานน้อย ๆ ที่คนตาดีทั่วไปเข้าไม่ถึง แต่ขณะเดียวกันต้องรับรู้ว่ามีสิ่งนี้ดำรงอยู่ เช่นเดียวกับความหวาดกลัวต่อโลกที่กำลังจะมืดดับลง ความมืดมีสัญญะเชื่อมโยงตรงไปตรงมากับความหวาดกลัวการมองไม่เห็น ทำไมกันละ? ผู้อ่านลองจินตนาการว่าถูกทิ้งไว้ในห้องที่มืดโดยสัมบูรณ์ หากผมเอาขนนกธรรมดาสะกิดเพียงเล็กน้อย พนันได้เลยว่าสมองคงเตลิดนึกสารพัดภาพแปลกประหลาดแน่นอน นั้นเพราะในความมืด เราไม่สามารถระบุสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นขนาด รูปร่าง ทิศทาง แม้กระทั้งผู้คนที่เข้าหาเรา เหล่านี้กอปรสร้างโลกอันไม่คุ้นเคย และเปลี่ยนมันให้กลายเป็น ความกลัวในความไม่รู้ (Fear of the Unknown) ซีรีส์ last twilight ได้อาศัยการทำงานเชิงสัญญะเหล่านี้ ในการนำพาคนดูสัมผัสโลกของเดย์ ที่ราวกับตัวบทจงใจค่อย ๆ หรี่แสงตะเกียงลงในทุกตอน วิสัยทัศในการมองเห็นของคน ๆ หนึ่งกำลังพล่าเลือน แต่ขณะเดียวกันตัวบทก็นำพาเดย์ค้นพบแสงสว่างรูปแบบใหม่ แสงสว่างที่ลำพังไม่อาจเห็นได้ด้วยตาเนื้อ แสงที่ทอประกายในจิตใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน นี่อาจเป็นหนึ่งในพลังวิเศษของคนตาปอดก็ได้ พลังในการมองเนื้อแท้ของผู้คน โดยปราศจากมายาอคติ ซึ่งต่อจากนี้เดย์จะต้องฝึกมองมัน ผ่านหัวใจของเขาแทน“ทุกการช่วยเหลือ เป็นสิ่งดีเสมอหรือไม่?”“Acts of Pity” มีคำถามหนึ่งคอยรบกวนจิตใจผมเสมอมา นั่นคือ “ทุกการช่วยเหลือ เป็นสิ่งดีเสมอหรือไม่?” การหยิบยื่นความช่วยเหลือจะเป็นเรื่องเลวร้ายได้อย่างไรกัน มนุษย์ควรจะเกื้อกูลกันและกันในยามลำบากไม่ใช่หรือ? ซึ่งก็จริงแท้แน่นอนครับ แต่หากเราลองมาดูอีกมิติของการช่วยเหลือ ที่มาในนามของ “ความสงสาร” (Acts of pity) เราจะครุ่นคิดต่างไปจากเดิมไหม Last twilight ตอนที่ 6 ได้นำเสนอปมปัญหาอันเกิดจากการกระทำของออกัส (โอม ฐิภากร) ที่บังเอิญล่วงรู้ความรู้สึกลึกซึ้งเกินคำว่าเพื่อนของเดย์ที่มีต่อตนเอง ออกัสจึงพยายามเข้าหาเดย์เพื่อมอบความสุขให้เพื่อนของตน จนกระทั้งในงานวันเกิดเดย์ ออกัสได้พรมจูบที่ริมฝีปากของเดย์เพื่อเป็นของขวัญ ทว่าแท้จริงออกกัสรู้สึกสงสาร ที่เพื่อนของตนกำลังจะสูญเสียการมองเห็น ออกัสจึงหวังว่าจูบนี้จะช่วยเยียวยา และมอบความสุขให้กับเดย์ แต่ไม่ใช่เพื่อความเสน่ห์หา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าออกัสคิดผิดมหันต์ การกระทำที่ซับซ้อน และยากที่จะเข้าใจของออกกัสนี้ ถูกขับเคลื่อนด้วยความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์ นั่นคือ “ความสงสาร” ลองจินตนาการในสถานการณ์ที่คนทั่วไปอย่างเรา เผชิญกับผู้พิการโดยบังเอิญ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความรู้สึกสงสารจะแล่นตรงเข้ามาเป็นสิ่งแรก ทำไมความสงสารจึงมีบางสิ่งเชื่อมโยงกับผู้พิการเสมอ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมได้ค้นบทวิเคราะห์งานวิจัยหนึ่งที่น่าสนใจ โดยบทความอ้างถึง การเหมารวมบนเจตคติเชิงลบต่อผู้พิการ (The negative stereotype of disabled people: ผู้เขียนแปลเอง) ศัพท์ใหญ่แลดูเข้าใจยาก แต่หากพูดให้เข้าใจง่ายคือ สังคมกอปรสร้างภาพแสดงของผู้พิการขึ้นมา ซึ่งเป็นภาพแทนที่ว่าด้วย ผู้พิการเป็นผู้ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ พยายามผลิตภาพที่ผู้พิการร้องขอความช่วยเหลือ หรือพูดง่าย ๆ คือเป็นผู้รับ (passive) เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ศาสนาเองก็มีบทบาทในการสร้างภาพจำ อาทิ เรื่องของบาปกรรม คลาสสิกสุด ๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องราวอดีตชาติเคยทำกรรมหนัก ยังผลให้ชาตินี้ต้องพิการ หากคนร่างกายปกติไม่อยากพิการ ก็จงหมั่นทำทานหรือช่วยเหลือคนพิการ ทั้งหมดนี้สร้างความรับรู้บิดเบี้ยว ที่เรามีให้แก่ผู้พิการ นำมาซึ่งการช่วยเหลือในนามของความเวทนาสงสาร ซึ่งท้ายที่สุดจะไม่เกิดประโยชน์ต่อตัวผู้พิการแม้แต่น้อย คนพิการไม่ต้องการถูกมองว่าน่าสงสาร หรือนั่งรอความช่วยเหลือเสมอไป สิ่งที่พวกเขาต้องการคือโลกที่ถูกออกแบบ ในที่นี้คือเมืองที่นับเอาผู้พิการ เข้ามาไว้ในสมการการใช้ชีวิตอย่างเท่าเทียมเฉกเช่นคนทั่วไป ผมยืนยันว่าการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ยามตกทุกข์เป็นสิ่งพึงกระทำ แต่ในขณะเดียวกันซีรีส์ last twilight ได้ใช้ตัวละครออกัสและเดย์ เป็นหมุดหมายเตือนใจ ว่าไม่มีใครอยากถูกมองว่าน่าโศกสลด และความช่วยเหลือที่เคลือบฉาบในนามของความสงสาร อาจไม่ส่งผลดีต่อฝ่ายใดเลย แม้ภายในใจของออกัสจะมีเจตนาดีก็ตาม ในวันที่เดย์เริ่มตาบอด แม่ก็เริ่มมองไม่เห็นไนท์ “พ่อแม่มีลูกคนโปรดหรือไม่?” เป็นคำถามสุดคลาสสิคที่เราทุกคนต้องเคยขบคิดกันมาบ้าง และดูเหมือนปมปัญหานี้เองที่กัดกินบ่อนเซาะความสัมพันธ์ระหว่าง รมณ (ครีม เปรมสินี) ผู้เป็นแม่ และลูกชายคนโตของเธออย่าง ไนท์ (มาร์ค ภาคิณ) โดยที่รมณไม่รู้ตัว หัวข้อนี้ไม่ได้กำลังจะกล่าวโทษตัวละครอย่าง รมณผู้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแต่อย่างใด แต่ผมคิดว่ามันคงจะดีหากจะมีใครสักคนพยายามทำความเข้าใจ และสะกิดไหล่เตือนสติ ว่าพ่อแม่เราทุกคน ก็ล้วนเป็นมนุษย์ เช่นเดียวกันกับรมณ ที่เธอหันหลังให้ความสัมพันธ์สามีภรรยา ไม่สมาทานแนวคิดรักโรแมนติก มุ่งหน้าหาเลี้ยงปากท้องเพื่อตัวเธอเองและลูก ๆ รมณประคับประคองครอบครัวของเธอเป็นอย่างดี จนกระทั่งอุบัติเหตุที่พรากการมองเห็นจากลูกชายคนเล็กของเธอไป ทำให้เธอต้องทุ่มสรรพกำลัง และทรัพยากรทั้งหมด ไปที่เดย์เพียงผู้เดียว และวินาทีนั้นเอง ที่รมณเริ่มมองไม่เห็นตัวตนลูกชายอีกคน ด้วยบทบาทที่เธอต้องเป็นเสาคำยัน ให้บ้านทั้งหลังไม่พังครืนลงมา รมณจำเป็นต้องสันหาพี่เลี้ยงที่ดีที่สุด เพื่อคอยจัดการดูแลเดย์ ในเวลาที่เธอออกไปหาเงินมาจุนเจือครอบครัว และบ่อยครั้งที่รมณเองต้องยืมมือไนท์ เพื่อคอยเป็นแขนขาให้กับเธอ แบ่งเบาและดูแลน้องอีกแรง ทว่ารมณเองก็อาจหลงลืม ว่าผู้ประสบเคราะห์กรรมนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เดย์ แต่ร่วมถึงไนท์ด้วย แม้ไนท์จะไม่ได้รับบาดเจ็บทางกายภาพ แต่บาดแผลผิดบาปที่ไนท์คิดว่าตนเป็นต้นเหตุของอาการตาบอดของน้องชาย กลับไม่ได้รับการเยียวยาเหลียวแลจากผู้เป็นแม่ จนกระทั่งวันที่รมณทำอาหารเพื่อฉลองวันคริสต์มาสให้กับลูก ๆ ของเธอ วินาทีที่รมณฉุกคิดได้ ว่าในขณะที่เธอเป็นห่วงว่าเดย์กำลังจะสูญเสียการมองเห็น รมณเองก็แทบจะสูญเสียไนท์ไปจากการรับรู้ของเธอเช่นกัน มันไม่สำคัญว่าพ่อแม่จะมีลูกคนโปรดจริงหรือไม่ แต่การรับรู้ของลูก จากการปฏิบัติของพ่อแม่ ที่ทำให้เขาเหล่านั้นรู้สึกแปลกแยก ถูกหลงลืม หรือรู้สึกไม่เป็นลูกคนโปรด เป็นปัญหาที่แม้แต่ตัวพ่อแม่เองอาจไม่ทันสังเกต เช่นเดียวกับรมณ ที่กรณีนี้ เราคงไม่สามารถฟันธงว่าเดย์เป็นลูกคนโปรด เนื่องด้วยบริบทอันซับซ้อนดังกล่าว ที่ทำให้รมณสนใจเพียงแค่เดย์ ทว่าอย่างไรก็ตาม ซีรีส์เรื่องนี้ได้มอบทัศนะนุ่มลึก ให้คนเป็นพ่อแม่ ระมัดระวังการแสดงความรักต่อลูกที่อาจไม่เท่าเทียม และทำให้เราฉุกคิดในฐานะลูก ว่าด้วยพ่อแม่ของเรา ก็เป็นพ่อแม่ครั้งแรก และการกล่อมเกลี้ยงลูกน้อยให้มีชีวิตที่ดี อาจเป็นงานโหดหินที่สุด เท่าที่ชีวิตพวกท่านเองเคยประสบพบเจอ สัญญะซ่อนแฝง ที่มอบความหมายของชีวิต ในวันที่มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าผู้อ่านเป็นเหมือนผมหรือไม่ แต่หนึ่งในอรรถรสของการเสพงานภาพยนตร์ คือการที่ผมได้ขุดค้นควานหา สัญญะที่ซ่อนแฝงภายในตัวบท มนต์เสน่ห์ของสัญญะคือ ผมที่นั่งดูซีรีส์เรื่อง last twilight คุณผู้อ่านที่กำลังอ่านบทความผมตอนนี้ หรือผู้ประพันธ์บทซีรีส์ ไม่จำเป็นต้องมีหนังสือถอดรหัสเล่มเดียวกัน เพราะกรอบอ้างอิงของเราแต่ละคน ล้วนเกิดจากประสบการณ์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ดังนั้นการตีความสัญญะจึงไม่มีคำว่า “ถอดรหัสผิดเพี้ยน” มีเพียงการถอดความในมุมมองที่แตกต่างเท่านั้น และเพราะสัญญะทำงานกับการตีความ ซีรีส์ last twilight จึงมอบความรุ่มรวยเกี่ยวกับมุมมองของชีวิต และเปิดโอกาสให้คนดูได้ร่วมถอดความ และค้นหาความหมายของชีวิต ในรูปแบบของเราเอง หนึ่งในฉากที่ผมตีความ และผู้อ่านหลายท่านอาจไม่ได้รู้สึกถึงความสลักเสลาสำคัญ คือฉากที่เดย์สัมผัสทารกภายในท้องของพอใจ (น้ำตาล ทิพนารี) และร่วมเต้นรำกับผู้สูงวัยในพิธีแต่งงานของอ้นและปลา เดย์เป็นภาพแทนของคนที่ดวงตากำลังมืดบอด แต่ในขณะเดียวกันเดย์ก็ได้สัมผัสชีวิตน้อย ๆ ที่กำลังจะได้ลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ได้เต้นรำร่วมกับคนที่ใช้ชีวิตทั้งชีวิตมองเห็นโลกใบนี้อย่างแจ่มชัด การมีอยู่ของสัญญะในฉากนี้ ราวกับเดย์ได้ถูกปลอบปะโลมจากดวงตาบริสุทธิ์ที่ยังไม่ทันแย้มชมโลก และขณะเดียวกันก็ถูกเฝ้ามองอย่างเอ็นดู จากดวงตาคู่ที่มองเห็นมรสุมมานับไม่ท้วน สำหรับผม ที่เป็นฉากเล็กจ้อย แต่ทรงพลังด้วยการตีความอย่างแท้จริง ตลอดทั้งท้องเรื่อง เราจะได้เห็นตัวละครหมอกและเดย์ เชื่อมโยงกับดอกไม้เสมอ และฉากที่หมอกนำต้นมะลิกลับมาปลูกที่บ้าน นับว่าเป็นฉากที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ในแง่ของความโรแมนติก เราทุกคนคงไม่ปฏิเสธ แต่ในแง่ของสัญญะภายในโลกวรรณกรรม ต้นไม้ยึดโยงความหมายกับความรู้ การเติบโต การดูแลรักษา การที่หมอกปลูกต้นมะลิ มันไม่ใช่แค่การขุดหลุม ฝังกลบ และทิ้งขว้างให้ต้นไม้โตตามยถากรรม หากแต่หมอกต้องอาศัยความละเอียดอ่อน ดูแลเอาใจใส่ จนรากของต้นไม้แผ่ขยาย เกาะกุมหน้าดินมั่นคง การลงมือปลูกต้นไม้ของหมอกนี้ ราวกับจะสื่อสารต่อคนดู ว่าตัวหมอกหยั่งรากยึดมั่น ในความรู้สึกที่มีต่อเดย์ และมันค่อย ๆ เติบโตขึ้นทุกวัน จนกระทั่งออกดอกผลิบาน ในวันที่หมอกรู้สึกกับเดย์เกินกว่าคนดูแล ฉากสุดท้ายที่งดงาม จนผมต้องนำมาปิดท้ายในหัวข้อนี้ คือฉากที่หมอกและเดย์เดินทางขึ้นไปดูภาพสุดท้ายบนภูเขาด้วยกัน ทว่าภาพพระอาทิตย์อัสดง และแสงสีส้ม ณ ริมขอบฟ้าบนหน้าปกนิยาย last twilight กลับไม่ใกล้เคียงกับภาพความเป็นจริง ที่หมอกและเดย์กำลังจ้องมอง มีเพียงท้องฟ้าทึบทึม จนมองแทบไม่เห็นแสงตะวัน เป็นภาพสุดท้ายที่ห่างไกลคำว่างดงาม และไม่คุ้มเหนื่อยเอาเสียเลย แต่แล้วเดย์ที่ดวงตากำลังจะบอดสนิท ได้เริ่มบรรยายความวิจิตงดงามของทัศนียภาพ และในวินาทีที่หมอกลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็ต้องพบกับภาพทิวทัศน์ ที่งดงามราวกับต้องมนต์สะกด เดย์สูญเสียการมองเห็นไปแล้ว แต่สิ่งที่ฉากนี้มอบความหมายแฝงอันนุ่มลึก คือ “ไม่มีสิ่งใดมืดมิดแท้จริง หากใจเราไม่ยอมมืดบอด” เราได้เห็นพัฒนาการตัวละครเดย์ ที่โบยตีถล่มตนเองที่ต้องมาตาบอดตอนต้นเรื่อง ทว่าในฉากนี้ เดย์ต่างออกไป เค้ายอมรับและเป็นส่วนหนึ่งกับตาที่มืดสนิท และไม่ยอมจำนนที่จะให้แสงสว่างในใจของเขามืดมิดลงไปด้วย ภาพสุดท้ายที่เดย์เห็น จึงเป็นภาพที่เดย์ใช้ใจของเขา ซึมซับรับรู้ ไปพร้อม ๆ กับหมอกนั่นเองบทอันทะเยอทะยาน ความมุ่งมั่นตั้งใจใน “ภาพนายไม่เคยลืม” คุณผู้อ่านเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “หนังที่แย่ อาจมาจากบทที่ดี แต่ไม่มีหนังที่ดี มาจากบทที่แย่” กันบ้างไหมครับ สำหรับผม มันจริงเสมอ และเมื่อเราพิจารณาย้อนกลับไปยังต้นธารทั้งหมด ที่บทความนี้ได้พยายามแจกแจง มุมมองอันหลากหลายของซีรีส์ last twilight เราจะพบรากฐานอันมั่นคง ที่ค้ำยันซีรีส์เรื่องนี้เอาไว้แทบทั้งหมด นั่นคือ “บทประพันธ์” คนจำนวนมากไม่ได้มองว่างานเขียนคือ “งานฝีมือ” รูปแบบหนึ่ง บทที่ดีไม่ได้ต้องการแค่นักเขียนที่เจนจัด ต่อมุมมองอันหลากหลายบนโลกนี้เท่านั้น หากแต่ยังต้องการ “เวลา” เพื่อทุ่มเทและกอปรสร้างบทประพันธ์ดี ๆ ขึ้นมาสักเรื่อง ซีรีส์ last twilight อาจไม่ใช่บนซีรีส์ที่ไร้ลอยแผลหรือตำหนิ แต่นี้เป็นผลผลิตของความพยายามที่มุ่มมั่นรังสรรค์ และพัฒนาบทให้มีคุณภาพ ภายใต้การควบคุมของ GMM ทีวี ความทะเยอทะยานในการนำพาชีวิตคนตาบอด ลงมาโลดแล่นบนจอแก้ว ถือเป็นความท้าทายอย่างสูง เพราะมิติของคนตาบอดนั้นซับซ้อน และจำเป็นต้องเตรียมคลังข้อมูลจำนวนมาก เพื่อถ่ายทอดชีวิต ความปรารถนา ปรัชญา และอุปสรรค ที่คนตาบอดจริง ๆ ต้องประสบพบเจอ ซีรีส์ last twilight ได้นำพาเราไปสำรวจโลกของคนตาบอด กับแง่มุมที่เราไม่เคยรับรู้มาก่อน เริ่มต้นจากการที่เดย์เริ่มสูญเสียการมองเห็น หวาดกลัวโลกภายนอกจนต้องเก็บซ่อน ปฏิเสธการพบปะผู้คน โดยเฉพาะประเด็นของการรับประทานอาหารนอกบ้าน ซึ่งดูจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนตาดี ตัวบทให้เหตุผลว่า คนตาบอดเองก็ต้องการดูดีในสายตาคนทั่วไป และคงจะไม่สบายใจหากต้องให้คนแปลกหน้า มาเห็นการรับประทานอาหารที่เปรอะเปื้อนของเรา ตัวบทค่อย ๆ คลายความวิตกกังวลในตัวเดย์ นำพาตัวเดย์ก้าวข้ามผ่านความหวาดกลัว จนนำไปสู่การวิ่งเพื่อคนตาบอด (run for blind) โดยมีหมอกเป็นผู้นำทางวิ่ง ก้าวแรกเมื่อเดย์ข้ามพ้นเส้นชัยในวันนั้น เป็นก้าวสำคัญที่นำพาเดย์ออกไปสู่ทริปกินนอนบนหาดทรายที่จังหวัดสงขลา การเดินพิชิตยอดเขาเพื่อตามรอยหนังสือ last twilight และเมื่อมองย้อนกลับไป เราจะได้เห็นการเดินทางอันแสนยาวนานของเดย์ จากจุดเริ่มต้นในห้องนอนอันแสนทึบทึม สู่โลกภาพนอกอันกว้างใหญ่ เฉกเช่นตัวละคร “มี” ในหนังสือ last twilight พัฒนาการของตัวละครที่ฝ่าฟันพายุมรสุม พบพานความรัก เรียนรู้ผู้คน พร้อม ๆ กับควานหาความหมายของชีวิต ในฐานะของคนตาบอด เพื่อนำเสนอแก่นแท้ของตัวบทที่เต้นเร่าตลอดการผจญภัยของเดย์ คือการได้เห็นว่าชีวิตนั้น งดงามและมีความหวัง รอเราอยู่เสมอภาพนายไม่เคยลืม มอบนิยามชีวิต ที่เต็มไปด้วย ความหวัง ตลอดการเดินทางของซีรีส์ last twilight เราได้เห็นตัวละครเดย์ร่วงหล่น ทดท้อหมดหวัง ในขณะที่ความมืดกำลังพรากการมองเห็นไปจากเดย์ หมอกกลายเป็นแสงเทียนฉาดฉายนำทาง ในวันที่มืดบอดที่สุด เราได้เห็นชีวิตของเด็กหนุ่มตาบอด ที่ขัดขืนและไม่จำนน ยืนหยัดที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า ได้เรียนรู้ที่จะให้อภัย เพ่งมองมนุษย์ที่หัวใจ ได้รัก และได้ผิดหวังในรัก และต้องผิดหวังในรัก เพื่อเรียนรู้และให้ตัวเองมีโอกาสได้รักอีกครั้ง ทั้งหมดนี้เพื่อที่จะยืนยัน ว่าชีวิตยังมีความหวังเสมอ เดย์ได้ตอบคำถามที่ผมกล่าวไว้ตั้งแต่บรรทัดแรกของบทความ ว่าเราไม่จำเป็นต้องมองเห็น เพื่อถ่องแท้ในความเป็นไปของโลก เพราะยังมีโลกอีกใบที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อ โลกที่หากคุณตาดี ทว่าจิตใจมืดบอด คุณก็จะไม่มีวันได้พบเห็น และเรียนรู้มัน เดย์ได้สอนให้เรายืนหยัดท่ามกลางมรสุม ไม่ทดท้อสิ้นหวังแม้หนทางจะมืดบอด ยืนหยัดด้วยหวัง เพื่อสักวันที่พายุเคลื่อนผ่าน และสายรุ้งปรากฏ ณ ปลายขอบฟ้า ก็คุ้มค่าให้เชยชมเสมอ ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาอันมีค่า อ่านบทความพูดพร่ำยืดเยื้อมาจนถึงตรงนี้ ซีรีส์ last twilight เป็นบทความวิเคราะห์แรกของผมในปีนี้ และหวังว่าจะได้กลับมาวิเคราะห์ภาพยนต์ หรือซีรีส์อีกไม่น้อยในปีนี้ (หวังว่าปริญญาเอกจะไม่ดูดเวลาผมไปเสียหมด ฮ่า ๆ) บทวิเคราะห์ซีรีส์ต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร ฝากติดตามด้วยนะครับ จนกว่าจะได้กลับมาเขียนให้ท่านผู้อ่านใหม่อีกครั้ง ขอบคุณครับเครดิตภาพปก GMMTVภาพที่ 1 Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ภาพที่ 2 Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ภาพที่ 3 Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ภาพที่ 4 Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ภาพที่ 5 Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืมภาพที่ 6 GMMTV ภาพที่ 7 Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืมภาพที่ 8 GMMTV ภาพที่ 9 Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
หน้าสีอิฐ • 31 ม.ค. 67
อ่าน
Last Twilight ช่อง GMM25 (ตอนจบ)
เรื่องย่อซีรีส์ Last Twilight ช่อง GMM25 ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายนนี้ นำแสดงโดย นักแสดงนำ จิมมี่ จิตรพล โพธิวิหค, ซี ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ พร้อมเสริมอรรถรสความสนุกไปกับทัพนักแสดงอย่าง น้ำตาล ทิพนารี, มาร์ค ภาคิน, ครีม เปรมสินี, กันต์ กันต์ชนุตม์, ฟิล์ม รชานันท์, โอม ฐิภากร, จั๊ก ชวิน, เอมี่ ทสร ฯลฯ
เรื่องย่อละคร • 13 ธ.ค. 66
อ่าน
รู้จัก ซี ทวินันท์ นักแสดงหนุ่มหล่อสุดคิ้วท์จาก Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม
เป็นหนึ่งในซีรีส์บอยเลิฟเรื่องใหม่จากทาง GMM ที่เรียกว่าสนุก เข้มข้น และซึ้งมาก สำหรับซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ที่นักแสดงนำคือหนุ่มจิมมี่ และหนุ่มหล่อคาแรคเตอร์น่ารักอย่างหนุ่ม “ซี ทวินันท์” ที่ใครหลายคนต้องโดนตกในความน่ารักของเขา! วันนี้เราเลยอยากจะชวนเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับหนุ่มหล่อสุดคิ้วท์คนนี้ ผ่านทาง ‘รู้จัก ซี ทวินันท์ นักแสดงหนุ่มหล่อสุดคิ้วท์จาก Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม’ ซี ทวินันท์ หนุ่มคนนี้ก็คือหนุ่ม “ซี ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ” เขาเกิดเมื่อวันที่13 เมษายน พ.ศ.2542 ปัจจุบันอายุ 24 ปี ในพาร์ทของการศึกษา คณะบริหารธุรกิจ มหาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันหนุ่มซีเป็นหนึ่งในนักแสดง นักร้อง และนายแบบในสังกัด GMMTVhttps://www.instagram.com/p/Cx9nRiIP_Yu/?igshid=ZWI2YzEzYmMxYg== หนุ่มซี ทวินันท์นั้นได้เข้าสู่วงการบันเทิง จากการออกวาไรตี้เรียลลิตี้โชว์ชื่อดังของทาง GMM อย่าง รายการ SAFE HOUSE Season 3 BestBro Secret ก่อนที่ต่อมาเขาจะได้แสดงเป็นครั้งแรกในซีรีส์เรื่อง 55:15 Never Too Late Teen และผลงานที่ทำให้เขามีชื่อเสียงเลยคือ ซีรีส์แนวบอยเลิฟเรื่อง รักสลับโลก Vice Versa ประกบคู่กับหนุ่มจิมมี่ จิตรพลhttps://www.instagram.com/p/CpupCosPv_w/?igshid=ZWI2YzEzYmMxYg== อย่างผลงานล่าสุดของหนุ่มซีที่ขอบอกเลยว่าปังไม่ไหว! นั่นคือซีรีส์บอยเลิฟเรื่อง “Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม” ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของเดย์ หนุ่มนักกีฬาแบดมินตันอนาคตไกลที่โชคชะตาเล่นตลก ทำให้ตาของเขาจะบอดสนิทใน180 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้เดย์เป็นเด็กหนุ่มที่มีความมุ่งมั่น ทำอะไรเต็มที่ เป็นดาวเด่น แต่เมื่อเกิกเหตุการณ์เรื่องตาของเขาที่กำลังจะบอด ทำให้เขามีความก้าวร้าว ค่อนข้างขวางโลก โดยหนุ่มซีแสดงเป็น “เดย์” ซึ่งเป็นหนุ่มหล่อที่ ซึ่งการแสดงของหนุ่มซีบอกเลยว่าดีมาก แสดงได้อย่างธรรมชาติ คาแรคเตอร์มีความโดดเด่นสุด อีกทั้งยิ่งแสดงคู่กับหนุ่มจิมที่ด้วยแล้ว เคมีเคใจคือปั๊วะมาก nbsp;[Official Trailer] Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืมhttps://m.youtube.com/watch?v=CWO7ab2T10Ehttps://www.instagram.com/p/CzGd_ccPpkO/?igshid=ZWI2YzEzYmMxYg== อุปนิสัยของหนุ่มซี เขาเป็นหนุ่มน่ารัก อารมณ์ดี เฮฮา ยิ้มเก่ง หัวเราะง่าย เรียกว่าเป็นคนที่โบ๊ะบ๊ะมาก หากใครเคยดูไลฟ์สดของหนุ่มซีบอกเลยว่าจะโดนตกเข้าไปอย่างจัง! ในส่วนของไลฟ์สไตล์ หนุ่มซีเป็นคนที่ชอบเที่ยว ลุย ชอบการถ่ายภาพ ดูหนัง ออกกำลังกาย โดยเฉพาะกีฬาที่หนุ่มซีชอบเล่นเลยคือ แบดมินตัน และว่ายน้ำ นั่นเองค่า ^^ https://www.instagram.com/p/CxDHO3JPUEi/?igshid=ZWI2YzEzYmMxYg==ช่องทางการติดตามซี ทวินันท์Instagram : @sea_tawinanTwitter : @Sea_tawinanเป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ รู้จัก ซี ทวินันท์ นักแสดงหนุ่มหล่อสุดคิ้วท์จาก Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม เพื่อนๆ สามารถติดตามซัพพอร์ตหนุ่มซีได้ทางช่องทางต่าง ๆ ของหนุ่มซีได้เลยค่ะ รวมถึงอย่าลืมเข้าไปดูผลงานการแสดงในคาแรคเตอร์ของ เดย์ ในซีรีส์บอยเลิฟสุดซึ้ง อย่างเรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 และรับชมพร้อมกันทั่วโลก ทาง YouTube : GMMTV Officialเครดิตภาพหน้าปกโดย @sea_tawinanภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3 เครดิตภาพประกอบบทความโดย @sea_tawinan : ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่5GMMTV : ภาพที่4 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย GMMTV OFFICIAL[Official Trailer] Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
nowadays girl☀︎︎ • 28 พ.ย. 66
อ่าน
รีวิวซีรีส์ Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ช่อง GMM25
สวัสดีค่าทุกคน~ วันนี้เรามีซีรีส์เรื่องใหม่จาก GMM ที่อยากชวนทุกคนไปดู ชื่อเรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ซีรีส์แนวโรแมนติกดราม่าเรื่องราวของ พี่หมอกคนแบดที่ต้องมาดูแลน้องเดย์คนดื้อ เมื่อคนนึงคือคนไม่เอาไหนดูไม่มีอนาคต กับอีกคนที่กำลังมีอนาคตสดใสแต่กลับกำลังมองไม่เห็น นำแสดงโดย จิมมี่ จิตรพล และซี ทวินันท์ ขอบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้สนุก และมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจมาก ถ้าพร้อมแล้วตามมาอ่านกันเลย!เรื่องย่อ : หมอก (จิมมี่ จิตรพล) เด็กช่างสายแบดที่ตัดสินใจมาสมัครเป็นผู้ดูแล เดย์ (ซี ทวินันท์) นักกีฬาแบดมินตันที่กำลังจะมองไม่เห็น เพราะค่าตอบแทนสูง จากตอนแรกที่ไม่เข้าใจกลับกลายเป็นความสนใจและพยายามทำความเข้าใจอีกฝ่าย เรื่องราวระหว่างคนที่ไม่มีอนาคตกับคนที่อนาคตกำลังมองไม่เห็นจะมีบทสรุปอย่างไร ติดตามได้ใน Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืมรีวิวหลังดูLast Twilight ภาพนายไม่เคยลืม พล็อตเรื่องน่าสนใจมาก ชอบการหยิบคีย์เวิร์ด คนนึงมองไม่เห็นอนาคต กับอีกคนที่อนาคตกำลังมองไม่เห็น เป็นประโยคที่อธิบายแล้วเห็นภาพทั้งเรื่องได้เลย คนสองคนที่ดูไม่น่าจะโคจรมาเจอกัน เพราะแตกต่างกันแบบคนละขั้วกลับกลายเป็นคนที่ต้องมารับบทเป็นพาร์ทเนอร์กัน พยายามเรียนรู้ และเข้าใจกันส่วนตัวชอบการดำเนินเรื่องแบบที่ทำให้เรามองในมุมของคนที่ตามองไม่เห็น เคยได้ยินบ่อยๆ กับคำว่า คนที่ต้องอยู่กับคนที่มองไม่เห็นน่ะลำบากนะ แต่เรื่องนี้ทำให้เรามองเห็นอีกมุมว่า คนที่ตามองไม่เห็นก็รูสึกลำบากเช่นกันกับการอยู่กับคนที่ตามองเห็นปกติ เรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นถึงการใช้ชีวิต การปฏิบัติ ความคิด มุมมองต่างๆ ของคนที่ตามองไม่เห็นที่จริงๆ แล้วก็สามารถทำทุกอย่างได้เหมือนคนปกติเพียงแต่คนละวิธีการปฏิบัติ อาจจะช้าหน่อย และใช้เวลาทำความเข้าใจมากหน่อยhttps://x.com/gmmtv/status/1724713862744748162?s=46t=4rSsOtTffehjFjCp-AKYbgพาร์ทนักแสดง บทบาทของ จิมมี่-ซี ใน Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม แตกต่างจากตอนเล่นเรื่อง รักสลับโลก Vice Versa เลย ซึ่งเรื่องนี้หนุ่มจิมมี่มากับความแบด ความเถื่อน พูดตรงแบบไม่สนใจใคร มีมุมน่ารักเอาใจสไตล์แบดๆ คือไม่เข้าไปโอ๋ สปอยล์ หรือตามใจ แต่จะเป็นแนวดูแลแบบที่ให้อีกฝ่ายสามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ ดูแลอย่างห่วงๆ ไม่ให้อีกฝ่ายเห็นส่วนหนุ่มซีเรื่องนี้เล่นกับอารมณ์มาก เพราะต้องเล่นเป็นคนที่กำลังตาบอดทั้งๆ ที่ชีวิตในฐานะนักกีฬากำลังไปได้สวย เป็นแนวเด็กดื้อที่ไม่ชอบให้ใครมาสงสาร หรือใครมามอง ซึ่งซีถ่ายทอดออกมาได้ดี มีทั้งความเจ็บปวด อึดอัด แต่ก็ไม่ได้ถึงกับลำบากเกินไปเพราะมีทุกคนอยู่ข้างๆhttps://x.com/gmmtv/status/1719655523685994901?s=46t=4rSsOtTffehjFjCp-AKYbgนอกจากนักแสดงนำอย่าง จิมมี่ ซี แล้ว ในเรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ยังมีนักแสดงที่น่าสนใจอย่าง น้ำตาล ทิพนารี / มาร์ค ภาคิน / ฟิล์ม รชานันท์ ซึ่งตอนนี้ทยอยออกมาเรื่อยๆ แต่ก็ต้องมาลุ้นว่านักแสดงกลุ่มนี้ และอีกหลายๆ คนจะเข้ามามีบทบาทอย่างไรในความสัมพันธ์ของพี่หมอกกับน้องเดย์~สำหรับความประทับใจ Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ขอให้คะแนนที่ 10/10 คะแนนเลย พล็อตเรื่องดี ดูแล้วรู้สึกเอาใจช่วยกับทุกตัวละครแบบไม่อึดอัด ทุกตัวละครมีปมในใจของตัวเอง ชอบการถ่ายทอดมุมมองต่างๆ ออกมาให้เห็นทั้งมุมครอบครัว คนรอบข้าง คนแปลกหน้า และคนที่กำลังมองไม่เห็น ส่วนเรื่องเคมีนักแสดงกับโปรดักชั่นยกนิ้วให้รัวๆ แสดงดีทุกคน ฉากเอฟเฟกต์ตอนมุมมองของเดย์ที่มองเห็นก็สวย ถึงจะเบลอๆ ตามการเห็นมองเห็น แต่สื่อถึงความรู้สึกชัดเจนสุดท้ายนี้ ใครที่อยากตามไปให้กำลังใจพี่หมอกคนแบดกับน้องเดย์คนดื้อ หรือจิมมี่-ซี ในซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม สามารถติดตามได้ทุกวันศุกร์เวลา 20.30 น. ทาง GMM25 หรือดูย้อนหลังได้ที่ Youtube : GMMTVตัวอย่างซีรีส์ Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืมhttps://youtu.be/0lXznC1NswA?si=CgRtzMzbYBcy4Dwgขอบคุณภาพและวิดีโอประกอบบทความ ดังนี้Youtube GMMTV : ตัวอย่างซีรีส์ Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืมX (Twitter) GMMTV : ภาพหน้าปก / 1 / 2 / 3 / 4 / 5 ติดตามอ่านรีวิวซีรีส์เรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ เล่าจากลัง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
เล่าจากลัง • 20 พ.ย. 66
อ่าน
รีวิว Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ซีรีส์แนวโรแมนติกจาก GMM25 จิมมี่ x ซี
เรียกได้ว่ามาใหม่มาแรงมาก ๆ สำหรับซีรีส์เรื่องใหม่อย่าง “Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม” จากทาง GMM ที่บอกเล่าเรื่องราวของเดย์ หนุ้มหล่ออนาคตไกลที่โชคชะตาเล่นตลกกับเขา แต่ในความโชคร้ายเขากลับได้เจอกับหมอก หนุ่มช่างหล่อเกเรที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตของเขา วันนี้ทางเราเลยไม่รอช้า! จะชวนเพื่อ น ๆ มาส่องดูความสนุกของเรื่องรางเรื่องนี้กัน ผ่านทาง ‘รีวิว Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ซีรีส์แนวโรแมนติกจาก GMM25 จิมมี่ x ซี’ มาดูกันว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นแนวไหน เนื้อเรื่องคร่าว ๆ นักแสดงและบทบาทที่ได้รับ ความสนุกจนไม่ควรพลาด หากพร้อมแล้วนั้นก็ตามมาลุยกันเลยค่า ^^[Official Trailer] Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืมhttps://youtu.be/CWO7ab2T10E โดยในซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ เดย์ ที่เขานั้นเป็นหนุ่มนักกีฬาแบดมินตันที่อนาคตไกล แต่โชคร้ายเพราะดวงตาของเขาในตอนนี้มองเห็นเพียง 20% เท่านั้น ทำให้แม่และพี่ชายของเขาจะต้องหาคนมาช่วยดูแลเดย์แบบใกล้ชิด จนโชคชะตาก็ทำให้เขาได้เจอกับ หมอก เด็กช่างหน้าหล่อที่เรียกว่าชีวิตของเชาช่างเละเทะ ไม่เอาไหนที่กำลังต้องการหาเงินอยู่พอดี ทำให้พวกเขาทั้งสองได้เจอและใกล้ชิดกันจนเกิดเป็นความผูกพันและความรัก ซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม เป็นซีรีส์จากทาง GMM เป็นแนวบอยเลิฟ โรแมนติก โดยซีรีส์ก็จะเล่าถึงภูมิหลังอุปสรรคของแต่ละตัวละคร ซึ่งเนื้อหากระชับ เล่าไว ปูเรื่องและผูกเรื่องของคนสองคนได้ไว บอกเล่าถึงความรักของหมอกและเดย์ที่ต่างกันสุดขั้ว แต่โชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองมาเจอกัน อย่างเดย์ หนุ่มอนาคตไกลไปได้สวยที่ต้องมาหยุดเพราะตาของเขามองไม่เห็น และหมอก หนุ่มเกเรที่ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง เพราะการสูญเสีย เรียกว่าพล็อตเรื่องดี มีความน่าสนใจมาก องค์ประกอบและดีเทลต่าง ๆ ในเรื่องก็ถือว่าทำได้แบบเพอร์เฟค อย่างสถานที่โลเคชันที่จัด มีความเรียล มู้ดโทนของเรื่องที่อยู่กลาง ๆ ไม่เป็นโทนสว่างไป หรือมืดไป โดยอิงจากเรื่องราวของตัวละคร รวมถึงลุค Outfits ที่มีความเหมาะสมกับคาแรคเตอร์ของทั้งเดย์ที่เป็นนักกีฬา แต่งตัวง่าย ๆ ชิล ๆ แต่ดูเนี๊ยบ และหมอก เด็กช่างเกเรที่มีความเซอร์ เรียกว่า 10/10 และนอกเหนือจากนี้แล้วนั้นในซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ก็ยังได้เหล่านักแสดงมากฝีมือจากทางค่ายGMM อย่างมากมาย ที่แต่ละคนนั้นแสดงได้ดีมาก คาแรคเตอร์ฟิตติ้งกับบทบาทสุด เล่นด้วยกันแล้วโฟลเวอร์! จิมมี่ จิตรพล รับบท หมอก หมอกนั้นเป็นเด็กช่างที่มีความหล่อ เท่ ภูมิหลังในชีวิตของเขาไม่ดี ที่ผ่านมาในชีวิตเขามีแต่การสูญเสีย ทำให้เขาเกเรมาก เข้าคุกจนทำให้คนจ้างหลายคนปฏิเสธการทำงานของเขา จนเขาได้มาเจองานดูแลเดย์ และโชคชะตาก็ทำให้เขาได้งานนี้! ซึ่งหมอกเป็นคนที่พูดจาขวานผ่าซาก ไม่แคร์ใครหน้าไหน แรงมาแรงกลับพร้อมชน ซี ทวินันท์ รับบท เดย์ เดย์ นั้นเป็นนักกีฬาแบดมินตันที่เรียกว่าอนาคตขอบเขากำลังจะไปได้สวย แต่แล้วชีวิตของเขากลับมืดสนิทลง! เมื่อตาของเขามองเห็นเพียง 20% และกำลังจะตาบอดสนิทในอีก 180 วันข้างหน้า ทำให้แม่และพี่ชายจะต้องหาคนมาช่วยดูแลเขา เดย์นั้นเป็นคนตรงไปตรงมา เมื่อชีวิตของเขาเลวร้าย ทำให้เขาคิดลบกับทุกอย่าง โดยหนุ่มจิมมี่ จิตรพล และซี ทวินันท์ เป็นหนึ่งในคู่จิ้นจากทาง GMM ที่ทั้งสองได้ผ่านผลงานเรื่องรักสลับโลก Vice Versa ที่เรียกเรตติ้งปัง ๆ มาด้วยกันแล้ว คือต้องบอกเลยว่าเคมีเคใจของทั้งสอง เป็นอะไรที่กรี๊ดมาก มีความน่ารักเข้ากันมาก ดูแล้วอดที่จะอมยิ้ม จิกหมอนไม่ได้เล้ย!☺️🫶🏻 อย่างในฉากที่เราชอบมากคือฉากที่เดย์กำลังจะโดนรถชนก็มีหมอกนี่แหละที่เข้ามาได้ทันเวลา เรียกว่าฟินมาก~~ และในซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังมี OST.เพลงประกอบที่น่ารักฟีลกู๊ดมาก! โดยมีชื่อเพลงว่า “ประตูวิเศษ (Better Days)” ร้องโดยสองหนุ่มจิมมี่และซี ซึ่งเป็นเพลงแนวป๊อปที่มีดนตรีและเมโลดี้ที่น่ารักกุ๊กกิ๊กหัวใจมาก♥️ บอกเล่าถึงการที่เราเจอใครคนหนึ่งที่เขาได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของเราไป เหมือนท่อนที่ร้องว่า ‘เธอเหมือนประตูวิเศษ พาฉันไปพบเจอโลกใบใหม่ ที่ไม่เห็นก็ได้เห็นด้วยใจ จับมือเธอโลกนี้ก็เปลี่ยนได้มากมาย คำว่ารักมันก็ชัดในใจ เพราะเธอ’ประตูวิเศษ (Better Days) Ost.Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม - Jimmy, Seahttps://youtu.be/C_HJNy_ZgyU?si=3rLD3ACSdGP6-8EYก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ รีวิว Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ซีรีส์แนวโรแมนติกจาก GMM25 จิมมี่ x ซี โดยเพื่อน ๆ สามารถติดตามรับชมซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. ทางช่องGMM25 และรับชมพร้อมกันทั่วโลก ทาง YouTube : GMMTV Official เครดิตภาพหน้าปกโดย @LastTwilightTHภาพหน้าปกเครดิตภาพประกอบบทความโดย GMMTV ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 / ภาพที่8 / ภาพที่9 / ภาพที่10 / ภาพที่11 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย GMMTV OFFICIAL[Official Trailer] Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืมGMMTV RECORDSประตูวิเศษ (Better Days) Ost.Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม - Jimmy, Seaบทความที่น่าสนใจ : https://intrend.trueid.net/post/409740https://intrend.trueid.net/post/271128https://intrend.trueid.net/post/295053 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
nowadays girl☀︎︎ • 19 พ.ย. 66
อ่าน
รู้จัก 4 นักแสดง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ซีรีส์โรแมนติกใหม่จาก GMM
เรียกได้ว่าเป็นที่พูดถึงมากจริง ๆ สำหรับซีรีส์เรื่องใหม่จากทาง GMM อย่าง “Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม” ที่บอกเล่าเรื่องของเดย์ เด็กหนุ่มนักกีฬาแบดมินตันที่โชคร้าย เพราะตอนนี้ตาของเขามองเห็นแค่เพียง 20% เท่านั้นทำให้แม่และพี่ชายของเขาได้หาคนมาช่วยดูแลเดย์ จนมาเจอกับ หมอก เด็กหนุ่มเกเรที่เข้ามาช่วยดูแล ซึ่งเป็นการเจอกันอีกครั้งของหนุ่มจิมมี่และหนุ่มซีเลย นอกเหนือจากนี้แล้วนั้น ก็ยังมีเหล่านักแสดงที่มาร่วมแจมแสดงอีกด้วย วันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับเหล่านักแสดงในเรื่องนี้ผ่านทาง ‘รู้จัก 4 นักแสดง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ซีรีส์โรแมนติกใหม่จาก GMM’ หากพร้อมแล้วก็ลุย!🥳🫶🏻[Official Trailer] Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืมhttps://m.youtube.com/watch?v=CWO7ab2T10E1.) จิมมี่ จิตรพล มาดูกันที่นักแสดงคนแรกของซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม นั่นคือหนุ่มหล่อคาแรคเตอร์น่ารักอย่าง “จิมมี่ จิตรพล โพธิวิหค” เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ.2537 ปัจจุบันอายุ 29 ปี ในพาร์ทของการศึกษา ระดับปริญญาตรีจาก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปัจจุบันเป็นนักแสดงสังกัด GMMTV https://www.instagram.com/p/ClTKr7zpMTD/?igshid=MWVwdm1sbzR6c2p3Ng== หนุ่มจิมมี่ จิตรพล ได้เข้าสู่วงการบันเทิง จากการที่เขาเคยเข้าร่วมประกวดในรายการ CLEO BECHELOR และเคยเป็นแขกรับเชิญในช่วงพ่อค้าแซ่บ ในรายการ เทยเที่ยวไทย ตอนที่ 341 และมีผลงานการแสดงเรื่องแรกเลยคือซีรีส์เรื่อง Bad Buddy The Series แค่เพื่อนครับเพื่อน ในคาแรคเตอร์ของ ไว และแสดงนำครั้งแรกในซีรีส์แนวบอยเลิฟในซีรีส์เรื่อง Vice Versa The Series https://www.instagram.com/p/Co7MaZZPTGj/?igshid=dGp4bGg1NDBoamRqจิมมี่ จิตรพล รับบท หมอก ในซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม หนุ่มจิมมี่ รับบทเป็น “หมอก” เขาเป็นเด็กช่างสุดหล่อ ที่ชีวิตน่าสงสาร และกำลังตกที่นั่งลำบากเพราะต้องใช้เงิน และเขาบังเอิญได้ไปสมัครเพื่อไปดูแลเดย์ นิสัยของหมอกคือตรงไปตรงมา ไม่ค่อยไว้หน้าใคร ชอบพูดคำหยาบ กวนโอ๊ยชอบทะเลาะทำให้เขาเป็นที่จับตามองของตำรวจ ซึ่งหนุ่มจิมมี่ก็แสดงคาแรคเตอร์ของหมอกออกมาได้ดี มีความธรรมชาติสุด และเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคาแรคเตอร์ดิบ ๆ เซอร์ ๆ แบบนี้ของจิมมี่ช่องทางการติดตามจิมมี่ จิตรพลInstagram : @jimmyyjpTwitter : @jimmyyjp_2.) ซี ทวินันท์ มาดูกันต่อที่นายเอกในเรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม นั่นคือหนุ่ม “ซี ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ” เกิดเมื่อวันที่13 เมษายน พ.ศ.2542 ปัจจุบันอายุ 24 ปี ด้านการศึกษา คณะบริหารธุรกิจ มหาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันหนุ่มซีเป็นนักแสดงสังกัด GMMTVhttps://www.instagram.com/p/CpupCosPv_w/?igshid=MTlyYjdoZDMwcHRlNg== ในพาร์ทของวงการบันเทิง หนุ่มซีเข้าสู่วงการบันเทิง ก่อนเขาเข้ามาเป็นนักแสดงทาง GMM และได้เคยผ่านหน้าผ่านตามาบ้างแล้วกับรายการวาไรตี้เรียลลิตี้ รายการ SAFE HOUSE Season 3 BestBro Secret และมีผลงานซีรีส์เรื่องแรกคือ 55:15 Never Too Late Teen และมีผลงานที่สร้างชื่อคือซีรีส์แนวบอยเลิฟเรื่อง รักสลับโลก Vice Versa ประกบคู่กับหนุ่มจิมมี่ จิตรพลhttps://www.instagram.com/p/CxDHO3JPUEi/?igshid=OWp2dXhwcG9neWl5ซี ทวินันท์ รับบท เดย์ ในซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม หนุ่มซีรับบทเป็น “เดย์” เด็กหนุ่มนักกีฬาแบดมินตันสุดหล่ออนาคตไกลที่กำลังจะตาบอดสนิทในอีก 180 วันข้างหน้า สิ่งนี้เองทำให้แม่กับพี่ชายของเขาได้หาคนมาช่วยดูแล โดยเดย์นั้นผิดหวังและเสียใจมาก เพราะเขาเป็นเด็กหนุ่มอนาคตไกล ทำให้เขาขวางโลก พูดจาขวานผ่าซาก ไม่สนใจคำพูดของใคร แต่ต่อปากต่อคำกับหมอกได้ดี ทำให้หมอกสนใจในตัวของเดย์มากขึ้น ซึ่งหนุ่มซีก็สามารถแสดงคาแรคเตอร์ของเดย์ออกมาได้ดีสุด เป็นบทบาทที่คาแรคเตอร์ที่ท้าทายมาก เพราะต้องแสดงเป็นคนที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นถือว่าด้านการแสดงพัฒนามาก!ช่องทางการติดตามซี ทวินันท์Instagram : @sea_tawinanTwitter : @Sea_tawinan3.) น้ำตาล ทิพนารี มาถึงนักแสดงคนต่อมาในซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม นั่นคือสาว “น้ำตาล ทิพนารีวีรวัฒโนดม” เธอเกิดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2539 ปัจจุบันอายุ 27 ปี ในพาร์ทของการศึกษา เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงและกำกับการแสดง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และกำลังศึกษาระดับปริญญาโท คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปัจจุบันเป็นนักแสดงภายใต้สังกัด GMMhttps://www.instagram.com/p/CsdpGaNJ_im/?igshid=cXRkMjBucHB1OXRw สาวน้ำตาล ทิพนารี ได้เข้าสู่วงการบันเทิงในตอนที่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปีที่5 กับทางบริษัท ดวงมาลี มณีจันทร์ และต่อมาเธอก็ได้เป็นหนึ่งในพิธีกรรายการวัยรุ่นชื่อดังอย่าง Strawberry Cheesecake รุ่นที่6 และได้มีโอกาสได้แสดงในคาแรคเตอร์ของ ตาล จาก มินิซีรีส์ของ Strawberry Cheesecake เรื่อง The Beginning ตอน B Day D Day Strawberry Krubcake https://www.instagram.com/p/CteHjkfpeKx/?igshid=YWF4Ym5iZmVyMzRhน้ำตาล ทิพนารี รับบท พอใจ ในซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม สาวน้ำตาล รับบทเป็น “พอใจ” ซึ่งเธอนั้นเป็นแฟนเก่าของหมอก ที่ตอนนี้เขากับหมอกกลายมาเป็นเพื่อน ที่ปรึกษาในชีวิตของกันและกัน พอใจทำงานอยู่ที่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง เธอเป็นสาวน่ารัก พูดจาน่ารัก เป็นสายซัพพอร์ต คอยให้กำลังใจหมอกทุก ๆ เรื่อง อยู่เสมอ โดยสาวน้ำตาลพรีเซ้นท์คาแรคเตอร์ของพอใจออกมาได้ดี มีความน่ารัก ดูแล้วรู้สึกถึงอารมณ์ของคาแรคเตอร์นี้จริง ๆ แถมสาวน้ำตาลคือสวยสะกดสายตามากแม่ช่องทางการติดตามน้ำตาล ทิพนารีInstagram : @namtan.tipnareeTwitter : @NamtanTipnaree4.) มาร์ค ภาคิน มาต่อกันที่นักแสดงคนสุดท้ายท้ายสุด ในซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม นั่นคือ “มาร์ค ภาคิน คุณาอนุวิทย์” เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ปัจจุบันอายุ 25 ปี ปัจจุบันเป็นนักแสดงภายใต้สังกัด GMMhttps://www.instagram.com/p/Cwcqs7byQwN/?igshid=YWZ3ZjdseHNkbnJs โดยในการเข้าสู่วงการของหนุ่มมาร์ค เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2563 หนุ่มมาร์คได้เข้าร่วมการออดิชั่นในโปรเจค DEBUT โดย LINE IDOL และหนุ่มมาร์คได้ผ่านการออดิชั่นเป็น 4 คนสุดท้ายและได้ทำการเซ็นสัญญากับบริษัท LINE ประเทศไทย และเข้าฝึกฝนทักษะต่าง ๆ และหนุ่มมาร์คได้แสดงครั้งแรกในซีรีส์แปลรักฉันด้วยใจเธอ Part 2 ในบทบาทของ เมฆ ต่อมาก็ได้มาเซ็นสัญญาในสังกัด GMMTV และได้เริ่มมีคนรู้จักในซีรีส์เรื่อง แฟนผมเป็นประธานนักเรียน My School President https://www.instagram.com/p/Cy3IGtAyEkP/?igshid=a2ZxejB1dmwzeXQzมาร์ค ภาคิน รับบท ไนท์ ในซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม หนุ่มมาร์ค ภาคิน รับบท “ไนท์” ซึ่งเป็นพี่ชายของเดย์ ซึ่งดูเหมือนเขาทั้งสองไม่ค่อยจะถูกกันมากนัก ในระหว่างที่หาคนมาดูแลเดย์ ก็มีไนท์มาคอยดูแลเอาใจใส่เดย์อยู่ เขามักจะโดนเดย์พูดจาไม่ดี ถากถางเสมอ ทำให้ในบางครั้งไนท์ก็อารมณ์เสียจนฟีลขาด โดยหนุ่มมาร์คถือว่าเป็นนักแสดงมากฝีมืออีกคนเลย แสดงได้ธรรมชาติมาก ฉากดราม่าซีนอารมณ์ทำให้คนดูเข้าถึงมากช่องทางการติดตามมาร์ค ภาคินInstagram : @mmarkpkkTwitter : @mmarkpkkโดยเพื่อน ๆ สามารถติดตามรับชมซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. ทางช่องGMM25 และรับชมพร้อมกันทั่วโลก ทาง YouTube : GMMTV Official เริ่มตอนแรก วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายนนี้! #LastTwilightSeriesEP1เครดิตภาพหน้าปกโดย GMMTVภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3 / ภาพหน้าปก4 / ภาพหน้าปก5 / ภาพหน้าปก6เครดิตภาพประกอบบทความโดยGMMTV : ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่6 / ภาพที่7 / ภาพที่10 / ภาพที่11 / ภาพที่14 / ภาพที่15 / ภาพที่18 / ภาพที่19@jimmyyjp : ภาพที่4 / ภาพที่5 @sea_tawinan : ภาพที่8 / ภาพที่9@namtan.tipnaree : ภาพที่12 / ภาพที่13@mmarkpkk : ภาพที่16 / ภาพที่17 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย GMMTV OFFICIAL[Official Trailer] Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืมบทความที่น่าสนใจ : https://entertainment.trueid.net/detail/jDZ653Y9mJODhttps://intrend.trueid.net/post/353493https://intrend.trueid.net/post/409184https://intrend.trueid.net/post/408866 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
nowadays girl☀︎︎ • 13 พ.ย. 66
อ่าน
รีวิวซีรีส์ ภาพนายไม่เคยลืม(2023) Last Twilight ทาง GMM25
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ของทาง GMM25 เรื่อง ภาพนายไม่เคยลืม หรือ Last Twilight ยาวตอนละ 45 นาที มาวันแรกวันที่ 10 พฤศจิกายน 2023 ออกอากาศทุกวันศุกร์เวลา 20.30 น. นำแสดงโดยจิมมี่ จิตรพล รับบท หมอก และซี ทวินันท์ รับบท เดย์เป็นเรื่องราวของเดย์ที่เป็นนักกีฬาทีมชาติไปแข่งแบตมินตันแต่ระหว่างที่แข่งขันอยู่เกิดอาการสายตามีปัญหาเพราะก่อนหน้านี้ขับรถชนแล้วกระจกตามีปัญหา ทำให้ต้องกลายเป็นคนพิการแต่เขาไม่ชอบให้ใครมองว่าตัวเองพิการ อยากให้ปฎิบัติกับเขาอย่างคนปกติทั่วไป แม่ของเขาพยายามหาคนมาดูแลเขาแต่สัมภาษณ์ไปหลายคนก็ยังไม่มีคนที่ถูกใจเดย์ บังเอิญหมอกมาทำงานแถวนั้นได้ยินข่าวว่ามีการสัมภาษณ์จ้างคนดูแลจึงสนใจแต่กลับโดนเดย์ดูถูกเลยไม่รับงานนี้ ต่อมาพวกเขาบังเอิญเจอกันแล้วหมอกช่วยเดย์ไว้ เดย์บอกแม่ว่าต้องการให้หมอกมาเป็นคนดูแลตนแต่หมอกไม่ได้อยากทำงานนี้จึงปฎิเสธ พี่ชายเดย์เลยบอกหมอกว่าให้กลับไปคิดดูก่อนแล้วค่อยให้คำตอบ สุดท้ายด้วยความที่ต้องเอาเงินไปผ่อนรถหมอกจึงตัดสินใจรับงานนี้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปหมอกจะดูแลเดย์ได้หรือไม่ก็ต้องไปดูกันหมอกเด็กช่างที่ชอบมีเรื่องต่อยตีกับคนอื่นจบมายังหางานประจำทำไม่ได้ไปสมัครงานที่ไหนคนก็ไม่รับเพราะเคยมีประวัติ ทั้งยังติดหนี้ต้องหาเงินมาจ่ายหนี้ เป็นคนห้าวๆดูเหมือนอยากมีเรื่องตลอดเวลา มีพี่สาวที่เอาเงินไปลงทุนทำร้านทำเล็บแต่ขาดทุนจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดมาก นักแสดงแสดงได้ดูเป็นนักเลงแต่จริงใจเดย์เป็นนักกีฬาแบตมินตันอนาคตไกลได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งระดับระหว่างประเทศ ไม่ชอบให้คนมองว่าตัวเองเป็นคนไม่ปกติ ไม่ชอบให้ใครมาสงสาร เป็นคนเอาแต่ใจนิดๆบางทีก็เอาใจยาก พอตอนสายตามีปัญหายิ่งเอาใจยากเข้าไปอีก ด้วยความที่ต้องกลายเป็นคนพิการจึงคนอ่อนไหวมาก นักแสดงแสดงได้ดูเอาแต่ใจตัวเองแต่ก็จิตใจดีเสื้อผ้ามีความเหมาะกับคาแรกเตอร์ของตัวละคร อย่างชุดของหมอกถึงจะไม่ได้ดูหรูหรามากมายแต่มีความเข้ากับบุคลิกที่ดูเซอร์ๆ ออกไปทางเท่ๆ ส่วนชุดของเดย์จะดูเรียบร้อยกว่าดูผู้ดีมีระดับ ฉากดูสวยงามสมจริงเหมือนเป็นสถานที่จริงๆที่ไม่ได้ดูพยายามจัดขึ้นมา ของตกแต่งก็ดูเหมือนของจริง บางฉากก็ดูสวยงามมากพล็อตเรื่องคือเดย์นักกีฬาแบตมินตันอนาคตไกลที่กำลังจะตาบอดในอีก 180 วันข้างหน้าทำให้แม่และพี่ชายต้องหาคนมาดูแลจนมาเจอหมอกเด็กช่างที่ไม่มีอนาคตเขาตกลงที่จะดูแลเดย์เพราะเห็นแก่ค่าตอบแทนที่สูงลิบ ยังมีพอใจแฟนเก่าของหมอกที่คอยเป็นที่ปรึกษาให้หมอก ส่วนเดย์ก็ได้พี่อ้นรุ่นพี่ผู้พิการทางสายตาคอยแนะนำและเขายังต้องเผชิญหน้ากับออกัสเพื่อนคู่หูแบตมินตันที่มีเรื่องค้างคาใจกัน ยังมีจี๋เพื่อนสนิทของเดย์ที่เดย์คอยบอกอาการให้รับรู้ แต่เพราะเขาจะมองเห็นได้อีกแค่ 180 วันเท่านั้นภารกิจเปลี่ยนชีวิตของเดย์ก่อนโลกจะมืดบอดจึงเริ่มขึ้น มาเอาใจช่วยพวกเขาได้ในภาพนายไม่เคยลืมทุกศุกร์ 20.30น.ทาง GMM25 ค่ะอยากให้ดูเรื่องนี้เพราะเป็นแนวโรแมนติกดราม่าที่ดูสนุก พล็อตน่าสนใจ เดินเรื่องได้น่าติดตาม อยากให้ไปดูค่ะอ้างอิงภาพปก1, ภาพปก2 ตกแต่งโดย canvaภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4 ขอบคุณภาพจาก twitter: GMMTV และ LastTwilightคอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน
Faifun • 12 พ.ย. 66
อ่าน
"บิวกิ้น-พีพี" นำทีมนักแสดง แจกความฟินในงาน "แปลรักฉันด้วยใจเธอ The Last Twilight"
ถือเป็นการรียูเนียนส่งท้ายโปรเจกต์ ด้วยความอบอุ่น สำหรับ งาน แปลรักฉันด้วยใจเธอ The Last Twilight' Music in the park ซึ่งจัดขึ้นโดย นาดาว บางกอก งานนี้ "บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล" และ "พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร" นำทีมนักแสดง โอบ โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ , สไมล์ ภาลฎา ฐิตะวชิระ, ขุนพล ปองพล ปัญญามิตร พร้อมด้วยพิธีกร ท็อป ณภัทร โชคจินดาชัย มาร่วมพูดคุยถึงความประทับใจ ในซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ ทั้ง 2 Part พร้อมนำเพลงเพราะ ๆ มาฝากกันแบบเต็มอิ่ม ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ กับดนตรีในสวน ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดตัวด้วยเสียงกรี๊ด เมื่อ เต๋ โอ้เอ๋ว นำเพลงกีดกัน กับเพลงหรูเหอ มาร้องให้แฟน ๆ ได้ทบทวนโมเมนต์จาก I Told Sunset About You ก่อนจะมาเต็มอิ่มหัวใจกับเพลง รู้งี้เป็นแฟนกันตั้งนานแล้ว จาก I Promised You The Moon จากนั้น สไมล์, ขุนพล, โอบ, ท็อป ก็กระโดดขึ้นเวทีมารวมตัวกับ บิวกิ้น, พีพี ร้องเพลง สายตาหลอกกันไม่ได้ พร้อมด้วยเมดเลย์เพลง แปลไม่ออก, ห่มผ้า, หลอกกันทั้งนั้น ซึ่งก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน ทุกคนได้ร่วมสัมผัสช่วงเวลาพิเศษ ในการนั่งชมแสงสุดท้ายไปพร้อม ๆ กันในเพลง โคตรพิเศษ แถมด้วยการฟีเจอริ่ง ดวลจังหวะแรปในเพลง เมื่อวานก็นานไป พร้อมด้วยเพลงเพราะ ๆ ที่นำมาฝากกันแบบจุก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง Ill Do It How You Like It, I ไม่ O , เธอหมุนรอบฉันฉันหมุนรอบเธอ, ต่อจากนี้เพลงรักทุกเพลงจะเป็นของเธอ, เก็บไว้ตลอดไป นอกจากนี้ แฟน ๆ ยังได้ฟิน ได้อิน กันถ้วนหน้า เมื่อ บิวกิ้น, พีพี จัดเซ็ตเพลงที่แฟน ๆ ต่างเรียกร้องอยากได้ยิน มาร้องให้ทุกคนได้ฟังกันเต็ม ๆ เป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น เพลง ถ้าหาก, เพลง เหตุผลของคนไม่ดี เพลงโปรดที่ บิวกิ้น ตั้งใจถ่ายทอดออกมาเต็มที่ ส่วน พีพี ก็นำเพลง ดึกแล้วอย่าเพิ่งกลับ มาบิ๊วสร้างบรรยากาศ จากนั้นทุกคนก็พากันยิ้มแก้มแทบแตก เกิดอาการเคลิ้มไปตาม ๆ กันเมื่อทั้งคู่ นำเพลง Is this love? มาร้องด้วยกัน ก่อนจะปิดท้ายความซึ้งด้วยเพลง ไม่ปล่อยมือ เพลงความหมายดี ที่เหมือนเป็นการขอบคุณทุกคนสำหรับความรักที่มีให้กับซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ เป็นการปิดท้ายโปรเจกต์ด้วยวินาทีแห่งความประทับใจ อ่านข่าวบันเทิงที่เกี่ยวข้อง : "บิวกิ้น-พีพี" แผ่มวลความรักในงาน #แปลรักFansignBKK คิ้วท์จนติดเทรนด์ พีพี กฤษฏ์ ปังใหญ่แล้ว ยอดติดตามไอจีทะลุ 2.9 ล้าน "พีพี กฤษฏ์" ลงภาพรับปริญญาในไอจี คนกดไลก์ทะลุล้าน ฮอตติดเทรนด์ทวิตเตอร์!
ข่าวบันเทิง • 28 มี.ค. 65